Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) |
๙. ตณฺหุปฺปาทสุตฺตวณฺณนา
9. Taṇhuppādasuttavaṇṇanā
๙. นวเม อุปฺปชฺชติ เอเตสูติ อุปฺปาทาฯ กา อุปฺปชฺชติ? ตณฺหาฯ ตณฺหาย อุปฺปาทา ตณฺหุปฺปาทา, ตณฺหาวตฺถูนิ ตณฺหาการณานีติ อโตฺถฯ จีวรเหตูติ ‘‘กตฺถ มนาปํ จีวรํ ลภิสฺสามี’’ติ จีวรการณา อุปฺปชฺชติฯ อิติภวาภวเหตูติ เอตฺถ อิตีติ นิทสฺสนเตฺถ นิปาโตฯ ยถา จีวราทิเหตุ, เอวํ ภวาภวเหตุปีติ อโตฺถฯ ภวาภโวติ เจตฺถ ปณีตตรานิ สปฺปินวนีตาทีนิ อธิเปฺปตานิฯ สมฺปตฺติภเวสุ ปณีตตรปณีตตมภโวติปิ วทนฺติเยวฯ
9. Navame uppajjati etesūti uppādā. Kā uppajjati? Taṇhā. Taṇhāya uppādā taṇhuppādā, taṇhāvatthūni taṇhākāraṇānīti attho. Cīvarahetūti ‘‘kattha manāpaṃ cīvaraṃ labhissāmī’’ti cīvarakāraṇā uppajjati. Itibhavābhavahetūti ettha itīti nidassanatthe nipāto. Yathā cīvarādihetu, evaṃ bhavābhavahetupīti attho. Bhavābhavoti cettha paṇītatarāni sappinavanītādīni adhippetāni. Sampattibhavesu paṇītatarapaṇītatamabhavotipi vadantiyeva.
ตณฺหาทุติโยติ อยญฺหิ สโตฺต อนมตเคฺค สํสารวเฎฺฎ สํสรโนฺต น เอกโกว สํสรติ, ตณฺหํ ปน ทุติยิกํ ลภโนฺตว สํสรติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘ตณฺหาทุติโย’’ติฯ อิตฺถภาวญฺญถาภาวนฺติ เอตฺถ อิตฺถภาโว นาม อยํ อตฺตภาโว, อญฺญถาภาโว นาม อนาคตตฺตภาโวฯ เอวรูโป วา อโญฺญปิ อตฺตภาโว อิตฺถภาโว นาม, น เอวรูโป อญฺญถาภาโว นามฯ ตํ อิตฺถภาวญฺญถาภาวํฯ สํสารนฺติ ขนฺธธาตุอายตนานํ ปฎิปาฎิํฯ นาติวตฺตตีติ นาติกฺกมติฯ เอวมาทีนวํ ญตฺวาติ เอวํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปเนฺนสุ ขเนฺธสุ อาทีนวํ ชานิตฺวาฯ ตณฺหํ ทุกฺขสฺส สมฺภวนฺติ ตณฺหํ จ ‘‘อยํ วฎฺฎทุกฺขสมฺภูโต สภาโว การณ’’นฺติ เอวํ ชานิตฺวาฯ เอตฺตาวตา อิมสฺส ภิกฺขุโน วิปสฺสนํ วเฑฺฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตภาโว ทสฺสิโตฯ อิทานิ ตํ ขีณาสวํ โถเมโนฺต วีตตโณฺหติอาทิมาหฯ ตตฺถ อนาทาโนติ นิคฺคหโณฯ สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเชติ สติสมฺปชเญฺญ เวปุลฺลปฺปโตฺต ขีณาสโว ภิกฺขุ สโต สมฺปชาโน จเรยฺย วิหเรยฺยาติ อโตฺถฯ อิติ สุตฺตเนฺต วฎฺฎํ กเถตฺวา คาถาสุ วฎฺฎวิวฎฺฎํ กถิตนฺติฯ
Taṇhādutiyoti ayañhi satto anamatagge saṃsāravaṭṭe saṃsaranto na ekakova saṃsarati, taṇhaṃ pana dutiyikaṃ labhantova saṃsarati. Tena vuttaṃ ‘‘taṇhādutiyo’’ti. Itthabhāvaññathābhāvanti ettha itthabhāvo nāma ayaṃ attabhāvo, aññathābhāvo nāma anāgatattabhāvo. Evarūpo vā aññopi attabhāvo itthabhāvo nāma, na evarūpo aññathābhāvo nāma. Taṃ itthabhāvaññathābhāvaṃ. Saṃsāranti khandhadhātuāyatanānaṃ paṭipāṭiṃ. Nātivattatīti nātikkamati. Evamādīnavaṃ ñatvāti evaṃ atītānāgatapaccuppannesu khandhesu ādīnavaṃ jānitvā. Taṇhaṃ dukkhassa sambhavanti taṇhaṃ ca ‘‘ayaṃ vaṭṭadukkhasambhūto sabhāvo kāraṇa’’nti evaṃ jānitvā. Ettāvatā imassa bhikkhuno vipassanaṃ vaḍḍhetvā arahattaṃ pattabhāvo dassito. Idāni taṃ khīṇāsavaṃ thomento vītataṇhotiādimāha. Tattha anādānoti niggahaṇo. Sato bhikkhu paribbajeti satisampajaññe vepullappatto khīṇāsavo bhikkhu sato sampajāno careyya vihareyyāti attho. Iti suttante vaṭṭaṃ kathetvā gāthāsu vaṭṭavivaṭṭaṃ kathitanti.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๙. ตณฺหุปฺปาทสุตฺตํ • 9. Taṇhuppādasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๙. ตณฺหุปฺปาทสุตฺตวณฺณนา • 9. Taṇhuppādasuttavaṇṇanā