Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā

    ๓. ตติยสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา

    3. Tatiyasaṅghādisesasikkhāpadavaṇṇanā

    ๖๘๗. ภทฺทากาปิลานี มหากสฺสปสฺส ปุราณทุติยา กิรฯ ญาตีนํ กุลํ ยสฺมิํ คามเก, ตเทตํ คามกํ ญาติกุลํ, กุลสนฺนิหิตํ คามกํ อคมาสีติ อโตฺถฯ ‘‘อชํ คามํ เนตี’’ติอาทีสุ วิย วา ทฺวิกมฺมิกํ กตฺวา คามกํ อคมาสิ ญาติกุลํ อคมาสีติปิ ยุชฺชติฯ

    687.Bhaddākāpilānī mahākassapassa purāṇadutiyā kira. Ñātīnaṃ kulaṃ yasmiṃ gāmake, tadetaṃ gāmakaṃ ñātikulaṃ, kulasannihitaṃ gāmakaṃ agamāsīti attho. ‘‘Ajaṃ gāmaṃ netī’’tiādīsu viya vā dvikammikaṃ katvā gāmakaṃ agamāsi ñātikulaṃ agamāsītipi yujjati.

    ๖๙๒. ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ อติกฺกาเมนฺติยา’’ติ วจเนนปิ เอวํ เวทิตพฺพํ – วิกาลคามปฺปเวสเน ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํเยว วเสน อุปจาโร ปริจฺฉินฺทิตโพฺพ, อิตรถา ยถา เอตฺถ ปริเกฺขปารหฎฺฐานํ ปริเกฺขปํ วิย กตฺวา ‘‘อติกฺกาเมนฺติยา’’ติ วุตฺตํ, เอวํ ตตฺถาปิ ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ อติกฺกมนฺตสฺสา’’ติ วเทยฺยฯ ยสฺมา ปน ตตฺถ ปริเกฺขปารหฎฺฐานโต อุตฺตริ เอโก เลฑฺฑุปาโต อุปจาโรติ อธิเปฺปโต, ตสฺมา ตทตฺถทีปนตฺถํ ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ โอกฺกมนฺตสฺสา’’ติ วุตฺตํฯ ยํ ปน อนฺธกฎฺฐกถายํ ‘‘ปริเกฺขปารหฎฺฐานํเยว ‘อุปจาร’นฺติ สลฺลเกฺขตฺวา ปริเกฺขปปริเกฺขปารหฎฺฐานานํ นินฺนานาการณทีปนตฺถํ ‘อุปจารํ โอกฺกมนฺตสฺสา’ติ วุตฺตํ ปาฬิวิเสสมสลฺลเกฺขตฺวาว อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ อติกฺกมนฺตสฺส อิธ อุปจาโร ปริเกฺขโป ยถา ภเวยฺย, ตํ อุปจารํ ปฐมํ ปาทํ อติกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ทุติยํ ปาทํ อติกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ วุตฺตํ, ตํ น คเหตพฺพเมว ปาฬิยา วิเสสสพฺภาวโตติฯ ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ โอกฺกมนฺติยาติปิ เอกเจฺจสุ ทิสฺสติ, ตํ น คเหตพฺพนฺติ อปเร’’ติ วุตฺตํฯ ตตฺถ ‘‘ปาฬิวิเสสมสลฺลเกฺขตฺวา’’ติ ทุวุตฺตํ, กสฺมา? วิกาลคามปฺปเวสนสิกฺขาปเทปิ กตฺถจิ ‘‘อุปจารํ อติกฺกมนฺตสฺสา’’ติ ปาโฐ ทิสฺสตีติ, โส อนฺธกฎฺฐกถาปาฐโต คหิโตติ อาจริโยฯ อปริกฺขิตฺตสฺส อุปจาโรกฺกมนเมว ปาโฐ ยุชฺชติ, น อติกฺกมนํฯ กสฺมา? พหูสุ ฐาเนสุ ปาฬิยา อฎฺฐกถาหิ วิรุชฺฌนโต, อิมสฺมิํ วาปิ สิกฺขาปเท วิรุชฺฌติฯ กถํ? คณมฺหา โอหียมานาย อรเญฺญ อาปตฺติ โหติ, น คาเมฯ อถ จ ปน นิทสฺสนมฺปิ ‘‘สิกฺขาปทา พุทฺธวเรนา’’ติ (ปริ. ๔๗๙) คาถา ทสฺสิตา, ตสฺมา อุปจาโรกฺกมนปริยาปนฺนนทิํ อติกฺกาเมนฺติยา โหติฯ กิญฺจ ภิโยฺย ‘‘คจฺฉนฺตสฺส จตโสฺส อาปตฺติโย, ฐิตสฺส จาปิ ตตฺตกาติอาทีนํ (ปริ. ๔๗๕) ปริวารคาถานํ อฎฺฐกถาหิ อุปจาโรกฺกมนเมว ปาโฐติ นิฎฺฐํ คนฺตพฺพ’’นฺติ จ วุตฺตํ, สุฎฺฐุ สลฺลเกฺขตฺวา กเถตพฺพํฯ

