Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā |
ตติยชฺฌานกถาวณฺณนา
Tatiyajjhānakathāvaṇṇanā
ตทธิคมายาติ ตติยมคฺคาธิคมายฯ อุปปตฺติโต อิกฺขตีติ ปญฺญาย สหจรณปริจเยน ยถา สมวาหิภาโว โหติ, เอวํ ยุตฺติโต ปสฺสติฯ วิปุลายาติ มหคฺคตภาวปฺปตฺตายฯ ถามคตายาติ วิตกฺกวิจารปีติวิคเมน ถิรภาวปฺปตฺติยา, เตเนว วกฺขติ ‘‘วิตกฺกวิจารปีตีหิ อนภิภูตตฺตา’’ติอาทิฯ (ปารา. อฎฺฐ. ๑.๑๑ ตติยชฺฌานกถา)ฯ อุเปกฺขาเภทํ ทเสฺสตฺวา อิธาธิเปฺปตํ อุเปกฺขํ ปกาเสตุํ อุเปกฺขา ปนาติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ ตตฺรมชฺฌตฺตตาว ขีณาสวานํ อิฎฺฐานิฎฺฐฉฬารมฺมณาปาเถ ปริสุทฺธปกติภาวาวิชหนากาเรน อชฺฌุเปกฺขนโต ‘‘ฉฬงฺคุเปกฺขา’’ติ จ, สเตฺตสุ มชฺฌตฺตาการปฺปวตฺตตฺตา ‘‘พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา’’ติ จ, สหชาตธมฺมานํ มชฺฌตฺตาการภูตา ‘‘โพชฺฌงฺคุเปกฺขา’’ติ จ, เกวลา ‘‘ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา’’ติ จ, ตติยชฺฌานสหคตา อคฺคสุเขปิ ตสฺมิํ อปกฺขปาตภูตา ‘‘ฌานุเปกฺขา’’ติ จ, จตุตฺถชฺฌานสหคตา สพฺพปจฺจนีกปริสุทฺธิตาย ‘‘ปาริสุทฺธุเปกฺขา’’ติ จ เตน เตน อวตฺถาเภเทน ฉธา วุตฺตาฯ
Tadadhigamāyāti tatiyamaggādhigamāya. Upapattito ikkhatīti paññāya sahacaraṇaparicayena yathā samavāhibhāvo hoti, evaṃ yuttito passati. Vipulāyāti mahaggatabhāvappattāya. Thāmagatāyāti vitakkavicārapītivigamena thirabhāvappattiyā, teneva vakkhati ‘‘vitakkavicārapītīhi anabhibhūtattā’’tiādi. (Pārā. aṭṭha. 1.11 tatiyajjhānakathā). Upekkhābhedaṃ dassetvā idhādhippetaṃ upekkhaṃ pakāsetuṃ upekkhā panātiādi vuttaṃ. Tattha tatramajjhattatāva khīṇāsavānaṃ iṭṭhāniṭṭhachaḷārammaṇāpāthe parisuddhapakatibhāvāvijahanākārena ajjhupekkhanato ‘‘chaḷaṅgupekkhā’’ti ca, sattesu majjhattākārappavattattā ‘‘brahmavihārupekkhā’’ti ca, sahajātadhammānaṃ majjhattākārabhūtā ‘‘bojjhaṅgupekkhā’’ti ca, kevalā ‘‘tatramajjhattupekkhā’’ti ca, tatiyajjhānasahagatā aggasukhepi tasmiṃ apakkhapātabhūtā ‘‘jhānupekkhā’’ti ca, catutthajjhānasahagatā sabbapaccanīkaparisuddhitāya ‘‘pārisuddhupekkhā’’ti ca tena tena avatthābhedena chadhā vuttā.
