Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi |
๓. ตติยภาณวาโร
3. Tatiyabhāṇavāro
๔๒๓. เตน โข ปน สมเยน อุปสมฺปนฺนาโย ทิสฺสนฺติ – อนิมิตฺตาปิ, นิมิตฺตมตฺตาปิ, อโลหิตาปิ, ธุวโลหิตาปิ, ธุวโจฬาปิ, ปคฺฆรนฺตีปิ, สิขริณีปิ, อิตฺถิปณฺฑกาปิ, เวปุริสิกาปิ, สมฺภินฺนาปิ, อุภโตพฺยญฺชนาปิฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุปสมฺปาเทนฺติยา จตุวีสติ อนฺตรายิเก ธเมฺม ปุจฺฉิตุํฯ เอวญฺจ ปน , ภิกฺขเว, ปุจฺฉิตพฺพา – ‘นสิ อนิมิตฺตา, นสิ นิมิตฺตมตฺตา, นสิ อโลหิตา, นสิ ธุวโลหิตา, นสิ ธุวโจฬา, นสิ ปคฺฆรนฺตี, นสิ สิขรณี 1, นสิ อิตฺถิปณฺฑกา, นสิ เวปุริสิกา, นสิ สมฺภินฺนา, นสิ อุภโตพฺยญฺชนา? สนฺติ เต เอวรูปา อาพาธา – กุฎฺฐํ, คโณฺฑ, กิลาโส, โสโส, อปมาโร? มนุสฺสาสิ, อิตฺถีสิ, ภุชิสฺสาสิ, อณณาสิ, นสิ ราชภฎี? อนุญฺญาตาสิ มาตาปิตูหิ, สามิเกน? ปริปุณฺณวีสติวสฺสาสิ, ปริปุณฺณํ เต ปตฺตจีวรํ, กินฺนามาสิ, กานามา เต ปวตฺตินี’’ติ?
423. Tena kho pana samayena upasampannāyo dissanti – animittāpi, nimittamattāpi, alohitāpi, dhuvalohitāpi, dhuvacoḷāpi, paggharantīpi, sikhariṇīpi, itthipaṇḍakāpi, vepurisikāpi, sambhinnāpi, ubhatobyañjanāpi. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, upasampādentiyā catuvīsati antarāyike dhamme pucchituṃ. Evañca pana , bhikkhave, pucchitabbā – ‘nasi animittā, nasi nimittamattā, nasi alohitā, nasi dhuvalohitā, nasi dhuvacoḷā, nasi paggharantī, nasi sikharaṇī 2, nasi itthipaṇḍakā, nasi vepurisikā, nasi sambhinnā, nasi ubhatobyañjanā? Santi te evarūpā ābādhā – kuṭṭhaṃ, gaṇḍo, kilāso, soso, apamāro? Manussāsi, itthīsi, bhujissāsi, aṇaṇāsi, nasi rājabhaṭī? Anuññātāsi mātāpitūhi, sāmikena? Paripuṇṇavīsativassāsi, paripuṇṇaṃ te pattacīvaraṃ, kinnāmāsi, kānāmā te pavattinī’’ti?
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ภิกฺขุนีนํ อนฺตรายิเก ธเมฺม ปุจฺฉนฺติฯ อุปสมฺปทาเปกฺขาโย วิตฺถายนฺติ, มงฺกู โหนฺติ, น สโกฺกนฺติ วิสฺสเชฺชตุํฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เอกโตอุปสมฺปนฺนาย ภิกฺขุนิสเงฺฆ วิสุทฺธาย ภิกฺขุสเงฺฆ อุปสมฺปาเทตุ’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena bhikkhū bhikkhunīnaṃ antarāyike dhamme pucchanti. Upasampadāpekkhāyo vitthāyanti, maṅkū honti, na sakkonti vissajjetuṃ. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, ekatoupasampannāya bhikkhunisaṅghe visuddhāya bhikkhusaṅghe upasampādetu’’nti.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขุนิโย อนนุสิฎฺฐา อุปสมฺปทาเปกฺขาโย อนฺตรายิเก ธเมฺม ปุจฺฉนฺติฯ อุปสมฺปทาเปกฺขาโย วิตฺถายนฺติ, มงฺกู โหนฺติ, น สโกฺกนฺติ วิสฺสเชฺชตุํฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฐมํ อนุสาสิตฺวา ปจฺฉา อนฺตรายิเก ธเมฺม ปุจฺฉิตุ’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena bhikkhuniyo ananusiṭṭhā upasampadāpekkhāyo antarāyike dhamme pucchanti. Upasampadāpekkhāyo vitthāyanti, maṅkū honti, na sakkonti vissajjetuṃ. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, paṭhamaṃ anusāsitvā pacchā antarāyike dhamme pucchitu’’nti.
ตเตฺถว สงฺฆมเชฺฌ อนุสาสนฺติฯ อุปสมฺปทาเปกฺขาโย ตเถว วิตฺถายนฺติ, มงฺกู โหนฺติ , น สโกฺกนฺติ วิสฺสเชฺชตุํฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เอกมนฺตํ อนุสาสิตฺวา สงฺฆมเชฺฌ อนฺตรายิเก ธเมฺม ปุจฺฉิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อนุสาสิตพฺพาฯ
Tattheva saṅghamajjhe anusāsanti. Upasampadāpekkhāyo tatheva vitthāyanti, maṅkū honti , na sakkonti vissajjetuṃ. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, ekamantaṃ anusāsitvā saṅghamajjhe antarāyike dhamme pucchituṃ. Evañca pana, bhikkhave, anusāsitabbā.
๔๒๔. ‘‘ปฐมํ อุปชฺฌํ คาหาเปตพฺพาฯ อุปชฺฌํ คาหาเปตฺวา ปตฺตจีวรํ อาจิกฺขิตพฺพํ – ‘อยํ เต ปโตฺต, อยํ สงฺฆาฎิ, อยํ อุตฺตราสโงฺค, อยํ อนฺตรวาสโก, อิทํ สํกจฺจิกํ 3, อยํ อุทกสาฎิกา; คจฺฉ อมุมฺหิ โอกาเส ติฎฺฐาหี’’ติฯ
424. ‘‘Paṭhamaṃ upajjhaṃ gāhāpetabbā. Upajjhaṃ gāhāpetvā pattacīvaraṃ ācikkhitabbaṃ – ‘ayaṃ te patto, ayaṃ saṅghāṭi, ayaṃ uttarāsaṅgo, ayaṃ antaravāsako, idaṃ saṃkaccikaṃ 4, ayaṃ udakasāṭikā; gaccha amumhi okāse tiṭṭhāhī’’ti.
พาลา อพฺยตฺตา อนุสาสนฺติฯ ทุรนุสิฎฺฐา อุปสมฺปทาเปกฺขาโย วิตฺถายนฺติ, มงฺกู โหนฺติ, น สโกฺกนฺติ วิสฺสเชฺชตุํฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, พาลาย อพฺยตฺตาย อนุสาสิตพฺพาฯ ยา อนุสาเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, พฺยตฺตาย ภิกฺขุนิยา ปฎิพลาย อนุสาสิตุ’’นฺติฯ
Bālā abyattā anusāsanti. Duranusiṭṭhā upasampadāpekkhāyo vitthāyanti, maṅkū honti, na sakkonti vissajjetuṃ. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, bālāya abyattāya anusāsitabbā. Yā anusāseyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, byattāya bhikkhuniyā paṭibalāya anusāsitu’’nti.
อสมฺมตา อนุสาสนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, อสมฺมตาย อนุสาสิตพฺพาฯ ยา อนุสาเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สมฺมตาย อนุสาสิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนิตพฺพา – อตฺตนา วา อตฺตานํ สมฺมนฺนิตพฺพํ, ปราย วา ปรา สมฺมนฺนิตพฺพาฯ
Asammatā anusāsanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, asammatāya anusāsitabbā. Yā anusāseyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, sammatāya anusāsituṃ. Evañca pana, bhikkhave, sammannitabbā – attanā vā attānaṃ sammannitabbaṃ, parāya vā parā sammannitabbā.
‘‘กถญฺจ อตฺตนาว 5 อตฺตานํ สมฺมนฺนิตพฺพํ? พฺยตฺตาย ภิกฺขุนิยา ปฎิพลาย สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ – ‘สุณาตุ เม, อเยฺย, สโงฺฆฯ อิตฺถนฺนามา อิตฺถนฺนามาย อยฺยาย อุปสมฺปทาเปกฺขาฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามา อิตฺถนฺนามํ อนุสาเสยฺย’นฺติฯ เอวํ อตฺตนาว อตฺตานํ สมฺมนฺนิตพฺพํฯ
‘‘Kathañca attanāva 6 attānaṃ sammannitabbaṃ? Byattāya bhikkhuniyā paṭibalāya saṅgho ñāpetabbo – ‘suṇātu me, ayye, saṅgho. Itthannāmā itthannāmāya ayyāya upasampadāpekkhā. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, ahaṃ itthannāmā itthannāmaṃ anusāseyya’nti. Evaṃ attanāva attānaṃ sammannitabbaṃ.
‘‘กถญฺจ ปราย 7 ปรา สมฺมนฺนิตพฺพา? พฺยตฺตาย ภิกฺขุนิยา ปฎิพลาย สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ – ‘สุณาตุ เม, อเยฺย, สโงฺฆฯ อิตฺถนฺนามา อิตฺถนฺนามาย อยฺยาย อุปสมฺปทาเปกฺขาฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนามา อิตฺถนฺนามํ อนุสาเสยฺยา’ติฯ เอวํ ปราย ปรา สมฺมนฺนิตพฺพาฯ
‘‘Kathañca parāya 8 parā sammannitabbā? Byattāya bhikkhuniyā paṭibalāya saṅgho ñāpetabbo – ‘suṇātu me, ayye, saṅgho. Itthannāmā itthannāmāya ayyāya upasampadāpekkhā. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, itthannāmā itthannāmaṃ anusāseyyā’ti. Evaṃ parāya parā sammannitabbā.
‘‘ตาย สมฺมตาย ภิกฺขุนิยา อุปสมฺปทาเปกฺขํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนียา – ‘สุณสิ อิตฺถนฺนาเมฯ อยํ เต สจฺจกาโล, ภูตกาโลฯ ยํ ชาตํ ตํ สงฺฆมเชฺฌ ปุจฺฉเนฺต สนฺตํ อตฺถีติ วตฺตพฺพํ, อสนฺตํ นตฺถีติ วตฺตพฺพํฯ มา โข วิตฺถายิ 9, มา โข มงฺกุ อโหสิฯ เอวํ ตํ ปุจฺฉิสฺสนฺติ – นสิ อนิมิตฺตา, นสิ นิมิตฺตมตฺตา, นสิ อโลหิตา, นสิ ธุวโลหิตา, นสิ ธุวโจฬา, นสิ ปคฺฆรนฺตี, นสิ สิขริณี, นสิ อิตฺถิปณฺฑกา, นสิ เวปุริสิกา, นสิ สมฺภินฺนา, นสิ อุภโตพฺยญฺชนา? สนฺติ เต เอวรูปา อาพาธา – กุฎฺฐํ, คโณฺฑ, กิลาโส, โสโส, อปมาโร? มนุสฺสาสิ, อิตฺถีสิ, ภุชิสฺสาสิ, อณณาสิ, นสิ ราชภฎี? อนุญฺญาตาสิ มาตาปิตูหิ, สามิเกน? ปริปุณฺณวีสติวสฺสาสิ, ปริปุณฺณํ เต ปตฺตจีวรํ, กินฺนามาสิ, กานามา เต ปวตฺตินี’ติ ?
