Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๘. ตายนสุตฺตํ
8. Tāyanasuttaṃ
๘๙. สาวตฺถินิทานํฯ อถ โข ตายโน เทวปุโตฺต ปุราณติตฺถกโร อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวโณฺณ เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฎฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิโต โข ตายโน เทวปุโตฺต ภควโต สนฺติเก อิมา คาถาโย อภาสิ –
89. Sāvatthinidānaṃ. Atha kho tāyano devaputto purāṇatitthakaro abhikkantāya rattiyā abhikkantavaṇṇo kevalakappaṃ jetavanaṃ obhāsetvā yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ aṭṭhāsi. Ekamantaṃ ṭhito kho tāyano devaputto bhagavato santike imā gāthāyo abhāsi –
‘‘ฉินฺท โสตํ ปรกฺกมฺม, กาเม ปนุท พฺราหฺมณ;
‘‘Chinda sotaṃ parakkamma, kāme panuda brāhmaṇa;
นปฺปหาย มุนี กาเม, เนกตฺตมุปปชฺชติฯ
Nappahāya munī kāme, nekattamupapajjati.
‘‘กยิรา เจ กยิราเถนํ, ทฬฺหเมนํ ปรกฺกเม;
‘‘Kayirā ce kayirāthenaṃ, daḷhamenaṃ parakkame;
สิถิโล หิ ปริพฺพาโช, ภิโยฺย อากิรเต รชํฯ
Sithilo hi paribbājo, bhiyyo ākirate rajaṃ.
กตญฺจ สุกตํ เสโยฺย, ยํ กตฺวา นานุตปฺปติฯ
Katañca sukataṃ seyyo, yaṃ katvā nānutappati.
‘‘กุโส ยถา ทุคฺคหิโต, หตฺถเมวานุกนฺตติ;
‘‘Kuso yathā duggahito, hatthamevānukantati;
สามญฺญํ ทุปฺปรามฎฺฐํ, นิรยายูปกฑฺฒติฯ
Sāmaññaṃ dupparāmaṭṭhaṃ, nirayāyūpakaḍḍhati.
‘‘ยํ กิญฺจิ สิถิลํ กมฺมํ, สํกิลิฎฺฐญฺจ ยํ วตํ;
‘‘Yaṃ kiñci sithilaṃ kammaṃ, saṃkiliṭṭhañca yaṃ vataṃ;
สงฺกสฺสรํ พฺรหฺมจริยํ, น ตํ โหติ มหปฺผล’’นฺติฯ
Saṅkassaraṃ brahmacariyaṃ, na taṃ hoti mahapphala’’nti.
อิทมโวจ ตายโน เทวปุโตฺต; อิทํ วตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตเตฺถวนฺตรธายีติฯ
Idamavoca tāyano devaputto; idaṃ vatvā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā tatthevantaradhāyīti.
อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อิมํ, ภิกฺขเว, รตฺติํ ตายโน นาม เทวปุโตฺต ปุราณติตฺถกโร อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวโณฺณ เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฎฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิโต โข, ภิกฺขเว, ตายโน เทวปุโตฺต มม สนฺติเก อิมา คาถาโย อภาสิ –
Atha kho bhagavā tassā rattiyā accayena bhikkhū āmantesi – ‘‘imaṃ, bhikkhave, rattiṃ tāyano nāma devaputto purāṇatitthakaro abhikkantāya rattiyā abhikkantavaṇṇo kevalakappaṃ jetavanaṃ obhāsetvā yenāhaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā maṃ abhivādetvā ekamantaṃ aṭṭhāsi. Ekamantaṃ ṭhito kho, bhikkhave, tāyano devaputto mama santike imā gāthāyo abhāsi –
‘‘ฉินฺท โสตํ ปรกฺกมฺม, กาเม ปนุท พฺราหฺมณ;
‘‘Chinda sotaṃ parakkamma, kāme panuda brāhmaṇa;
นปฺปหาย มุนี กาเม, เนกตฺตมุปปชฺชติฯ
Nappahāya munī kāme, nekattamupapajjati.
‘‘กยิรา เจ กยิราเถนํ, ทฬฺหเมนํ ปรกฺกเม;
‘‘Kayirā ce kayirāthenaṃ, daḷhamenaṃ parakkame;
สิถิโล หิ ปริพฺพาโช, ภิโยฺย อากิรเต รชํฯ
Sithilo hi paribbājo, bhiyyo ākirate rajaṃ.
‘‘อกตํ ทุกฺกฎํ เสโยฺย, ปจฺฉา ตปติ ทุกฺกฎํ;
‘‘Akataṃ dukkaṭaṃ seyyo, pacchā tapati dukkaṭaṃ;
กตญฺจ สุกตํ เสโยฺย, ยํ กตฺวา นานุตปฺปติฯ
Katañca sukataṃ seyyo, yaṃ katvā nānutappati.
‘‘กุโส ยถา ทุคฺคหิโต, หตฺถเมวานุกนฺตติ;
‘‘Kuso yathā duggahito, hatthamevānukantati;
สามญฺญํ ทุปฺปรามฎฺฐํ, นิรยายูปกฑฺฒติฯ
Sāmaññaṃ dupparāmaṭṭhaṃ, nirayāyūpakaḍḍhati.
‘‘ยํ กิญฺจิ สิถิลํ กมฺมํ, สํกิลิฎฺฐญฺจ ยํ วตํ;
‘‘Yaṃ kiñci sithilaṃ kammaṃ, saṃkiliṭṭhañca yaṃ vataṃ;
สงฺกสฺสรํ พฺรหฺมจริยํ, น ตํ โหติ มหปฺผล’’นฺติฯ
Saṅkassaraṃ brahmacariyaṃ, na taṃ hoti mahapphala’’nti.
‘‘อิทมโวจ, ภิกฺขเว, ตายโน เทวปุโตฺต, อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตเตฺถวนฺตรธายิฯ อุคฺคณฺหาถ, ภิกฺขเว, ตายนคาถา; ปริยาปุณาถ, ภิกฺขเว, ตายนคาถา; ธาเรถ, ภิกฺขเว, ตายนคาถาฯ อตฺถสํหิตา, ภิกฺขเว, ตายนคาถา อาทิพฺรหฺมจริยิกา’’ติฯ
‘‘Idamavoca, bhikkhave, tāyano devaputto, idaṃ vatvā maṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā tatthevantaradhāyi. Uggaṇhātha, bhikkhave, tāyanagāthā; pariyāpuṇātha, bhikkhave, tāyanagāthā; dhāretha, bhikkhave, tāyanagāthā. Atthasaṃhitā, bhikkhave, tāyanagāthā ādibrahmacariyikā’’ti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๘. ตายนสุตฺตวณฺณนา • 8. Tāyanasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๘. ตายนสุตฺตวณฺณนา • 8. Tāyanasuttavaṇṇanā