Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga

    ๓. ตติยปาฎิเทสนียสิกฺขาปทํ

    3. Tatiyapāṭidesanīyasikkhāpadaṃ

    ๕๖๒. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน สาวตฺถิยํ อญฺญตรํ กุลํ อุภโตปสนฺนํ โหติฯ สทฺธาย วฑฺฒติ, โภเคน หายติ, ยํ ตสฺมิํ กุเล อุปฺปชฺชติ ปุเรภตฺตํ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ตํ สพฺพํ ภิกฺขูนํ วิสฺสเชฺชตฺวา อเปฺปกทา อนสิตา อจฺฉนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา น มตฺตํ ชานิตฺวา ปฎิคฺคเหสฺสนฺติ! อิเม อิเมสํ ทตฺวา อเปฺปกทา อนสิตา อจฺฉนฺตี’’ติ!! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ กุลํ สทฺธาย วฑฺฒติ, โภเคน หายติ เอวรูปสฺส กุลสฺส ญตฺติทุติเยน กเมฺมน เสกฺขสมฺมุติํ ทาตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, ทาตพฺพาฯ พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –

    562. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena sāvatthiyaṃ aññataraṃ kulaṃ ubhatopasannaṃ hoti. Saddhāya vaḍḍhati, bhogena hāyati, yaṃ tasmiṃ kule uppajjati purebhattaṃ khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā taṃ sabbaṃ bhikkhūnaṃ vissajjetvā appekadā anasitā acchanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma samaṇā sakyaputtiyā na mattaṃ jānitvā paṭiggahessanti! Ime imesaṃ datvā appekadā anasitā acchantī’’ti!! Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, yaṃ kulaṃ saddhāya vaḍḍhati, bhogena hāyati evarūpassa kulassa ñattidutiyena kammena sekkhasammutiṃ dātuṃ. Evañca pana, bhikkhave, dātabbā. Byattena bhikkhunā paṭibalena saṅgho ñāpetabbo –

    ๕๖๓. ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อิตฺถนฺนามํ กุลํ สทฺธาย วฑฺฒติ, โภเคน หายติฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ อิตฺถนฺนามสฺส กุลสฺส เสกฺขสมฺมุติํ ทเทยฺยฯ เอสา ญตฺติฯ

    563. ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Itthannāmaṃ kulaṃ saddhāya vaḍḍhati, bhogena hāyati. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho itthannāmassa kulassa sekkhasammutiṃ dadeyya. Esā ñatti.

    ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อิตฺถนฺนามํ กุลํ สทฺธาย วฑฺฒติ, โภเคน หายติฯ สโงฺฆ อิตฺถนฺนามสฺส กุลสฺส เสกฺขสมฺมุติํ เทติฯ ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส กุลสฺส เสกฺขสมฺมุติยา ทานํ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ

    ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Itthannāmaṃ kulaṃ saddhāya vaḍḍhati, bhogena hāyati. Saṅgho itthannāmassa kulassa sekkhasammutiṃ deti. Yassāyasmato khamati itthannāmassa kulassa sekkhasammutiyā dānaṃ, so tuṇhassa; yassa nakkhamati, so bhāseyya.

    ‘‘ทินฺนา สเงฺฆน อิตฺถนฺนามสฺส กุลสฺส เสกฺขสมฺมุติฯ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติฯ

    ‘‘Dinnā saṅghena itthannāmassa kulassa sekkhasammuti. Khamati saṅghassa, tasmā tuṇhī, evametaṃ dhārayāmī’’ti.

    เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ เสกฺขสมฺมตานิ กุลานิ, โย ปน ภิกฺขุ ตถารูเปสุ เสกฺขสมฺมเตสุ กุเลสุ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา สหตฺถา ปฎิคฺคเหตฺวา ขาเทยฺย วา ภุเญฺชยฺย วา, ปฎิเทเสตพฺพํ เตน ภิกฺขุนา – ‘คารยฺหํ, อาวุโส, ธมฺมํ อาปชฺชิํ อสปฺปายํ ปาฎิเทสนียํ ตํ ปฎิเทเสมี’’’ติฯ