‘‘Tāya sammatāya bhikkhuniyā upasampadāpekkhaṃ upasaṅkamitvā evamassa vacanīyā – ‘suṇasi itthannāme. Ayaṃ te saccakālo, bhūtakālo. Yaṃ jātaṃ taṃ saṅghamajjhe pucchante santaṃ atthīti vattabbaṃ, asantaṃ natthīti vattabbaṃ. Mā kho vitthāyi 10, mā kho maṅku ahosi. Evaṃ taṃ pucchissanti – nasi animittā, nasi nimittamattā, nasi alohitā, nasi dhuvalohitā, nasi dhuvacoḷā, nasi paggharantī, nasi sikhariṇī, nasi itthipaṇḍakā, nasi vepurisikā, nasi sambhinnā, nasi ubhatobyañjanā? Santi te evarūpā ābādhā – kuṭṭhaṃ, gaṇḍo, kilāso, soso, apamāro? Manussāsi, itthīsi, bhujissāsi, aṇaṇāsi, nasi rājabhaṭī? Anuññātāsi mātāpitūhi, sāmikena? Paripuṇṇavīsativassāsi, paripuṇṇaṃ te pattacīvaraṃ, kinnāmāsi, kānāmā te pavattinī’ti ?
‘‘เอกโต อาคจฺฉนฺติฯ น เอกโต อาคนฺตพฺพํฯ อนุสาสิกาย ปฐมตรํ อาคนฺตฺวา สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ – ‘สุณาตุ เม, อเยฺย, สโงฺฆฯ อิตฺถนฺนามา อิตฺถนฺนามาย อยฺยาย อุปสมฺปทาเปกฺขาฯ อนุสิฎฺฐา สา มยาฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนามา อาคเจฺฉยฺยา’ติฯ ‘อาคจฺฉาหี’ติ วตฺตพฺพาฯ
‘‘Ekato āgacchanti. Na ekato āgantabbaṃ. Anusāsikāya paṭhamataraṃ āgantvā saṅgho ñāpetabbo – ‘suṇātu me, ayye, saṅgho. Itthannāmā itthannāmāya ayyāya upasampadāpekkhā. Anusiṭṭhā sā mayā. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, itthannāmā āgaccheyyā’ti. ‘Āgacchāhī’ti vattabbā.
‘‘เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ การาเปตฺวา ภิกฺขุนีนํ ปาเท วนฺทาเปตฺวา อุกฺกุฎิกํ นิสีทาเปตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคณฺหาเปตฺวา อุปสมฺปทํ ยาจาเปตพฺพา – ‘สงฺฆํ, อเยฺย, อุปสมฺปทํ ยาจามิฯ อุลฺลุมฺปตุ มํ, อเยฺย, สโงฺฆ อนุกมฺปํ อุปาทายฯ ทุติยมฺปิ, อเยฺย, สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจามิฯ อุลฺลุมฺปตุ มํ, อเยฺย, สโงฺฆ อนุกมฺปํ อุปาทายฯ ตติยมฺปิ, อเยฺย, สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจามิฯ อุลฺลุมฺปตุ มํ, อเยฺย, สโงฺฆ อนุกมฺปํ อุปาทายา’ติฯ พฺยตฺตาย ภิกฺขุนิยา ปฎิพลาย สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –
‘‘Ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ kārāpetvā bhikkhunīnaṃ pāde vandāpetvā ukkuṭikaṃ nisīdāpetvā añjaliṃ paggaṇhāpetvā upasampadaṃ yācāpetabbā – ‘saṅghaṃ, ayye, upasampadaṃ yācāmi. Ullumpatu maṃ, ayye, saṅgho anukampaṃ upādāya. Dutiyampi, ayye, saṅghaṃ upasampadaṃ yācāmi. Ullumpatu maṃ, ayye, saṅgho anukampaṃ upādāya. Tatiyampi, ayye, saṅghaṃ upasampadaṃ yācāmi. Ullumpatu maṃ, ayye, saṅgho anukampaṃ upādāyā’ti. Byattāya bhikkhuniyā paṭibalāya saṅgho ñāpetabbo –
‘‘สุณาตุ เม, อเยฺย, สโงฺฆฯ อยํ อิตฺถนฺนามา อิตฺถนฺนามาย อยฺยาย อุปสมฺปทาเปกฺขาฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามํ อนฺตรายิเก ธเมฺม ปุเจฺฉยฺยนฺติฯ
‘‘Suṇātu me, ayye, saṅgho. Ayaṃ itthannāmā itthannāmāya ayyāya upasampadāpekkhā. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, ahaṃ itthannāmaṃ antarāyike dhamme puccheyyanti.
‘‘สุณสิ อิตฺถนฺนาเมฯ อยํ เต สจฺจกาโล, ภูตกาโลฯ ยํ ชาตํ ตํ ปุจฺฉามิ สนฺตํ อตฺถีติ วตฺตพฺพํ, อสนฺตํ นตฺถีติ วตฺตพฺพํฯ นสิ อนิมิตฺตา…เป.… กินฺนามาสิ, กานามา เต ปวตฺตินีติฯ พฺยตฺตาย ภิกฺขุนิยา ปฎิพลาย สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –
‘‘Suṇasi itthannāme. Ayaṃ te saccakālo, bhūtakālo. Yaṃ jātaṃ taṃ pucchāmi santaṃ atthīti vattabbaṃ, asantaṃ natthīti vattabbaṃ. Nasi animittā…pe… kinnāmāsi, kānāmā te pavattinīti. Byattāya bhikkhuniyā paṭibalāya saṅgho ñāpetabbo –
๔๒๕. ‘‘สุณาตุ เม, อเยฺย, สโงฺฆฯ อยํ อิตฺถนฺนามา อิตฺถนฺนามาย อยฺยาย อุปสมฺปทาเปกฺขาฯ ปริสุทฺธา อนฺตรายิเกหิ ธเมฺมหิ, ปริปุณฺณสฺสา ปตฺตจีวรํฯ อิตฺถนฺนามา สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจติ อิตฺถนฺนามาย อยฺยาย ปวตฺตินิยาฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทยฺย อิตฺถนฺนามาย อยฺยาย ปวตฺตินิยาฯ เอสา ญตฺติฯ
425. ‘‘Suṇātu me, ayye, saṅgho. Ayaṃ itthannāmā itthannāmāya ayyāya upasampadāpekkhā. Parisuddhā antarāyikehi dhammehi, paripuṇṇassā pattacīvaraṃ. Itthannāmā saṅghaṃ upasampadaṃ yācati itthannāmāya ayyāya pavattiniyā. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho itthannāmaṃ upasampādeyya itthannāmāya ayyāya pavattiniyā. Esā ñatti.
‘‘สุณาตุ เม, อเยฺย, สโงฺฆฯ อยํ อิตฺถนฺนามา อิตฺถนฺนามาย อยฺยาย อุปสมฺปทาเปกฺขา ฯ ปริสุทฺธา อนฺตรายิเกหิ ธเมฺมหิ, ปริปุณฺณสฺสา ปตฺตจีวรํฯ อิตฺถนฺนามา สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจติ อิตฺถนฺนามาย อยฺยาย ปวตฺตินิยาฯ สโงฺฆ อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทติ อิตฺถนฺนามาย อยฺยาย ปวตฺตินิยาฯ ยสฺสา อยฺยาย ขมติ อิตฺถนฺนามาย อุปสมฺปทา อิตฺถนฺนามาย อยฺยาย ปวตฺตินิยา, สา ตุณฺหสฺส; ยสฺสา นกฺขมติ, สา ภาเสยฺยฯ
‘‘Suṇātu me, ayye, saṅgho. Ayaṃ itthannāmā itthannāmāya ayyāya upasampadāpekkhā . Parisuddhā antarāyikehi dhammehi, paripuṇṇassā pattacīvaraṃ. Itthannāmā saṅghaṃ upasampadaṃ yācati itthannāmāya ayyāya pavattiniyā. Saṅgho itthannāmaṃ upasampādeti itthannāmāya ayyāya pavattiniyā. Yassā ayyāya khamati itthannāmāya upasampadā itthannāmāya ayyāya pavattiniyā, sā tuṇhassa; yassā nakkhamati, sā bhāseyya.
‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป.… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ – สุณาตุ เม, อเยฺย, สโงฺฆฯ อยํ อิตฺถนฺนามา อิตฺถนฺนามาย อยฺยาย อุปสมฺปทาเปกฺขาฯ ปริสุทฺธา อนฺตรายิเกหิ ธเมฺมหิ, ปริปุณฺณสฺสา ปตฺตจีวรํฯ อิตฺถนฺนามา สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจติ อิตฺถนฺนามาย อยฺยาย ปวตฺตินิยาฯ สโงฺฆ อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทติ อิตฺถนฺนามาย อยฺยาย ปวตฺตินิยาฯ ยสฺสา อยฺยาย ขมติ อิตฺถนฺนามาย อุปสมฺปทา อิตฺถนฺนามาย อยฺยาย ปวตฺตินิยา, สา ตุณฺหสฺส; ยสฺสา นกฺขมติ, สา ภาเสยฺยฯ
‘‘Dutiyampi etamatthaṃ vadāmi…pe… tatiyampi etamatthaṃ vadāmi – suṇātu me, ayye, saṅgho. Ayaṃ itthannāmā itthannāmāya ayyāya upasampadāpekkhā. Parisuddhā antarāyikehi dhammehi, paripuṇṇassā pattacīvaraṃ. Itthannāmā saṅghaṃ upasampadaṃ yācati itthannāmāya ayyāya pavattiniyā. Saṅgho itthannāmaṃ upasampādeti itthannāmāya ayyāya pavattiniyā. Yassā ayyāya khamati itthannāmāya upasampadā itthannāmāya ayyāya pavattiniyā, sā tuṇhassa; yassā nakkhamati, sā bhāseyya.
‘‘อุปสมฺปนฺนา สเงฺฆน อิตฺถนฺนามา อิตฺถนฺนามาย อยฺยาย ปวตฺตินิยาฯ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามีติฯ
‘‘Upasampannā saṅghena itthannāmā itthannāmāya ayyāya pavattiniyā. Khamati saṅghassa, tasmā tuṇhī, evametaṃ dhārayāmīti.
‘‘ตาวเทว ตํ อาทาย ภิกฺขุสงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ การาเปตฺวา ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทาเปตฺวา อุกฺกุฎิกํ นิสีทาเปตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคณฺหาเปตฺวา อุปสมฺปทํ ยาจาเปตพฺพา – ‘อหํ, อยฺยา, อิตฺถนฺนามา อิตฺถนฺนามาย อยฺยาย อุปสมฺปทาเปกฺขา ฯ เอกโตอุปสมฺปนฺนา ภิกฺขุนิสเงฺฆ, วิสุทฺธา; สงฺฆํ, อยฺยา, อุปสมฺปทํ ยาจามิฯ อุลฺลุมฺปตุ มํ, อยฺยา, สโงฺฆ อนุกมฺปํ อุปาทายฯ อหํ, อยฺยา, อิตฺถนฺนามา อิตฺถนฺนามาย อยฺยาย อุปสมฺปทาเปกฺขาฯ เอกโตอุปสมฺปนฺนา ภิกฺขุนิสเงฺฆ, วิสุทฺธาฯ ทุติยมฺปิ, อยฺยา, สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจามิฯ อุลฺลุมฺปตุ มํ, อยฺยา, สโงฺฆ อนุกมฺปํ อุปาทายฯ อหํ, อยฺยา, อิตฺถนฺนามา อิตฺถนฺนามาย อยฺยาย อุปสมฺปทาเปกฺขาฯ เอกโตอุปสมฺปนฺนา ภิกฺขุนิสเงฺฆ, วิสุทฺธาฯ ตติยมฺปิ, อยฺยา, สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจามิฯ อุลฺลุมฺปตุ มํ, อยฺยา, สโงฺฆ อนุกมฺปํ อุปาทายา’ติฯ พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –
‘‘Tāvadeva taṃ ādāya bhikkhusaṅghaṃ upasaṅkamitvā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ kārāpetvā bhikkhūnaṃ pāde vandāpetvā ukkuṭikaṃ nisīdāpetvā añjaliṃ paggaṇhāpetvā upasampadaṃ yācāpetabbā – ‘ahaṃ, ayyā, itthannāmā itthannāmāya ayyāya upasampadāpekkhā . Ekatoupasampannā bhikkhunisaṅghe, visuddhā; saṅghaṃ, ayyā, upasampadaṃ yācāmi. Ullumpatu maṃ, ayyā, saṅgho anukampaṃ upādāya. Ahaṃ, ayyā, itthannāmā itthannāmāya ayyāya upasampadāpekkhā. Ekatoupasampannā bhikkhunisaṅghe, visuddhā. Dutiyampi, ayyā, saṅghaṃ upasampadaṃ yācāmi. Ullumpatu maṃ, ayyā, saṅgho anukampaṃ upādāya. Ahaṃ, ayyā, itthannāmā itthannāmāya ayyāya upasampadāpekkhā. Ekatoupasampannā bhikkhunisaṅghe, visuddhā. Tatiyampi, ayyā, saṅghaṃ upasampadaṃ yācāmi. Ullumpatu maṃ, ayyā, saṅgho anukampaṃ upādāyā’ti. Byattena bhikkhunā paṭibalena saṅgho ñāpetabbo –
‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อยํ อิตฺถนฺนามา อิตฺถนฺนามาย อุปสมฺปทาเปกฺขาฯ เอกโตอุปสมฺปนฺนา ภิกฺขุนิสเงฺฆ, วิสุทฺธาฯ อิตฺถนฺนามา สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจติ อิตฺถนฺนามาย ปวตฺตินิยาฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทยฺย, อิตฺถนฺนามาย ปวตฺตินิยาฯ เอสา ญตฺติฯ
‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Ayaṃ itthannāmā itthannāmāya upasampadāpekkhā. Ekatoupasampannā bhikkhunisaṅghe, visuddhā. Itthannāmā saṅghaṃ upasampadaṃ yācati itthannāmāya pavattiniyā. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho itthannāmaṃ upasampādeyya, itthannāmāya pavattiniyā. Esā ñatti.
‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อยํ อิตฺถนฺนามา อิตฺถนฺนามาย อุปสมฺปทาเปกฺขาฯ เอกโตอุปสมฺปนฺนา ภิกฺขุนิสเงฺฆ, วิสุทฺธาฯ อิตฺถนฺนามา สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจติ อิตฺถนฺนามาย ปวตฺตินิยาฯ สโงฺฆ อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทติ อิตฺถนฺนามาย ปวตฺตินิยาฯ ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามาย อุปสมฺปทา อิตฺถนฺนามาย ปวตฺตินิยา, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ
‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Ayaṃ itthannāmā itthannāmāya upasampadāpekkhā. Ekatoupasampannā bhikkhunisaṅghe, visuddhā. Itthannāmā saṅghaṃ upasampadaṃ yācati itthannāmāya pavattiniyā. Saṅgho itthannāmaṃ upasampādeti itthannāmāya pavattiniyā. Yassāyasmato khamati itthannāmāya upasampadā itthannāmāya pavattiniyā, so tuṇhassa; yassa nakkhamati, so bhāseyya.
‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป.… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ – สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อยํ อิตฺถนฺนามา อิตฺถนฺนามาย อุปสมฺปทาเปกฺขาฯ เอกโตอุปสมฺปนฺนา ภิกฺขุนิสเงฺฆ, วิสุทฺธาฯ อิตฺถนฺนามา สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจติ อิตฺถนฺนามาย ปวตฺตินิยาฯ สโงฺฆ อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทติ อิตฺถนฺนามาย ปวตฺตินิยาฯ ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามาย อุปสมฺปทา อิตฺถนฺนามาย ปวตฺตินิยา, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ
‘‘Dutiyampi etamatthaṃ vadāmi…pe… tatiyampi etamatthaṃ vadāmi – suṇātu me, bhante, saṅgho. Ayaṃ itthannāmā itthannāmāya upasampadāpekkhā. Ekatoupasampannā bhikkhunisaṅghe, visuddhā. Itthannāmā saṅghaṃ upasampadaṃ yācati itthannāmāya pavattiniyā. Saṅgho itthannāmaṃ upasampādeti itthannāmāya pavattiniyā. Yassāyasmato khamati itthannāmāya upasampadā itthannāmāya pavattiniyā, so tuṇhassa; yassa nakkhamati, so bhāseyya.
‘‘อุปสมฺปนฺนา สเงฺฆน อิตฺถนฺนามา อิตฺถนฺนามาย ปวตฺตินิยาฯ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามีติฯ
‘‘Upasampannā saṅghena itthannāmā itthannāmāya pavattiniyā. Khamati saṅghassa, tasmā tuṇhī, evametaṃ dhārayāmīti.
‘‘ตาวเทว ฉายา เมตพฺพา, อุตุปฺปมาณํ อาจิกฺขิตพฺพํ, ทิวสภาโค อาจิกฺขิตโพฺพ, สงฺคีติ อาจิกฺขิตพฺพา, ภิกฺขุนิโย วตฺตพฺพา – อิมิสฺสา ตโย จ นิสฺสเย, อฎฺฐ จ อกรณียานิ อาจิเกฺขยฺยาถา’’ติฯ
‘‘Tāvadeva chāyā metabbā, utuppamāṇaṃ ācikkhitabbaṃ, divasabhāgo ācikkhitabbo, saṅgīti ācikkhitabbā, bhikkhuniyo vattabbā – imissā tayo ca nissaye, aṭṭha ca akaraṇīyāni ācikkheyyāthā’’ti.
๔๒๖. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขุนิโย ภตฺตเคฺค อาสนํ สํกสายนฺติโย กาลํ วีตินาเมสุํฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ ฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฎฺฐนฺนํ ภิกฺขุนีนํ ยถาวุฑฺฒํ, อวเสสานํ ยถาคติก’’นฺติฯ
426. Tena kho pana samayena bhikkhuniyo bhattagge āsanaṃ saṃkasāyantiyo kālaṃ vītināmesuṃ. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ . ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, aṭṭhannaṃ bhikkhunīnaṃ yathāvuḍḍhaṃ, avasesānaṃ yathāgatika’’nti.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขุนิโย – ภควตา อนุญฺญาตํ อฎฺฐนฺนํ ภิกฺขุนีนํ ยถาวุฑฺฒํ, อวเสสานํ ยถาคติกนฺติ – สพฺพตฺถ อเฎฺฐว ภิกฺขุนิโย ยถาวุฑฺฒํ ปฎิพาหนฺติ, อวเสสาโย ยถาคติกํฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภตฺตเคฺค อฎฺฐนฺนํ ภิกฺขุนีนํ ยถาวุฑฺฒํ, อวเสสานํ ยถาคติกํ; อญฺญตฺถ สพฺพตฺถ ยถาวุฑฺฒํ 11 น ปฎิพาหิตพฺพํฯ ยา ปฎิพาเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena bhikkhuniyo – bhagavatā anuññātaṃ aṭṭhannaṃ bhikkhunīnaṃ yathāvuḍḍhaṃ, avasesānaṃ yathāgatikanti – sabbattha aṭṭheva bhikkhuniyo yathāvuḍḍhaṃ paṭibāhanti, avasesāyo yathāgatikaṃ. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, bhattagge aṭṭhannaṃ bhikkhunīnaṃ yathāvuḍḍhaṃ, avasesānaṃ yathāgatikaṃ; aññattha sabbattha yathāvuḍḍhaṃ 12 na paṭibāhitabbaṃ. Yā paṭibāheyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.
๔๒๗. 13 เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขุนิโย น ปวาเรนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา น ปวาเรตพฺพํฯ ยา น ปวาเรยฺย, ยถาธโมฺม กาเรตโพฺพ’’ติฯ
427.14 Tena kho pana samayena bhikkhuniyo na pavārenti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, bhikkhuniyā na pavāretabbaṃ. Yā na pavāreyya, yathādhammo kāretabbo’’ti.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขุนิโย อตฺตนา ปวาเรตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ น ปวาเรนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา อตฺตนา ปวาเรตฺวา ภิกฺขุสโงฺฆ น ปวาเรตโพฺพฯ ยา น ปวาเรยฺย, ยถาธโมฺม กาเรตโพฺพ’’ติฯ
Tena kho pana samayena bhikkhuniyo attanā pavāretvā bhikkhusaṅghaṃ na pavārenti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, bhikkhuniyā attanā pavāretvā bhikkhusaṅgho na pavāretabbo. Yā na pavāreyya, yathādhammo kāretabbo’’ti.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขุนิโย ภิกฺขูหิ สทฺธิํ เอกโต ปวาเรนฺติโย โกลาหลํ อกํสุฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา ภิกฺขูหิ สทฺธิํ เอกโต ปวาเรตพฺพํฯ ยา ปวาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena bhikkhuniyo bhikkhūhi saddhiṃ ekato pavārentiyo kolāhalaṃ akaṃsu. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, bhikkhuniyā bhikkhūhi saddhiṃ ekato pavāretabbaṃ. Yā pavāreyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขุนิโย ปุเรภตฺตํ ปวาเรนฺติโย กาลํ วีตินาเมสุํฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปจฺฉาภตฺตํ 15 ปวาเรตุ’’นฺติฯ ปจฺฉาภตฺตํ ปวาเรนฺติโย วิกาเล 16 อเหสุํฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อชฺชตนา ภิกฺขุนิสงฺฆํ 17 ปวาเรตฺวา อปรชฺชุ ภิกฺขุสงฺฆํ ปวาเรตุ’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena bhikkhuniyo purebhattaṃ pavārentiyo kālaṃ vītināmesuṃ. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, pacchābhattaṃ 18 pavāretu’’nti. Pacchābhattaṃ pavārentiyo vikāle 19 ahesuṃ. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, ajjatanā bhikkhunisaṅghaṃ 20 pavāretvā aparajju bhikkhusaṅghaṃ pavāretu’’nti.