วีริยเมว ปน อนจฺจารทฺธอนติสิถิเลสุ สหชาเตสุ สงฺขาเรสุ อุเปกฺขนากาเรน ปวตฺตํ ‘‘วีริยุเปกฺขา’’ติ วุตฺตํฯ อฎฺฐนฺนํ รูปารูปชฺฌานานํ ปฎิลาภโต ปุพฺพภาเค เอว นีวรณวิตกฺกวิจาราทีนํ ปหานาภิมุขีภูตตฺตา เตสํ ปหาเนปิ อพฺยาปารภาวูปคมเนน มชฺฌตฺตาการปฺปวตฺตา สมาธิวเสน อุปฺปนฺนา อฎฺฐ ปญฺญา เจว อุปาทานกฺขนฺธภูเตสุ สงฺขาเรสุ อชฺฌุเปกฺขนาการปฺปวตฺตา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปนฺนา จตุนฺนํ มคฺคานํ ปุพฺพภาเค ตสฺส ตสฺส อธิคมาย จตโสฺส จตุนฺนํ ผลสมาปตฺตีนํ ปุพฺพภาเค ตสฺส ตสฺส อธิคมาย อปฺปณิหิตวิโมกฺขวเสน ปวตฺตา จตโสฺส สุญฺญตอนิมิตฺตวิโมกฺขวเสน เทฺวติ ทส ปญฺญา จาติ อิเม อฎฺฐารส ปญฺญา สงฺขารุเปกฺขา นามฯ ยถาวุตฺตวิปสฺสนาปญฺญาว ลกฺขณวิจินเนปิ มชฺฌตฺตภูตา วิปสฺสนุเปกฺขา นามฯ อทุกฺขมสุขเวทนา เวทนุเปกฺขา นามฯ อิมาสํ ปน ทสนฺนมฺปิ อุเปกฺขานํ ‘‘ตตฺถ ตตฺถ อาคตนยโต วิภาโค ธมฺมสงฺคหฎฺฐกถายํ วุตฺตนเยน เวทิตโพฺพ’’ติ ทเสฺสโนฺต อาห เอวมยํ ทสวิธาปีติอาทิฯ ตตฺถ ตตฺถ อาคตนยโตติ อิทมฺปิ หิ ตาสํ วิภาคทสฺสนสฺส ภูมิปุคฺคลาทิปทํ วิย วิสุํ มาติกาปทวเสน วุตฺตํ, น ปน ภูมิปุคฺคลาทิวเสน วิภาคทสฺสนสฺส อาคตฎฺฐานปรามสนํ อาคตฎฺฐานสฺส อฎฺฐสาลินิยาติอาทินา วุตฺตตฺตา, ตสฺมา สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฎี. ๑.๑๑ ตติยชฺฌานกถา) ยํ วุตฺตํ ‘‘อิมาสํ ปน ทสนฺนมฺปิ อุเปกฺขานํ ภูมิปุคฺคลาทิวเสน วิภาโค ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตโพฺพติ ทเสฺสโนฺต อาห เอวมยํ ทสวิธาติอาที’’ติ, ตํ อมนสิกตฺวา วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํฯ ตตฺถ ตตฺถ อาคตนยโตติ ‘‘อิธ (ขีณาสโว) ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ, น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๓๔๘; อ. นิ. ๖.๑) ฉฬงฺคุเปกฺขา อาคตา, ‘‘อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๐๘; ม. นิ. ๑.๗๗; ๒.๓๐๙; ๓.๒๓๐) เอวํ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา อาคตาติ อิมินา นเยน ทสนฺนมฺปิ อุเปกฺขานํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตปเทเสสุ อาคตนยทสฺสนโต จ อยํ ทสวิธาปิ อุเปกฺขา ธมฺมสงฺคหฎฺฐกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพาติ สมฺพโนฺธฯ
Vīriyameva pana anaccāraddhaanatisithilesu sahajātesu saṅkhāresu upekkhanākārena pavattaṃ ‘‘vīriyupekkhā’’ti vuttaṃ. Aṭṭhannaṃ rūpārūpajjhānānaṃ paṭilābhato pubbabhāge eva nīvaraṇavitakkavicārādīnaṃ pahānābhimukhībhūtattā tesaṃ pahānepi abyāpārabhāvūpagamanena majjhattākārappavattā samādhivasena uppannā aṭṭha paññā ceva upādānakkhandhabhūtesu saṅkhāresu ajjhupekkhanākārappavattā vipassanāvasena uppannā catunnaṃ maggānaṃ pubbabhāge tassa tassa adhigamāya catasso catunnaṃ phalasamāpattīnaṃ pubbabhāge tassa tassa adhigamāya appaṇihitavimokkhavasena pavattā catasso suññataanimittavimokkhavasena dveti dasa paññā cāti ime aṭṭhārasa paññā saṅkhārupekkhā nāma. Yathāvuttavipassanāpaññāva lakkhaṇavicinanepi majjhattabhūtā vipassanupekkhā nāma. Adukkhamasukhavedanā vedanupekkhā nāma. Imāsaṃ pana dasannampi upekkhānaṃ ‘‘tattha tattha āgatanayato vibhāgo dhammasaṅgahaṭṭhakathāyaṃ vuttanayena veditabbo’’ti dassento āha evamayaṃ dasavidhāpītiādi. Tattha tattha āgatanayatoti idampi hi tāsaṃ vibhāgadassanassa bhūmipuggalādipadaṃ viya visuṃ mātikāpadavasena vuttaṃ, na pana