    692. ‘‘Aparikkhittassa gāmassa upacāraṃ atikkāmentiyā’’ti vacanenapi evaṃ veditabbaṃ – vikālagāmappavesane dvinnaṃ leḍḍupātānaṃyeva vasena upacāro paricchinditabbo, itarathā yathā ettha parikkhepārahaṭṭhānaṃ parikkhepaṃ viya katvā ‘‘atikkāmentiyā’’ti vuttaṃ, evaṃ tatthāpi ‘‘aparikkhittassa gāmassa upacāraṃ atikkamantassā’’ti vadeyya. Yasmā pana tattha parikkhepārahaṭṭhānato uttari eko leḍḍupāto upacāroti adhippeto, tasmā tadatthadīpanatthaṃ ‘‘aparikkhittassa gāmassa upacāraṃ okkamantassā’’ti vuttaṃ. Yaṃ pana andhakaṭṭhakathāyaṃ ‘‘parikkhepārahaṭṭhānaṃyeva ‘upacāra’nti sallakkhetvā parikkhepaparikkhepārahaṭṭhānānaṃ ninnānākāraṇadīpanatthaṃ ‘upacāraṃ okkamantassā’ti vuttaṃ pāḷivisesamasallakkhetvāva aparikkhittassa gāmassa upacāraṃ atikkamantassa idha upacāro parikkhepo yathā bhaveyya, taṃ upacāraṃ paṭhamaṃ pādaṃ atikkamantassa āpatti dukkaṭassa. Dutiyaṃ pādaṃ atikkamantassa āpatti pācittiyassā’’ti vuttaṃ, taṃ na gahetabbameva pāḷiyā visesasabbhāvatoti. ‘‘Aparikkhittassa gāmassa upacāraṃ okkamantiyātipi ekaccesu dissati, taṃ na gahetabbanti apare’’ti vuttaṃ. Tattha ‘‘pāḷivisesamasallakkhetvā’’ti duvuttaṃ, kasmā? Vikālagāmappavesanasikkhāpadepi katthaci ‘‘upacāraṃ atikkamantassā’’ti pāṭho dissatīti, so andhakaṭṭhakathāpāṭhato gahitoti ācariyo. Aparikkhittassa upacārokkamanameva pāṭho yujjati, na atikkamanaṃ. Kasmā? Bahūsu ṭhānesu pāḷiyā aṭṭhakathāhi virujjhanato, imasmiṃ vāpi sikkhāpade virujjhati. Kathaṃ? Gaṇamhā ohīyamānāya araññe āpatti hoti, na gāme. Atha ca pana nidassanampi ‘‘sikkhāpadā buddhavarenā’’ti (pari. 479) gāthā dassitā, tasmā upacārokkamanapariyāpannanadiṃ atikkāmentiyā hoti. Kiñca bhiyyo ‘‘gacchantassa catasso āpattiyo, ṭhitassa cāpi tattakātiādīnaṃ (pari. 475) parivāragāthānaṃ aṭṭhakathāhi upacārokkamanameva pāṭhoti niṭṭhaṃ gantabba’’nti ca vuttaṃ, suṭṭhu sallakkhetvā kathetabbaṃ.

