Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā |
๗. ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา
7. Tatuttarisikkhāpadavaṇṇanā
๕๒๒-๔. เตน สมเยนาติ ตตุตฺตริสิกฺขาปทํฯ ตตฺถ อภิหฎฺฐุนฺติ อภีติ อุปสโคฺค, หริตุนฺติ อโตฺถ, คณฺหิตุนฺติ วุตฺตํ โหติฯ ปวาเรยฺยาติ อิจฺฉาเปยฺย, อิจฺฉํ รุจิํ อุปฺปาเทยฺย, วเทยฺย นิมเนฺตยฺยาติ อโตฺถฯ อภิหฎฺฐุํ ปวาเรเนฺตน ปน ยถา วตฺตพฺพํ, ตํ อาการํ ทเสฺสตุํ ‘‘ยาวตกํ อิจฺฉสิ ตาวตกํ คณฺหาหี’’ติ เอวมสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํฯ อถ วา ยถา ‘‘เนกฺขมฺมํ ทฎฺฐุ เขมโต’’ติ (สุ. นิ. ๔๒๖, ๑๑๐๔; จูฬนิ. ชตุกณฺณิมาณวปุจฺฉานิเทฺทส ๖๗) เอตฺถ ทิสฺวาติ อโตฺถ, เอวมิธาปิ ‘‘อภิอฎฺฐุํ ปวาเรยฺยา’’ติ อภิหริตฺวา ปวาเรยฺยาติ อโตฺถฯ ตตฺถ กายาภิหาโร วาจาภิหาโรติ ทุวิโธ อภิหาโร, กาเยน วา หิ วตฺถานิ อภิหริตฺวา ปาทมูเล ฐเปตฺวา ‘‘ยตฺตกํ อิจฺฉสิ ตตฺตกํ คณฺหาหี’’ติ วทโนฺต ปวาเรยฺย, วาจาย วา ‘‘อมฺหากํ ทุสฺสโกฎฺฐาคารํ ปริปุณฺณํ, ยตฺตกํ อิจฺฉสิ ตตฺตกํ คณฺหาหี’’ติ วทโนฺต ปวาเรยฺย, ตทุภยมฺปิ เอกชฺฌํ กตฺวา ‘‘อภิหฎฺฐุํ ปวาเรยฺยา’’ติ วุตฺตํฯ
522-4.Tenasamayenāti tatuttarisikkhāpadaṃ. Tattha abhihaṭṭhunti abhīti upasaggo, haritunti attho, gaṇhitunti vuttaṃ hoti. Pavāreyyāti icchāpeyya, icchaṃ ruciṃ uppādeyya, vadeyya nimanteyyāti attho. Abhihaṭṭhuṃ pavārentena pana yathā vattabbaṃ, taṃ ākāraṃ dassetuṃ ‘‘yāvatakaṃ icchasi tāvatakaṃ gaṇhāhī’’ti evamassa padabhājanaṃ vuttaṃ. Atha vā yathā ‘‘nekkhammaṃ daṭṭhu khemato’’ti (su. ni. 426, 1104; cūḷani. jatukaṇṇimāṇavapucchāniddesa 67) ettha disvāti attho, evamidhāpi ‘‘abhiaṭṭhuṃ pavāreyyā’’ti abhiharitvā pavāreyyāti attho. Tattha kāyābhihāro vācābhihāroti duvidho abhihāro, kāyena vā hi vatthāni abhiharitvā pādamūle ṭhapetvā ‘‘yattakaṃ icchasi tattakaṃ gaṇhāhī’’ti vadanto pavāreyya, vācāya vā ‘‘amhākaṃ dussakoṭṭhāgāraṃ paripuṇṇaṃ, yattakaṃ icchasi tattakaṃ gaṇhāhī’’ti vadanto pavāreyya, tadubhayampi ekajjhaṃ katvā ‘‘abhihaṭṭhuṃ pavāreyyā’’ti vuttaṃ.
สนฺตรุตฺตรปรมนฺติ สอนฺตรํ อุตฺตรํ ปรมํ อสฺส จีวรสฺสาติ สนฺตรุตฺตรปรมํ, นิวาสเนน สทฺธิํ ปารุปนํ อุกฺกฎฺฐปริเจฺฉโท อสฺสาติ วุตฺตํ โหติฯ ตโต จีวรํ สาทิตพฺพนฺติ ตโต อภิหฎจีวรโต เอตฺตกํ จีวรํ คเหตพฺพํ, น อิโต ปรนฺติ อโตฺถฯ ยสฺมา ปน อจฺฉินฺนสพฺพจีวเรน ติจีวริเกเนว ภิกฺขุนา เอวํ ปฎิปชฺชิตพฺพํ, อเญฺญน อญฺญถาปิ, ตสฺมา ตํ วิภาคํ ทเสฺสตุํ ‘‘สเจ ตีณิ นฎฺฐานิ โหนฺตี’’ติอาทินา นเยนสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํฯ
Santaruttaraparamanti saantaraṃ uttaraṃ paramaṃ assa cīvarassāti santaruttaraparamaṃ, nivāsanena saddhiṃ pārupanaṃ ukkaṭṭhaparicchedo assāti vuttaṃ hoti. Tato cīvaraṃ sāditabbanti tato abhihaṭacīvarato ettakaṃ cīvaraṃ gahetabbaṃ, na ito paranti attho. Yasmā pana acchinnasabbacīvarena ticīvarikeneva bhikkhunā evaṃ paṭipajjitabbaṃ, aññena aññathāpi, tasmā taṃ vibhāgaṃ dassetuṃ ‘‘sace tīṇi naṭṭhāni hontī’’tiādinā nayenassa padabhājanaṃ vuttaṃ.
ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ยสฺส ตีณิ นฎฺฐานิ, เตน เทฺว สาทิตพฺพานิ, เอกํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา อญฺญํ สภาคฎฺฐานโต ปริเยสิสฺสติฯ ยสฺส เทฺว นฎฺฐานิ, เตน เอกํ สาทิตพฺพํฯ สเจ ปกติยาว สนฺตรุตฺตเรน จรติ, เทฺว สาทิตพฺพานิฯ เอวํ เอกํ สาทิยเนฺตเนว สโม ภวิสฺสติฯ ยสฺส ตีสุ เอกํ นฎฺฐํ, น สาทิตพฺพํฯ ยสฺส ปน ทฺวีสุ เอกํ นฎฺฐํ, เอกํ สาทิตพฺพํฯ ยสฺส เอกํเยว โหติ, ตญฺจ นฎฺฐํ, เทฺว สาทิตพฺพานิฯ ภิกฺขุนิยา ปน ปญฺจสุปิ นเฎฺฐสุ เทฺว สาทิตพฺพานิฯ จตูสุ นเฎฺฐสุ เอกํ สาทิตพฺพํ, ตีสุ นเฎฺฐสุ กิญฺจิ น สาทิตพฺพํ, โก ปน วาโท ทฺวีสุ วา เอกสฺมิํ วาฯ เยน เกนจิ หิ สนฺตรุตฺตรปรมตาย ฐาตพฺพํ, ตโต อุตฺตริ น ลพฺภตีติ อิทเมตฺถ ลกฺขณํฯ
Tatrāyaṃ vinicchayo – yassa tīṇi naṭṭhāni, tena dve sāditabbāni, ekaṃ nivāsetvā ekaṃ pārupitvā aññaṃ sabhāgaṭṭhānato pariyesissati. Yassa dve naṭṭhāni, tena ekaṃ sāditabbaṃ. Sace pakatiyāva santaruttarena carati, dve sāditabbāni. Evaṃ ekaṃ sādiyanteneva samo bhavissati. Yassa tīsu ekaṃ naṭṭhaṃ, na sāditabbaṃ. Yassa pana dvīsu ekaṃ naṭṭhaṃ, ekaṃ sāditabbaṃ. Yassa ekaṃyeva hoti, tañca naṭṭhaṃ, dve sāditabbāni. Bhikkhuniyā pana pañcasupi naṭṭhesu dve sāditabbāni. Catūsu naṭṭhesu ekaṃ sāditabbaṃ, tīsu naṭṭhesu kiñci na sāditabbaṃ, ko pana vādo dvīsu vā ekasmiṃ vā. Yena kenaci hi santaruttaraparamatāya ṭhātabbaṃ, tato uttari na labbhatīti idamettha lakkhaṇaṃ.
๕๒๖. เสสกํ อาหริสฺสามีติ เทฺว จีวรานิ กตฺวา เสสํ ปุน อาหริสฺสามีติ อโตฺถฯ น อจฺฉินฺนการณาติ พาหุสจฺจาทิคุณวเสน เทนฺติฯ ญาตกานนฺติอาทีสุ ญาตกานํ เทนฺตานํ สาทิยนฺตสฺส ปวาริตานํ เทนฺตานํ สาทิยนฺตสฺส อตฺตโน ธเนน สาทิยนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อโตฺถฯ อฎฺฐกถาสุ ปน ‘‘ญาตกปวาริตฎฺฐาเน ปกติยา พหุมฺปิ วฎฺฎติ, อจฺฉินฺนการณา ปมาณเมว วฎฺฎตี’’ติ วุตฺตํฯ ตํ ปาฬิยา น สเมติฯ ยสฺมา ปนิทํ สิกฺขาปทํ อญฺญสฺสตฺถาย วิญฺญาปนวตฺถุสฺมิํเยว ปญฺญตฺตํ, ตสฺมา อิธ ‘‘อญฺญสฺสตฺถายา’’ติ น วุตฺตํฯ เสสํ อุตฺตานตฺถเมวฯ
526.Sesakaṃ āharissāmīti dve cīvarāni katvā sesaṃ puna āharissāmīti attho. Na acchinnakāraṇāti bāhusaccādiguṇavasena denti. Ñātakānantiādīsu ñātakānaṃ dentānaṃ sādiyantassa pavāritānaṃ dentānaṃ sādiyantassa attano dhanena sādiyantassa anāpattīti attho. Aṭṭhakathāsu pana ‘‘ñātakapavāritaṭṭhāne pakatiyā bahumpi vaṭṭati, acchinnakāraṇā pamāṇameva vaṭṭatī’’ti vuttaṃ. Taṃ pāḷiyā na sameti. Yasmā panidaṃ sikkhāpadaṃ aññassatthāya viññāpanavatthusmiṃyeva paññattaṃ, tasmā idha ‘‘aññassatthāyā’’ti na vuttaṃ. Sesaṃ uttānatthameva.
สมุฎฺฐานาทีสุ อิทมฺปิ ฉสมุฎฺฐานํ, กิริยํ, โนสญฺญาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติฯ
Samuṭṭhānādīsu idampi chasamuṭṭhānaṃ, kiriyaṃ, nosaññāvimokkhaṃ, acittakaṃ, paṇṇattivajjaṃ, kāyakammavacīkammaṃ, ticittaṃ, tivedananti.
ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Tatuttarisikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๗. ตตุตฺตริสิกฺขาปทํ • 7. Tatuttarisikkhāpadaṃ
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๗. ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา • 7. Tatuttarisikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๗. ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา • 7. Tatuttarisikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๗. ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา • 7. Tatuttarisikkhāpadavaṇṇanā