bhūmipuggalādivasena vibhāgadassanassa āgataṭṭhānaparāmasanaṃ āgataṭṭhānassa aṭṭhasāliniyātiādinā vuttattā, tasmā sāratthadīpaniyaṃ (sārattha. ṭī. 1.11 tatiyajjhānakathā) yaṃ vuttaṃ ‘‘imāsaṃ pana dasannampi upekkhānaṃ bhūmipuggalādivasena vibhāgo tattha tattha vuttanayeneva veditabboti dassento āha evamayaṃ dasavidhātiādī’’ti, taṃ amanasikatvā vuttanti gahetabbaṃ. Tattha tattha āgatanayatoti ‘‘idha (khīṇāsavo) bhikkhu cakkhunā rūpaṃ disvā neva sumano hoti, na dummano, upekkhako viharati sato sampajāno’’tiādinā (dī. ni. 3.348; a. ni. 6.1) chaḷaṅgupekkhā āgatā, ‘‘upekkhāsahagatena cetasā ekaṃ disaṃ pharitvā viharatī’’ti (dī. ni. 3.308; ma. ni. 1.77; 2.309; 3.230) evaṃ brahmavihārupekkhā āgatāti iminā nayena dasannampi upekkhānaṃ tattha tattha vuttapadesesu āgatanayadassanato ca ayaṃ dasavidhāpi upekkhā dhammasaṅgahaṭṭhakathāyaṃ vuttanayeneva veditabbāti sambandho.
ภูมีติอาทีสุ ปน ฉฬงฺคุเปกฺขา กามาวจรา, พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา รูปาวจราติอาทินา ภูมิโต จ, ฉฬงฺคุเปกฺขา อเสกฺขานเมว, พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา ปุถุชฺชนาทีนํ ติณฺณมฺปิ ปุคฺคลานนฺติอาทินา ปุคฺคลโต จ, ฉฬงฺคุเปกฺขา โสมนสฺสุเปกฺขาสหคตจิตฺตสมฺปยุตฺตาติอาทินา จิตฺตโต จ, ฉฬงฺคุเปกฺขา ฉฬารมฺมณาติอาทินา อารมฺมณโต จ, ‘‘เวทนุเปกฺขา เวทนากฺขเนฺธน สงฺคหิตา, อิตรา นว สงฺขารกฺขเนฺธนา’’ติ ขนฺธสงฺคหวเสน จ, ‘‘ฉฬงฺคุเปกฺขา พฺรหฺมวิหารโพชฺฌงฺคฌาน ปาริสุทฺธิตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา จ อตฺถโต เอกาฯ ตสฺมา เอกกฺขเณ จ ตาสุ เอกาย สติ อิตรา น อุปฺปชฺชนฺติ, ตถา สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนุเปกฺขาปิ เวทิตพฺพาฯ เวทนาวีริยุเปกฺขานเมกกฺขเณ สิยา อุปฺปตฺตี’’ติ เอกกฺขณวเสน จ, ‘‘ฉฬงฺคุเปกฺขา อพฺยากตา พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา กุสลาพฺยากตา, ตถา เสสาฯ เวทนุเปกฺขา ปน สิยา อกุสลาปี’’ติ เอวํ กุสลตฺติกวเสน จ, ‘‘สเงฺขปโต จตฺตาโร จ ธมฺมา วีริยเวทนาตตฺรมชฺฌตฺตตาญาณวเสนา’’ติ เอวํ สเงฺขปวเสน จ อยํ ทสวิธาปิ อุเปกฺขา ธมฺมสงฺคหฎฺฐกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพาติ โยชนาฯ
Bhūmītiādīsu pana chaḷaṅgupekkhā kāmāvacarā, brahmavihārupekkhā rūpāvacarātiādinā bhūmito ca, chaḷaṅgupekkhā asekkhānameva, brahmavihārupekkhā puthujjanādīnaṃ tiṇṇampi puggalānantiādinā puggalato ca, chaḷaṅgupekkhā somanassupekkhāsahagatacittasampayuttātiādinā cittato ca, chaḷaṅgupekkhā chaḷārammaṇātiādinā ārammaṇato ca, ‘‘vedanupekkhā vedanākkhandhena saṅgahitā, itarā nava saṅkhārakkhandhenā’’ti khandhasaṅgahavasena ca, ‘‘chaḷaṅgupekkhā brahmavihārabojjhaṅgajhāna pārisuddhitatramajjhattupekkhā ca atthato ekā. Tasmā ekakkhaṇe ca tāsu ekāya sati itarā na uppajjanti, tathā saṅkhārupekkhā vipassanupekkhāpi veditabbā. Vedanāvīriyupekkhānamekakkhaṇe siyā uppattī’’ti ekakkhaṇavasena ca, ‘‘chaḷaṅgupekkhā abyākatā brahmavihārupekkhā kusalābyākatā, tathā sesā. Vedanupekkhā pana siyā akusalāpī’’ti evaṃ kusalattikavasena ca, ‘‘saṅkhepato cattāro ca dhammā vīriyavedanātatramajjhattatāñāṇavasenā’’ti evaṃ saṅkhepavasena ca ayaṃ dasavidhāpi upekkhā dhammasaṅgahaṭṭhakathāyaṃ vuttanayeneva veditabbāti yojanā.
เอตฺถ เจตา กิญฺจาปิ อฎฺฐสาลินิยํ ภูมิปุคฺคลาทิวเสน สรูปโต อุทฺธริตฺวา น วุตฺตา, ตถาปิ ตตฺถ วุตฺตปฺปกาเรเหว ตาสํ ภูมิปุคฺคลาทิวิภาโค นยโต อุทฺธริตฺวา สกฺกา ญาตุนฺติ ตตฺถ สรูปโต วุตฺตญฺจ อวุตฺตญฺจ เอกโต สงฺคเหตฺวา ตตฺถ ตตฺถ อาคตนยโตติอาทีหิ นวหิ ปกาเรหิ อติเทโส กโต, เตเนว ‘‘ธมฺมสงฺคหฎฺฐกถายํ วุตฺตวเสนา’’ติ อวตฺวา ‘‘วุตฺตนเยเนวา’’ติ วุตฺตํฯ ตถาหิ ขีณาสโว ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ อาทิมฺหิ วุเตฺต ฉฬงฺคุเปกฺขา รูปาทิอารมฺมณตาย ภูมิโต กามาวจรา จ ปุคฺคลโต อเสกฺขานเมว จ อุปฺปชฺชติ, จิตฺตโต โสมนสฺสุเปกฺขาจิตฺตสมฺปยุตฺตา, อารมฺมณโต ฉฬารมฺมณา, กุสลตฺติกโต อพฺยากตา จาติ ปณฺฑิเตหิ สกฺกา ญาตุํ, ตถา ฉฬงฺคุเปกฺขา จ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา จ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา จ ฌานุเปกฺขา จ ปาริสุทฺธุเปกฺขา จ อตฺถโต เอกาติอาทิมฺหิ วุเตฺต ปนสฺส สงฺขารกฺขนฺธสงฺคหิตตฺตา พฺรหฺมวิหารุเปกฺขาทีหิ สห เอกกฺขเณ อนุปฺปตฺติอาทโย จ สกฺกา ญาตุํ, ยถา จ ฉฬงฺคุเปกฺขา, เอวํ เสสานมฺปิ ยถารหํ อฎฺฐสาลินิยํ วุตฺตนยโต ภูมิอาทิวิภาคุทฺธารนโย ญาตโพฺพฯ อนาโภครสาติ ปณีตสุเขปิ ตสฺมิํ อวนติปฎิปกฺขกิจฺจาติ อโตฺถฯ
Ettha cetā kiñcāpi aṭṭhasāliniyaṃ bhūmipuggalādivasena sarūpato uddharitvā na vuttā, tathāpi tattha vuttappakāreheva tāsaṃ bhūmipuggalādivibhāgo nayato uddharitvā sakkā ñātunti tattha sarūpato vuttañca avuttañca ekato saṅgahetvā tattha tattha āgatanayatotiādīhi navahi pakārehi atideso kato, teneva ‘‘dhammasaṅgahaṭṭhakathāyaṃ vuttavasenā’’ti avatvā ‘‘vuttanayenevā’’ti vuttaṃ. Tathāhi khīṇāsavo bhikkhu cakkhunā rūpaṃ disvāti ādimhi vutte chaḷaṅgupekkhā rūpādiārammaṇatāya bhūmito kāmāvacarā ca puggalato asekkhānameva ca uppajjati, cittato somanassupekkhācittasampayuttā, ārammaṇato chaḷārammaṇā, kusalattikato abyākatā cāti paṇḍitehi sakkā ñātuṃ, tathā chaḷaṅgupekkhā ca brahmavihārupekkhā ca tatramajjhattupekkhā ca jhānupekkhā ca pārisuddhupekkhā ca atthato ekātiādimhi vutte panassa saṅkhārakkhandhasaṅgahitattā brahmavihārupekkhādīhi saha ekakkhaṇe anuppattiādayo ca sakkā ñātuṃ, yathā ca chaḷaṅgupekkhā, evaṃ sesānampi yathārahaṃ aṭṭhasāliniyaṃ vuttanayato bhūmiādivibhāguddhāranayo ñātabbo. Anābhogarasāti paṇītasukhepi tasmiṃ avanatipaṭipakkhakiccāti attho.
