Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๔. มารสํยุตฺตํ
4. Mārasaṃyuttaṃ
๑. ปฐมวโคฺค
1. Paṭhamavaggo
๑. ตโปกมฺมสุตฺตวณฺณนา
1. Tapokammasuttavaṇṇanā
๑๓๗. มารสํยุตฺตสฺส ปฐเม อุรุเวลายํ วิหรตีติ ปฎิวิทฺธสพฺพญฺญุตญฺญาโณ อุรุเวลคามํ อุปนิสฺสาย วิหรติฯ ปฐมาภิสมฺพุโทฺธติ อภิสมฺพุโทฺธ หุตฺวา ปฐมํ อโนฺตสตฺตาหสฺมิํเยวฯ ทุกฺกรการิกายาติ ฉพฺพสฺสานิ กตาย ทุกฺกรการิกายฯ มาโร ปาปิมาติ อตฺตโน วิสยํ อติกฺกมิตุํ ปฎิปเนฺน สเตฺต มาเรตีติ มาโรฯ ปาเป นิโยเชติ, สยํ วา ปาเป นิยุโตฺตติ ปาปิมาฯ อญฺญานิปิสฺส กโณฺห, อธิปติ, วสวตฺตี, อนฺตโก, นมุจิ, ปมตฺตพนฺธูติอาทีนิ พหูนิ นามานิ, อิธ ปน นามทฺวยเมว คหิตํฯ อุปสงฺกมีติ – ‘‘อยํ สมโณ โคตโม ‘มุโตฺตสฺมี’ติ มญฺญติ, อมุตฺตภาวมสฺส กเถสฺสามี’’ติ จิเนฺตตฺวา อุปสงฺกมิฯ
137. Mārasaṃyuttassa paṭhame uruvelāyaṃ viharatīti paṭividdhasabbaññutaññāṇo uruvelagāmaṃ upanissāya viharati. Paṭhamābhisambuddhoti abhisambuddho hutvā paṭhamaṃ antosattāhasmiṃyeva. Dukkarakārikāyāti chabbassāni katāya dukkarakārikāya. Māro pāpimāti attano visayaṃ atikkamituṃ paṭipanne satte māretīti māro. Pāpe niyojeti, sayaṃ vā pāpe niyuttoti pāpimā. Aññānipissa kaṇho, adhipati, vasavattī, antako, namuci, pamattabandhūtiādīni bahūni nāmāni, idha pana nāmadvayameva gahitaṃ. Upasaṅkamīti – ‘‘ayaṃ samaṇo gotamo ‘muttosmī’ti maññati, amuttabhāvamassa kathessāmī’’ti cintetvā upasaṅkami.
ตโปกมฺมา อปกฺกมฺมาติ ตโปกมฺมโต อปกฺกมิตฺวาฯ อปรโทฺธติ ‘‘ทูเร ตฺวํ สุทฺธิมคฺคา’’ติ วทติฯ อมรํ ตปนฺติ อมรตปํ อมรภาวตฺถาย กตํ ลูขตปํ, อตฺตกิลมถานุโยโคฯ สพฺพานตฺถาวหํ โหตีติ, ‘‘สพฺพํ ตปํ มยฺหํ อตฺถาวหํ น ภวตี’’ติ ญตฺวาฯ ผิยาริตฺตํว ธมฺมนีติ อรเญฺญ ถเล ผิยาริตฺตํ วิยฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา อรเญฺญ ถเล นาวํ ฐเปตฺวา ภณฺฑสฺส ปูเรตฺวา มหาชนา อภิรูหิตฺวา ผิยาริตฺตํ คเหตฺวา สํกเฑฺฒยฺยุํ เจว อุปฺปีเลยฺยุํ จ, โส มหาชนสฺส วายาโม เอกงฺคุลทฺวงฺคุลมตฺตมฺปิ นาวาย คมนํ อสาเธโนฺต นิรตฺถโก ภเวยฺย น อนตฺถาวโห, เอวเมว อหํ ‘สพฺพํ อมรํ ตปํ อนตฺถาวหํ โหตี’ติ ญตฺวา วิสฺสเชฺชสินฺติฯ
Tapokammā apakkammāti tapokammato apakkamitvā. Aparaddhoti ‘‘dūre tvaṃ suddhimaggā’’ti vadati. Amaraṃ tapanti amaratapaṃ amarabhāvatthāya kataṃ lūkhatapaṃ, attakilamathānuyogo. Sabbānatthāvahaṃ hotīti, ‘‘sabbaṃ tapaṃ mayhaṃ atthāvahaṃ na bhavatī’’ti ñatvā. Phiyārittaṃva dhammanīti araññe thale phiyārittaṃ viya. Idaṃ vuttaṃ hoti – yathā araññe thale nāvaṃ ṭhapetvā bhaṇḍassa pūretvā mahājanā abhirūhitvā phiyārittaṃ gahetvā saṃkaḍḍheyyuṃ ceva uppīleyyuṃ ca, so mahājanassa vāyāmo ekaṅguladvaṅgulamattampi nāvāya gamanaṃ asādhento niratthako bhaveyya na anatthāvaho, evameva ahaṃ ‘sabbaṃ amaraṃ tapaṃ anatthāvahaṃ hotī’ti ñatvā vissajjesinti.
อิทานิ ตํ อมรํ ตปํ ปหาย เยน มเคฺคน พุโทฺธ ชาโต, ตํ ทเสฺสโนฺต สีลนฺติอาทิมาห ฯ ตตฺถ สีลนฺติ วจเนน สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวา คหิตา, สมาธินา สมฺมาวายามสติสมาธโย, ปญฺญาย สมฺมาทิฎฺฐิสงฺกปฺปาฯ มคฺคํ โพธาย ภาวยนฺติ อิมํ อฎฺฐงฺคิกเมว อริยมคฺคํ โพธตฺถาย ภาวยโนฺตฯ เอตฺถ จ โพธายาติ มคฺคตฺถายฯ ยถา หิ ยาคุตฺถาย ยาคุเมว ปจนฺติ, ปูวตฺถาย ปูวเมว ปจนฺติ, น อญฺญํ กิญฺจิ กโรนฺติ, เอวํ มคฺคเมว มคฺคตฺถาย ภาเวติฯ เตนาห ‘‘มคฺคํ โพธาย ภาวย’’นฺติฯ ปรมํ สุทฺธินฺติ อรหตฺตํฯ นิหโตติ ตฺวํ มยา นิหโต ปราชิโตฯ ปฐมํฯ
Idāni taṃ amaraṃ tapaṃ pahāya yena maggena buddho jāto, taṃ dassento sīlantiādimāha . Tattha sīlanti vacanena sammāvācākammantājīvā gahitā, samādhinā sammāvāyāmasatisamādhayo, paññāya sammādiṭṭhisaṅkappā. Maggaṃ bodhāya bhāvayanti imaṃ aṭṭhaṅgikameva ariyamaggaṃ bodhatthāya bhāvayanto. Ettha ca bodhāyāti maggatthāya. Yathā hi yāgutthāya yāgumeva pacanti, pūvatthāya pūvameva pacanti, na aññaṃ kiñci karonti, evaṃ maggameva maggatthāya bhāveti. Tenāha ‘‘maggaṃ bodhāya bhāvaya’’nti. Paramaṃ suddhinti arahattaṃ. Nihatoti tvaṃ mayā nihato parājito. Paṭhamaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๑. ตโปกมฺมสุตฺตํ • 1. Tapokammasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑. ตโปกมฺมสุตฺตวณฺณนา • 1. Tapokammasuttavaṇṇanā