Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya

    ๖. ตโยธมฺมสุตฺตํ

    6. Tayodhammasuttaṃ

    ๗๖. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา โลเก น สํวิเชฺชยฺยุํ, น ตถาคโต โลเก อุปฺปเชฺชยฺย อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ, น ตถาคตปฺปเวทิโต ธมฺมวินโย โลเก ทิเพฺพยฺยฯ กตเม ตโย? ชาติ จ, ชรา จ, มรณญฺจ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธมฺมา โลเก น สํวิเชฺชยฺยุํ, น ตถาคโต โลเก อุปฺปเชฺชยฺย อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ, น ตถาคตปฺปเวทิโต ธมฺมวินโย โลเก ทิเพฺพยฺยฯ ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, อิเม ตโย ธมฺมา โลเก สํวิชฺชนฺติ ตสฺมา ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ, ตสฺมา ตถาคตปฺปเวทิโต ธมฺมวินโย โลเก ทิพฺพติฯ

    76. ‘‘Tayome, bhikkhave, dhammā loke na saṃvijjeyyuṃ, na tathāgato loke uppajjeyya arahaṃ sammāsambuddho, na tathāgatappavedito dhammavinayo loke dibbeyya. Katame tayo? Jāti ca, jarā ca, maraṇañca – ime kho, bhikkhave, tayo dhammā loke na saṃvijjeyyuṃ, na tathāgato loke uppajjeyya arahaṃ sammāsambuddho, na tathāgatappavedito dhammavinayo loke dibbeyya. Yasmā ca kho, bhikkhave, ime tayo dhammā loke saṃvijjanti tasmā tathāgato loke uppajjati arahaṃ sammāsambuddho, tasmā tathāgatappavedito dhammavinayo loke dibbati.

    ‘‘ตโยเม , ภิกฺขเว, ธเมฺม อปฺปหาย อภโพฺพ ชาติํ ปหาตุํ ชรํ ปหาตุํ มรณํ ปหาตุํฯ กตเม ตโย? ราคํ อปฺปหาย, โทสํ อปฺปหาย, โมหํ อปฺปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธเมฺม อปฺปหาย อภโพฺพ ชาติํ ปหาตุํ ชรํ ปหาตุํ มรณํ ปหาตุํฯ

    ‘‘Tayome , bhikkhave, dhamme appahāya abhabbo jātiṃ pahātuṃ jaraṃ pahātuṃ maraṇaṃ pahātuṃ. Katame tayo? Rāgaṃ appahāya, dosaṃ appahāya, mohaṃ appahāya – ime kho, bhikkhave, tayo dhamme appahāya abhabbo jātiṃ pahātuṃ jaraṃ pahātuṃ maraṇaṃ pahātuṃ.

    ‘‘ตโยเม ภิกฺขเว, ธเมฺม อปฺปหาย อภโพฺพ ราคํ ปหาตุํ โทสํ ปหาตุํ โมหํ ปหาตุํฯ กตเม ตโย? สกฺกายทิฎฺฐิํ อปฺปหาย, วิจิกิจฺฉํ อปฺปหาย, สีลพฺพตปรามาสํ อปฺปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธเมฺม อปฺปหาย อภโพฺพ ราคํ ปหาตุํ โทสํ ปหาตุํ โมหํ ปหาตุํฯ

    ‘‘Tayome bhikkhave, dhamme appahāya abhabbo rāgaṃ pahātuṃ dosaṃ pahātuṃ mohaṃ pahātuṃ. Katame tayo? Sakkāyadiṭṭhiṃ appahāya, vicikicchaṃ appahāya, sīlabbataparāmāsaṃ appahāya – ime kho, bhikkhave, tayo dhamme appahāya abhabbo rāgaṃ pahātuṃ dosaṃ pahātuṃ mohaṃ pahātuṃ.

