Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi |
๑๑. ตติยนวกํ
11. Tatiyanavakaṃ
๑๘๔. ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ…เป.… ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจติฯ ตสฺส สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ เทติฯ โส ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณาโย อปฺปฎิจฺฉนฺนาโยฯ โส สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจติฯ ตํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลาย ปฎิกสฺสติ อธมฺมิเกน กเมฺมน กุเปฺปน อฎฺฐานารเหน, อธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติ ฯ โส ปริวสามีติ มญฺญมาโน อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณาโย อปฺปฎิจฺฉนฺนาโยฯ โส ตสฺมิํ ภูมิยํ ฐิโต ปุริมาอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺติโย สรติ, อปราอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺติโย สรติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิํ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ…เป.… ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โสหํ สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจิํฯ ตสฺส เม สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ อทาสิฯ โสหํ ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิํ ปริมาณาโย อปฺปฎิจฺฉนฺนาโยฯ โสหํ สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจิํฯ ตํ มํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลาย ปฎิกสฺสิ อธมฺมิเกน กเมฺมน กุเปฺปน อฎฺฐานารเหน, อธเมฺมน สโมธานปริวาสํ อทาสิฯ โสหํ ปริวสามีติ มญฺญมาโน อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิํ ปริมาณาโย อปฺปฎิจฺฉนฺนาโย ฯ โสหํ ตสฺมิํ ภูมิยํ ฐิโต ปุริมาอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺติโย สรามิ, อปราอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺติโย สรามิฯ ยํนูนาหํ สงฺฆํ ปุริมาอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ อปราอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาเจยฺยํ ธมฺมิเกน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน, ธเมฺมน สโมธานปริวาสํ; ธเมฺมน มานตฺตํ, ธเมฺมน อพฺภาน’นฺติฯ โส สงฺฆํ ปุริมาอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ, อปราอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ, มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจติ ธมฺมิเกน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน, ธเมฺมน สโมธานปริวาสํ; ธเมฺมน มานตฺตํ, ธเมฺมน อพฺภานํฯ ตํ สโงฺฆ ปุริมาอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ, อปราอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ, มูลาย ปฎิกสฺสติ ธมฺมิเกน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน, ธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติ; ธเมฺมน มานตฺตํ เทติ, ธเมฺมน อเพฺภติฯ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิสุโทฺธ ตาหิ อาปตฺตีหิ 1ฯ
184. ‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhu sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇampi aparimāṇampi…pe… vavatthitampi sambhinnampi. So saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yācati. Tassa saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ deti. So parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇāyo appaṭicchannāyo. So saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yācati. Taṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāya paṭikassati adhammikena kammena kuppena aṭṭhānārahena, adhammena samodhānaparivāsaṃ deti . So parivasāmīti maññamāno antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇāyo appaṭicchannāyo. So tasmiṃ bhūmiyaṃ ṭhito purimāāpattīnaṃ antarāāpattiyo sarati, aparāāpattīnaṃ antarāāpattiyo sarati. Tassa evaṃ hoti – ‘ahaṃ kho sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjiṃ parimāṇampi aparimāṇampi…pe… vavatthitampi sambhinnampi. Sohaṃ saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yāciṃ. Tassa me saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ adāsi. Sohaṃ parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjiṃ parimāṇāyo appaṭicchannāyo. Sohaṃ saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yāciṃ. Taṃ maṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāya paṭikassi adhammikena kammena kuppena