เตน โข ปน สมเยน สโพฺพ ภิกฺขุนิสโงฺฆ ปวาเรโนฺต โกลาหลํ อกาสิฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เอกํ ภิกฺขุนิํ พฺยตฺตํ ปฎิพลํ สมฺมนฺนิตุํ – ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อตฺถาย ภิกฺขุสงฺฆํ ปวาเรตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนิตพฺพาฯ ปฐมํ ภิกฺขุนี ยาจิตพฺพา, ยาจิตฺวา พฺยตฺตาย ภิกฺขุนิยา ปฎิพลาย สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –
Tena kho pana samayena sabbo bhikkhunisaṅgho pavārento kolāhalaṃ akāsi. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, ekaṃ bhikkhuniṃ byattaṃ paṭibalaṃ sammannituṃ – bhikkhunisaṅghassa atthāya bhikkhusaṅghaṃ pavāretuṃ. Evañca pana, bhikkhave, sammannitabbā. Paṭhamaṃ bhikkhunī yācitabbā, yācitvā byattāya bhikkhuniyā paṭibalāya saṅgho ñāpetabbo –
‘‘สุณาตุ เม, อเยฺย, สโงฺฆฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุนิํ สมฺมเนฺนยฺย ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อตฺถาย ภิกฺขุสงฺฆํ ปวาเรตุํฯ เอสา ญตฺติฯ
‘‘Suṇātu me, ayye, saṅgho. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho itthannāmaṃ bhikkhuniṃ sammanneyya bhikkhunisaṅghassa atthāya bhikkhusaṅghaṃ pavāretuṃ. Esā ñatti.
‘‘สุณาตุ เม, อเยฺย, สโงฺฆฯ สโงฺฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุนิํ สมฺมนฺนติ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อตฺถาย ภิกฺขุสงฺฆํ ปวาเรตุํฯ ยสฺสา อยฺยาย ขมติ อิตฺถนฺนามาย ภิกฺขุนิยา สมฺมุติ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อตฺถาย ภิกฺขุสงฺฆํ ปวาเรตุํ, สา ตุณฺหสฺส; ยสฺสา นกฺขมติ, สา ภาเสยฺยฯ
‘‘Suṇātu me, ayye, saṅgho. Saṅgho itthannāmaṃ bhikkhuniṃ sammannati bhikkhunisaṅghassa atthāya bhikkhusaṅghaṃ pavāretuṃ. Yassā ayyāya khamati itthannāmāya bhikkhuniyā sammuti bhikkhunisaṅghassa atthāya bhikkhusaṅghaṃ pavāretuṃ, sā tuṇhassa; yassā nakkhamati, sā bhāseyya.
‘‘สมฺมตา สเงฺฆน อิตฺถนฺนามา ภิกฺขุนี ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อตฺถาย ภิกฺขุสงฺฆํ ปวาเรตุํฯ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามีติฯ
‘‘Sammatā saṅghena itthannāmā bhikkhunī bhikkhunisaṅghassa atthāya bhikkhusaṅghaṃ pavāretuṃ. Khamati saṅghassa, tasmā tuṇhī, evametaṃ dhārayāmīti.
‘‘ตาย สมฺมตาย ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุนิสงฺฆํ อาทาย ภิกฺขุสงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฎิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘ภิกฺขุนีสโงฺฆ , อยฺยา, ภิกฺขุสงฺฆํ ปวาเรติ – ทิเฎฺฐน วา, สุเตน วา ปริสงฺกาย วาฯ วทตุ 21, อยฺยา, ภิกฺขุสโงฺฆ ภิกฺขุนิสงฺฆํ อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสติฯ ทุติยมฺปิ, อยฺยา…เป.… ตติยมฺปิ, อยฺยา, ภิกฺขุนิสโงฺฆ ภิกฺขุสงฺฆํ ปวาเรติ – ทิเฎฺฐน วา, สุเตน วา, ปริสงฺกาย วาฯ วทตุ, อยฺยา, ภิกฺขุสโงฺฆ ภิกฺขุนิสงฺฆํ อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสตี’’ติฯ
‘‘Tāya sammatāya bhikkhuniyā bhikkhunisaṅghaṃ ādāya bhikkhusaṅghaṃ upasaṅkamitvā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā bhikkhūnaṃ pāde vanditvā ukkuṭikaṃ nisīditvā añjaliṃ paggahetvā evamassa vacanīyo – ‘bhikkhunīsaṅgho , ayyā, bhikkhusaṅghaṃ pavāreti – diṭṭhena vā, sutena vā parisaṅkāya vā. Vadatu 22, ayyā, bhikkhusaṅgho bhikkhunisaṅghaṃ anukampaṃ upādāya, passanto paṭikarissati. Dutiyampi, ayyā…pe… tatiyampi, ayyā, bhikkhunisaṅgho bhikkhusaṅghaṃ pavāreti – diṭṭhena vā, sutena vā, parisaṅkāya vā. Vadatu, ayyā, bhikkhusaṅgho bhikkhunisaṅghaṃ anukampaṃ upādāya, passanto paṭikarissatī’’ti.
๔๒๘. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขุนิโย ภิกฺขูนํ อุโปสถํ ฐเปนฺติ, ปวารณํ ฐเปนฺติ, สวจนียํ กโรนฺติ, อนุวาทํ ปฎฺฐเปนฺติ, โอกาสํ กาเรนฺติ, โจเทนฺติ, สาเรนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุสฺส อุโปสโถ ฐเปตโพฺพ; ฐปิโตปิ อฎฺฐปิโต; ฐเปนฺติยา อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ น ปวารณา ฐเปตพฺพา; ฐปิตาปิ อฎฺฐปิตา; ฐเปนฺติยา อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ น สวจนียํ กาตพฺพํ; กตมฺปิ อกตํ; กโรนฺติยา อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ น อนุวาโท ปฎฺฐเปตโพฺพ; ปฎฺฐปิโตปิ อปฺปฎฺฐปิโต; ปฎฺฐเปนฺติยา อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ น โอกาโส กาเรตโพฺพ ; การิโตปิ อการิโต; กาเรนฺติยา อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ น โจเทตโพฺพ; โจทิโตปิ อโจทิโต; โจเทนฺติยา อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺส ฯ น สาเรตโพฺพ; สาริโตปิ อสาริโต; สาเรนฺติยา อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ
428. Tena kho pana samayena bhikkhuniyo bhikkhūnaṃ uposathaṃ ṭhapenti, pavāraṇaṃ ṭhapenti, savacanīyaṃ karonti, anuvādaṃ paṭṭhapenti, okāsaṃ kārenti, codenti, sārenti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, bhikkhuniyā bhikkhussa uposatho ṭhapetabbo; ṭhapitopi aṭṭhapito; ṭhapentiyā āpatti dukkaṭassa. Na pavāraṇā ṭhapetabbā; ṭhapitāpi aṭṭhapitā; ṭhapentiyā āpatti dukkaṭassa. Na savacanīyaṃ kātabbaṃ; katampi akataṃ; karontiyā āpatti dukkaṭassa. Na anuvādo paṭṭhapetabbo; paṭṭhapitopi appaṭṭhapito; paṭṭhapentiyā āpatti dukkaṭassa. Na okāso kāretabbo ; kāritopi akārito; kārentiyā āpatti dukkaṭassa. Na codetabbo; coditopi acodito; codentiyā āpatti dukkaṭassa . Na sāretabbo; sāritopi asārito; sārentiyā āpatti dukkaṭassā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ภิกฺขุนีนํ อุโปสถํ ฐเปนฺติ, ปวารณํ ฐเปนฺติ, สวจนียํ กโรนฺติ, อนุวาทํ ปฎฺฐเปนฺติ, โอกาสํ กาเรนฺติ, โจเทนฺติ, สาเรนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว ภิกฺขุนา ภิกฺขุนิยา อุโปสถํ ฐเปตุํ; ฐปิโตปิ สุฎฺฐปิโต; ฐเปนฺตสฺส อนาปตฺติฯ ปวารณํ ฐเปตุํ; ฐปิตาปิ สุฎฺฐปิตา; ฐเปนฺตสฺส อนาปตฺติฯ สวจนียํ กาตุํ; กตมฺปิ สุกตํ; กโรนฺตสฺส อนาปตฺติฯ อนุวาทํ ปฎฺฐเปตุํ; ปฎฺฐปิโตปิ สุปฺปฎฺฐปิโต; ปฎฺฐเปนฺตสฺส อนาปตฺติฯ โอกาสํ กาเรตุํ; การิโตปิ สุการิโต; กาเรนฺตสฺส อนาปตฺติฯ โจเทตุํ; โจทิตาปิ สุโจทิตา; โจเทนฺตสฺส อนาปตฺติฯ สาเรตุํ; สาริตาปิ สุสาริตา; สาเรนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติฯ
Tena kho pana samayena bhikkhū bhikkhunīnaṃ uposathaṃ ṭhapenti, pavāraṇaṃ ṭhapenti, savacanīyaṃ karonti, anuvādaṃ paṭṭhapenti, okāsaṃ kārenti, codenti, sārenti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave bhikkhunā bhikkhuniyā uposathaṃ ṭhapetuṃ; ṭhapitopi suṭṭhapito; ṭhapentassa anāpatti. Pavāraṇaṃ ṭhapetuṃ; ṭhapitāpi suṭṭhapitā; ṭhapentassa anāpatti. Savacanīyaṃ kātuṃ; katampi sukataṃ; karontassa anāpatti. Anuvādaṃ paṭṭhapetuṃ; paṭṭhapitopi suppaṭṭhapito; paṭṭhapentassa anāpatti. Okāsaṃ kāretuṃ; kāritopi sukārito; kārentassa anāpatti. Codetuṃ; coditāpi sucoditā; codentassa anāpatti. Sāretuṃ; sāritāpi susāritā; sārentassa anāpattī’’ti.
๔๒๙. 23 เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขุนิโย ยาเนน ยายนฺติ – อิตฺถิยุเตฺตนปิ ปุริสนฺตเรน, ปุริสยุเตฺตนปิ อิตฺถนฺตเรนฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ…เป.… ‘‘เสยฺยถาปิ คงฺคามหิยายา’’ติ 24ฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา ยาเนน ยายิตพฺพํฯ ยา ยาเยยฺย, ยถาธโมฺม กาเรตโพฺพ’’ติฯ
429.25 Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhuniyo yānena yāyanti – itthiyuttenapi purisantarena, purisayuttenapi itthantarena. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti…pe… ‘‘seyyathāpi gaṅgāmahiyāyā’’ti 26. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, bhikkhuniyā yānena yāyitabbaṃ. Yā yāyeyya, yathādhammo kāretabbo’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรา ภิกฺขุนี คิลานา โหติ, น สโกฺกติ ปทสา คนฺตุํฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ , ภิกฺขเว, คิลานาย ยาน’’นฺติฯ อถ โข ภิกฺขุนีนํ เอตทโหสิ – ‘‘อิตฺถิยุตฺตํ นุ โข, ปุริสยุตฺตํ นุ โข’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิตฺถิยุตฺตํ ปุริสยุตฺตํ หตฺถวฎฺฎก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññatarā bhikkhunī gilānā hoti, na sakkoti padasā gantuṃ. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi , bhikkhave, gilānāya yāna’’nti. Atha kho bhikkhunīnaṃ etadahosi – ‘‘itthiyuttaṃ nu kho, purisayuttaṃ nu kho’’ti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, itthiyuttaṃ purisayuttaṃ hatthavaṭṭaka’’nti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตริสฺสา ภิกฺขุนิยา ยานุคฺฆาเตน พาฬฺหตรํ อผาสุ อโหสิฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สิวิกํ ปาฎงฺกิ’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññatarissā bhikkhuniyā yānugghātena bāḷhataraṃ aphāsu ahosi. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, sivikaṃ pāṭaṅki’’nti.
๔๓๐. เตน โข ปน สมเยน อฑฺฒกาสี คณิกา ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตา โหติฯ สา จ สาวตฺถิํ คนฺตุกามา โหติ – ‘ภควโต สนฺติเก อุปสมฺปชฺชิสฺสามี’ติฯ อโสฺสสุํ โข ธุตฺตา – ‘อฑฺฒกาสี กิร คณิกา สาวตฺถิํ คนฺตุกามา’ติฯ เต มเคฺค ปริยุฎฺฐิํสุฯ อโสฺสสิ โข อฑฺฒกาสี คณิกา – ‘ธุตฺตา กิร มเคฺค ปริยุฎฺฐิตา’ติฯ ภควโต สนฺติเก ทูตํ ปาเหสิ – ‘‘อหญฺหิ อุปสมฺปชฺชิตุกามา; กถํ นุ โข มยา ปฎิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทูเตนปิ อุปสมฺปาเทตุ’’นฺติฯ
430. Tena kho pana samayena aḍḍhakāsī gaṇikā bhikkhunīsu pabbajitā hoti. Sā ca sāvatthiṃ gantukāmā hoti – ‘bhagavato santike upasampajjissāmī’ti. Assosuṃ kho dhuttā – ‘aḍḍhakāsī kira gaṇikā sāvatthiṃ gantukāmā’ti. Te magge pariyuṭṭhiṃsu. Assosi kho aḍḍhakāsī gaṇikā – ‘dhuttā kira magge pariyuṭṭhitā’ti. Bhagavato santike dūtaṃ pāhesi – ‘‘ahañhi upasampajjitukāmā; kathaṃ nu kho mayā paṭipajjitabba’’nti? Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, dūtenapi upasampādetu’’nti.
ภิกฺขุทูเตน อุปสมฺปาเทนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุทูเตน อุปสมฺปาเทตพฺพาฯ โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ สิกฺขมานทูเตน อุปสมฺปาเทนฺติ…เป.… สามเณรทูเตน อุปสมฺปาเทนฺติ…เป.… สามเณริทูเตน อุปสมฺปาเทนฺติ…เป.… พาลาย อพฺยตฺตาย ทูเตน อุปสมฺปาเทนฺติฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, พาลาย อพฺยตฺตาย ทูเตน อุปสมฺปาเทตพฺพาฯ โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, พฺยตฺตาย ภิกฺขุนิยา ปฎิพลาย ทูเตน อุปสมฺปาเทตุนฺติฯ
Bhikkhudūtena upasampādenti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, bhikkhudūtena upasampādetabbā. Yo upasampādeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti. Sikkhamānadūtena upasampādenti…pe… sāmaṇeradūtena upasampādenti…pe… sāmaṇeridūtena upasampādenti…pe… bālāya abyattāya dūtena upasampādenti. ‘‘Na, bhikkhave, bālāya abyattāya dūtena upasampādetabbā. Yo upasampādeyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, byattāya bhikkhuniyā paṭibalāya dūtena upasampādetunti.
‘‘ตาย ทูตาย ภิกฺขุนิยา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฎิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อิตฺถนฺนามา, อยฺยา, อิตฺถนฺนามาย อยฺยาย อุปสมฺปทาเปกฺขาฯ เอกโตอุปสมฺปนฺนา ภิกฺขุนิสเงฺฆ, วิสุทฺธาฯ สา เกนจิเทว อนฺตราเยน น อาคจฺฉติฯ อิตฺถนฺนามา, อยฺยา, สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจติฯ อุลฺลุมฺปตุ ตํ, อยฺยา, สโงฺฆ อนุกมฺปํ อุปาทายฯ อิตฺถนฺนามา, อยฺยา, อิตฺถนฺนามาย อยฺยาย อุปสมฺปทาเปกฺขาฯ เอกโตอุปสมฺปนฺนา ภิกฺขุนิสเงฺฆ, วิสุทฺธาฯ สา เกนจิเทว อนฺตราเยน น อาคจฺฉติฯ ทุติยมฺปิ, อยฺยา, อิตฺถนฺนามา สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจติฯ อุลฺลุมฺปตุ ตํ, อยฺยา, สโงฺฆ อนุกมฺปํ อุปาทายฯ อิตฺถนฺนามา, อยฺยา, อิตฺถนฺนามาย อยฺยาย อุปสมฺปทาเปกฺขาฯ เอกโตอุปสมฺปนฺนา ภิกฺขุนิสเงฺฆ, วิสุทฺธาฯ สา เกนจิเทว อนฺตราเยน น อาคจฺฉติฯ ตติยมฺปิ, อยฺยา, อิตฺถนฺนามา สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจติฯ อุลฺลุมฺปตุ ตํ, อยฺยา, สโงฺฆ อนุกมฺปํ อุปาทายา’ติ ฯ พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –
‘‘Tāya dūtāya bhikkhuniyā saṅghaṃ upasaṅkamitvā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā bhikkhūnaṃ pāde vanditvā ukkuṭikaṃ nisīditvā añjaliṃ paggahetvā evamassa vacanīyo – ‘itthannāmā, ayyā, itthannāmāya ayyāya upasampadāpekkhā. Ekatoupasampannā bhikkhunisaṅghe, visuddhā. Sā kenacideva antarāyena na āgacchati. Itthannāmā, ayyā, saṅghaṃ upasampadaṃ yācati. Ullumpatu taṃ, ayyā, saṅgho anukampaṃ upādāya. Itthannāmā, ayyā, itthannāmāya ayyāya upasampadāpekkhā. Ekatoupasampannā bhikkhunisaṅghe, visuddhā. Sā kenacideva antarāyena na āgacchati. Dutiyampi, ayyā, itthannāmā saṅghaṃ upasampadaṃ yācati. Ullumpatu taṃ, ayyā, saṅgho anukampaṃ upādāya. Itthannāmā, ayyā, itthannāmāya ayyāya upasampadāpekkhā. Ekatoupasampannā bhikkhunisaṅghe, visuddhā. Sā kenacideva antarāyena na āgacchati. Tatiyampi, ayyā, itthannāmā saṅghaṃ upasampadaṃ yācati. Ullumpatu taṃ, ayyā, saṅgho anukampaṃ upādāyā’ti . Byattena bhikkhunā paṭibalena saṅgho ñāpetabbo –
‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อิตฺถนฺนามา อิตฺถนฺนามาย อุปสมฺปทาเปกฺขาฯ เอกโตอุปสมฺปนฺนา ภิกฺขุนิสเงฺฆ, วิสุทฺธาฯ สา เกนจิเทว อนฺตราเยน น อาคจฺฉติฯ อิตฺถนฺนามา สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจติ อิตฺถนฺนามาย ปวตฺตินิยาฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทยฺย อิตฺถนฺนามาย ปวตฺตินิยาฯ เอสา ญตฺติฯ
‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Itthannāmā itthannāmāya upasampadāpekkhā. Ekatoupasampannā bhikkhunisaṅghe, visuddhā. Sā kenacideva antarāyena na āgacchati. Itthannāmā saṅghaṃ upasampadaṃ yācati itthannāmāya pavattiniyā. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho itthannāmaṃ upasampādeyya itthannāmāya pavattiniyā. Esā ñatti.
‘‘สุณาตุ เม , ภเนฺต, สโงฺฆฯ อิตฺถนฺนามา อิตฺถนฺนามาย อุปสมฺปทาเปกฺขาฯ เอกโตอุปสมฺปนฺนา ภิกฺขุนิสเงฺฆ, วิสุทฺธาฯ สา เกนจิเทว อนฺตราเยน น อาคจฺฉติฯ อิตฺถนฺนามา สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจติ อิตฺถนฺนามาย ปวตฺตินิยาฯ สโงฺฆ อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทติ อิตฺถนฺนามาย ปวตฺตินิยาฯ ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามาย อุปสมฺปทา อิตฺถนฺนามาย ปวตฺตินิยา, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ
‘‘Suṇātu me , bhante, saṅgho. Itthannāmā itthannāmāya upasampadāpekkhā. Ekatoupasampannā bhikkhunisaṅghe, visuddhā. Sā kenacideva antarāyena na āgacchati. Itthannāmā saṅghaṃ upasampadaṃ yācati itthannāmāya pavattiniyā. Saṅgho itthannāmaṃ upasampādeti itthannāmāya pavattiniyā. Yassāyasmato khamati itthannāmāya upasampadā itthannāmāya pavattiniyā, so tuṇhassa; yassa nakkhamati, so bhāseyya.
‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป.… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิฯ สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อิตฺถนฺนามา อิตฺถนฺนามาย อุปสมฺปทาเปกฺขาฯ เอกโตอุปสมฺปนฺนา ภิกฺขุนิสเงฺฆ, วิสุทฺธาฯ สา เกนจิเทว อนฺตราเยน น อาคจฺฉติฯ อิตฺถนฺนามา สงฺฆํ อุปสมฺปทํ ยาจติ อิตฺถนฺนามาย ปวตฺตินิยาฯ สโงฺฆ อิตฺถนฺนามํ อุปสมฺปาเทติ อิตฺถนฺนามาย ปวตฺตินิยาฯ ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามาย อุปสมฺปทา อิตฺถนฺนามาย ปวตฺตินิยา, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ
‘‘Dutiyampi etamatthaṃ vadāmi…pe… tatiyampi etamatthaṃ vadāmi. Suṇātu me, bhante, saṅgho. Itthannāmā itthannāmāya upasampadāpekkhā. Ekatoupasampannā bhikkhunisaṅghe, visuddhā. Sā kenacideva antarāyena na āgacchati. Itthannāmā saṅghaṃ upasampadaṃ yācati itthannāmāya pavattiniyā. Saṅgho itthannāmaṃ upasampādeti itthannāmāya pavattiniyā. Yassāyasmato khamati itthannāmāya upasampadā itthannāmāya pavattiniyā, so tuṇhassa; yassa nakkhamati, so bhāseyya.