ปุคฺคเลนาติ ปุคฺคลาธิฎฺฐาเนนฯ กิเลเสหิ สมฺปยุตฺตานํ อารกฺขาฯ ตีรณํ กิจฺจสฺส ปารคมนํฯ ปวิจโย วีมํสาฯ อิทนฺติ สติสมฺปชญฺญํฯ ยสฺมา ตสฺส นามกาเยน สมฺปยุตฺตํ สุขนฺติ อิมสฺส ตสฺมา เอตมตฺถนฺติอาทินา สมฺพโนฺธฯ ตสฺสาติ ฌานสมงฺคิโนฯ ตํสมุฎฺฐาเนนาติ ตํ ยถาวุตฺตนามกายสมฺปยุตฺตํ สุขํ สมุฎฺฐานํ การณํ ยสฺส รูปสฺส เตน ตํสมุฎฺฐาเนน รูเปนฯ อสฺสาติ โยคิโนฯ ยสฺสาติ รูปกายสฺสฯ ผุฎตฺตาติ อติปณีเตน รูเปน ผุฎตฺตาฯ เอตมตฺถํ ทเสฺสโนฺตติ กายิกสุขเหตุภูตรูปสมุฎฺฐาปกนามกายสุขํ ปฎิสํเวทิยมาโน เอว ฌานสมงฺคิตากรเณ การิโยปจารโต ‘‘สุขญฺจ กาเยน ปฎิสํเวเทตี’’ติ วุจฺจตีติ อิมมตฺถํ ทเสฺสโนฺตติ อโตฺถฯ ยนฺติ เหตุอเตฺถ นิปาโตติ อาห ‘‘ยํฌานเหตู’’ติฯ สุขปารมิปฺปเตฺตติ สุขสฺส อุกฺกํสปริยนฺตํ ปเตฺตฯ เอวเมเตสํ ปหานํ เวทิตพฺพนฺติ สมฺพโนฺธฯ อถ กสฺมา ฌาเนเสฺวว นิโรโธ วุโตฺตติ สมฺพโนฺธฯ
Puggalenāti puggalādhiṭṭhānena. Kilesehi sampayuttānaṃ ārakkhā. Tīraṇaṃ kiccassa pāragamanaṃ. Pavicayo vīmaṃsā. Idanti satisampajaññaṃ. Yasmā tassa nāmakāyena sampayuttaṃ sukhanti imassa tasmā etamatthantiādinā sambandho. Tassāti jhānasamaṅgino. Taṃsamuṭṭhānenāti taṃ yathāvuttanāmakāyasampayuttaṃ sukhaṃ samuṭṭhānaṃ kāraṇaṃ yassa rūpassa tena taṃsamuṭṭhānena rūpena. Assāti yogino. Yassāti rūpakāyassa. Phuṭattāti atipaṇītena rūpena phuṭattā. Etamatthaṃ dassentoti kāyikasukhahetubhūtarūpasamuṭṭhāpakanāmakāyasukhaṃ paṭisaṃvediyamāno eva jhānasamaṅgitākaraṇe kāriyopacārato ‘‘sukhañca kāyena paṭisaṃvedetī’’ti vuccatīti imamatthaṃ dassentoti attho. Yanti hetuatthe nipātoti āha ‘‘yaṃjhānahetū’’ti. Sukhapāramippatteti sukhassa ukkaṃsapariyantaṃ patte. Evametesaṃ pahānaṃ veditabbanti sambandho. Atha kasmā jhānesveva nirodho vuttoti sambandho.