aṭṭhānārahena, adhammena samodhānaparivāsaṃ adāsi. Sohaṃ parivasāmīti maññamāno antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjiṃ parimāṇāyo appaṭicchannāyo . Sohaṃ tasmiṃ bhūmiyaṃ ṭhito purimāāpattīnaṃ antarāāpattiyo sarāmi, aparāāpattīnaṃ antarāāpattiyo sarāmi. Yaṃnūnāhaṃ saṅghaṃ purimāāpattīnaṃ antarāāpattīnañca aparāāpattīnaṃ antarāāpattīnañca mūlāyapaṭikassanaṃ yāceyyaṃ dhammikena kammena akuppena ṭhānārahena, dhammena samodhānaparivāsaṃ; dhammena mānattaṃ, dhammena abbhāna’nti. So saṅghaṃ purimāāpattīnaṃ antarāāpattīnañca, aparāāpattīnaṃ antarāāpattīnañca, mūlāyapaṭikassanaṃ yācati dhammikena kammena akuppena ṭhānārahena, dhammena samodhānaparivāsaṃ; dhammena mānattaṃ, dhammena abbhānaṃ. Taṃ saṅgho purimāāpattīnaṃ antarāāpattīnañca, aparāāpattīnaṃ antarāāpattīnañca, mūlāya paṭikassati dhammikena kammena akuppena ṭhānārahena, dhammena samodhānaparivāsaṃ deti; dhammena mānattaṃ deti, dhammena abbheti. So, bhikkhave, bhikkhu visuddho tāhi āpattīhi 2.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ…เป.… ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจติฯ ตสฺส สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ เทติฯ โส ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณา ปฎิจฺฉนฺนาโยฯ โส สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจติ ฯ ตํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลาย ปฎิกสฺสติ, อธมฺมิเกน กเมฺมน กุเปฺปน อฎฺฐานารเหน, อธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติฯ โส ปริวสามีติ มญฺญมาโน อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณา ปฎิจฺฉนฺนาโยฯ โส ตสฺมิํ ภูมิยํ ฐิโต ปุริมาอาปตฺตีนํ 3 อนฺตราอาปตฺติโย สรติ, อปราอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺติโย สรติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิํ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ…เป.… ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โสหํ สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจิํฯ ตสฺส เม สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ อทาสิฯ โสหํ ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิํ ปริมาณา ปฎิจฺฉนฺนาโยฯ โสหํ สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจิํฯ ตํ มํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสิ, อธมฺมิเกน กเมฺมน กุเปฺปน อฎฺฐานารเหน, อธเมฺมน สโมธานปริวาสํ อทาสิฯ โสหํ ปริวสามีติ มญฺญมาโน อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิํ ปริมาณา ปฎิจฺฉนฺนาโยฯ โสหํ ตสฺมิํ ภูมิยํ ฐิโต ปุริมาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺติโย สรามิ, อปราอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺติโย สรามิฯ ยํนูนาหํ สงฺฆํ ปุริมาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ, อปรา อาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ, มูลายปฎิกสฺสนํ ยาเจยฺยํ ธมฺมิเกน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน, ธเมฺมน สโมธานปริวาสํ, ธเมฺมน มานตฺตํ, ธเมฺมน อพฺภาน’นฺติฯ โส สงฺฆํ ปุริมาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ, อปราอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจติ ธมฺมิเกน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน, ธเมฺมน สโมธานปริวาสํ, ธเมฺมน มานตฺตํ, ธเมฺมน อพฺภานํฯ ตํ สโงฺฆ ปุริมาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ, อปราอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ, มูลาย ปฎิกสฺสติ ธมฺมิเกน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน, ธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติ, ธเมฺมน มานตฺตํ เทติ, ธเมฺมน อเพฺภติฯ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิสุโทฺธ ตาหิ อาปตฺตีหิฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhu sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇampi aparimāṇampi…pe… vavatthitampi sambhinnampi. So saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yācati. Tassa saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ deti. So parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇā paṭicchannāyo. So saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yācati . Taṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāya paṭikassati, adhammikena kammena kuppena aṭṭhānārahena, adhammena samodhānaparivāsaṃ deti. So parivasāmīti maññamāno antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇā paṭicchannāyo. So tasmiṃ bhūmiyaṃ ṭhito purimāāpattīnaṃ 4 antarāāpattiyo sarati, aparāāpattīnaṃ antarāāpattiyo sarati. Tassa evaṃ hoti – ‘ahaṃ kho sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjiṃ parimāṇampi aparimāṇampi…pe… vavatthitampi sambhinnampi. Sohaṃ saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yāciṃ. Tassa me saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ adāsi. Sohaṃ parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjiṃ parimāṇā paṭicchannāyo. Sohaṃ saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yāciṃ. Taṃ maṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassi, adhammikena kammena kuppena aṭṭhānārahena, adhammena samodhānaparivāsaṃ adāsi. Sohaṃ parivasāmīti maññamāno antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjiṃ parimāṇā paṭicchannāyo. Sohaṃ tasmiṃ bhūmiyaṃ ṭhito purimāpattīnaṃ antarāāpattiyo sarāmi, aparāāpattīnaṃ antarāāpattiyo sarāmi. Yaṃnūnāhaṃ saṅghaṃ purimāpattīnaṃ antarāāpattīnañca, aparā āpattīnaṃ antarāāpattīnañca, mūlāyapaṭikassanaṃ yāceyyaṃ dhammikena kammena akuppena ṭhānārahena, dhammena samodhānaparivāsaṃ, dhammena mānattaṃ, dhammena abbhāna’nti. So saṅghaṃ purimāpattīnaṃ antarāāpattīnañca, aparāāpattīnaṃ antarāāpattīnañca mūlāyapaṭikassanaṃ yācati dhammikena kammena akuppena ṭhānārahena, dhammena samodhānaparivāsaṃ, dhammena mānattaṃ, dhammena abbhānaṃ. Taṃ saṅgho purimāpattīnaṃ antarāāpattīnañca, aparāāpattīnaṃ antarāāpattīnañca, mūlāya paṭikassati dhammikena kammena akuppena ṭhānārahena, dhammena samodhānaparivāsaṃ deti, dhammena mānattaṃ deti, dhammena abbheti. So, bhikkhave, bhikkhu visuddho tāhi āpattīhi.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ…เป.… ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจติฯ ตสฺส สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ เทติฯ โส ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณา ปฎิจฺฉนฺนาโยปิ อปฺปฎิจฺฉนฺนาโยปิฯ โส สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจติฯ ตํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลาย ปฎิกสฺสติ อธมฺมิเกน กเมฺมน กุเปฺปน อฎฺฐานารเหน, อธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติฯ โส ปริวสามีติ มญฺญมาโน อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณา ปฎิจฺฉนฺนาโยปิ อปฺปฎิจฺฉนฺนาโยปิฯ โส ตสฺมิํ ภูมิยํ ฐิโต ปุริมาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺติโย สรติ, อปราอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺติโย สรติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิํ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ…เป.… ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โสหํ สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจิํฯ ตสฺส เม สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ อทาสิฯ โสหํ ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิํ ปริมาณา ปฎิจฺฉนฺนาโยปิ อปฺปฎิจฺฉนฺนาโยปิฯ โสหํ สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจิํฯ ตํ มํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลาย ปฎิกสฺสิ อธมฺมิเกน กเมฺมน กุเปฺปน อฎฺฐานารเหน, อธเมฺมน สโมธานปริวาสํ อทาสิฯ โสหํ ปริวสามีติ มญฺญมาโน อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิํ ปริมาณา ปฎิจฺฉนฺนาโยปิ อปฺปฎิจฺฉนฺนาโยปิฯ โสหํ ตสฺมิํ ภูมิยํ ฐิโต ปุริมาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺติโย สรามิ, อปราอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺติโย สรามิฯ ยํนูนาหํ สงฺฆํ ปุริมาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ, อปราอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ, มูลายปฎิกสฺสนํ ยาเจยฺยํ ธมฺมิเกน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน, ธเมฺมน สโมธานปริวาสํ, ธเมฺมน มานตฺตํ, ธเมฺมน อพฺภาน’นฺติฯ โส สงฺฆํ ปุริมาปตฺตีนํ อนฺตรา อาปตฺตีนญฺจ, อปรา อาปตฺตีนํ อนฺตรา อาปตฺตีนญฺจ, มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจติ ธมฺมิเกน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน, ธเมฺมน สโมธานปริวาสํ, ธเมฺมน มานตฺตํ, ธเมฺมน อพฺภานํฯ ตํ สโงฺฆ ปุริมาปตฺตีนํ อนฺตรา อาปตฺตีนญฺจ, อปรา อาปตฺตีนํ อนฺตรา อาปตฺตีนญฺจ, มูลาย ปฎิกสฺสติ ธมฺมิเกน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน, ธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติ, ธเมฺมน มานตฺตํ เทติ, ธเมฺมน อเพฺภติฯ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิสุโทฺธ ตาหิ อาปตฺตีหิฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhu sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇampi aparimāṇampi…pe… vavatthitampi sambhinnampi. So saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yācati. Tassa saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ deti. So parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇā paṭicchannāyopi appaṭicchannāyopi. So saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yācati. Taṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāya paṭikassati adhammikena kammena kuppena aṭṭhānārahena, adhammena samodhānaparivāsaṃ deti. So parivasāmīti maññamāno antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇā paṭicchannāyopi appaṭicchannāyopi. So tasmiṃ bhūmiyaṃ ṭhito purimāpattīnaṃ antarāāpattiyo sarati, aparāāpattīnaṃ antarāāpattiyo sarati. Tassa evaṃ hoti – ‘ahaṃ kho sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjiṃ parimāṇampi aparimāṇampi…pe… vavatthitampi sambhinnampi. Sohaṃ saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yāciṃ. Tassa me saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ adāsi. Sohaṃ parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjiṃ parimāṇā paṭicchannāyopi appaṭicchannāyopi. Sohaṃ saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yāciṃ. Taṃ maṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāya paṭikassi adhammikena kammena kuppena aṭṭhānārahena, adhammena samodhānaparivāsaṃ adāsi. Sohaṃ parivasāmīti maññamāno antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjiṃ parimāṇā paṭicchannāyopi appaṭicchannāyopi. Sohaṃ tasmiṃ bhūmiyaṃ ṭhito purimāpattīnaṃ antarāāpattiyo sarāmi, aparāāpattīnaṃ antarāāpattiyo sarāmi. Yaṃnūnāhaṃ saṅghaṃ purimāpattīnaṃ antarāāpattīnañca, aparāāpattīnaṃ antarāāpattīnañca, mūlāyapaṭikassanaṃ yāceyyaṃ dhammikena kammena akuppena ṭhānārahena, dhammena samodhānaparivāsaṃ, dhammena mānattaṃ, dhammena abbhāna’nti. So saṅghaṃ purimāpattīnaṃ antarā āpattīnañca, aparā āpattīnaṃ antarā āpattīnañca, mūlāyapaṭikassanaṃ yācati dhammikena kammena akuppena ṭhānārahena, dhammena samodhānaparivāsaṃ, dhammena mānattaṃ, dhammena abbhānaṃ. Taṃ saṅgho purimāpattīnaṃ antarā āpattīnañca, aparā āpattīnaṃ antarā āpattīnañca, mūlāya paṭikassati dhammikena kammena akuppena ṭhānārahena, dhammena samodhānaparivāsaṃ deti, dhammena mānattaṃ deti, dhammena abbheti. So, bhikkhave, bhikkhu visuddho tāhi āpattīhi.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ…เป.… ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจติฯ ตสฺส สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ เทติฯ โส ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ อปริมาณาโย อปฺปฎิจฺฉนฺนาโย…เป.… อปริมาณาโย ปฎิจฺฉนฺนาโย…เป.… อปริมาณาโย ปฎิจฺฉนฺนาโยปิ อปฺปฎิจฺฉนฺนาโยปิ…เป.… ปริมาณาโยปิ อปริมาณาโยปิ อปฺปฎิจฺฉนฺนาโยฯ โส สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจติฯ ตํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลาย ปฎิกสฺสิ อธมฺมิเกน กเมฺมน กุเปฺปน อฎฺฐานารเหน, อธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติฯ โส ปริวสามีติ มญฺญมาโน…เป.… ตํ สโงฺฆ ปุริมา อาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ, อปราอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ, มูลาย ปฎิกสฺสติ ธมฺมิเกน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน, ธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติ, ธเมฺมน มานตฺตํ เทติ, ธเมฺมน อเพฺภติฯ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิสุโทฺธ ตาหิ อาปตฺตีหิ 5ฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhu sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇampi aparimāṇampi…pe… vavatthitampi sambhinnampi. So saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yācati. Tassa saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ deti. So parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati aparimāṇāyo appaṭicchannāyo…pe… aparimāṇāyo paṭicchannāyo…pe… aparimāṇāyo paṭicchannāyopi appaṭicchannāyopi…pe… parimāṇāyopi aparimāṇāyopi appaṭicchannāyo. So saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yācati. Taṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāya paṭikassi adhammikena kammena kuppena aṭṭhānārahena, adhammena samodhānaparivāsaṃ deti. So parivasāmīti maññamāno…pe… taṃ saṅgho purimā āpattīnaṃ antarāāpattīnañca, aparāāpattīnaṃ antarāāpattīnañca, mūlāya paṭikassati dhammikena kammena akuppena ṭhānārahena, dhammena samodhānaparivāsaṃ deti, dhammena mānattaṃ deti, dhammena abbheti. So, bhikkhave, bhikkhu visuddho tāhi āpattīhi 6.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ…เป.… ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจติฯ ตสฺส สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ เทติฯ โส ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณาโยปิ อปริมาณาโยปิ ปฎิจฺฉนฺนาโยฯ โส สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจติฯ ตํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลาย ปฎิกสฺสติ อธมฺมิเกน กเมฺมน กุเปฺปน อฎฺฐานารเหน, อธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติฯ โส ปริวสามีติ มญฺญมาโน อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณาโยปิ อปริมาณาโยปิ ปฎิจฺฉนฺนาโยฯ โส ตสฺมิํ ภูมิยํ ฐิโต ปุริมา อาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺติโย สรติ, อปราอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺติโย สรติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิํ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ…เป.… ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โสหํ สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจิํฯ ตสฺส เม สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ อทาสิฯ โสหํ ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิํ ปริมาณาโยปิ อปริมาณาโยปิ ปฎิจฺฉนฺนาโยฯ โสหํ สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจิํฯ ตํ มํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสิ อธมฺมิเกน กเมฺมน กุเปฺปน อฎฺฐานารเหน, อธเมฺมน สโมธานปริวาสํ อทาสิฯ โสหํ ปริวสามีติ มญฺญมาโน อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิํ ปริมาณาโยปิ อปริมาณาโยปิ ปฎิจฺฉนฺนาโยฯ โสหํ ตสฺมิํ ภูมิยํ ฐิโต ปุริมา อาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺติโย สรามิ, อปราอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺติโย สรามิฯ ยํนูนาหํ สงฺฆํ ปุริมา อาปตฺตีนํ อนฺตรา ปตฺตีนญฺจ, อปราอาปตฺตีน อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ, มูลายปฎิกสฺสนํ ยาเจยฺยํ ธมฺมิเกน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน, ธเมฺมน สโมธานปริวาสํ, ธเมฺมน มานตฺตํ, ธเมฺมน อพฺภาน’นฺติฯ โส สงฺฆํ ปุริมา อาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ, อปราอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ, มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจติ ธมฺมิเกน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน, ธเมฺมน สโมธานปริวาสํ, ธเมฺมน มานตฺตํ, ธเมฺมน อพฺภานํฯ ตํ สโงฺฆ ปุริมา อาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ, อปราอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ, มูลาย ปฎิกสฺสติ ธมฺมิเกน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน, ธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติ, ธเมฺมน มานตฺตํ เทติ, ธเมฺมน อเพฺภติฯ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิสุโทฺธ ตาหิ อาปตฺตีหิฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhu sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇampi aparimāṇampi…pe… vavatthitampi sambhinnampi. So saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yācati. Tassa saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ deti. So parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇāyopi aparimāṇāyopi paṭicchannāyo. So saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yācati. Taṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāya paṭikassati adhammikena kammena kuppena aṭṭhānārahena, adhammena samodhānaparivāsaṃ deti. So parivasāmīti maññamāno antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇāyopi aparimāṇāyopi paṭicchannāyo. So tasmiṃ bhūmiyaṃ ṭhito purimā āpattīnaṃ antarāāpattiyo sarati, aparāāpattīnaṃ antarāāpattiyo sarati. Tassa evaṃ hoti – ‘ahaṃ kho sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjiṃ parimāṇampi aparimāṇampi…pe… vavatthitampi sambhinnampi. Sohaṃ saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yāciṃ. Tassa me saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ adāsi. Sohaṃ parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjiṃ parimāṇāyopi aparimāṇāyopi paṭicchannāyo. Sohaṃ saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yāciṃ. Taṃ maṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassi adhammikena kammena kuppena aṭṭhānārahena, adhammena samodhānaparivāsaṃ adāsi. Sohaṃ parivasāmīti maññamāno antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjiṃ parimāṇāyopi aparimāṇāyopi paṭicchannāyo. Sohaṃ tasmiṃ bhūmiyaṃ ṭhito purimā āpattīnaṃ antarāāpattiyo sarāmi, aparāāpattīnaṃ antarāāpattiyo sarāmi. Yaṃnūnāhaṃ saṅghaṃ purimā āpattīnaṃ antarā pattīnañca, aparāāpattīna antarāāpattīnañca, mūlāyapaṭikassanaṃ yāceyyaṃ dhammikena kammena akuppena ṭhānārahena, dhammena samodhānaparivāsaṃ, dhammena mānattaṃ, dhammena abbhāna’nti. So saṅghaṃ purimā āpattīnaṃ antarāāpattīnañca, aparāāpattīnaṃ antarāāpattīnañca, mūlāyapaṭikassanaṃ yācati dhammikena kammena akuppena ṭhānārahena, dhammena samodhānaparivāsaṃ, dhammena mānattaṃ, dhammena abbhānaṃ. Taṃ saṅgho purimā āpattīnaṃ antarāāpattīnañca, aparāāpattīnaṃ antarāāpattīnañca, mūlāya paṭikassati dhammikena kammena akuppena ṭhānārahena, dhammena samodhānaparivāsaṃ deti, dhammena mānattaṃ deti, dhammena abbheti. So, bhikkhave, bhikkhu visuddho tāhi āpattīhi.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ…เป.… ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจติฯ ตสฺส สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ เทติฯ โส ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณาโยปิ อปริมาณาโยปิ ปฎิจฺฉนฺนาโยปิ อปฺปฎิจฺฉนฺนาโยปิฯ โส สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจติฯ ตํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลาย ปฎิกสฺสติ อธมฺมิเกน กเมฺมน กุเปฺปน อฎฺฐานารเหน, อธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติฯ โส ปริวสามีติ มญฺญมาโน อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณาโยปิ อปริมาณาโยปิ ปฎิจฺฉนฺนาโยปิ อปฺปฎิจฺฉนฺนาโยปิฯ โส ตสฺมิํ ภูมิยํ ฐิโต ปุริมา อาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺติโย สรติ, อปราอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺติโย สรติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิํ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ…เป.… ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โสหํ สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจิํฯ ตสฺส เม สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ อทาสิฯ โสหํ ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิํ ปริมาณาโยปิ อปริมาณาโยปิ ปฎิจฺฉนฺนาโยปิ อปฺปฎิจฺฉนฺนาโยปิฯ โสหํ สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจิํฯ ตํ มํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลาย ปฎิกสฺสิ อธมฺมิเกน กเมฺมน กุเปฺปน อฎฺฐานารเหน, อธเมฺมน สโมธานปริวาสํ อทาสิฯ โสหํ ปริวสามีติ มญฺญมาโน อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชิํ ปริมาณาโยปิ อปริมาณาโยปิ ปฎิจฺฉนฺนาโยปิ อปฺปฎิจฺฉนฺนาโยปิฯ โสหํ ตสฺมิํ ภูมิยํ ฐิโต ปุริมา อาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺติโย สรามิ, อปราอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺติโย สรามิฯ ยํนูนาหํ สงฺฆํ ปุริมาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ, อปราอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ, มูลายปฎิกสฺสนํ ยาเจยฺยํ ธมฺมิเกน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน, ธเมฺมน สโมธานปริวาสํ, ธเมฺมน มานตฺตํ, ธเมฺมน อพฺภาน’นฺติฯ โส สงฺฆํ ปุริมา อาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ, อปราอาปตฺตีนํ อนฺตราอาปตฺตีนญฺจ, มูลาย ปฎิกสฺสนํ ยาจติ ธมฺมิเกน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน, ธเมฺมน สโมธานปริวาสํ, ธเมฺมน มานตฺตํ, ธเมฺมน อพฺภานํฯ ตํ สโงฺฆ ปุริมา อาปตฺตีนํ อนฺตรา อาปตฺตีนญฺจ, อปรา อาปตฺตีนํ อนฺตรา อาปตฺตีนญฺจ, มูลาย ปฎิกสฺสติ ธมฺมิเกน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน, ธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติ, ธเมฺมน มานตฺตํ เทติ, ธเมฺมน อเพฺภติฯ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิสุโทฺธ ตาหิ อาปตฺตีหิ’’ฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhu sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇampi aparimāṇampi…pe… vavatthitampi sambhinnampi. So saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yācati. Tassa saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ deti. So parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇāyopi aparimāṇāyopi paṭicchannāyopi appaṭicchannāyopi. So saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yācati. Taṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāya paṭikassati adhammikena kammena kuppena aṭṭhānārahena, adhammena samodhānaparivāsaṃ deti. So parivasāmīti maññamāno antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇāyopi aparimāṇāyopi paṭicchannāyopi appaṭicchannāyopi. So tasmiṃ bhūmiyaṃ ṭhito purimā āpattīnaṃ antarāāpattiyo sarati, aparāāpattīnaṃ antarāāpattiyo sarati. Tassa evaṃ hoti – ‘ahaṃ kho sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjiṃ parimāṇampi aparimāṇampi…pe… vavatthitampi sambhinnampi. Sohaṃ saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yāciṃ. Tassa me saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ adāsi. Sohaṃ parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjiṃ parimāṇāyopi aparimāṇāyopi paṭicchannāyopi appaṭicchannāyopi. Sohaṃ saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yāciṃ. Taṃ maṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāya paṭikassi adhammikena kammena kuppena aṭṭhānārahena, adhammena samodhānaparivāsaṃ adāsi. Sohaṃ parivasāmīti maññamāno antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjiṃ parimāṇāyopi aparimāṇāyopi paṭicchannāyopi appaṭicchannāyopi. Sohaṃ tasmiṃ bhūmiyaṃ ṭhito purimā āpattīnaṃ antarāāpattiyo sarāmi, aparāāpattīnaṃ antarāāpattiyo sarāmi. Yaṃnūnāhaṃ saṅghaṃ purimāpattīnaṃ antarāāpattīnañca, aparāāpattīnaṃ antarāāpattīnañca, mūlāyapaṭikassanaṃ yāceyyaṃ dhammikena kammena akuppena ṭhānārahena, dhammena samodhānaparivāsaṃ, dhammena mānattaṃ, dhammena abbhāna’nti. So saṅghaṃ purimā āpattīnaṃ antarāāpattīnañca, aparāāpattīnaṃ antarāāpattīnañca, mūlāya paṭikassanaṃ yācati dhammikena kammena akuppena ṭhānārahena, dhammena samodhānaparivāsaṃ, dhammena mānattaṃ, dhammena abbhānaṃ. Taṃ saṅgho purimā āpattīnaṃ antarā āpattīnañca, aparā āpattīnaṃ antarā āpattīnañca, mūlāya paṭikassati dhammikena kammena akuppena ṭhānārahena, dhammena samodhānaparivāsaṃ deti, dhammena mānattaṃ deti, dhammena abbheti. So, bhikkhave, bhikkhu visuddho tāhi āpattīhi’’.
ตติยนวกํ นิฎฺฐิตํฯ
Tatiyanavakaṃ niṭṭhitaṃ.
สมุจฺจยกฺขนฺธโก ตติโยฯ
Samuccayakkhandhako tatiyo.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
อปฺปฎิจฺฉนฺนา เอกาห-ทฺวีห-ตีห-จตูห จ;
Appaṭicchannā ekāha-dvīha-tīha-catūha ca;
ปญฺจาหปกฺขทสนฺนํ, อาปตฺติมาห มหามุนิฯ
Pañcāhapakkhadasannaṃ, āpattimāha mahāmuni.
สุทฺธโนฺต จ วิพฺภมโนฺต, ปริมาณมุขํ เทฺว ภิกฺขู;
Suddhanto ca vibbhamanto, parimāṇamukhaṃ dve bhikkhū;
ตตฺถ สญฺญิโน เทฺว ยถา, เวมติกา ตเถว จฯ
Tattha saññino dve yathā, vematikā tatheva ca.
มิสฺสกทิฎฺฐิโน เทฺว จ, อสุทฺธเกกทิฎฺฐิโน;
Missakadiṭṭhino dve ca, asuddhakekadiṭṭhino;
เทฺว เจว สุทฺธทิฎฺฐิโนฯ
Dve ceva suddhadiṭṭhino.
ตเถว จ เอโก ฉาเทติ, อถ มกฺขมเตน จ;
Tatheva ca eko chādeti, atha makkhamatena ca;
อาจริยานํ วิภชฺชปทานํ 9, ตมฺพปณฺณิทีปปสาทกานํ;
Ācariyānaṃ vibhajjapadānaṃ 10, tambapaṇṇidīpapasādakānaṃ;
มหาวิหารวาสีนํ, วาจนา สทฺธมฺมฎฺฐิติยาติฯ
Mahāvihāravāsīnaṃ, vācanā saddhammaṭṭhitiyāti.
สมุจฺจยกฺขนฺธกํ นิฎฺฐิตํฯ
Samuccayakkhandhakaṃ niṭṭhitaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / จูฬวคฺค-อฎฺฐกถา • Cūḷavagga-aṭṭhakathā / เทฺวภิกฺขุวารเอกาทสกาทิกถา • Dvebhikkhuvāraekādasakādikathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ปฎิจฺฉนฺนปริวาสาทิกถาวณฺณนา • Paṭicchannaparivāsādikathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๘. เทฺวภิกฺขุวารเอกาทสกาทิกถา • 8. Dvebhikkhuvāraekādasakādikathā