    ‘‘Yāni kho pana tāni sekkhasammatāni kulāni, yo pana bhikkhu tathārūpesu sekkhasammatesu kulesu khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā sahatthā paṭiggahetvā khādeyya vā bhuñjeyya vā, paṭidesetabbaṃ tena bhikkhunā – ‘gārayhaṃ, āvuso, dhammaṃ āpajjiṃ asappāyaṃ pāṭidesanīyaṃ taṃ paṭidesemī’’’ti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๕๖๔. เตน โข ปน สมเยน สาวตฺถิยํ อุสฺสโว โหติฯ มนุสฺสา ภิกฺขู นิมเนฺตตฺวา โภเชนฺติฯ ตมฺปิ โข กุลํ ภิกฺขู นิมเนฺตสิฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา นาธิวาเสนฺติ – ‘‘ปฎิกฺขิตฺตํ ภควตา เสกฺขสมฺมเตสุ กุเลสุ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา สหตฺถา ปฎิคฺคเหตฺวา ขาทิตุํ ภุญฺชิตุ’’นฺติฯ เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กิํ นุ โข นาม อมฺหากํ ชีวิเตน ยํ อยฺยา อมฺหากํ น ปฎิคฺคณฺหนฺตี’’ติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นิมนฺติเตน เสกฺขสมฺมเตสุ กุเลสุ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา สหตฺถา ปฎิคฺคเหตฺวา ขาทิตุํ ภุญฺชิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    564. Tena kho pana samayena sāvatthiyaṃ ussavo hoti. Manussā bhikkhū nimantetvā bhojenti. Tampi kho kulaṃ bhikkhū nimantesi. Bhikkhū kukkuccāyantā nādhivāsenti – ‘‘paṭikkhittaṃ bhagavatā sekkhasammatesu kulesu khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā sahatthā paṭiggahetvā khādituṃ bhuñjitu’’nti. Te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kiṃ nu kho nāma amhākaṃ jīvitena yaṃ ayyā amhākaṃ na paṭiggaṇhantī’’ti! Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, nimantitena sekkhasammatesu kulesu khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā sahatthā paṭiggahetvā khādituṃ bhuñjituṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ เสกฺขสมฺมตานิ กุลานิ, โย ปน ภิกฺขุ ตถารูเปสุ เสกฺขสมฺมเตสุ กุเลสุ ปุเพฺพ อนิมนฺติโต ขาทนียํ วา โภชนียํ วา สหตฺถา ปฎิคฺคเหตฺวา ขาเทยฺย วา ภุเญฺชยฺย วา , ปฎิเทเสตพฺพํ เตน ภิกฺขุนา – ‘คารยฺหํ, อาวุโส, ธมฺมํ อาปชฺชิํ อสปฺปายํ ปาฎิเทสนียํ, ตํ ปฎิเทเสมี’’’ติฯ

    ‘‘Yāni kho pana tāni sekkhasammatāni kulāni, yo pana bhikkhu tathārūpesu sekkhasammatesu kulesu pubbe animantitokhādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā sahatthā paṭiggahetvā khādeyyavā bhuñjeyya vā, paṭidesetabbaṃ tena bhikkhunā – ‘gārayhaṃ, āvuso, dhammaṃ āpajjiṃ asappāyaṃ pāṭidesanīyaṃ, taṃ paṭidesemī’’’ti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๕๖๕. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ตสฺส กุลสฺส กุลูปโก โหติฯ อถ โข โส ภิกฺขุ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ตํ กุลํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ เตน โข ปน สมเยน โส ภิกฺขุ คิลาโน โหติฯ อถ โข เต มนุสฺสา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจุํ – ‘‘ภุญฺชถ, ภเนฺต’’ติฯ อถ โข โส ภิกฺขุ – ‘‘ภควตา ปฎิกฺขิตฺตํ อนิมนฺติเตน เสกฺขสมฺมเตสุ กุเลสุ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา สหตฺถา ปฎิคฺคเหตฺวา ขาทิตุํ ภุญฺชิตุ’’นฺติ กุกฺกุจฺจายโนฺต น ปฎิคฺคเหสิ; นาสกฺขิ ปิณฺฑาย จริตุํ; ฉินฺนภโตฺต อโหสิฯ อถ โข โส ภิกฺขุ อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลาเนน ภิกฺขุนา เสกฺขสมฺมเตสุ กุเลสุ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา สหตฺถา ปฎิคฺคเหตฺวา ขาทิตุํ ภุญฺชิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    565. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu tassa kulassa kulūpako hoti. Atha kho so bhikkhu pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena taṃ kulaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi. Tena kho pana samayena so bhikkhu gilāno hoti. Atha kho te manussā taṃ bhikkhuṃ etadavocuṃ – ‘‘bhuñjatha, bhante’’ti. Atha kho so bhikkhu – ‘‘bhagavatā paṭikkhittaṃ animantitena sekkhasammatesu kulesu khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā sahatthā paṭiggahetvā khādituṃ bhuñjitu’’nti kukkuccāyanto na paṭiggahesi; nāsakkhi piṇḍāya carituṃ; chinnabhatto ahosi. Atha kho so bhikkhu ārāmaṃ gantvā bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesi. Bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, gilānena bhikkhunā sekkhasammatesu kulesu khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā sahatthā paṭiggahetvā khādituṃ bhuñjituṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๕๖๖. ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ เสกฺขสมฺมตานิ กุลานิ, โย ปน ภิกฺขุ ตถารูเปสุ เสกฺขสมฺมเตสุ กุเลสุ ปุเพฺพ อนิมนฺติโต อคิลาโน ขาทนียํ วา โภชนียํ วา สหตฺถา ปฎิคฺคเหตฺวา ขาเทยฺย วา ภุเญฺชยฺย วา, ปฎิเทเสตพฺพํ เตน ภิกฺขุนา – ‘คารยฺหํ, อาวุโส, ธมฺมํ อาปชฺชิํ อสปฺปายํ ปาฎิเทสนียํ, ตํ ปฎิเทเสมี’’ติฯ