    ‘‘ตโยเม , ภิกฺขเว, ธเมฺม อปฺปหาย อภโพฺพ สกฺกายทิฎฺฐิํ ปหาตุํ วิจิกิจฺฉํ ปหาตุํ สีลพฺพตปรามาสํ ปหาตุํฯ กตเม ตโย? อโยนิโสมนสิการํ อปฺปหาย, กุมฺมคฺคเสวนํ อปฺปหาย, เจตโส ลีนตฺตํ อปฺปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธเมฺม อปฺปหาย อภโพฺพ สกฺกายทิฎฺฐิํ ปหาตุํ วิจิกิจฺฉํ ปหาตุํ สีลพฺพตปรามาสํ ปหาตุํฯ

    ‘‘Tayome , bhikkhave, dhamme appahāya abhabbo sakkāyadiṭṭhiṃ pahātuṃ vicikicchaṃ pahātuṃ sīlabbataparāmāsaṃ pahātuṃ. Katame tayo? Ayonisomanasikāraṃ appahāya, kummaggasevanaṃ appahāya, cetaso līnattaṃ appahāya – ime kho, bhikkhave, tayo dhamme appahāya abhabbo sakkāyadiṭṭhiṃ pahātuṃ vicikicchaṃ pahātuṃ sīlabbataparāmāsaṃ pahātuṃ.

    ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธเมฺม อปฺปหาย อภโพฺพ อโยนิโส มนสิการํ ปหาตุํ กุมฺมคฺคเสวนํ ปหาตุํ เจตโส ลีนตฺตํ ปหาตุํฯ กตเม ตโย? มุฎฺฐสจฺจํ อปฺปหาย, อสมฺปชญฺญํ อปฺปหาย, เจตโส วิเกฺขปํ อปฺปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธเมฺม อปฺปหาย อภโพฺพ อโยนิโสมนสิการํ ปหาตุํ กุมฺมคฺคเสวนํ ปหาตุํ เจตโส ลีนตฺตํ ปหาตุํฯ

    ‘‘Tayome, bhikkhave, dhamme appahāya abhabbo ayoniso manasikāraṃ pahātuṃ kummaggasevanaṃ pahātuṃ cetaso līnattaṃ pahātuṃ. Katame tayo? Muṭṭhasaccaṃ appahāya, asampajaññaṃ appahāya, cetaso vikkhepaṃ appahāya – ime kho, bhikkhave, tayo dhamme appahāya abhabbo ayonisomanasikāraṃ pahātuṃ kummaggasevanaṃ pahātuṃ cetaso līnattaṃ pahātuṃ.

    ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธเมฺม อปฺปหาย อภโพฺพ มุฎฺฐสจฺจํ ปหาตุํ อสมฺปชญฺญํ ปหาตุํ เจตโส วิเกฺขปํ ปหาตุํฯ กตเม ตโย? อริยานํ อทสฺสนกมฺยตํ อปฺปหาย, อริยธมฺมสฺส 1 อโสตุกมฺยตํ อปฺปหาย, อุปารมฺภจิตฺตตํ อปฺปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธเมฺม อปฺปหาย อภโพฺพ มุฎฺฐสจฺจํ ปหาตุํ อสมฺปชญฺญํ ปหาตุํ เจตโส วิเกฺขปํ ปหาตุํฯ

    ‘‘Tayome, bhikkhave, dhamme appahāya abhabbo muṭṭhasaccaṃ pahātuṃ asampajaññaṃ pahātuṃ cetaso vikkhepaṃ pahātuṃ. Katame tayo? Ariyānaṃ adassanakamyataṃ appahāya, ariyadhammassa 2 asotukamyataṃ appahāya, upārambhacittataṃ appahāya – ime kho, bhikkhave, tayo dhamme appahāya abhabbo muṭṭhasaccaṃ pahātuṃ asampajaññaṃ pahātuṃ cetaso vikkhepaṃ pahātuṃ.

    ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธเมฺม อปฺปหาย อภโพฺพ อริยานํ อทสฺสนกมฺยตํ ปหาตุํ อริยธมฺมสฺส อโสตุกมฺยตํ ปหาตุํ อุปารมฺภจิตฺตตํ ปหาตุํฯ กตเม ตโย? อุทฺธจฺจํ อปฺปหาย, อสํวรํ อปฺปหาย, ทุสฺสีลฺยํ อปฺปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธเมฺม อปฺปหาย อภโพฺพ อริยานํ อทสฺสนกมฺยตํ ปหาตุํ อริยธมฺมสฺส อโสตุกมฺยตํ ปหาตุํ อุปารมฺภจิตฺตตํ ปหาตุํฯ

    ‘‘Tayome, bhikkhave, dhamme appahāya abhabbo ariyānaṃ adassanakamyataṃ pahātuṃ ariyadhammassa asotukamyataṃ pahātuṃ upārambhacittataṃ pahātuṃ. Katame tayo? Uddhaccaṃ appahāya, asaṃvaraṃ appahāya, dussīlyaṃ appahāya – ime kho, bhikkhave, tayo dhamme appahāya abhabbo ariyānaṃ adassanakamyataṃ pahātuṃ ariyadhammassa asotukamyataṃ pahātuṃ upārambhacittataṃ pahātuṃ.