‘‘อุปสมฺปนฺนา สเงฺฆน อิตฺถนฺนามา อิตฺถนฺนามาย ปวตฺตินิยาฯ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามีติฯ
‘‘Upasampannā saṅghena itthannāmā itthannāmāya pavattiniyā. Khamati saṅghassa, tasmā tuṇhī, evametaṃ dhārayāmīti.
‘‘ตาวเทว ฉายา เมตพฺพา, อุตุปฺปมาณํ อาจิกฺขิตพฺพํ, ทิวสภาโค อาจิกฺขิตโพฺพ, สงฺคีติ อาจิกฺขิตพฺพา, ภิกฺขุนิโย วตฺตพฺพา – ตสฺสา ตโย จ นิสฺสเย, อฎฺฐ จ อกรณียานิ อาจิเกฺขยฺยาถา’’ติฯ
‘‘Tāvadeva chāyā metabbā, utuppamāṇaṃ ācikkhitabbaṃ, divasabhāgo ācikkhitabbo, saṅgīti ācikkhitabbā, bhikkhuniyo vattabbā – tassā tayo ca nissaye, aṭṭha ca akaraṇīyāni ācikkheyyāthā’’ti.
๔๓๑. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขุนิโย อรเญฺญ วิหรนฺติฯ ธุตฺตา ทูเสนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ, อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา อรเญฺญ วตฺถพฺพํฯ ยา วเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ
431. Tena kho pana samayena bhikkhuniyo araññe viharanti. Dhuttā dūsenti. Bhagavato etamatthaṃ, ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, bhikkhuniyā araññe vatthabbaṃ. Yā vaseyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตเรน อุปาสเกน ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส อุโทฺทสิโต ทิโนฺน โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุโทฺทสิต’’นฺติฯ อุโทฺทสิโต น สมฺมติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุปสฺสย’’นฺติฯ อุปสฺสโย น สมฺมติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นวกมฺม’’นฺติฯ นวกมฺมํ น สมฺมติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปุคฺคลิกมฺปิ กาตุ’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññatarena upāsakena bhikkhunisaṅghassa uddosito dinno hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, uddosita’’nti. Uddosito na sammati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, upassaya’’nti. Upassayo na sammati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, navakamma’’nti. Navakammaṃ na sammati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, puggalikampi kātu’’nti.
๔๓๒. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรา อิตฺถี สนฺนิสินฺนคพฺภา ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตา โหติฯ ตสฺสา ปพฺพชิตาย คโพฺภ วุฎฺฐาติฯ อถ โข ตสฺสา ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘กถํ นุ โข มยา อิมสฺมิํ ทารเก ปฎิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ ฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โปเสตุํ, ยาว โส ทารโก วิญฺญุตํ ปาปุณาตี’’ติฯ
432. Tena kho pana samayena aññatarā itthī sannisinnagabbhā bhikkhunīsu pabbajitā hoti. Tassā pabbajitāya gabbho vuṭṭhāti. Atha kho tassā bhikkhuniyā etadahosi – ‘‘kathaṃ nu kho mayā imasmiṃ dārake paṭipajjitabba’’nti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ . ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, posetuṃ, yāva so dārako viññutaṃ pāpuṇātī’’ti.
อถ โข ตสฺสา ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘มยา จ น ลพฺภา เอกิกาย วตฺถุํ, อญฺญาย จ ภิกฺขุนิยา น ลพฺภา ทารเกน สห วตฺถุํ, กถํ นุ โข มยา ปฎิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เอกํ ภิกฺขุนิํ สมฺมนฺนิตฺวา ตสฺสา ภิกฺขุนิยา ทุติยํ ทาตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนิตพฺพาฯ ปฐมํ ภิกฺขุนี ยาจิตพฺพา, ยาจิตฺวา พฺยตฺตาย ภิกฺขุนิยา ปฎิพลาย สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –
Atha kho tassā bhikkhuniyā etadahosi – ‘‘mayā ca na labbhā ekikāya vatthuṃ, aññāya ca bhikkhuniyā na labbhā dārakena saha vatthuṃ, kathaṃ nu kho mayā paṭipajjitabba’’nti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, ekaṃ bhikkhuniṃ sammannitvā tassā bhikkhuniyā dutiyaṃ dātuṃ. Evañca pana, bhikkhave, sammannitabbā. Paṭhamaṃ bhikkhunī yācitabbā, yācitvā byattāya bhikkhuniyā paṭibalāya saṅgho ñāpetabbo –
‘‘สุณาตุ เม, อเยฺย, สโงฺฆฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุนิํ สมฺมเนฺนยฺย อิตฺถนฺนามาย ภิกฺขุนิยา ทุติยํฯ เอสา ญตฺติฯ
‘‘Suṇātu me, ayye, saṅgho. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho itthannāmaṃ bhikkhuniṃ sammanneyya itthannāmāya bhikkhuniyā dutiyaṃ. Esā ñatti.
‘‘สุณาตุ เม, อเยฺย, สโงฺฆฯ สโงฺฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุนิํ สมฺมนฺนติ อิตฺถนฺนามาย ภิกฺขุนิยา ทุติยํฯ ยสฺสา อยฺยาย ขมติ อิตฺถนฺนามาย ภิกฺขุนิยา สมฺมุติ อิตฺถนฺนามาย ภิกฺขุนิยา ทุติยาย, สา ตุณฺหสฺส; ยสฺสา นกฺขมติ, สา ภาเสยฺยฯ
‘‘Suṇātu me, ayye, saṅgho. Saṅgho itthannāmaṃ bhikkhuniṃ sammannati itthannāmāya bhikkhuniyā dutiyaṃ. Yassā ayyāya khamati itthannāmāya bhikkhuniyā sammuti itthannāmāya bhikkhuniyā dutiyāya, sā tuṇhassa; yassā nakkhamati, sā bhāseyya.
‘‘สมฺมตา สเงฺฆน อิตฺถนฺนามา ภิกฺขุนี อิตฺถนฺนามาย ภิกฺขุนิยา ทุติยาฯ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติฯ
‘‘Sammatā saṅghena itthannāmā bhikkhunī itthannāmāya bhikkhuniyā dutiyā. Khamati saṅghassa, tasmā tuṇhī, evametaṃ dhārayāmī’’ti.
อถ โข ตสฺสา ทุติยิกาย ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘กถํ นุ โข มยา อิมสฺมิํ ทารเก ปฎิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ฐเปตฺวา สาคารํ ยถา อญฺญสฺมิํ ปุริเส ปฎิปชฺชนฺติ 27 เอวํ ตสฺมิํ ทารเก ปฎิปชฺชิตุ’’นฺติฯ
Atha kho tassā dutiyikāya bhikkhuniyā etadahosi – ‘‘kathaṃ nu kho mayā imasmiṃ dārake paṭipajjitabba’’nti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, ṭhapetvā sāgāraṃ yathā aññasmiṃ purise paṭipajjanti 28 evaṃ tasmiṃ dārake paṭipajjitu’’nti.
๔๓๓. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรา ภิกฺขุนี ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺนา โหติ มานตฺตจารินีฯ อถ โข ตสฺสา ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘มยา จ น ลพฺภา เอกิกาย วตฺถุํ, อญฺญาย จ ภิกฺขุนิยา น ลพฺภา สห มยา วตฺถุํ, กถํ นุ โข มยา ปฎิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เอกํ ภิกฺขุนิํ สมฺมนฺนิตฺวา ตสฺสา ภิกฺขุนิยา ทุติยํ ทาตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนิตพฺพาฯ ปฐมํ ภิกฺขุนี ยาจิตพฺพา, ยาจิตฺวา พฺยตฺตาย ภิกฺขุนิยา ปฎิพลาย สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –
433. Tena kho pana samayena aññatarā bhikkhunī garudhammaṃ ajjhāpannā hoti mānattacārinī. Atha kho tassā bhikkhuniyā etadahosi – ‘‘mayā ca na labbhā ekikāya vatthuṃ, aññāya ca bhikkhuniyā na labbhā saha mayā vatthuṃ, kathaṃ nu kho mayā paṭipajjitabba’’nti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, ekaṃ bhikkhuniṃ sammannitvā tassā bhikkhuniyā dutiyaṃ dātuṃ. Evañca pana, bhikkhave, sammannitabbā. Paṭhamaṃ bhikkhunī yācitabbā, yācitvā byattāya bhikkhuniyā paṭibalāya saṅgho ñāpetabbo –
‘‘สุณาตุ เม, อเยฺย, สโงฺฆฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุนิํ สมฺมเนฺนยฺย อิตฺถนฺนามาย ภิกฺขุนิยา ทุติยํฯ เอสา ญตฺติฯ
‘‘Suṇātu me, ayye, saṅgho. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho itthannāmaṃ bhikkhuniṃ sammanneyya itthannāmāya bhikkhuniyā dutiyaṃ. Esā ñatti.
‘‘สุณาตุ เม, อเยฺย, สโงฺฆฯ สโงฺฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุนิํ สมฺมนฺนติ อิตฺถนฺนามาย ภิกฺขุนิยา ทุติยํฯ ยสฺสา อยฺยาย ขมติ อิตฺถนฺนามาย ภิกฺขุนิยา สมฺมุติ อิตฺถนฺนามาย ภิกฺขุนิยา ทุติยาย, สา ตุณฺหสฺส; ยสฺสา นกฺขมติ, สา ภาเสยฺยฯ
‘‘Suṇātu me, ayye, saṅgho. Saṅgho itthannāmaṃ bhikkhuniṃ sammannati itthannāmāya bhikkhuniyā dutiyaṃ. Yassā ayyāya khamati itthannāmāya bhikkhuniyā sammuti itthannāmāya bhikkhuniyā dutiyāya, sā tuṇhassa; yassā nakkhamati, sā bhāseyya.
‘‘สมฺมตา สเงฺฆน อิตฺถนฺนามา ภิกฺขุนี อิตฺถนฺนามาย ภิกฺขุนิยา ทุติยาฯ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติฯ
‘‘Sammatā saṅghena itthannāmā bhikkhunī itthannāmāya bhikkhuniyā dutiyā. Khamati saṅghassa, tasmā tuṇhī, evametaṃ dhārayāmī’’ti.
๔๓๔. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรา ภิกฺขุนี สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย วิพฺภมิฯ สา ปุน ปจฺจาคนฺตฺวา ภิกฺขุนิโย อุปสมฺปทํ ยาจิ ฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา สิกฺขาปจฺจกฺขานํ; ยเทว สา วิพฺภนฺตา ตเทว สา อภิกฺขุนี’’ติฯ
434. Tena kho pana samayena aññatarā bhikkhunī sikkhaṃ paccakkhāya vibbhami. Sā puna paccāgantvā bhikkhuniyo upasampadaṃ yāci . Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, bhikkhuniyā sikkhāpaccakkhānaṃ; yadeva sā vibbhantā tadeva sā abhikkhunī’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรา ภิกฺขุนี สกาวาสา ติตฺถายตนํ สงฺกมิฯ สา ปุน ปจฺจาคนฺตฺวา ภิกฺขุนิโย อุปสมฺปทํ ยาจิฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘ยา สา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนี สกาวาสา ติตฺถายตนํ สงฺกนฺตา, สา อาคตา น อุปสมฺปาเทตพฺพา’’ติฯ
Tena kho pana samayena aññatarā bhikkhunī sakāvāsā titthāyatanaṃ saṅkami. Sā puna paccāgantvā bhikkhuniyo upasampadaṃ yāci. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Yā sā, bhikkhave, bhikkhunī sakāvāsā titthāyatanaṃ saṅkantā, sā āgatā na upasampādetabbā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขุนิโย ปุริเสหิ อภิวาทนํ , เกสเจฺฉทนํ, นขเจฺฉทนํ, วณปฺปฎิกมฺมํ, กุกฺกุจฺจายนฺตา น สาทิยนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สาทิตุ’’นฺติ 29ฯ
Tena kho pana samayena bhikkhuniyo purisehi abhivādanaṃ , kesacchedanaṃ, nakhacchedanaṃ, vaṇappaṭikammaṃ, kukkuccāyantā na sādiyanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, sāditu’’nti 30.
๔๓๕. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขุนิโย ปลฺลเงฺกน นิสีทนฺติ ปณฺหีสมฺผสฺสํ สาทิยนฺตี 31ฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา ปลฺลเงฺกน นิสีทิตพฺพํฯ ยา นิสีเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ
435. Tena kho pana samayena bhikkhuniyo pallaṅkena nisīdanti paṇhīsamphassaṃ sādiyantī 32. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, bhikkhuniyā pallaṅkena nisīditabbaṃ. Yā nisīdeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรา ภิกฺขุนี คิลานา โหติฯ ตสฺสา วินา ปลฺลเงฺกน น ผาสุ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา อฑฺฒปลฺลงฺก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena aññatarā bhikkhunī gilānā hoti. Tassā vinā pallaṅkena na phāsu hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, bhikkhuniyā aḍḍhapallaṅka’’nti.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขุนิโย วจฺจกุฎิยา วจฺจํ กโรนฺติ ฯ ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขุนิโย ตเตฺถว คพฺภํ ปาเตนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา วจฺจกุฎิยา วโจฺจ กาตโพฺพฯ ยา กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เหฎฺฐา วิวเฎ อุปริปฎิจฺฉเนฺน วจฺจํ กาตุ’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena bhikkhuniyo vaccakuṭiyā vaccaṃ karonti . Chabbaggiyā bhikkhuniyo tattheva gabbhaṃ pātenti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, bhikkhuniyā vaccakuṭiyā vacco kātabbo. Yā kareyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, heṭṭhā vivaṭe uparipaṭicchanne vaccaṃ kātu’’nti.
๔๓๖. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขุนิโย จุเณฺณน นหายนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ…เป.… เสยฺยถาปิ คิหินี กามโภคินิโยติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ ฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา จุเณฺณน นหายิตพฺพํฯ ยา นหาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กุกฺกุสํ มตฺติก’’นฺติฯ
436. Tena kho pana samayena bhikkhuniyo cuṇṇena nahāyanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti…pe… seyyathāpi gihinī kāmabhoginiyoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ . ‘‘Na, bhikkhave, bhikkhuniyā cuṇṇena nahāyitabbaṃ. Yā nahāyeyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, kukkusaṃ mattika’’nti.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขุนิโย วาสิตกาย มตฺติกาย นหายนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ…เป.… เสยฺยถาปิ คิหินี กามโภคินิโยติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา วาสิตกาย มตฺติกาย นหายิตพฺพํฯ ยา นหาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปกติมตฺติก’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena bhikkhuniyo vāsitakāya mattikāya nahāyanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti…pe… seyyathāpi gihinī kāmabhoginiyoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, bhikkhuniyā vāsitakāya mattikāya nahāyitabbaṃ. Yā nahāyeyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, pakatimattika’’nti.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขุนิโย ชนฺตาฆเร นหายนฺติโย โกลาหลํ อกํสุฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา ชนฺตาฆเร นหายิตพฺพํฯ ยา นหาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena bhikkhuniyo jantāghare nahāyantiyo kolāhalaṃ akaṃsu. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, bhikkhuniyā jantāghare nahāyitabbaṃ. Yā nahāyeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขุนิโย ปฎิโสเต นหายนฺติ ธาราสมฺผสฺสํ สาทิยนฺตีฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว , ภิกฺขุนิยา ปฎิโสเต นหายิตพฺพํฯ ยา นหาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena bhikkhuniyo paṭisote nahāyanti dhārāsamphassaṃ sādiyantī. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave , bhikkhuniyā paṭisote nahāyitabbaṃ. Yā nahāyeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขุนิโย อติเตฺถ นหายนฺติฯ ธุตฺตา ทูเสนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา อติเตฺถ นหายิตพฺพํฯ ยา นหาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ
Tena kho pana samayena bhikkhuniyo atitthe nahāyanti. Dhuttā dūsenti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, bhikkhuniyā atitthe nahāyitabbaṃ. Yā nahāyeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขุนิโย ปุริสติเตฺถ นหายนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ…เป.… เสยฺยถาปิ คิหินี กามโภคินิโยติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา ปุริสติเตฺถ นหายิตพฺพํฯ ยา นหาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มหิลาติเตฺถ นหายิตุ’’นฺติฯ
Tena kho pana samayena bhikkhuniyo purisatitthe nahāyanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti…pe… seyyathāpi gihinī kāmabhoginiyoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, bhikkhuniyā purisatitthe nahāyitabbaṃ. Yā nahāyeyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, mahilātitthe nahāyitu’’nti.
ตติยภาณวาโร นิฎฺฐิโตฯ
Tatiyabhāṇavāro niṭṭhito.
ภิกฺขุนิกฺขนฺธโก ทสโมฯ
Bhikkhunikkhandhako dasamo.
อิมสฺมิํ ขนฺธเก วตฺถู เอกสตํฯ
Imasmiṃ khandhake vatthū ekasataṃ.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
ปพฺพชฺชํ โคตมี ยาจิ, นานุญฺญาสิ ตถาคโต;
Pabbajjaṃ gotamī yāci, nānuññāsi tathāgato;
กปิลวตฺถุ เวสาลิํ, อคมาสิ วินายโกฯ
Kapilavatthu vesāliṃ, agamāsi vināyako.
รโชกิเณฺณน โกฎฺฐเก, อานนฺทสฺส ปเวทยิ;
Rajokiṇṇena koṭṭhake, ānandassa pavedayi;
ภโพฺพติ นยโต ยาจิ, มาตาติ โปสิกาติ จฯ
Bhabboti nayato yāci, mātāti posikāti ca.
วสฺสสตํ ตทหุ จ, อภิกฺขุปจฺจาสีสนา;
Vassasataṃ tadahu ca, abhikkhupaccāsīsanā;
ปวารณา ครุธมฺมา, เทฺว วสฺสา อนโกฺกสนาฯ
Pavāraṇā garudhammā, dve vassā anakkosanā.
โอวโฎ จ อฎฺฐ ธมฺมา, ยาวชีวานุวตฺตนา;
Ovaṭo ca aṭṭha dhammā, yāvajīvānuvattanā;
ครุธมฺมปฎิคฺคาโห สาวสฺสา อุปสมฺปทาฯ
Garudhammapaṭiggāho sāvassā upasampadā.
วสฺสสหสฺสํ ปเญฺจว, กุมฺภเถนกเสตฎฺฎิ;
Vassasahassaṃ pañceva, kumbhathenakasetaṭṭi;
มญฺชิฎฺฐิกอุปมาหิ, เอวํ สทฺธมฺมหิํสนาฯ
Mañjiṭṭhikaupamāhi, evaṃ saddhammahiṃsanā.
อาฬิํ พเนฺธยฺย ปาเอว, ปุน สทฺธมฺมสณฺฐิติ;
Āḷiṃ bandheyya pāeva, puna saddhammasaṇṭhiti;
อุปสมฺปาเทตุํ อยฺยา, ยถาวุฑฺฒาภิวาทนาฯ
Upasampādetuṃ ayyā, yathāvuḍḍhābhivādanā.
น กริสฺสนฺติ กิเมว, สาธารณาสาธารณํ;
Na karissanti kimeva, sādhāraṇāsādhāraṇaṃ;
โอวาทํ ปาติโมกฺขญฺจ, เกน นุ โข อุปสฺสยํฯ
Ovādaṃ pātimokkhañca, kena nu kho upassayaṃ.
น ชานนฺติ จ อาจิกฺขิ, น กโรนฺติ จ ภิกฺขุหิ;
Na jānanti ca ācikkhi, na karonti ca bhikkhuhi;
ปฎิคฺคเหตุํ ภิกฺขูหิ, ภิกฺขุนีหิ ปฎิคฺคโหฯ
Paṭiggahetuṃ bhikkhūhi, bhikkhunīhi paṭiggaho.
อาจิกฺขิ กมฺมํ ภิกฺขูหิ, อุชฺฌายนฺติ ภิกฺขุนีหิ วา;
Ācikkhi kammaṃ bhikkhūhi, ujjhāyanti bhikkhunīhi vā;
อาจิกฺขิตุํ ภณฺฑนญฺจ, โรเปตฺวา อุปฺปลาย จฯ
Ācikkhituṃ bhaṇḍanañca, ropetvā uppalāya ca.
สาวตฺถิยา กทฺทโมท, อวนฺทิ กาย อูรุ จ;
Sāvatthiyā kaddamoda, avandi kāya ūru ca;
องฺคชาตญฺจ โอภาสํ, สมฺปโยเชนฺติ วคฺคิกาฯ
Aṅgajātañca obhāsaṃ, sampayojenti vaggikā.
อวนฺทิโย ทณฺฑกมฺมํ, ภิกฺขุนิโย ตถา ปุน;
Avandiyo daṇḍakammaṃ, bhikkhuniyo tathā puna;
อาวรณญฺจ โอวาทํ, กปฺปติ นุ โข ปกฺกมิฯ
Āvaraṇañca ovādaṃ, kappati nu kho pakkami.
พาลา วตฺถุวินิจฺฉยา, โอวาทํ สโงฺฆ ปญฺจหิ;
Bālā vatthuvinicchayā, ovādaṃ saṅgho pañcahi;
ทุเว ติโสฺส น คณฺหนฺติ, พาลา คิลานคมิกํฯ
Duve tisso na gaṇhanti, bālā gilānagamikaṃ.
อารญฺญิโก นาโรเจนฺติ, น ปจฺจาคจฺฉนฺติ จ;
Āraññiko nārocenti, na paccāgacchanti ca;
ทีฆํ วิลีวจมฺมญฺจ, ทุสฺสา จ เวณิวฎฺฎิ จ;
Dīghaṃ vilīvacammañca, dussā ca veṇivaṭṭi ca;
โจฬเวณิ จ วฎฺฎิ จ, สุตฺตเวณิ จ วฎฺฎิกาฯ
Coḷaveṇi ca vaṭṭi ca, suttaveṇi ca vaṭṭikā.
อฎฺฐิลฺลํ โคหนุเกน, หตฺถโกจฺฉํ ปาทํ ตถา;
Aṭṭhillaṃ gohanukena, hatthakocchaṃ pādaṃ tathā;
อูรุํ มุขํ ทนฺตมํสํ, อาลิโมฺปมทฺทจุณฺณนาฯ
Ūruṃ mukhaṃ dantamaṃsaṃ, ālimpomaddacuṇṇanā.
ลเญฺฉนฺติ องฺคราคญฺจ, มุขราคํ ตถา ทุเว;
Lañchenti aṅgarāgañca, mukharāgaṃ tathā duve;
เวสี ปานาคารํ สูนํ, อาปณํ วฑฺฒิ วณิชฺชา;
Vesī pānāgāraṃ sūnaṃ, āpaṇaṃ vaḍḍhi vaṇijjā;
ทาสํ ทาสิํ กมฺมกรํ, กมฺมการิํ อุปฎฺฐยฺยุํฯ
Dāsaṃ dāsiṃ kammakaraṃ, kammakāriṃ upaṭṭhayyuṃ.
ติรจฺฉานหรีตกิ, สนฺธารยนฺติ นมตกํ;
Tiracchānaharītaki, sandhārayanti namatakaṃ;
นีลํ ปีตํ โลหิตกํ, มญฺชิฎฺฐกณฺหจีวราฯ
Nīlaṃ pītaṃ lohitakaṃ, mañjiṭṭhakaṇhacīvarā.
มหารงฺคมหานามอจฺฉินฺนา ทีฆเมว จ;
Mahāraṅgamahānāmaacchinnā dīghameva ca;
ปุปฺผผลกญฺจุกญฺจ, ติรีฎกญฺจ ธารยุํฯ
Pupphaphalakañcukañca, tirīṭakañca dhārayuṃ.
ภิกฺขุนี สิกฺขมานาย, สามเณราย อจฺจเย;
Bhikkhunī sikkhamānāya, sāmaṇerāya accaye;
นิยฺยาทิเต ปริกฺขาเร, ภิกฺขุนิโยว อิสฺสราฯ
Niyyādite parikkhāre, bhikkhuniyova issarā.
ภิกฺขุสฺส สามเณรสฺส, อุปาสกสฺสุปาสิกา;
Bhikkhussa sāmaṇerassa, upāsakassupāsikā;
อเญฺญสญฺจ ปริกฺขาเร, นิยฺยาเต ภิกฺขุอิสฺสราฯ
Aññesañca parikkhāre, niyyāte bhikkhuissarā.
มลฺลี คพฺภํ ปตฺตมูลํ, พฺยญฺชนํ อามิเสน จ;
Mallī gabbhaṃ pattamūlaṃ, byañjanaṃ āmisena ca;
อุสฺสนฺนญฺจ พาฬฺหตรํ, สนฺนิธิกตมามิสํฯ
Ussannañca bāḷhataraṃ, sannidhikatamāmisaṃ.
ภิกฺขูนํ ยาทิสํ โภฎฺฐํ 35, ภิกฺขุนีนํ ตถา กเร;
Bhikkhūnaṃ yādisaṃ bhoṭṭhaṃ 36, bhikkhunīnaṃ tathā kare;
เสนาสนํ อุตุนิโย, มกฺขียติ ปฎาณิ จฯ
Senāsanaṃ utuniyo, makkhīyati paṭāṇi ca.
ฉิชฺชนฺติ สพฺพกาลญฺจ, อนิมิตฺตาปิ ทิสฺสเร;
Chijjanti sabbakālañca, animittāpi dissare;
นิมิตฺตา โลหิตา เจว, ตเถว ธุวโลหิตาฯ
Nimittā lohitā ceva, tatheva dhuvalohitā.
ธุวโจฬปคฺฆรนฺตี, สิขรณิตฺถิปณฺฑกา;
Dhuvacoḷapaggharantī, sikharaṇitthipaṇḍakā;
เวปุริสี จ สมฺภินฺนา, อุภโตพฺยญฺชนาปิ จฯ
Vepurisī ca sambhinnā, ubhatobyañjanāpi ca.
อนิมิตฺตาทิโต กตฺวา, ยาว อุภโตพฺยญฺชนา;
Animittādito katvā, yāva ubhatobyañjanā;
เอตํ เปยฺยาลโต เหฎฺฐา, กุฎฺฐํ คโณฺฑ กิลาโส จฯ
Etaṃ peyyālato heṭṭhā, kuṭṭhaṃ gaṇḍo kilāso ca.
โสสาปมาโร มานุสี, อิตฺถีสิ ภุชิสฺสาสิ จ;
Sosāpamāro mānusī, itthīsi bhujissāsi ca;
อณณา น ราชภฎี, อนุญฺญาตา จ วีสติฯ
Aṇaṇā na rājabhaṭī, anuññātā ca vīsati.
ปริปุณฺณา จ กินฺนามา, กานามา เต ปวตฺตินี;
Paripuṇṇā ca kinnāmā, kānāmā te pavattinī;
จตุวีสนฺตรายานํ, ปุจฺฉิตฺวา อุปสมฺปทาฯ
Catuvīsantarāyānaṃ, pucchitvā upasampadā.
วิตฺถายนฺติ อนนุสิฎฺฐา, สงฺฆมเชฺฌ ตเถว จ;
Vitthāyanti ananusiṭṭhā, saṅghamajjhe tatheva ca;
อุปชฺฌาคาห สงฺฆาฎิ, อุตฺตรนฺตรวาสโกฯ
Upajjhāgāha saṅghāṭi, uttarantaravāsako.
สงฺกจฺจุทกสาฎิ จ, อาจิกฺขิตฺวาน เปสเย;
Saṅkaccudakasāṭi ca, ācikkhitvāna pesaye;
พาลา อสมฺมเตกโต, ยาเจ ปุจฺฉนฺตรายิกาฯ
Bālā asammatekato, yāce pucchantarāyikā.
เอกโตอุปสมฺปนฺนา, ภิกฺขุสเงฺฆ ตถา ปุน;
Ekatoupasampannā, bhikkhusaṅghe tathā puna;
ฉายา อุตุ ทิวสา จ, สงฺคีติ ตโย นิสฺสเยฯ
Chāyā utu divasā ca, saṅgīti tayo nissaye.
อฎฺฐ อกรณียานิ, กาลํ สพฺพตฺถ อเฎฺฐว;
Aṭṭha akaraṇīyāni, kālaṃ sabbattha aṭṭheva;
น ปวาเรนฺติ ภิกฺขุนี, ภิกฺขุสงฺฆํ ตเถว จฯ
Na pavārenti bhikkhunī, bhikkhusaṅghaṃ tatheva ca.
โกลาหลํ ปุเรภตฺตํ, วิกาเล จ โกลาหลํ;
Kolāhalaṃ purebhattaṃ, vikāle ca kolāhalaṃ;
อุโปสถํ ปวารณํ, สวจนียานุวาทนํฯ
Uposathaṃ pavāraṇaṃ, savacanīyānuvādanaṃ.
โอกาสํ โจเท สาเรนฺติ, ปฎิกฺขิตฺตํ มเหสินา;
Okāsaṃ code sārenti, paṭikkhittaṃ mahesinā;
ตเถว ภิกฺขุ ภิกฺขุนี, อนุญฺญาตํ มเหสินาฯ
Tatheva bhikkhu bhikkhunī, anuññātaṃ mahesinā.
ยานํ คิลานยุตฺตญฺจ, ยานุคฺฆาตฑฺฒกาสิกา;
Yānaṃ gilānayuttañca, yānugghātaḍḍhakāsikā;
ภิกฺขุ สิกฺขา สามเณร, สามเณรี จ พาลายฯ
Bhikkhu sikkhā sāmaṇera, sāmaṇerī ca bālāya.
อรเญฺญ อุปาสเกน, อุโทฺทสิโต อุปสฺสยํ;
Araññe upāsakena, uddosito upassayaṃ;
น สมฺมติ นวกมฺมํ, นิสินฺนคพฺภเอกิกาฯ
Na sammati navakammaṃ, nisinnagabbhaekikā.
สาคารญฺจ ครุธมฺมํ, ปจฺจกฺขาย จ สงฺกมิ;
Sāgārañca garudhammaṃ, paccakkhāya ca saṅkami;
อภิวาทนเกสา จ, นขา จ วณกมฺมนาฯ
Abhivādanakesā ca, nakhā ca vaṇakammanā.
ปลฺลเงฺกน คิลานา จ, วจฺจํ จุเณฺณน วาสิตํ;
Pallaṅkena gilānā ca, vaccaṃ cuṇṇena vāsitaṃ;
ชนฺตาฆเร ปฎิโสเต, อติเตฺถ ปุริเสน จฯ
Jantāghare paṭisote, atitthe purisena ca.
มหาโคตมี อายาจิ, อานโนฺท จาปิ โยนิโส;
Mahāgotamī āyāci, ānando cāpi yoniso;
ปริสา จตโสฺส โหนฺติ, ปพฺพชฺชา ชินสาสเนฯ
Parisā catasso honti, pabbajjā jinasāsane.
สํเวคชนนตฺถาย , สทฺธมฺมสฺส จ วุทฺธิยา;
Saṃvegajananatthāya , saddhammassa ca vuddhiyā;
อาตุรสฺสาว เภสชฺชํ, เอวํ พุเทฺธน เทสิตํฯ
Āturassāva bhesajjaṃ, evaṃ buddhena desitaṃ.
เอวํ วินีตา สทฺธเมฺม, มาตุคามาปิ อิตรา;
Evaṃ vinītā saddhamme, mātugāmāpi itarā;
ยายนฺติ 37 อจฺจุตํ ฐานํ, ยตฺถ คนฺตฺวา น โสจเรติฯ
Yāyanti 38 accutaṃ ṭhānaṃ, yattha gantvā na socareti.
ภิกฺขุนิกฺขนฺธกํ นิฎฺฐิตํฯ
Bhikkhunikkhandhakaṃ niṭṭhitaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / จูฬวคฺค-อฎฺฐกถา • Cūḷavagga-aṭṭhakathā / ภิกฺขุนีอุปสมฺปทานุชานนกถา • Bhikkhunīupasampadānujānanakathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ภิกฺขุนีอุปสมฺปนฺนานุชานนกถาวณฺณนา • Bhikkhunīupasampannānujānanakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ภิกฺขุนีอุปสมฺปทานุชานนกถาวณฺณนา • Bhikkhunīupasampadānujānanakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ภิกฺขุนีอุปสมฺปทานุชานนกถาวณฺณนา • Bhikkhunīupasampadānujānanakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ภิกฺขุนีอุปสมฺปทานุชานนกถา • Bhikkhunīupasampadānujānanakathā