Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๕. อปฺปมาทเปยฺยาลวโคฺค
5. Appamādapeyyālavaggo
๑. ตถาคตสุตฺตํ
1. Tathāgatasuttaṃ
๑๓๙. สาวตฺถินิทานํ ฯ ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, สตฺตา อปทา วา ทฺวิปทา 1 วา จตุปฺปทา วา พหุปฺปทา 2 วา รูปิโน วา อรูปิโน วา สญฺญิโน วา อสญฺญิโน วา เนวสญฺญีนาสญฺญิโน วา, ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายติ อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สเพฺพ เต อปฺปมาทมูลกา อปฺปมาทสโมสรณา; อปฺปมาโท เตสํ ธมฺมานํ อคฺคมกฺขายติฯ อปฺปมตฺตเสฺสตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปาฎิกงฺขํ – อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวสฺสติ อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกริสฺสติฯ กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อปฺปมโตฺต อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวติ อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกโรติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺมาทิฎฺฐิํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามิํ…เป.… สมฺมาสมาธิํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามิํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อปฺปมโตฺต อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวติ อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกโรตี’’ติฯ
139. Sāvatthinidānaṃ . ‘‘Yāvatā, bhikkhave, sattā apadā vā dvipadā 3 vā catuppadā vā bahuppadā 4 vā rūpino vā arūpino vā saññino vā asaññino vā nevasaññīnāsaññino vā, tathāgato tesaṃ aggamakkhāyati arahaṃ sammāsambuddho; evameva kho, bhikkhave, ye keci kusalā dhammā, sabbe te appamādamūlakā appamādasamosaraṇā; appamādo tesaṃ dhammānaṃ aggamakkhāyati. Appamattassetaṃ, bhikkhave, bhikkhuno pāṭikaṅkhaṃ – ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bhāvessati ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bahulīkarissati. Kathañca, bhikkhave, bhikkhu appamatto ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bhāveti ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bahulīkaroti? Idha, bhikkhave, bhikkhu sammādiṭṭhiṃ bhāveti vivekanissitaṃ virāganissitaṃ nirodhanissitaṃ vossaggapariṇāmiṃ…pe… sammāsamādhiṃ bhāveti vivekanissitaṃ virāganissitaṃ nirodhanissitaṃ vossaggapariṇāmiṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu appamatto ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bhāveti ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bahulīkarotī’’ti.
‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, สตฺตา อปทา วา ทฺวิปทา วา จตุปฺปทา วา พหุปฺปทา วา รูปิโน วา อรูปิโน วา สญฺญิโน วา อสญฺญิโน วา เนวสญฺญีนาสญฺญิโน วา, ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายติ อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สเพฺพ เต อปฺปมาทมูลกา อปฺปมาทสโมสรณา; อปฺปมาโท เตสํ ธมฺมานํ อคฺคมกฺขายติฯ อปฺปมตฺตเสฺสตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปาฎิกงฺขํ – อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวสฺสติ, อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกริสฺสติฯ กถญฺจ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อปฺปมโตฺต อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวติ อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกโรติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺมาทิฎฺฐิํ ภาเวติ ราควินยปริโยสานํ โทสวินยปริโยสานํ โมหวินยปริโยสานํ…เป.… สมฺมาสมาธิํ ภาเวติ ราควินยปริโยสานํ โทสวินยปริโยสานํ โมหวินยปริโยสานํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อปฺปมโตฺต อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวติ อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกโรตี’’ติฯ
‘‘Yāvatā, bhikkhave, sattā apadā vā dvipadā vā catuppadā vā bahuppadā vā rūpino vā arūpino vā saññino vā asaññino vā nevasaññīnāsaññino vā, tathāgato tesaṃ aggamakkhāyati arahaṃ sammāsambuddho; evameva kho, bhikkhave, ye keci kusalā dhammā, sabbe te appamādamūlakā appamādasamosaraṇā; appamādo tesaṃ dhammānaṃ aggamakkhāyati. Appamattassetaṃ, bhikkhave, bhikkhuno pāṭikaṅkhaṃ – ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bhāvessati, ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bahulīkarissati. Kathañca , bhikkhave, bhikkhu appamatto ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bhāveti ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bahulīkaroti? Idha, bhikkhave, bhikkhu sammādiṭṭhiṃ bhāveti rāgavinayapariyosānaṃ dosavinayapariyosānaṃ mohavinayapariyosānaṃ…pe… sammāsamādhiṃ bhāveti rāgavinayapariyosānaṃ dosavinayapariyosānaṃ mohavinayapariyosānaṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu appamatto ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bhāveti ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bahulīkarotī’’ti.
‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, สตฺตา อปทา วา ทฺวิปทา วา จตุปฺปทา วา พหุปฺปทา วา รูปิโน วา อรูปิโน วา สญฺญิโน วา อสญฺญิโน วา เนวสญฺญีนาสญฺญิโน วา, ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายติ อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สเพฺพ เต อปฺปมาทมูลกา อปฺปมาทสโมสรณา; อปฺปมาโท เตสํ ธมฺมานํ อคฺคมกฺขายติฯ อปฺปมตฺตเสฺสตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปาฎิกงฺขํ – อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวสฺสติ อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกริสฺสติฯ กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อปฺปมโตฺต อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวติ อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกโรติ? อิธ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺมาทิฎฺฐิํ ภาเวติ อมโตคธํ อมตปรายนํ อมตปริโยสานํ…เป.… สมฺมาสมาธิํ ภาเวติ อมโตคธํ อมตปรายนํ อมตปริโยสานํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อปฺปมโตฺต อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวติ อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกโรตี’’ติฯ
‘‘Yāvatā, bhikkhave, sattā apadā vā dvipadā vā catuppadā vā bahuppadā vā rūpino vā arūpino vā saññino vā asaññino vā nevasaññīnāsaññino vā, tathāgato tesaṃ aggamakkhāyati arahaṃ sammāsambuddho; evameva kho, bhikkhave, ye keci kusalā dhammā, sabbe te appamādamūlakā appamādasamosaraṇā; appamādo tesaṃ dhammānaṃ aggamakkhāyati. Appamattassetaṃ, bhikkhave, bhikkhuno pāṭikaṅkhaṃ – ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bhāvessati ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bahulīkarissati. Kathañca, bhikkhave, bhikkhu appamatto ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bhāveti ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bahulīkaroti? Idha , bhikkhave, bhikkhu sammādiṭṭhiṃ bhāveti amatogadhaṃ amataparāyanaṃ amatapariyosānaṃ…pe… sammāsamādhiṃ bhāveti amatogadhaṃ amataparāyanaṃ amatapariyosānaṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu appamatto ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bhāveti ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bahulīkarotī’’ti.
‘‘ยาวตา , ภิกฺขเว, สตฺตา อปทา วา ทฺวิปทา วา จตุปฺปทา วา พหุปฺปทา วา รูปิโน วา อรูปิโน วา สญฺญิโน วา อสญฺญิโน วา เนวสญฺญีนาสญฺญิโน วา, ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายติ อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สเพฺพ เต อปฺปมาทมูลกา อปฺปมาทสโมสรณา; อปฺปมาโท เตสํ ธมฺมานํ อคฺคมกฺขายติฯ อปฺปมตฺตเสฺสตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปาฎิกงฺขํ – อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวสฺสติ อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกริสฺสติฯ กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อปฺปมโตฺต อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวติ อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกโรติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺมาทิฎฺฐิํ ภาเวติ นิพฺพานนินฺนํ นิพฺพานโปณํ นิพฺพานปพฺภารํ…เป.… สมฺมาสมาธิํ ภาเวติ นิพฺพานนินฺนํ นิพฺพานโปณํ นิพฺพานปพฺภารํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อปฺปมโตฺต อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวติ อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกโรตี’’ติฯ ปฐมํฯ
‘‘Yāvatā , bhikkhave, sattā apadā vā dvipadā vā catuppadā vā bahuppadā vā rūpino vā arūpino vā saññino vā asaññino vā nevasaññīnāsaññino vā, tathāgato tesaṃ aggamakkhāyati arahaṃ sammāsambuddho; evameva kho, bhikkhave, ye keci kusalā dhammā, sabbe te appamādamūlakā appamādasamosaraṇā; appamādo tesaṃ dhammānaṃ aggamakkhāyati. Appamattassetaṃ, bhikkhave, bhikkhuno pāṭikaṅkhaṃ – ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bhāvessati ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bahulīkarissati. Kathañca, bhikkhave, bhikkhu appamatto ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bhāveti ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bahulīkaroti? Idha, bhikkhave, bhikkhu sammādiṭṭhiṃ bhāveti nibbānaninnaṃ nibbānapoṇaṃ nibbānapabbhāraṃ…pe… sammāsamādhiṃ bhāveti nibbānaninnaṃ nibbānapoṇaṃ nibbānapabbhāraṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu appamatto ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bhāveti ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ bahulīkarotī’’ti. Paṭhamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑. ตถาคตสุตฺตวณฺณนา • 1. Tathāgatasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑. ตถาคตสุตฺตวณฺณนา • 1. Tathāgatasuttavaṇṇanā