    ‘‘ตโยเม , ภิกฺขเว, ธเมฺม อปฺปหาย อภโพฺพ อุทฺธจฺจํ ปหาตุํ อสํวรํ ปหาตุํ ทุสฺสีลฺยํ ปหาตุํฯ กตเม ตโย ? อสฺสทฺธิยํ อปฺปหาย, อวทญฺญุตํ อปฺปหาย, โกสชฺชํ อปฺปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธเมฺม อปฺปหาย อภโพฺพ อุทฺธจฺจํ ปหาตุํ อสํวรํ ปหาตุํ ทุสฺสีลฺยํ ปหาตุํฯ

    ‘‘Tayome , bhikkhave, dhamme appahāya abhabbo uddhaccaṃ pahātuṃ asaṃvaraṃ pahātuṃ dussīlyaṃ pahātuṃ. Katame tayo ? Assaddhiyaṃ appahāya, avadaññutaṃ appahāya, kosajjaṃ appahāya – ime kho, bhikkhave, tayo dhamme appahāya abhabbo uddhaccaṃ pahātuṃ asaṃvaraṃ pahātuṃ dussīlyaṃ pahātuṃ.

    ‘‘ตโยเม , ภิกฺขเว, ธเมฺม อปฺปหาย อภโพฺพ อสฺสทฺธิยํ ปหาตุํ อวทญฺญุตํ ปหาตุํ โกสชฺชํ ปหาตุํฯ กตเม ตโย? อนาทริยํ อปฺปหาย, โทวจสฺสตํ อปฺปหาย, ปาปมิตฺตตํ อปฺปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธเมฺม อปฺปหาย อภโพฺพ อสฺสทฺธิยํ ปหาตุํ อวทญฺญุตํ ปหาตุํ โกสชฺชํ ปหาตุํฯ

    ‘‘Tayome , bhikkhave, dhamme appahāya abhabbo assaddhiyaṃ pahātuṃ avadaññutaṃ pahātuṃ kosajjaṃ pahātuṃ. Katame tayo? Anādariyaṃ appahāya, dovacassataṃ appahāya, pāpamittataṃ appahāya – ime kho, bhikkhave, tayo dhamme appahāya abhabbo assaddhiyaṃ pahātuṃ avadaññutaṃ pahātuṃ kosajjaṃ pahātuṃ.

    ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธเมฺม อปฺปหาย อภโพฺพ อนาทริยํ ปหาตุํ โทวจสฺสตํ ปหาตุํ ปาปมิตฺตตํ ปหาตุํฯ กตเม ตโย? อหิริกํ อปฺปหาย, อโนตฺตปฺปํ อปฺปหาย, ปมาทํ อปฺปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธเมฺม อปฺปหาย อภโพฺพ อนาทริยํ ปหาตุํ โทวจสฺสตํ ปหาตุํ ปาปมิตฺตตํ ปหาตุํฯ

    ‘‘Tayome, bhikkhave, dhamme appahāya abhabbo anādariyaṃ pahātuṃ dovacassataṃ pahātuṃ pāpamittataṃ pahātuṃ. Katame tayo? Ahirikaṃ appahāya, anottappaṃ appahāya, pamādaṃ appahāya – ime kho, bhikkhave, tayo dhamme appahāya abhabbo anādariyaṃ pahātuṃ dovacassataṃ pahātuṃ pāpamittataṃ pahātuṃ.

    ‘‘อหิริโกยํ, ภิกฺขเว, อโนตฺตาปี ปมโตฺต โหติฯ โส ปมโตฺต สมาโน อภโพฺพ อนาทริยํ ปหาตุํ โทวจสฺสตํ ปหาตุํ ปาปมิตฺตตํ ปหาตุํฯ โส ปาปมิโตฺต สมาโน อภโพฺพ อสฺสทฺธิยํ ปหาตุํ อวทญฺญุตํ ปหาตุํ โกสชฺชํ ปหาตุํฯ โส กุสีโต สมาโน อภโพฺพ อุทฺธจฺจํ ปหาตุํ อสํวรํ ปหาตุํ ทุสฺสีลฺยํ ปหาตุํฯ โส ทุสฺสีโล สมาโน อภโพฺพ อริยานํ อทสฺสนกมฺยตํ ปหาตุํ อริยธมฺมสฺส อโสตุกมฺยตํ ปหาตุํ อุปารมฺภจิตฺตตํ ปหาตุํฯ โส อุปารมฺภจิโตฺต สมาโน อภโพฺพ มุฎฺฐสจฺจํ ปหาตุํ อสมฺปชญฺญํ ปหาตุํ เจตโส วิเกฺขปํ ปหาตุํฯ โส วิกฺขิตฺตจิโตฺต สมาโน อภโพฺพ อโยนิโสมนสิการํ ปหาตุํ กุมฺมคฺคเสวนํ ปหาตุํ เจตโส ลีนตฺตํ ปหาตุํฯ โส ลีนจิโตฺต สมาโน อภโพฺพ สกฺกายทิฎฺฐิํ ปหาตุํ วิจิกิจฺฉํ ปหาตุํ สีลพฺพตปรามาสํ ปหาตุํฯ โส วิจิกิโจฺฉ สมาโน อภโพฺพ ราคํ ปหาตุํ โทสํ ปหาตุํ โมหํ ปหาตุํฯ โส ราคํ อปฺปหาย โทสํ อปฺปหาย โมหํ อปฺปหาย อภโพฺพ ชาติํ ปหาตุํ ชรํ ปหาตุํ มรณํ ปหาตุํฯ

    ‘‘Ahirikoyaṃ, bhikkhave, anottāpī pamatto hoti. So pamatto samāno abhabbo anādariyaṃ pahātuṃ dovacassataṃ pahātuṃ pāpamittataṃ pahātuṃ. So pāpamitto samāno abhabbo assaddhiyaṃ pahātuṃ avadaññutaṃ pahātuṃ kosajjaṃ pahātuṃ. So kusīto samāno abhabbo uddhaccaṃ pahātuṃ asaṃvaraṃ pahātuṃ dussīlyaṃ pahātuṃ. So dussīlo samāno abhabbo ariyānaṃ adassanakamyataṃ pahātuṃ ariyadhammassa asotukamyataṃ pahātuṃ upārambhacittataṃ pahātuṃ. So upārambhacitto samāno abhabbo muṭṭhasaccaṃ pahātuṃ asampajaññaṃ pahātuṃ cetaso vikkhepaṃ pahātuṃ. So vikkhittacitto samāno abhabbo ayonisomanasikāraṃ pahātuṃ kummaggasevanaṃ pahātuṃ cetaso līnattaṃ pahātuṃ. So līnacitto samāno abhabbo sakkāyadiṭṭhiṃ pahātuṃ vicikicchaṃ pahātuṃ sīlabbataparāmāsaṃ pahātuṃ. So vicikiccho samāno abhabbo rāgaṃ pahātuṃ dosaṃ pahātuṃ mohaṃ pahātuṃ. So rāgaṃ appahāya dosaṃ appahāya mohaṃ appahāya abhabbo jātiṃ pahātuṃ jaraṃ pahātuṃ maraṇaṃ pahātuṃ.

    ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธเมฺม ปหาย ภโพฺพ ชาติํ ปหาตุํ ชรํ ปหาตุํ มรณํ ปหาตุํฯ กตเม ตโย? ราคํ ปหาย, โทสํ ปหาย, โมหํ ปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธเมฺม ปหาย ภโพฺพ ชาติํ ปหาตุํ ชรํ ปหาตุํ มรณํ ปหาตุํฯ

    ‘‘Tayome, bhikkhave, dhamme pahāya bhabbo jātiṃ pahātuṃ jaraṃ pahātuṃ maraṇaṃ pahātuṃ. Katame tayo? Rāgaṃ pahāya, dosaṃ pahāya, mohaṃ pahāya – ime kho, bhikkhave, tayo dhamme pahāya bhabbo jātiṃ pahātuṃ jaraṃ pahātuṃ maraṇaṃ pahātuṃ.

    ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธเมฺม ปหาย ภโพฺพ ราคํ ปหาตุํ โทสํ ปหาตุํ โมหํ ปหาตุํฯ กตเม ตโย ? สกฺกายทิฎฺฐิํ ปหาย, วิจิกิจฺฉํ ปหาย, สีลพฺพตปรามาสํ ปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธเมฺม ปหาย ภโพฺพ ราคํ ปหาตุํ โทสํ ปหาตุํ โมหํ ปหาตุํฯ

    ‘‘Tayome, bhikkhave, dhamme pahāya bhabbo rāgaṃ pahātuṃ dosaṃ pahātuṃ mohaṃ pahātuṃ. Katame tayo ? Sakkāyadiṭṭhiṃ pahāya, vicikicchaṃ pahāya, sīlabbataparāmāsaṃ pahāya – ime kho, bhikkhave, tayo dhamme pahāya bhabbo rāgaṃ pahātuṃ dosaṃ pahātuṃ mohaṃ pahātuṃ.

    ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธเมฺม ปหาย ภโพฺพ สกฺกายทิฎฺฐิํ ปหาตุํ วิจิกิจฺฉํ ปหาตุํ สีลพฺพตปรามาสํ ปหาตุํฯ กตเม ตโย? อโยนิโสมนสิการํ ปหาย, กุมฺมคฺคเสวนํ ปหาย, เจตโส ลีนตฺตํ ปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธเมฺม ปหาย ภโพฺพ สกฺกายทิฎฺฐิํ ปหาตุํ วิจิกิจฺฉํ ปหาตุํ สีลพฺพตปรามาสํ ปหาตุํฯ

    ‘‘Tayome, bhikkhave, dhamme pahāya bhabbo sakkāyadiṭṭhiṃ pahātuṃ vicikicchaṃ pahātuṃ sīlabbataparāmāsaṃ pahātuṃ. Katame tayo? Ayonisomanasikāraṃ pahāya, kummaggasevanaṃ pahāya, cetaso līnattaṃ pahāya – ime kho, bhikkhave, tayo dhamme pahāya bhabbo sakkāyadiṭṭhiṃ pahātuṃ vicikicchaṃ pahātuṃ sīlabbataparāmāsaṃ pahātuṃ.

    ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธเมฺม ปหาย ภโพฺพ อโยนิโสมนสิการํ ปหาตุํ กุมฺมคฺคเสวนํ ปหาตุํ เจตโส ลีนตฺตํ ปหาตุํฯ กตเม ตโย? มุฎฺฐสจฺจํ ปหาย, อสมฺปชญฺญํ ปหาย, เจตโส วิเกฺขปํ ปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธเมฺม ปหาย ภโพฺพ อโยนิโสมนสิการํ ปหาตุํ กุมฺมคฺคเสวนํ ปหาตุํ เจตโส ลีนตฺตํ ปหาตุํฯ

    ‘‘Tayome, bhikkhave, dhamme pahāya bhabbo ayonisomanasikāraṃ pahātuṃ kummaggasevanaṃ pahātuṃ cetaso līnattaṃ pahātuṃ. Katame tayo? Muṭṭhasaccaṃ pahāya, asampajaññaṃ pahāya, cetaso vikkhepaṃ pahāya – ime kho, bhikkhave, tayo dhamme pahāya bhabbo ayonisomanasikāraṃ pahātuṃ kummaggasevanaṃ pahātuṃ cetaso līnattaṃ pahātuṃ.

    ‘‘ตโยเม , ภิกฺขเว, ธเมฺม ปหาย ภโพฺพ มุฎฺฐสจฺจํ ปหาตุํ อสมฺปชญฺญํ ปหาตุํ เจตโส วิเกฺขปํ ปหาตุํฯ กตเม ตโย? อริยานํ อทสฺสนกมฺยตํ ปหาย, อริยธมฺมสฺส อโสตุกมฺยตํ ปหาย, อุปารมฺภจิตฺตตํ ปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธเมฺม ปหาย ภโพฺพ มุฎฺฐสฺสจฺจํ ปหาตุํ อสมฺปชญฺญํ ปหาตุํ เจตโส วิเกฺขปํ ปหาตุํฯ

    ‘‘Tayome , bhikkhave, dhamme pahāya bhabbo muṭṭhasaccaṃ pahātuṃ asampajaññaṃ pahātuṃ cetaso vikkhepaṃ pahātuṃ. Katame tayo? Ariyānaṃ adassanakamyataṃ pahāya, ariyadhammassa asotukamyataṃ pahāya, upārambhacittataṃ pahāya – ime kho, bhikkhave, tayo dhamme pahāya bhabbo muṭṭhassaccaṃ pahātuṃ asampajaññaṃ pahātuṃ cetaso vikkhepaṃ pahātuṃ.

    ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธเมฺม ปหาย ภโพฺพ อริยานํ อทสฺสนกมฺยตํ ปหาตุํ อริยธมฺมสฺส อโสตุกมฺยตํ ปหาตุํ อุปารมฺภจิตฺตตํ ปหาตุํฯ กตเม ตโย? อุทฺธจฺจํ ปหาย, อสํวรํ ปหาย, ทุสฺสีลฺยํ ปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธเมฺม ปหาย ภโพฺพ อริยานํ อทสฺสนกมฺยตํ ปหาตุํ อริยธมฺมสฺส อโสตุกมฺยตํ ปหาตุํ อุปารมฺภจิตฺตตํ ปหาตุํฯ

    ‘‘Tayome, bhikkhave, dhamme pahāya bhabbo ariyānaṃ adassanakamyataṃ pahātuṃ ariyadhammassa asotukamyataṃ pahātuṃ upārambhacittataṃ pahātuṃ. Katame tayo? Uddhaccaṃ pahāya, asaṃvaraṃ pahāya, dussīlyaṃ pahāya – ime kho, bhikkhave, tayo dhamme pahāya bhabbo ariyānaṃ adassanakamyataṃ pahātuṃ ariyadhammassa asotukamyataṃ pahātuṃ upārambhacittataṃ pahātuṃ.

    ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธเมฺม ปหาย ภโพฺพ อุทฺธจฺจํ ปหาตุํ อสํวรํ ปหาตุํ ทุสฺสีลฺยํ ปหาตุํฯ กตเม ตโย? อสฺสทฺธิยํ ปหาย, อวทญฺญุตํ ปหาย, โกสชฺชํ ปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธเมฺม ปหาย ภโพฺพ อุทฺธจฺจํ ปหาตุํ อสํวรํ ปหาตุํ ทุสฺสีลฺยํ ปหาตุํฯ

    ‘‘Tayome, bhikkhave, dhamme pahāya bhabbo uddhaccaṃ pahātuṃ asaṃvaraṃ pahātuṃ dussīlyaṃ pahātuṃ. Katame tayo? Assaddhiyaṃ pahāya, avadaññutaṃ pahāya, kosajjaṃ pahāya – ime kho, bhikkhave, tayo dhamme pahāya bhabbo uddhaccaṃ pahātuṃ asaṃvaraṃ pahātuṃ dussīlyaṃ pahātuṃ.

    ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธเมฺม ปหาย ภโพฺพ อสฺสทฺธิยํ ปหาตุํ อวทญฺญุตํ ปหาตุํ โกสชฺชํ ปหาตุํฯ กตเม ตโย? อนาทริยํ ปหาย, โทวจสฺสตํ ปหาย, ปาปมิตฺตตํ ปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธเมฺม ปหาย ภโพฺพ อสฺสทฺธิยํ ปหาตุํ อวทญฺญุตํ ปหาตุํ โกสชฺชํ ปหาตุํฯ

    ‘‘Tayome, bhikkhave, dhamme pahāya bhabbo assaddhiyaṃ pahātuṃ avadaññutaṃ pahātuṃ kosajjaṃ pahātuṃ. Katame tayo? Anādariyaṃ pahāya, dovacassataṃ pahāya, pāpamittataṃ pahāya – ime kho, bhikkhave, tayo dhamme pahāya bhabbo assaddhiyaṃ pahātuṃ avadaññutaṃ pahātuṃ kosajjaṃ pahātuṃ.

    ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, ธเมฺม ปหาย ภโพฺพ อนาทริยํ ปหาตุํ โทวจสฺสตํ ปหาตุํ ปาปมิตฺตตํ ปหาตุํฯ กตเม ตโย? อหิริกํ ปหาย, อโนตฺตปฺปํ ปหาย, ปมาทํ ปหาย – อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย ธเมฺม ปหาย ภโพฺพ อนาทริยํ ปหาตุํ โทวจสฺสตํ ปหาตุํ ปาปมิตฺตตํ ปหาตุํฯ

    ‘‘Tayome, bhikkhave, dhamme pahāya bhabbo anādariyaṃ pahātuṃ dovacassataṃ pahātuṃ pāpamittataṃ pahātuṃ. Katame tayo? Ahirikaṃ pahāya, anottappaṃ pahāya, pamādaṃ pahāya – ime kho, bhikkhave, tayo dhamme pahāya bhabbo anādariyaṃ pahātuṃ dovacassataṃ pahātuṃ pāpamittataṃ pahātuṃ.

    ‘‘หิรีมายํ, ภิกฺขเว, โอตฺตาปี อปฺปมโตฺต โหติฯ โส อปฺปมโตฺต สมาโน ภโพฺพ อนาทริยํ ปหาตุํ โทวจสฺสตํ ปหาตุํ ปาปมิตฺตตํ ปหาตุํฯ โส กลฺยาณมิโตฺต สมาโน ภโพฺพ อสฺสทฺธิยํ ปหาตุํ อวทญฺญุตํ ปหาตุํ โกสชฺชํ ปหาตุํฯ โส อารทฺธวีริโย สมาโน ภโพฺพ อุทฺธจฺจํ ปหาตุํ อสํวรํ ปหาตุํ ทุสฺสีลฺยํ ปหาตุํฯ โส สีลวา สมาโน ภโพฺพ อริยานํ อทสฺสนกมฺยตํ ปหาตุํ อริยธมฺมสฺส อโสตุกมฺยตํ ปหาตุํ อุปารมฺภจิตฺตตํ ปหาตุํฯ โส อนุปารมฺภจิโตฺต สมาโน ภโพฺพ มุฎฺฐสฺสจฺจํ ปหาตุํ อสมฺปชญฺญํ ปหาตุํ เจตโส วิเกฺขปํ ปหาตุํฯ โส อวิกฺขิตฺตจิโตฺต สมาโน ภโพฺพ อโยนิโสมนสิการํ ปหาตุํ กุมฺมคฺคเสวนํ ปหาตุํ เจตโส ลีนตฺตํ ปหาตุํฯ โส อลีนจิโตฺต สมาโน ภโพฺพ สกฺกายทิฎฺฐิํ ปหาตุํ วิจิกิจฺฉํ ปหาตุํ สีลพฺพตปรามาสํ ปหาตุํฯ โส อวิจิกิโจฺฉ สมาโน ภโพฺพ ราคํ ปหาตุํ โทสํ ปหาตุํ โมหํ ปหาตุํฯ โส ราคํ ปหาย โทสํ ปหาย โมหํ ปหาย ภโพฺพ ชาติํ ปหาตุํ ชรํ ปหาตุํ มรณํ ปหาตุ’’นฺติฯ ฉฎฺฐํฯ

    ‘‘Hirīmāyaṃ, bhikkhave, ottāpī appamatto hoti. So appamatto samāno bhabbo anādariyaṃ pahātuṃ dovacassataṃ pahātuṃ pāpamittataṃ pahātuṃ. So kalyāṇamitto samāno bhabbo assaddhiyaṃ pahātuṃ avadaññutaṃ pahātuṃ kosajjaṃ pahātuṃ. So āraddhavīriyo samāno bhabbo uddhaccaṃ pahātuṃ asaṃvaraṃ pahātuṃ dussīlyaṃ pahātuṃ. So sīlavā samāno bhabbo ariyānaṃ adassanakamyataṃ pahātuṃ ariyadhammassa asotukamyataṃ pahātuṃ upārambhacittataṃ pahātuṃ. So anupārambhacitto samāno bhabbo muṭṭhassaccaṃ pahātuṃ asampajaññaṃ pahātuṃ cetaso vikkhepaṃ pahātuṃ. So avikkhittacitto samāno bhabbo ayonisomanasikāraṃ pahātuṃ kummaggasevanaṃ pahātuṃ cetaso līnattaṃ pahātuṃ. So alīnacitto samāno bhabbo sakkāyadiṭṭhiṃ pahātuṃ vicikicchaṃ pahātuṃ sīlabbataparāmāsaṃ pahātuṃ. So avicikiccho samāno bhabbo rāgaṃ pahātuṃ dosaṃ pahātuṃ mohaṃ pahātuṃ. So rāgaṃ pahāya dosaṃ pahāya mohaṃ pahāya bhabbo jātiṃ pahātuṃ jaraṃ pahātuṃ maraṇaṃ pahātu’’nti. Chaṭṭhaṃ.







    Footnotes:
    1. อริยธมฺมํ (สฺยา.)
    2. ariyadhammaṃ (syā.)



    Related texts:



    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๕-๑๐. มิคสาลาสุตฺตาทิวณฺณนา • 5-10. Migasālāsuttādivaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact