Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā |
ตติยสงฺคีติกถาวณฺณนา
Tatiyasaṅgītikathāvaṇṇanā
พฺรหฺมโลกา จวิตฺวาติ เอตฺถ จตฺตาโร มคฺคา ปญฺจานนฺตริยานิ นิยตมิจฺฉาทิฎฺฐีติ อิเมเยว นิยตา, น มหคฺคตา, ตสฺมา ปณิธิวเสน เหฎฺฐุปปตฺติปิ โหติฯ อติจฺฉถาติ อติจฺจ อิจฺฉถ, คนฺตฺวา ภิกฺขํ ปริเยสถาติ อธิปฺปาโยฯ เกฎุภํ นาม กพฺยกรณวิธิยุตฺตํ สตฺถํฯ กิริยากปฺปํ อิเตฺยเก, กตฺตาขฺยาทิลกฺขณยุตฺตสตฺถํฯ อสนฺธิมิตฺตาติ ตสฺสา นามํฯ ตสฺสา กิร สรีเร สนฺธโย น ปญฺญายนฺติ, มธุสิตฺถเกน กตํ วิย สรีรํ โหติฯ ตสฺมา ‘‘เอวํนามิกา ชาตา’’ติปิ วทนฺติฯ มาคธเกน ปเตฺถน จตฺตาโร ปตฺถา อาฬฺหกํ, จตฺตาริ อาฬฺหกานิ โทณํ, จตุโทณา มานิกา, จตุมานิกา ขาริกา, วีสติขาริโก วาโหติฯ เกถุมาลาติ ‘‘สีสโต อุฎฺฐหิตฺวา ฐิโต โอภาสปุโญฺช’’ติ วทนฺติฯ ราชิทฺธิอธิการปฺปสเงฺคเนตํ วตฺถุ วุตฺตํ, นานุกฺกเมนฯ อนุกฺกเมน ปน พุทฺธสาสนาวหารํ วตฺถุํ ทีเปโนฺต ‘‘ราชา กิรา’’ติอาทิมาหฯ กิเลสทมเนน ทนฺตํฯ กายวาจาหิ คุตฺตํฯ ‘‘ปาจีนมุโข’’ติปิ ปาโฐ อตฺถิฯ ปุเพฺพ เชฎฺฐภาติกตฺตา เตเนว ปริจเยน ปตฺตคฺคหณตฺถาย อาการํ ทเสฺสติฯ อภาสีติ ‘‘ภาสิสฺสามี’’ติ วิตเกฺกสิฯ อปเร ‘‘อญฺญาตนฺติ วุเตฺตปิ สพฺพํ อภณี’’ติ วทนฺติฯ อมตนฺติ นิพฺพานสงฺขาตาย นิวตฺติยา สคุณาธิวจนํ, ตสฺสา อปฺปมาโท ปทํ มโคฺคฯ มจฺจูติ ปวตฺติยา สโทสาธิวจนํ, ตสฺสา ปมาโท ปทํ มโคฺคติ เอวํ จตฺตาริ สจฺจานิ สนฺทสฺสิตานิ โหนฺติฯ สงฺฆสรณคตตฺตา สงฺฆนิสฺสิตา ปพฺพชฺชา, ภณฺฑุกมฺมสฺส วา ตทายตฺตตฺตาฯ นิโคฺรธเตฺถรสฺสานุภาวกิตฺตนาธิการตฺตา ปุเพฺพ วุตฺตมฺปิ ปจฺฉา วตฺตพฺพมฺปิ สมฺปิเณฺฑตฺวา อาห ‘‘ปุน ราชา อโสการามํ นาม มหาวิหารํ กาเรตฺวา สฎฺฐิสหสฺสานิ…เป.… จตุราสีติวิหารสหสฺสานิ การาเปสี’’ติฯ ‘‘ปุถุชฺชนกลฺยาณกสฺส วา ปจฺจเวกฺขิตปริโภโค’’ติ วจนโต เสกฺขาว ปรมตฺถโต ทายาทา, ตถาปิ เถโร มหินฺทกุมารสฺส ปพฺพชฺชตฺถํ เอเกน ปริยาเยน โลกธมฺมสิเทฺธน เอวมาห ‘‘โย โกจิ มหาราช…เป.… โอรสํ ปุตฺต’’นฺติฯ วุตฺตญฺหิ เวเท –
Brahmalokācavitvāti ettha cattāro maggā pañcānantariyāni niyatamicchādiṭṭhīti imeyeva niyatā, na mahaggatā, tasmā paṇidhivasena heṭṭhupapattipi hoti. Aticchathāti aticca icchatha, gantvā bhikkhaṃ pariyesathāti adhippāyo. Keṭubhaṃ nāma kabyakaraṇavidhiyuttaṃ satthaṃ. Kiriyākappaṃ ityeke, kattākhyādilakkhaṇayuttasatthaṃ. Asandhimittāti tassā nāmaṃ. Tassā kira sarīre sandhayo na paññāyanti, madhusitthakena kataṃ viya sarīraṃ hoti. Tasmā ‘‘evaṃnāmikā jātā’’tipi vadanti. Māgadhakena patthena cattāro patthā āḷhakaṃ, cattāri āḷhakāni doṇaṃ, catudoṇā mānikā, catumānikā khārikā, vīsatikhāriko vāhoti. Kethumālāti ‘‘sīsato uṭṭhahitvā ṭhito obhāsapuñjo’’ti vadanti. Rājiddhiadhikārappasaṅgenetaṃ vatthu vuttaṃ, nānukkamena. Anukkamena pana buddhasāsanāvahāraṃ vatthuṃ dīpento ‘‘rājā kirā’’tiādimāha. Kilesadamanena dantaṃ. Kāyavācāhi guttaṃ. ‘‘Pācīnamukho’’tipi pāṭho atthi. Pubbe jeṭṭhabhātikattā teneva paricayena pattaggahaṇatthāya ākāraṃ dasseti. Abhāsīti ‘‘bhāsissāmī’’ti vitakkesi. Apare ‘‘aññātanti vuttepi sabbaṃ abhaṇī’’ti vadanti. Amatanti nibbānasaṅkhātāya nivattiyā saguṇādhivacanaṃ, tassā appamādo padaṃ maggo. Maccūti pavattiyā sadosādhivacanaṃ, tassā pamādo padaṃ maggoti evaṃ cattāri saccāni sandassitāni honti. Saṅghasaraṇagatattā saṅghanissitā pabbajjā, bhaṇḍukammassa vā tadāyattattā. Nigrodhattherassānubhāvakittanādhikārattā pubbe vuttampi pacchā vattabbampi sampiṇḍetvā āha ‘‘puna rājā asokārāmaṃ nāma mahāvihāraṃ kāretvā saṭṭhisahassāni…pe… caturāsītivihārasahassāni kārāpesī’’ti. ‘‘Puthujjanakalyāṇakassa vā paccavekkhitaparibhogo’’ti vacanato sekkhāva paramatthato dāyādā, tathāpi thero mahindakumārassa pabbajjatthaṃ ekena pariyāyena lokadhammasiddhena evamāha ‘‘yo koci mahārāja…pe… orasaṃ putta’’nti. Vuttañhi vede –
‘‘องฺคา องฺคา สมฺภวสิ, หทยา อธิชายเส;
‘‘Aṅgā aṅgā sambhavasi, hadayā adhijāyase;
อตฺตา เว ปุโตฺต นามาสิ, ส ชีว สรโทสต’’นฺติฯ
Attā ve putto nāmāsi, sa jīva saradosata’’nti.
ตสฺมา อิมินา ปริยาเยน โอรโส ปุโตฺต มาตาปิตูหิ ปพฺพชิโต เจ, อตฺถโต เต สยํ ปพฺพชิตา วิย โหนฺติฯ ธมฺมกถิกา กสฺมา นาโรเจนฺติ? ราชา ‘‘เถรํ คณฺหิตฺวา อาคจฺฉถา’’ติ อมเจฺจ เปเสสิ, ธมฺมกถิกา เถรสฺส อาคมนกาเล ปริวารตฺถาย เปสิตา, ตสฺมาฯ อปิจ เตน วุตฺตวิธินาว วทนฺติ จณฺฑตฺตา, จณฺฑภาโว จสฺส ‘‘อมฺพํ ฉินฺทิตฺวา เวฬุยา วติํ กโรหี’’ติ วุตฺตอมจฺจวตฺถุนา วิภาเวตโพฺพฯ กสฺมา ปน ธมฺมกถิกา ราชาณาปนํ กโรนฺตีติ? ‘‘สาสนํ ปคฺคเหตุํ สมโตฺถ’’ติ วุตฺตตฺตาฯ ทีปกติตฺติโรติ กูฎติตฺติโรฯ อยํ ปน กูฎติตฺติรกเมฺม นิยุโตฺตปิ สุทฺธจิโตฺต, ตสฺมา ตาปสํ ปุจฺฉิฯ สาณิปาการนฺติ สาณิปากาเรนฯ วิภชิตฺวา วทตีติ วิภชฺชวาที ‘‘อตฺถิ เขฺวส พฺราหฺมณ ปริยาโย’’ติอาทินา (ปารา. ๕)ฯ อปิจ สสฺสตวาที จ ภควา ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อชาตํ อภูตํ อสงฺขต’’นฺติอาทิ (อิติวุ. ๔๓)-วจนโตฯ เอกจฺจสสฺสติโก จ ‘‘สปฺปจฺจยา ธมฺมา, อปฺปจฺจยา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๗) วจนโตฯ อนฺตานนฺติโก จ –
Tasmā iminā pariyāyena oraso putto mātāpitūhi pabbajito ce, atthato te sayaṃ pabbajitā viya honti. Dhammakathikā kasmā nārocenti? Rājā ‘‘theraṃ gaṇhitvā āgacchathā’’ti amacce pesesi, dhammakathikā therassa āgamanakāle parivāratthāya pesitā, tasmā. Apica tena vuttavidhināva vadanti caṇḍattā, caṇḍabhāvo cassa ‘‘ambaṃ chinditvā veḷuyā vatiṃ karohī’’ti vuttaamaccavatthunā vibhāvetabbo. Kasmā pana dhammakathikā rājāṇāpanaṃ karontīti? ‘‘Sāsanaṃ paggahetuṃ samattho’’ti vuttattā. Dīpakatittiroti kūṭatittiro. Ayaṃ pana kūṭatittirakamme niyuttopi suddhacitto, tasmā tāpasaṃ pucchi. Sāṇipākāranti sāṇipākārena. Vibhajitvā vadatīti vibhajjavādī ‘‘atthi khvesa brāhmaṇa pariyāyo’’tiādinā (pārā. 5). Apica sassatavādī ca bhagavā ‘‘atthi, bhikkhave, ajātaṃ abhūtaṃ asaṅkhata’’ntiādi (itivu. 43)-vacanato. Ekaccasassatiko ca ‘‘sappaccayā dhammā, appaccayā dhammā’’ti (dha. sa. dukamātikā 7) vacanato. Antānantiko ca –
‘‘คมเนน น ปตฺตโพฺพ, โลกสฺสโนฺต กุทาจนํ;
‘‘Gamanena na pattabbo, lokassanto kudācanaṃ;
น จ อปฺปตฺวา โลกนฺตํ, ทุกฺขา อตฺถิ ปโมจนํ’’ฯ (สํ. นิ. ๑.๑๐๗; อ. นิ. ๔.๔๕);
Na ca appatvā lokantaṃ, dukkhā atthi pamocanaṃ’’. (saṃ. ni. 1.107; a. ni. 4.45);
‘‘อนมตโคฺคยํ, ภิกฺขเว, สํสาโร ปุพฺพโกฎิ น ปญฺญายตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๒๔; จูฬนิ. กปฺปมาณวปุจฺฉานิเทฺทส ๖๑) วจนโตฯ อมราวิเกฺขปิกปกฺขมฺปิ อีสกํ ภชติ ภควา ‘‘สสฺสโต โลโกติ อพฺยากตเมตํ อสสฺสโต โลโกติ อพฺยากตเมต’’นฺติอาทิอพฺยากตวตฺถุทีปนโต สมฺมุติสจฺจทีปนโต จฯ ตญฺหิ อชฺฌตฺตพหิทฺธาทิวเสน น วตฺตพฺพํฯ ยถาห ‘‘อากิญฺจญฺญายตนํ น วตฺตพฺพํ อชฺฌตฺตารมฺมณนฺติปี’’ติอาทิ (ธ. ส. ๑๔๓๗)ฯ ตถา อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกปกฺขมฺปิ ภชติ ‘‘ลทฺธา มุธา นิพฺพุติํ ภุญฺชมานา’’ติ (ขุ. ปา. ๖.๗; สุ. นิ. ๒๓๐) วจนโตฯ ตตฺถ หิ มุธาติ อธิจฺจสมุปฺปนฺนเววจนํฯ สญฺญีวาทาทิโก จ ภควา สญฺญีภวอสญฺญีภวเนวสญฺญีนาสญฺญีภววเสนฯ อุเจฺฉทวาที จ ‘‘อหญฺหิ, พฺราหฺมณ, อุเจฺฉทํ วทามิ ราคสฺสา’’ติ (ปารา. ๖) วจนโตฯ ทิฎฺฐธมฺมนิพฺพานวาที จ ‘‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริย’’นฺติ (มหาว. ๒๓; ที. นิ. ๒.๒๑๕; สํ. นิ. ๓.๓๕) วจนโต, ‘‘นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ (มหาว. ๑๖) วจนโต, ทิเฎฺฐว ธเมฺม นิโรธสมาปตฺติทีปนโต จฯ เอวํ เตน เตน ปริยาเยน ตถา ตถา เวเนยฺยชฺฌาสยานุรูปํ วิภชิตฺวา วทตีติ วิภชฺชวาที ภควาติฯ
‘‘Anamataggoyaṃ, bhikkhave, saṃsāro pubbakoṭi na paññāyatī’’ti (saṃ. ni. 2.124; cūḷani. kappamāṇavapucchāniddesa 61) vacanato. Amarāvikkhepikapakkhampi īsakaṃ bhajati bhagavā ‘‘sassato lokoti abyākatametaṃ asassato lokoti abyākatameta’’ntiādiabyākatavatthudīpanato sammutisaccadīpanato ca. Tañhi ajjhattabahiddhādivasena na vattabbaṃ. Yathāha ‘‘ākiñcaññāyatanaṃ na vattabbaṃ ajjhattārammaṇantipī’’tiādi (dha. sa. 1437). Tathā adhiccasamuppannikapakkhampi bhajati ‘‘laddhā mudhā nibbutiṃ bhuñjamānā’’ti (khu. pā. 6.7; su. ni. 230) vacanato. Tattha hi mudhāti adhiccasamuppannavevacanaṃ. Saññīvādādiko ca bhagavā saññībhavaasaññībhavanevasaññīnāsaññībhavavasena. Ucchedavādī ca ‘‘ahañhi, brāhmaṇa, ucchedaṃ vadāmi rāgassā’’ti (pārā. 6) vacanato. Diṭṭhadhammanibbānavādī ca ‘‘khīṇā jāti, vusitaṃ brahmacariya’’nti (mahāva. 23; dī. ni. 2.215; saṃ. ni. 3.35) vacanato, ‘‘natthi dāni punabbhavo’’ti (mahāva. 16) vacanato, diṭṭheva dhamme nirodhasamāpattidīpanato ca. Evaṃ tena tena pariyāyena tathā tathā veneyyajjhāsayānurūpaṃ vibhajitvā vadatīti vibhajjavādī bhagavāti.
ตติยสงฺคีติกถาวณฺณนานโยฯ
Tatiyasaṅgītikathāvaṇṇanānayo.
ปุปฺผนาโม สุมนเตฺถโรฯ มหาปทุมเตฺถโรติ เอเกฯ มหิํสกมณฺฑลํ อนฺธรฎฺฐนฺติ วทนฺติฯ ธมฺมจกฺขุ นาม ตโย มคฺคาฯ โสตาปตฺติมคฺคนฺติ จ เอเกฯ ปญฺจปิ รฎฺฐานิ ปญฺจ จีนรฎฺฐานิ นามฯ ราชคเหติ เทวิยา กตวิหาเรฯ สิลกูฎมฺหีติ ปพฺพตกูเฎฯ วฑฺฒมานนฺติ อลงฺกรณจุณฺณํฯ อริยเทเส อตีว สมฺมตํ กิรฯ เอกรเสน นาถกรณา อิติ ทมิฬาฯ สารปามงฺคนฺติ อุตฺตมํ ปามงฺคํฯ เปตวตฺถุอาทินา สํเวเชตฺวา อภิสมยตฺถํ สจฺจสํยุตฺตญฺจฯ เมฆวนุยฺยานํ นาม มหาวิหารฎฺฐานํฯ ‘‘ทฺวาสฎฺฐิยา เลเณสู’’ติ ปาโฐฯ ทสภาติกนฺติ อภยกุมาราทโย ทส, เต อิธ น วุตฺตาฯ วุตฺถวโสฺส ปวาเรตฺวาติ จาตุมาสินิยา ปวารณายาติ อโตฺถฯ ปฐมปวารณาย วา ปวาเรตฺวา เอกมาสํ ตเตฺถว วสิตฺวา กตฺติกปุณฺณมาสิยํ อโวจ, อญฺญถา ‘‘ปุณฺณมายํ มหาวีโร’’ติ วุตฺตตฺตา น สกฺกา คเหตุํฯ มหาวีโรติ พุโทฺธปจาเรน ธาตุโย วทติฯ ชงฺฆปฺปมาณนฺติ ‘‘ถูปสฺส ชงฺฆปฺปมาณ’’นฺติ วทนฺติฯ มาตุลภาคิเนยฺยา จูโฬทรมโหทราฯ ธรมานสฺส วิย พุทฺธสฺส รสฺมิ สรสรสฺมิ, รโญฺญ เลขาสาสนํ อเปฺปสิ, เอวญฺจ มุขสาสนมโวจฯ โทณมตฺตา มคธนาฬิยา ทฺวาทสนาฬิมตฺตา กิรฯ ‘‘ปริจฺฉินฺนฎฺฐาเน ฉิชฺชิตฺวา’’ติ ปาโฐฯ สพฺพทิสาหิ ปญฺจ รสฺมิโย อาวเฎฺฎตฺวาติ ปญฺจหิ ผเลหิ นิกฺขนฺตตฺตา ปญฺจ, ตา ปน ฉพฺพณฺณาวฯ กตฺติกชุณฺหปกฺขสฺส ปาฎิปททิวเสติ ชุณฺหปกฺขสฺส ปฐมทิวเสติ อโตฺถฯ มหาโพธิฎฺฐาเน ปริวาเรตฺวา ฐิตนาคยกฺขาทิเทวตากุลานิฯ โคปกา นาม ราชปริกมฺมิโน ตถาภาวกิจฺจาฯ เตสํ กุลานํ นามนฺติปิ เกจิฯ อุทกาทิวาหา กาลิงฺคาฯ กาลิเงฺคสุ ชนปเทสุ ชาติสมฺปนฺนํ กุลํ กาลิงฺคกุลนฺติ เกจิฯ
Pupphanāmo sumanatthero. Mahāpadumattheroti eke. Mahiṃsakamaṇḍalaṃ andharaṭṭhanti vadanti. Dhammacakkhu nāma tayo maggā. Sotāpattimagganti ca eke. Pañcapi raṭṭhāni pañca cīnaraṭṭhāni nāma. Rājagaheti deviyā katavihāre. Silakūṭamhīti pabbatakūṭe. Vaḍḍhamānanti alaṅkaraṇacuṇṇaṃ. Ariyadese atīva sammataṃ kira. Ekarasena nāthakaraṇā iti damiḷā. Sārapāmaṅganti uttamaṃ pāmaṅgaṃ. Petavatthuādinā saṃvejetvā abhisamayatthaṃ saccasaṃyuttañca. Meghavanuyyānaṃ nāma mahāvihāraṭṭhānaṃ. ‘‘Dvāsaṭṭhiyā leṇesū’’ti pāṭho. Dasabhātikanti abhayakumārādayo dasa, te idha na vuttā. Vutthavasso pavāretvāti cātumāsiniyā pavāraṇāyāti attho. Paṭhamapavāraṇāya vā pavāretvā ekamāsaṃ tattheva vasitvā kattikapuṇṇamāsiyaṃ avoca, aññathā ‘‘puṇṇamāyaṃ mahāvīro’’ti vuttattā na sakkā gahetuṃ. Mahāvīroti buddhopacārena dhātuyo vadati. Jaṅghappamāṇanti ‘‘thūpassa jaṅghappamāṇa’’nti vadanti. Mātulabhāgineyyā cūḷodaramahodarā. Dharamānassa viya buddhassa rasmi sarasarasmi, rañño lekhāsāsanaṃ appesi, evañca mukhasāsanamavoca. Doṇamattā magadhanāḷiyā dvādasanāḷimattā kira. ‘‘Paricchinnaṭṭhāne chijjitvā’’ti pāṭho. Sabbadisāhi pañca rasmiyo āvaṭṭetvāti pañcahi phalehi nikkhantattā pañca, tā pana chabbaṇṇāva. Kattikajuṇhapakkhassa pāṭipadadivaseti juṇhapakkhassa paṭhamadivaseti attho. Mahābodhiṭṭhāne parivāretvā ṭhitanāgayakkhādidevatākulāni. Gopakā nāma rājaparikammino tathābhāvakiccā. Tesaṃ kulānaṃ nāmantipi keci. Udakādivāhā kāliṅgā. Kāliṅgesu janapadesu jātisampannaṃ kulaṃ kāliṅgakulanti keci.
ปฐมปาฎิปททิวเสติ ทุติยอุโปสถสฺส ปาฎิปททิวเสติ อโตฺถฯ ตตฺถ ฐิเตหิ สมุทฺทสฺส ทิฎฺฐตฺตา ตํ ฐานํ สมุทฺทสาลวตฺถุฯ โสฬส ชาติสมฺปนฺนกุลานิ อฎฺฐ พฺราหฺมณามจฺจกุลานิฯ มหาอริฎฺฐเตฺถโร เจติยคิริมฺหิ ปพฺพชิโตฯ อมจฺจสฺส ปริเวณฎฺฐาเนติ สมฺปติกาลวเสนาหฯ มหินฺทเตฺถโร ทฺวาทสวสฺสิโก หุตฺวา ตมฺพปณฺณิทีปํ สมฺปโตฺต, ตตฺถ เทฺว วสฺสานิ วสิตฺวา วินยํ ปติฎฺฐาเปสิ, ทฺวาสฎฺฐิวสฺสิโก หุตฺวา ปรินิพฺพุโตฯ วินโย สํวรตฺถายาติ วินยปิฎกํ, ตสฺส ปริยาปุณนํ วาฯ ยถาภูตญาณทสฺสนํ สปฺปจฺจยนามรูปปริคฺคโหฯ มคฺคาทิปจฺจเวกฺขเณ อสติ อนฺตรา ปรินิพฺพานํ นาม นตฺถิ เสกฺขสฺส มรณํ วา, สติเยว โหติฯ ตสฺมา อาห ‘‘วิมุตฺติญาณทสฺสน’’นฺติฯ อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถายาติ กญฺจิ ธมฺมํ อนุปาทาย อคฺคเหตฺวา อีสกมฺปิ อนวเสเสตฺวา ปรินิพฺพานตฺถายาติ อโตฺถฯ อุปนิสาติ ‘‘วินโย สํวรตฺถายา’’ติอาทิกา การณปรมฺปราฯ เอตฺตาวตา อตฺตหิตนิปฺผตฺติํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ ปรหิตนิปฺผตฺติํ ทเสฺสตุํ ‘‘เอตทตฺถํ โสตาวธาน’’นฺติ อาหฯ ตสฺสโตฺถ – อตฺตโน วินยกถนํ วินยมนฺตนญฺจ อุคฺคเหตุํ ปเรสํ โสตสฺส โอทหนํ โสตาวธานํฯ ตโต อุคฺคหิตวินยกถามนฺตนานํ เตสํ อุปนิสา ยถาวุตฺตการณปรมฺปรา สิทฺธาเยวาติ น ปุน ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพาฯ อญฺญถา เอตทตฺถา อุปนิสาติ อิมินา วจเนเนว อนุปาทาปรินิพฺพานสฺส สงฺคหิตตฺตา อนุปาทาปรินิพฺพานโต อุทฺธํ โสตาวธานาสมฺภวโต เอตทตฺถํ โสตาวธานนฺติ อเนฺต น สมฺภวตีติ นิรตฺถกํ ภเวยฺย, น จ นิรตฺถกํ ปรหิตนิปฺผตฺติยา มูลการณทสฺสนตฺถตฺตาติ เวทิตพฺพํฯ
Paṭhamapāṭipadadivaseti dutiyauposathassa pāṭipadadivaseti attho. Tattha ṭhitehi samuddassa diṭṭhattā taṃ ṭhānaṃ samuddasālavatthu. Soḷasa jātisampannakulāni aṭṭha brāhmaṇāmaccakulāni. Mahāariṭṭhatthero cetiyagirimhi pabbajito. Amaccassa pariveṇaṭṭhāneti sampatikālavasenāha. Mahindatthero dvādasavassiko hutvā tambapaṇṇidīpaṃ sampatto, tattha dve vassāni vasitvā vinayaṃ patiṭṭhāpesi, dvāsaṭṭhivassiko hutvā parinibbuto. Vinayo saṃvaratthāyāti vinayapiṭakaṃ, tassa pariyāpuṇanaṃ vā. Yathābhūtañāṇadassanaṃ sappaccayanāmarūpapariggaho. Maggādipaccavekkhaṇe asati antarā parinibbānaṃ nāma natthi sekkhassa maraṇaṃ vā, satiyeva hoti. Tasmā āha ‘‘vimuttiñāṇadassana’’nti. Anupādāparinibbānatthāyāti kañci dhammaṃ anupādāya aggahetvā īsakampi anavasesetvā parinibbānatthāyāti attho. Upanisāti ‘‘vinayo saṃvaratthāyā’’tiādikā kāraṇaparamparā. Ettāvatā attahitanipphattiṃ dassetvā idāni parahitanipphattiṃ dassetuṃ ‘‘etadatthaṃ sotāvadhāna’’nti āha. Tassattho – attano vinayakathanaṃ vinayamantanañca uggahetuṃ paresaṃ sotassa odahanaṃ sotāvadhānaṃ. Tato uggahitavinayakathāmantanānaṃ tesaṃ upanisā yathāvuttakāraṇaparamparā siddhāyevāti na puna dassitāti veditabbā. Aññathā etadatthā upanisāti iminā vacaneneva anupādāparinibbānassa saṅgahitattā anupādāparinibbānato uddhaṃ sotāvadhānāsambhavato etadatthaṃ sotāvadhānanti ante na sambhavatīti niratthakaṃ bhaveyya, na ca niratthakaṃ parahitanipphattiyā mūlakāraṇadassanatthattāti veditabbaṃ.
เอวํ ยถา ยถา ยํ ยํ, สมฺภเวยฺย ปทํ อิธ;
Evaṃ yathā yathā yaṃ yaṃ, sambhaveyya padaṃ idha;
ตํ ตํ ตถา ตถา สพฺพํ, ปโยเชยฺย วิจกฺขโณติฯ
Taṃ taṃ tathā tathā sabbaṃ, payojeyya vicakkhaṇoti.
พาหิรนิทานกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Bāhiranidānakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.