    566.‘‘Yāni kho pana tāni sekkhasammatāni kulāni, yo pana bhikkhu tathārūpesu sekkhasammatesu kulesu pubbe animantito agilāno khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā sahatthā paṭiggahetvā khādeyya vā bhuñjeyya vā, paṭidesetabbaṃ tena bhikkhunā – ‘gārayhaṃ, āvuso, dhammaṃ āpajjiṃ asappāyaṃ pāṭidesanīyaṃ, taṃ paṭidesemī’’ti.

    ๕๖๗. ยานิ โข ปน ตานิ เสกฺขสมฺมตานิ กุลานีติ เสกฺขสมฺมตํ นาม กุลํ ยํ กุลํ สทฺธาย วฑฺฒติ, โภเคน หายติฯ เอวรูปสฺส กุลสฺส ญตฺติทุติเยน กเมฺมน เสกฺขสมฺมุติ ทินฺนา โหติฯ

    567.Yāni kho pana tāni sekkhasammatāni kulānīti sekkhasammataṃ nāma kulaṃ yaṃ kulaṃ saddhāya vaḍḍhati, bhogena hāyati. Evarūpassa kulassa ñattidutiyena kammena sekkhasammuti dinnā hoti.

    โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    ตถารูเปสุ เสกฺขสมฺมเตสุ กุเลสูติ เอวรูเปสุ เสกฺขสมฺมเตสุ กุเลสุฯ

    Tathārūpesu sekkhasammatesu kulesūti evarūpesu sekkhasammatesu kulesu.

    อนิมนฺติโต นาม อชฺชตนาย วา สฺวาตนาย วา อนิมนฺติโต, ฆรูปจารํ โอกฺกมเนฺต นิมเนฺตติ, เอโส อนิมนฺติโต นามฯ

    Animantito nāma ajjatanāya vā svātanāya vā animantito, gharūpacāraṃ okkamante nimanteti, eso animantito nāma.

    นิมนฺติโต นาม อชฺชตนาย วา สฺวาตนาย วา นิมนฺติโต, ฆรูปจารํ อโนกฺกมเนฺต นิมเนฺตติ, เอโส นิมนฺติโต นามฯ

    Nimantito nāma ajjatanāya vā svātanāya vā nimantito, gharūpacāraṃ anokkamante nimanteti, eso nimantito nāma.

    อคิลาโน นาม สโกฺกติ ปิณฺฑาย จริตุํฯ

    Agilāno nāma sakkoti piṇḍāya carituṃ.

    คิลาโน นาม น สโกฺกติ ปิณฺฑาย จริตุํฯ

    Gilāno nāma na sakkoti piṇḍāya carituṃ.

    ขาทนียํ นาม ปญฺจ โภชนานิ – ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ ฐเปตฺวา อวเสสํ ขาทนียํ นามฯ

    Khādanīyaṃ nāma pañca bhojanāni – yāmakālikaṃ sattāhakālikaṃ yāvajīvikaṃ ṭhapetvā avasesaṃ khādanīyaṃ nāma.

    โภชนียํ นาม ปญฺจ โภชนานิ – โอทโน, กุมฺมาโส, สตฺตุ, มโจฺฉ, มํสํฯ

    Bhojanīyaṃ nāma pañca bhojanāni – odano, kummāso, sattu, maccho, maṃsaṃ.

    อนิมนฺติโต อคิลาโน ‘‘ขาทิสฺสามิ ภุญฺชิสฺสามี’’ติ ปฎิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺส ฯ อโชฺฌหาเร อโชฺฌหาเร อาปตฺติ ปาฎิเทสนียสฺสฯ

    Animantito agilāno ‘‘khādissāmi bhuñjissāmī’’ti paṭiggaṇhāti, āpatti dukkaṭassa . Ajjhohāre ajjhohāre āpatti pāṭidesanīyassa.

    ๕๖๘. เสกฺขสมฺมเต เสกฺขสมฺมตสญฺญี อนิมนฺติโต อคิลาโน ขาทนียํ วา โภชนียํว สหตฺถา ปฎิคฺคเหตฺวา ขาทติ วา ภุญฺชติ วา, อาปตฺติ ปาฎิเทสนียสฺสฯ เสกฺขสมฺมเต เวมติโก…เป.… เสกฺขสมฺมเต อเสกฺขสมฺมตสญฺญี อนิมนฺติโต อคิลาโน ขาทนียํ วา โภชนียํ วา สหตฺถา ปฎิคฺคเหตฺวา ขาทติ วา ภุญฺชติ วา, อาปตฺติ ปาฎิเทสนียสฺสฯ

    568. Sekkhasammate sekkhasammatasaññī animantito agilāno khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃva sahatthā paṭiggahetvā khādati vā bhuñjati vā, āpatti pāṭidesanīyassa. Sekkhasammate vematiko…pe… sekkhasammate asekkhasammatasaññī animantito agilāno khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā sahatthā paṭiggahetvā khādati vā bhuñjati vā, āpatti pāṭidesanīyassa.

    ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ อาหารตฺถาย ปฎิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อโชฺฌหาเร อโชฺฌหาเร อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อเสกฺขสมฺมเต เสกฺขสมฺมตสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อเสกฺขสมฺมเต เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อเสกฺขสมฺมเต อเสกฺขสมฺมตสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    Yāmakālikaṃ sattāhakālikaṃ yāvajīvikaṃ āhāratthāya paṭiggaṇhāti, āpatti dukkaṭassa. Ajjhohāre ajjhohāre āpatti dukkaṭassa. Asekkhasammate sekkhasammatasaññī, āpatti dukkaṭassa. Asekkhasammate vematiko, āpatti dukkaṭassa. Asekkhasammate asekkhasammatasaññī, anāpatti.

    ๕๖๙. อนาปตฺติ นิมนฺติตสฺส, คิลานสฺส, นิมนฺติตสฺส วา คิลานสฺส วา เสสกํ ภุญฺชติ , อเญฺญสํ ภิกฺขา ตตฺถ ปญฺญตฺตา โหติ, ฆรโต นีหริตฺวา เทนฺติ, นิจฺจภเตฺต, สลากภเตฺต, ปกฺขิเก, อุโปสถิเก, ปาฎิปทิเก, ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ – ‘‘สติ ปจฺจเย ปริภุญฺชา’’ติ เทติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    569. Anāpatti nimantitassa, gilānassa, nimantitassa vā gilānassa vā sesakaṃ bhuñjati , aññesaṃ bhikkhā tattha paññattā hoti, gharato nīharitvā denti, niccabhatte, salākabhatte, pakkhike, uposathike, pāṭipadike, yāmakālikaṃ sattāhakālikaṃ yāvajīvikaṃ – ‘‘sati paccaye paribhuñjā’’ti deti, ummattakassa, ādikammikassāti.

    ตติยปาฎิเทสนียสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํฯ

    Tatiyapāṭidesanīyasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ.







    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๓. ตติยปาฎิเทสนียสิกฺขาปทวณฺณนา • 3. Tatiyapāṭidesanīyasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ปาฎิเทสนียสิกฺขาปทวณฺณนา • Pāṭidesanīyasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๒. ทุติยปาฎิเทสนียสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Dutiyapāṭidesanīyasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๑. ปฐมปาฎิเทสนียสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Paṭhamapāṭidesanīyasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๓. ตติยปาฎิเทสนียสิกฺขาปทํ • 3. Tatiyapāṭidesanīyasikkhāpadaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact