Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) |
๙. ตณฺหาสุตฺตวณฺณนา
9. Taṇhāsuttavaṇṇanā
๑๙๙. นวเม ชาลินินฺติ ชาลสทิสํฯ ยถา หิ ชาลํ สมนฺตโต สํสิพฺพิตํ อากุลพฺยากุลํ, เอวํ ตณฺหาปีติ ชาลสทิสตฺตา ชาลินีติ วุตฺตาฯ ตโย วา ภเว อโชฺฌตฺถริตฺวา ฐิตาย เอติสฺสา ตตฺถ ตตฺถ อตฺตโน โกฎฺฐาสภูตํ ชาลํ อตฺถีติปิ ชาลินีฯ สริตนฺติ ตตฺถ ตตฺถ สริตฺวา สํสริตฺวา ฐิตํฯ วิสฎนฺติ ปตฺถฎํ วิกฺขิตฺตํฯ วิสตฺติกนฺติ ตตฺถ ตตฺถ วิสตฺตํ ลคฺคํ ลคิตํฯ อปิจ ‘‘วิสมูลาติ วิสตฺติกาฯ วิสผลาติ วิสตฺติกา’’ติอาทินาปิ (มหานิ. ๓; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิเทฺทโส ๒๒) นเยเนตฺถ อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ อุทฺธโสฺตติ อุปริ ธํสิโตฯ ปริโยนโทฺธติ สมนฺตา เวฐิโตฯ ตนฺตากุลกชาโตติ ตนฺตํ วิย อากุลชาโตฯ ยถา นาม ทุนฺนิกฺขิตฺตํ มูสิกจฺฉินฺนํ เปสการานํ ตนฺตํ ตหิํ ตหิํ อากุลํ โหติ, ‘‘อิทํ อคฺคํ อิทํ มูล’’นฺติ อเคฺคน วา อคฺคํ, มูเลน วา มูลํ สมาเนตุํ ทุกฺกรํ โหติ, เอวํ สตฺตา อิมาย ตณฺหาย ปริโยนทฺธา อากุลพฺยากุลา น สโกฺกนฺติ อตฺตโน นิสฺสรณมคฺคํ อุชุํ กาตุํฯ คุลาคุณฺฐิกชาโตติ คุลาคุณฺฐิกํ วุจฺจติ เปสการกญฺชิยสุตฺตํฯ คุลา นาม สกุณิกา, ตสฺสา กุลาวโกติปิ เอเกฯ ยถา ตทุภยมฺปิ อากุลํ อเคฺคน วา อคฺคํ, มูเลน วา มูลํ สมาเนตุํ ทุกฺกรนฺติ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํฯ มุญฺชปพฺพชภูโตติ มุญฺชติณํ วิย ปพฺพชติณํ วิย จ ภูโต, ตาทิโส ชาโตฯ ยถา ตานิ ติณานิ โกเฎฺฎตฺวา กตรชฺชุํ ชิณฺณกาเล กตฺถจิ ปติตํ คเหตฺวา เตสํ ติณานํ ‘‘อิทํ อคฺคํ อิทํ มูล’’นฺติ อเคฺคน วา อคฺคํ, มูเลน วา มูลํ สมาเนตุํ ทุกฺกรํฯ ตมฺปิ จ ปจฺจตฺตปุริสกาเร ฐตฺวา สกฺกา ภเวยฺย อุชุํ กาตุํ, ฐเปตฺวา ปน โพธิสเตฺต อโญฺญ สโตฺต อตฺตโน ธมฺมตาย ตณฺหาชาลํ ปทาเลตฺวา อตฺตโน นิสฺสรณมคฺคํ อุชุํ กาตุํ สมโตฺถ นาม นตฺถิฯ เอวมยํ โลโก ตณฺหาชาเลน ปริโยนโทฺธ อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ สํสารํ นาติวตฺตติฯ ตตฺถ อปาโยติ นิรย-ติรจฺฉานโยนิ-เปตฺติวิสย-อสุรกายาฯ สเพฺพปิ หิ เต วฑฺฒิสงฺขาตสฺส อายสฺส อภาวโต อปายาติ วุจฺจนฺติฯ ตถา ทุกฺขสฺส คติภาวโต ทุคฺคติฯ สุขสมุสฺสยโต วินิปติตตฺตา วินิปาโตฯ อิตโร ปน –
199. Navame jālininti jālasadisaṃ. Yathā hi jālaṃ samantato saṃsibbitaṃ ākulabyākulaṃ, evaṃ taṇhāpīti jālasadisattā jālinīti vuttā. Tayo vā bhave ajjhottharitvā ṭhitāya etissā tattha tattha attano koṭṭhāsabhūtaṃ jālaṃ atthītipi jālinī. Saritanti tattha tattha saritvā saṃsaritvā ṭhitaṃ. Visaṭanti patthaṭaṃ vikkhittaṃ. Visattikanti tattha tattha visattaṃ laggaṃ lagitaṃ. Apica ‘‘visamūlāti visattikā. Visaphalāti visattikā’’tiādināpi (mahāni. 3; cūḷani. mettagūmāṇavapucchāniddeso 22) nayenettha attho daṭṭhabbo. Uddhastoti upari dhaṃsito. Pariyonaddhoti samantā veṭhito. Tantākulakajātoti tantaṃ viya ākulajāto. Yathā nāma dunnikkhittaṃ mūsikacchinnaṃ pesakārānaṃ tantaṃ tahiṃ tahiṃ ākulaṃ hoti, ‘‘idaṃ aggaṃ idaṃ mūla’’nti aggena vā aggaṃ, mūlena vā mūlaṃ samānetuṃ dukkaraṃ hoti, evaṃ sattā imāya taṇhāya pariyonaddhā ākulabyākulā na sakkonti attano nissaraṇamaggaṃ ujuṃ kātuṃ. Gulāguṇṭhikajātoti gulāguṇṭhikaṃ vuccati pesakārakañjiyasuttaṃ. Gulā nāma sakuṇikā, tassā kulāvakotipi eke. Yathā tadubhayampi ākulaṃ aggena vā aggaṃ, mūlena vā mūlaṃ samānetuṃ dukkaranti purimanayeneva yojetabbaṃ. Muñjapabbajabhūtoti muñjatiṇaṃ viya pabbajatiṇaṃ viya ca bhūto, tādiso jāto. Yathā tāni tiṇāni koṭṭetvā katarajjuṃ jiṇṇakāle katthaci patitaṃ gahetvā tesaṃ tiṇānaṃ ‘‘idaṃ aggaṃ idaṃ mūla’’nti aggena vā aggaṃ, mūlena vā mūlaṃ samānetuṃ dukkaraṃ. Tampi ca paccattapurisakāre ṭhatvā sakkā bhaveyya ujuṃ kātuṃ, ṭhapetvā pana bodhisatte añño satto attano dhammatāya taṇhājālaṃ padāletvā attano nissaraṇamaggaṃ ujuṃ kātuṃ samattho nāma natthi. Evamayaṃ loko taṇhājālena pariyonaddho apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ saṃsāraṃ nātivattati. Tattha apāyoti niraya-tiracchānayoni-pettivisaya-asurakāyā. Sabbepi hi te vaḍḍhisaṅkhātassa āyassa abhāvato apāyāti vuccanti. Tathā dukkhassa gatibhāvato duggati. Sukhasamussayato vinipatitattā vinipāto. Itaro pana –
‘‘ขนฺธานญฺจ ปฎิปาฎิ, ธาตุอายตนาน จ;
‘‘Khandhānañca paṭipāṭi, dhātuāyatanāna ca;
อโพฺพจฺฉินฺนํ วตฺตมานา, สํสาโรติ ปวุจฺจติฯ
Abbocchinnaṃ vattamānā, saṃsāroti pavuccati.
ตํ สพฺพํ นาติวตฺตติ นาติกฺกมติ, อถ โข จุติโต ปฎิสนฺธิํ ปฎิสนฺธิโต จุตินฺติ เอวํ ปุนปฺปุนํ จุติปฎิสนฺธิโย คณฺหมาโน ตีสุ ภเวสุ จตูสุ โยนีสุ ปญฺจสุ คตีสุ สตฺตสุ วิญฺญาณฎฺฐิตีสุ นวสุ สตฺตาวาเสสุ มหาสมุเทฺท วาตกฺขิตฺตนาวา วิย ยเนฺต ยุตฺตโคโณ วิย จ ปริพฺภมติเยวฯ
Taṃ sabbaṃ nātivattati nātikkamati, atha kho cutito paṭisandhiṃ paṭisandhito cutinti evaṃ punappunaṃ cutipaṭisandhiyo gaṇhamāno tīsu bhavesu catūsu yonīsu pañcasu gatīsu sattasu viññāṇaṭṭhitīsu navasu sattāvāsesu mahāsamudde vātakkhittanāvā viya yante yuttagoṇo viya ca paribbhamatiyeva.
อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทายาติ อชฺฌตฺติกํ ขนฺธปญฺจกํ อุปาทายฯ อิทญฺหิ อุปโยคเตฺถ สามิวจนํฯ พาหิรสฺส อุปาทายาติ พาหิรํ ขนฺธปญฺจกํ อุปาทาย, อิทมฺปิ อุปโยคเตฺถ สามิวจนํฯ อสฺมีติ, ภิกฺขเว, สตีติ, ภิกฺขเว, ยเทตํ อชฺฌตฺตํ ขนฺธปญฺจกํ อุปาทาย ตณฺหามานทิฎฺฐิวเสน สมูหคฺคาหโต อสฺมีติ โหติ, ตสฺมิํ สตีติ อโตฺถฯ อิตฺถสฺมีติ โหตีติอาทีสุ ปน เอวํ สมูหโต อหนฺติ คหเณ สติ ตโต อนุปนิธาย จ อุปนิธาย จาติ ทฺวิธา คหณํ โหติฯ ตตฺถ อนุปนิธายาติ อญฺญํ อาการํ อนุปคมฺม สกภาวเมว อารมฺมณํ กตฺวา อิตฺถสฺมีติ โหติ, ขตฺติยาทีสุ อิทํปกาโร อหนฺติ เอวํ ตณฺหามานทิฎฺฐิวเสน โหตีติ อโตฺถฯ อิทํ ตาว อนุปนิธาย คหณํฯ อุปนิธาย คหณํ ปน ทุวิธํ โหติ สมโต จ อสมโต จฯ ตํ ทเสฺสตุํ เอวํสฺมีติ อญฺญถาสฺมีติ จ วุตฺตํฯ ตตฺถ เอวํสฺมีติ อิทํ สมโต อุปนิธาย คหณํ, ยถายํ ขตฺติโย ยถายํ พฺราหฺมโณ, เอวมหมฺปีติ อโตฺถฯ อญฺญถาสฺมีติ อิทํ ปน อสมโต คหณํ, ยถายํ ขตฺติโย ยถายํ พฺราหฺมโณ, ตโต อญฺญถา อหํ, หีโน วา อธิโก วาติ อโตฺถฯ อิมานิ ตาว ปจฺจุปฺปนฺนวเสน จตฺตาริ ตณฺหาวิจริตานิฯ
Ajjhattikassa upādāyāti ajjhattikaṃ khandhapañcakaṃ upādāya. Idañhi upayogatthe sāmivacanaṃ. Bāhirassa upādāyāti bāhiraṃ khandhapañcakaṃ upādāya, idampi upayogatthe sāmivacanaṃ. Asmīti, bhikkhave, satīti, bhikkhave, yadetaṃ ajjhattaṃ khandhapañcakaṃ upādāya taṇhāmānadiṭṭhivasena samūhaggāhato asmīti hoti, tasmiṃ satīti attho. Itthasmīti hotītiādīsu pana evaṃ samūhato ahanti gahaṇe sati tato anupanidhāya ca upanidhāya cāti dvidhā gahaṇaṃ hoti. Tattha anupanidhāyāti aññaṃ ākāraṃ anupagamma sakabhāvameva ārammaṇaṃ katvā itthasmīti hoti, khattiyādīsu idaṃpakāro ahanti evaṃ taṇhāmānadiṭṭhivasena hotīti attho. Idaṃ tāva anupanidhāya gahaṇaṃ. Upanidhāya gahaṇaṃ pana duvidhaṃ hoti samato ca asamato ca. Taṃ dassetuṃ evaṃsmīti aññathāsmīti ca vuttaṃ. Tattha evaṃsmīti idaṃ samato upanidhāya gahaṇaṃ, yathāyaṃ khattiyo yathāyaṃ brāhmaṇo, evamahampīti attho. Aññathāsmīti idaṃ pana asamato gahaṇaṃ, yathāyaṃ khattiyo yathāyaṃ brāhmaṇo, tato aññathā ahaṃ, hīno vā adhiko vāti attho. Imāni tāva paccuppannavasena cattāri taṇhāvicaritāni.
อสสฺมีติ สตสฺมีติ อิมานิ ปน เทฺว ยสฺมา อตฺถีติ อสํ, นิจฺจเสฺสตํ อธิวจนํฯ สีทตีติ สตํ, อนิจฺจเสฺสตํ อธิวจนํฯ ตสฺมา สสฺสตุเจฺฉทวเสน วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิฯ อิโต ปรานิ สนฺติ เอวมาทีนิ จตฺตาริ สํสยปริวิตกฺกวเสน วุตฺตานิฯ สนฺติ โหตีติ เอวมาทีสุ อหํ สิยนฺติ โหตีติ เอวมโตฺถ เวทิตโพฺพฯ อธิปฺปาโย ปเนตฺถ ปุริมจตุเกฺก วุตฺตนเยเนว คเหตโพฺพฯ อปิหํ สนฺติอาทีนิ ปน จตฺตาริ อปิ นาม อหํ ภเวยฺยนฺติ เอวํ ปตฺถนากปฺปนวเสน วุตฺตานิฯ ตานิปิ ปุริมจตุเกฺก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิฯ ภวิสฺสนฺติอาทีนิ ปน จตฺตาริ อนาคตวเสน วุตฺตานิฯ เตสมฺปิ ปุริมจตุเกฺก วุตฺตนเยเนว อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ เอวเมเต –
Asasmīti satasmīti imāni pana dve yasmā atthīti asaṃ, niccassetaṃ adhivacanaṃ. Sīdatīti sataṃ, aniccassetaṃ adhivacanaṃ. Tasmā sassatucchedavasena vuttānīti veditabbāni. Ito parāni santi evamādīni cattāri saṃsayaparivitakkavasena vuttāni. Santi hotīti evamādīsu ahaṃ siyanti hotīti evamattho veditabbo. Adhippāyo panettha purimacatukke vuttanayeneva gahetabbo. Apihaṃ santiādīni pana cattāri api nāma ahaṃ bhaveyyanti evaṃ patthanākappanavasena vuttāni. Tānipi purimacatukke vuttanayeneva veditabbāni. Bhavissantiādīni pana cattāri anāgatavasena vuttāni. Tesampi purimacatukke vuttanayeneva attho veditabbo. Evamete –
‘‘เทฺว ทิฎฺฐิสีสา สีสเญฺญ, จตฺตาโร สีสมูลกา;
‘‘Dve diṭṭhisīsā sīsaññe, cattāro sīsamūlakā;
ตโย ตโยติ เอตานิ, อฎฺฐารส วิภาวเยฯ
Tayo tayoti etāni, aṭṭhārasa vibhāvaye.
เอเตสุ หิ อสสฺมิ, สตสฺมีติ เอเต เทฺว ทิฎฺฐิสีสา นามฯ อสฺมิ, สนฺติ, อปิหํ สนฺติ, ภวิสฺสนฺติ เอเต จตฺตาโร สุทฺธสีสา เอวฯ อิตฺถสฺมีติอาทโย ตโย ตโยติ ทฺวาทส สีสมูลกา นามาติ เอวเมเต เทฺว ทิฎฺฐิสีสา จตฺตาโร สุทฺธสีสา ทฺวาทส สีสมูลกาติ อฎฺฐารส ตณฺหาวิจริตธมฺมา เวทิตพฺพาฯ อิมานิ ตาว อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทาย อฎฺฐารส ตณฺหาวิจริตานิฯ พาหิรสฺส อุปาทาย ตณฺหาวิจริเตสุปิ เอเสว นโยฯ อิมินาติ อิมินา รูเปน วา…เป.… วิญฺญาเณน วาติ เอส วิเสโส เวทิตโพฺพฯ เสสํ ตาทิสเมวฯ
Etesu hi asasmi, satasmīti ete dve diṭṭhisīsā nāma. Asmi, santi, apihaṃ santi, bhavissanti ete cattāro suddhasīsā eva. Itthasmītiādayo tayo tayoti dvādasa sīsamūlakā nāmāti evamete dve diṭṭhisīsā cattāro suddhasīsā dvādasa sīsamūlakāti aṭṭhārasa taṇhāvicaritadhammā veditabbā. Imāni tāva ajjhattikassa upādāya aṭṭhārasa taṇhāvicaritāni. Bāhirassa upādāya taṇhāvicaritesupi eseva nayo. Imināti iminā rūpena vā…pe… viññāṇena vāti esa viseso veditabbo. Sesaṃ tādisameva.
อิติ เอวรูปานิ อตีตานิ ฉตฺติํสาติ เอกเมกสฺส ปุคฺคลสฺส อตีเต อทฺธนิ ฉตฺติํสฯ อนาคตานิ ฉตฺติํสาติ เอกเมกเสฺสว ปุคฺคลสฺส จ อนาคเต อทฺธนิ ฉตฺติํสฯ ปจฺจุปฺปนฺนานิ ฉตฺติํสาติ เอกสฺส วา ปุคฺคลสฺส ยถาสมฺภวโต พหูนํ วา ปจฺจุปฺปเนฺน อทฺธนิ ฉตฺติํสาวฯ สพฺพสตฺตานํ ปน นิยเมเนว อตีเต อทฺธนิ ฉตฺติํส, อนาคเต ฉตฺติํส, ปจฺจุปฺปเนฺน ฉตฺติํสฯ อนนฺตา หิ อสทิสตณฺหามานทิฎฺฐิเภทา สตฺตาฯ อฎฺฐสตํ ตณฺหาวิจริตํ โหนฺตีติ เอตฺถ ปน อฎฺฐสตสงฺขาตํ ตณฺหาวิจริตํ โหตีติ เอวมโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ
Iti evarūpāni atītāni chattiṃsāti ekamekassa puggalassa atīte addhani chattiṃsa. Anāgatānichattiṃsāti ekamekasseva puggalassa ca anāgate addhani chattiṃsa. Paccuppannāni chattiṃsāti ekassa vā puggalassa yathāsambhavato bahūnaṃ vā paccuppanne addhani chattiṃsāva. Sabbasattānaṃ pana niyameneva atīte addhani chattiṃsa, anāgate chattiṃsa, paccuppanne chattiṃsa. Anantā hi asadisataṇhāmānadiṭṭhibhedā sattā. Aṭṭhasataṃtaṇhāvicaritaṃ hontīti ettha pana aṭṭhasatasaṅkhātaṃ taṇhāvicaritaṃ hotīti evamattho daṭṭhabbo.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๙. ตณฺหาสุตฺตํ • 9. Taṇhāsuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๙-๑๐. ตณฺหาสุตฺตาทิวณฺณนา • 9-10. Taṇhāsuttādivaṇṇanā