    ‘‘ปทสา คมนเมว หิ อิธาธิเปฺปตํ, เตเนว ปฐมํ ปาทํ อติกฺกาเมนฺติยาติอาทิมาหา’’ติ เอตฺถ วิกาลคามปฺปเวสนสิกฺขาปทาทีสุ ตทภาวา ยาเนน วา อิทฺธิยา วา ปวิสโต, อทฺธานํ คจฺฉโต จ อาปตฺตีติ ทีเปติฯ ตตฺถ อสารุปฺปตฺตา อาปตฺติโมโกฺข นตฺถีติ เอเก, วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํฯ ภิกฺขุนีวิหารภูมิ ‘‘คามนฺตร’’นฺติ น วุจฺจติ คามนฺตรปริยาปนฺนายปิ กปฺปิยภูมิตฺตาฯ ‘‘ปรโต ‘สเจ ภิกฺขุนีสุ มหาโพธิยงฺคณํ ปวิสนฺตีสุ เอกา พหิ ติฎฺฐติ, ตสฺสา อาปตฺตี’ติอาทิวจนโต ภิกฺขุวิหาโร น กปฺปิยภูมีติ สิทฺธํ, ตสฺมา กญฺจินคเร ขนฺธธมฺมวิหาโร วิย, กาวีรปฎฺฎเน สารีธมฺมวิหาโร วิย จ อโญฺญปิ โส วิหาโร, ตสฺมา สีมพทฺธสุขตฺถํ คามนฺตรภาเว นิรนฺตรา อธิฎฺฐานตฺถํ ปวิสนฺติยา, นิกฺขมนฺติยาปิ คามนฺตราปตฺติ โหตีติ อปเร’’ติ วุตฺตํฯ จตุคามสาธารณตฺตาติ เอตฺถ เอวํวิเธ วิหาเร สีมํ พนฺธเนฺตหิ จตฺตาโรปิ เต คามา โสเธตพฺพาติ เวทิตพฺพาฯ สํวิทหิตฺวา ภิกฺขุนิยา วา มาตุคาเมน วา เถยฺยสเตฺถน วา สทฺธิํ ตํ วิหารํ โอกฺกมนฺติยา จตโสฺส อาปตฺติโย เอกโตว โหนฺติฯ ‘‘คามนฺตเร คามนฺตเร อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ วุตฺตาติ เอเกฯ

    ‘‘Padasā gamanameva hi idhādhippetaṃ, teneva paṭhamaṃ pādaṃ atikkāmentiyātiādimāhā’’ti ettha vikālagāmappavesanasikkhāpadādīsu tadabhāvā yānena vā iddhiyā vā pavisato, addhānaṃ gacchato ca āpattīti dīpeti. Tattha asāruppattā āpattimokkho natthīti eke, vicāretvā gahetabbaṃ. Bhikkhunīvihārabhūmi ‘‘gāmantara’’nti na vuccati gāmantarapariyāpannāyapi kappiyabhūmittā. ‘‘Parato ‘sace bhikkhunīsu mahābodhiyaṅgaṇaṃ pavisantīsu ekā bahi tiṭṭhati, tassā āpattī’tiādivacanato bhikkhuvihāro na kappiyabhūmīti siddhaṃ, tasmā kañcinagare khandhadhammavihāro viya, kāvīrapaṭṭane sārīdhammavihāro viya ca aññopi so vihāro, tasmā sīmabaddhasukhatthaṃ gāmantarabhāve nirantarā adhiṭṭhānatthaṃ pavisantiyā, nikkhamantiyāpi gāmantarāpatti hotīti apare’’ti vuttaṃ. Catugāmasādhāraṇattāti ettha evaṃvidhe vihāre sīmaṃ bandhantehi cattāropi te gāmā sodhetabbāti veditabbā. Saṃvidahitvā bhikkhuniyā vā mātugāmena vā theyyasatthena vā saddhiṃ taṃ vihāraṃ okkamantiyā catasso āpattiyo ekatova honti. ‘‘Gāmantare gāmantare āpatti pācittiyassā’’ti vuttāti eke.

    ทุติยปาทุทฺธาเร สงฺฆาทิเสโสติ เอตฺถ สเจ ทุติโย ปาทุทฺธาโร กปฺปิยภูมิยํ โหติ, น สงฺฆาทิเสโส, อกปฺปิยภูมิยํ เอว สงฺฆาทิเสโสฯ ‘‘อุภยตีเรสุ วิจรนฺติ, วฎฺฎตีติ ทสฺสนูปจารเสฺสตฺถ สมฺภวา’’ติ ลิขิตํ, ตํ ยุตฺตํฯ สวนูปจาโร เหตฺถ นทีปาเร, คามนฺตเร วา อปฺปมาณนฺติฯ อนฺธกฎฺฐกถายํ ปน ‘‘ปรตีรโต นทิํ โอตริตฺวา ทสฺสนูปจารโต ทารูนิ, ปณฺณานิวา มคฺคิตฺวา อาเนติ, อนาปตฺติฯ ติจีวรานิ ปรตีเร โอตาเปติ, อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํฯ ‘‘โอริมตีรเมว อาคจฺฉติ, อาปตฺตี’’ติ อติกฺกมิตุกามตาย ปวิฎฺฐตฺตา วุตฺตํฯ ‘‘นฺหายนาทิกิเจฺจน ปวิฎฺฐานํ กเตฺถวาลยสมฺภวา วฎฺฎตี’’ติ วุตฺตํฯ คามนฺตเร ปมาณนฺติ อฎฺฐกถายํ ปรตีรโต นทิํ โอตริตฺวา ทสฺสนูปจารโต ทารูนิ ปณฺณานิ สกคามโต โถกมฺปิ ตรณวาเรน น วฎฺฎติ กิร นิกฺขมิตฺวา ปวิสิตุํฯ

    Dutiyapāduddhāre saṅghādisesoti ettha sace dutiyo pāduddhāro kappiyabhūmiyaṃ hoti, na saṅghādiseso, akappiyabhūmiyaṃ eva saṅghādiseso. ‘‘Ubhayatīresu vicaranti, vaṭṭatīti dassanūpacārassettha sambhavā’’ti likhitaṃ, taṃ yuttaṃ. Savanūpacāro hettha nadīpāre, gāmantare vā appamāṇanti. Andhakaṭṭhakathāyaṃ pana ‘‘paratīrato nadiṃ otaritvā dassanūpacārato dārūni, paṇṇānivā maggitvā āneti, anāpatti. Ticīvarāni paratīre otāpeti, anāpattī’’ti vuttaṃ. ‘‘Orimatīrameva āgacchati, āpattī’’ti atikkamitukāmatāya paviṭṭhattā vuttaṃ. ‘‘Nhāyanādikiccena paviṭṭhānaṃ katthevālayasambhavā vaṭṭatī’’ti vuttaṃ. Gāmantare pamāṇanti aṭṭhakathāyaṃ paratīrato nadiṃ otaritvā dassanūpacārato dārūni paṇṇāni sakagāmato thokampi taraṇavārena na vaṭṭati kira nikkhamitvā pavisituṃ.

    อคามเก อรเญฺญติ อคามลกฺขเณ อรเญฺญติ อโตฺถฯ อิมินา อาปตฺติเขตฺตํ ทสฺสิตํฯ ยสฺมา อิทํ อาปตฺติเขตฺตํ, ตสฺมา ยา ภิกฺขุนุปสฺสยโต คามสฺส อินฺทขีลํ อติกฺกมติ, สา อสเนฺต คาเม คณมฺหา โอหียนาปตฺติํ อาปชฺชติฯ ทสฺสนสวนูปจาราภาเวปิ ปเคว คาเม อินฺทขีลาติกฺกมนกฺขเณเยว อาปชฺชติฯ สเจ ตตฺถ เอกา ภิกฺขุนี อตฺถิ, ตสฺสา ทสฺสนสวนูปจาราติกฺกมนกฺขเณ อาปชฺชติ, อรญฺญมคฺคคมนกาเล เอวายํ วิธีติ น คเหตพฺพํฯ คามโต ปน นิกฺขมนฺตี อิโต ปฎฺฐาย อาปชฺชตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อคามกํ อรญฺญ’’นฺติ วุตฺตํฯ วุตฺตเญฺหตํ ‘‘อาราธิกา จ โหนฺติ สงฺคาหิกา ลชฺชินิโย, ตา โกเปตฺวา อญฺญตฺถ น คนฺตพฺพํฯ คจฺฉติ เจ, คามนฺตรนทีปารรตฺติวิปฺปวาสคณมฺหา โอหียนาปตฺตีหิ น มุจฺจตี’’ติอาทิฯ ตตฺถ ‘‘คณมฺหา โอหียนาปตฺติ สกิํเยวาปชฺชติฯ อิตรา คาเม คาเม ปาเร ปาเร อรุเณ อรุเณ จาติ เวทิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํฯ ตตฺถ ‘‘วุตฺตเญฺหต’’นฺติอาทีนิ อสาธกานิ ยถาสมฺภวํ คเหตพฺพตฺตาฯ ‘‘มหาโพธิยงฺคณนฺติอาทิ เอวํ คามสฺส อาสนฺนฎฺฐาเนปิ อิมํ อาปตฺติํ อาปชฺชตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺต’’นฺติ ลิขิตํฯ

    Agāmakearaññeti agāmalakkhaṇe araññeti attho. Iminā āpattikhettaṃ dassitaṃ. Yasmā idaṃ āpattikhettaṃ, tasmā yā bhikkhunupassayato gāmassa indakhīlaṃ atikkamati, sā asante gāme gaṇamhā ohīyanāpattiṃ āpajjati. Dassanasavanūpacārābhāvepi pageva gāme indakhīlātikkamanakkhaṇeyeva āpajjati. Sace tattha ekā bhikkhunī atthi, tassā dassanasavanūpacārātikkamanakkhaṇe āpajjati, araññamaggagamanakāle evāyaṃ vidhīti na gahetabbaṃ. Gāmato pana nikkhamantī ito paṭṭhāya āpajjatīti dassanatthaṃ ‘‘agāmakaṃ arañña’’nti vuttaṃ. Vuttañhetaṃ ‘‘ārādhikā ca honti saṅgāhikā lajjiniyo, tā kopetvā aññattha na gantabbaṃ. Gacchati ce, gāmantaranadīpārarattivippavāsagaṇamhā ohīyanāpattīhi na muccatī’’tiādi. Tattha ‘‘gaṇamhā ohīyanāpatti sakiṃyevāpajjati. Itarā gāme gāme pāre pāre aruṇe aruṇe cāti veditabba’’nti vuttaṃ. Tattha ‘‘vuttañheta’’ntiādīni asādhakāni yathāsambhavaṃ gahetabbattā. ‘‘Mahābodhiyaṅgaṇantiādi evaṃ gāmassa āsannaṭṭhānepi imaṃ āpattiṃ āpajjatīti dassanatthaṃ vutta’’nti likhitaṃ.

    ตติยสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Tatiyasaṅghādisesasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / ภิกฺขุนีวิภงฺค • Bhikkhunīvibhaṅga / ๓. ตติยสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทํ • 3. Tatiyasaṅghādisesasikkhāpadaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / ภิกฺขุนีวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Bhikkhunīvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๓. ตติยสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา • 3. Tatiyasaṅghādisesasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๓. ตติยสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา • 3. Tatiyasaṅghādisesasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๓. ตติยสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทวณฺณนา • 3. Tatiyasaṅghādisesasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๓. ตติยสงฺฆาทิเสสสิกฺขาปทํ • 3. Tatiyasaṅghādisesasikkhāpadaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact