Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ทีฆนิกาย • Dīghanikāya |
๑๓. เตวิชฺชสุตฺตํ
13. Tevijjasuttaṃ
๕๑๘. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสเงฺฆน สทฺธิํ ปญฺจมเตฺตหิ ภิกฺขุสเตหิ เยน มนสากฎํ นาม โกสลานํ พฺราหฺมณคาโม ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา มนสากเฎ วิหรติ อุตฺตเรน มนสากฎสฺส อจิรวติยา นทิยา ตีเร อมฺพวเนฯ
518. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā kosalesu cārikaṃ caramāno mahatā bhikkhusaṅghena saddhiṃ pañcamattehi bhikkhusatehi yena manasākaṭaṃ nāma kosalānaṃ brāhmaṇagāmo tadavasari. Tatra sudaṃ bhagavā manasākaṭe viharati uttarena manasākaṭassa aciravatiyā nadiyā tīre ambavane.
๕๑๙. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา อภิญฺญาตา อภิญฺญาตา พฺราหฺมณมหาสาลา มนสากเฎ ปฎิวสนฺติ, เสยฺยถิทํ – จงฺกี พฺราหฺมโณ ตารุโกฺข พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ พฺราหฺมโณ ชาณุโสณิ พฺราหฺมโณ โตเทโยฺย พฺราหฺมโณ อเญฺญ จ อภิญฺญาตา อภิญฺญาตา พฺราหฺมณมหาสาลาฯ
519. Tena kho pana samayena sambahulā abhiññātā abhiññātā brāhmaṇamahāsālā manasākaṭe paṭivasanti, seyyathidaṃ – caṅkī brāhmaṇo tārukkho brāhmaṇo pokkharasāti brāhmaṇo jāṇusoṇi brāhmaṇo todeyyo brāhmaṇo aññe ca abhiññātā abhiññātā brāhmaṇamahāsālā.
๕๒๐. อถ โข วาเสฎฺฐภารทฺวาชานํ มาณวานํ ชงฺฆวิหารํ อนุจงฺกมนฺตานํ อนุวิจรนฺตานํ มคฺคามเคฺค กถา อุทปาทิฯ อถ โข วาเสโฎฺฐ มาณโว เอวมาห – ‘‘อยเมว อุชุมโคฺค, อยมญฺชสายโน นิยฺยานิโก นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส พฺรหฺมสหพฺยตาย, ยฺวายํ อกฺขาโต พฺราหฺมเณน โปกฺขรสาตินา’’ติฯ ภารทฺวาโชปิ มาณโว เอวมาห – ‘‘อยเมว อุชุมโคฺค, อยมญฺชสายโน นิยฺยานิโก, นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส พฺรหฺมสหพฺยตาย, ยฺวายํ อกฺขาโต พฺราหฺมเณน ตารุเกฺขนา’’ติฯ เนว โข อสกฺขิ วาเสโฎฺฐ มาณโว ภารทฺวาชํ มาณวํ สญฺญาเปตุํ, น ปน อสกฺขิ ภารทฺวาโช มาณโวปิ วาเสฎฺฐํ มาณวํ สญฺญาเปตุํฯ
520. Atha kho vāseṭṭhabhāradvājānaṃ māṇavānaṃ jaṅghavihāraṃ anucaṅkamantānaṃ anuvicarantānaṃ maggāmagge kathā udapādi. Atha kho vāseṭṭho māṇavo evamāha – ‘‘ayameva ujumaggo, ayamañjasāyano niyyāniko niyyāti takkarassa brahmasahabyatāya, yvāyaṃ akkhāto brāhmaṇena pokkharasātinā’’ti. Bhāradvājopi māṇavo evamāha – ‘‘ayameva ujumaggo, ayamañjasāyano niyyāniko, niyyāti takkarassa brahmasahabyatāya, yvāyaṃ akkhāto brāhmaṇena tārukkhenā’’ti. Neva kho asakkhi vāseṭṭho māṇavo bhāradvājaṃ māṇavaṃ saññāpetuṃ, na pana asakkhi bhāradvājo māṇavopi vāseṭṭhaṃ māṇavaṃ saññāpetuṃ.
๕๒๑. อถ โข วาเสโฎฺฐ มาณโว ภารทฺวาชํ มาณวํ อามเนฺตสิ – ‘‘อยํ โข, ภารทฺวาช, สมโณ โคตโม สกฺยปุโตฺต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต มนสากเฎ วิหรติ อุตฺตเรน มนสากฎสฺส อจิรวติยา นทิยา ตีเร อมฺพวเนฯ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสโทฺท อพฺภุคฺคโต – ‘‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ วิชฺชาจรณสมฺปโนฺน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุโทฺธ ภควา’’ติ ฯ อายาม, โภ ภารทฺวาช, เยน สมโณ โคตโม เตนุปสงฺกมิสฺสาม; อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ สมณํ โคตมํ ปุจฺฉิสฺสามฯ ยถา โน สมโณ โคตโม พฺยากริสฺสติ, ตถา นํ ธาเรสฺสามา’’ติฯ ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข ภารทฺวาโช มาณโว วาเสฎฺฐสฺส มาณวสฺส ปจฺจโสฺสสิฯ
521. Atha kho vāseṭṭho māṇavo bhāradvājaṃ māṇavaṃ āmantesi – ‘‘ayaṃ kho, bhāradvāja, samaṇo gotamo sakyaputto sakyakulā pabbajito manasākaṭe viharati uttarena manasākaṭassa aciravatiyā nadiyā tīre ambavane. Taṃ kho pana bhavantaṃ gotamaṃ evaṃ kalyāṇo kittisaddo abbhuggato – ‘‘itipi so bhagavā arahaṃ sammāsambuddho vijjācaraṇasampanno sugato lokavidū anuttaro purisadammasārathi satthā devamanussānaṃ buddho bhagavā’’ti . Āyāma, bho bhāradvāja, yena samaṇo gotamo tenupasaṅkamissāma; upasaṅkamitvā etamatthaṃ samaṇaṃ gotamaṃ pucchissāma. Yathā no samaṇo gotamo byākarissati, tathā naṃ dhāressāmā’’ti. ‘‘Evaṃ, bho’’ti kho bhāradvājo māṇavo vāseṭṭhassa māṇavassa paccassosi.
มคฺคามคฺคกถา
Maggāmaggakathā
๕๒๒. อถ โข วาเสฎฺฐภารทฺวาชา มาณวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สโมฺมทิํสุฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข วาเสโฎฺฐ มาณโว ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ, โภ โคตม, อมฺหากํ ชงฺฆวิหารํ อนุจงฺกมนฺตานํ อนุวิจรนฺตานํ มคฺคามเคฺค กถา อุทปาทิฯ อหํ เอวํ วทามิ – ‘อยเมว อุชุมโคฺค, อยมญฺชสายโน นิยฺยานิโก นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส พฺรหฺมสหพฺยตาย, ยฺวายํ อกฺขาโต พฺราหฺมเณน โปกฺขรสาตินา’ติฯ ภารทฺวาโช มาณโว เอวมาห – ‘อยเมว อุชุมโคฺค อยมญฺชสายโน นิยฺยานิโก นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส พฺรหฺมสหพฺยตาย, ยฺวายํ อกฺขาโต พฺราหฺมเณน ตารุเกฺขนา’ติฯ เอตฺถ, โภ โคตม, อเตฺถว วิคฺคโห, อตฺถิ วิวาโท, อตฺถิ นานาวาโท’’ติฯ
522. Atha kho vāseṭṭhabhāradvājā māṇavā yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavatā saddhiṃ sammodiṃsu. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinno kho vāseṭṭho māṇavo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘idha, bho gotama, amhākaṃ jaṅghavihāraṃ anucaṅkamantānaṃ anuvicarantānaṃ maggāmagge kathā udapādi. Ahaṃ evaṃ vadāmi – ‘ayameva ujumaggo, ayamañjasāyano niyyāniko niyyāti takkarassa brahmasahabyatāya, yvāyaṃ akkhāto brāhmaṇena pokkharasātinā’ti. Bhāradvājo māṇavo evamāha – ‘ayameva ujumaggo ayamañjasāyano niyyāniko niyyāti takkarassa brahmasahabyatāya, yvāyaṃ akkhāto brāhmaṇena tārukkhenā’ti. Ettha, bho gotama, attheva viggaho, atthi vivādo, atthi nānāvādo’’ti.
๕๒๓. ‘‘อิติ กิร , วาเสฎฺฐ, ตฺวํ เอวํ วเทสิ – ‘‘อยเมว อุชุมโคฺค, อยมญฺชสายโน นิยฺยานิโก นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส พฺรหฺมสหพฺยตาย, ยฺวายํ อกฺขาโต พฺราหฺมเณน โปกฺขรสาตินา’’ติฯ ภารทฺวาโช มาณโว เอวมาห – ‘‘อยเมว อุชุมโคฺค อยมญฺชสายโน นิยฺยานิโก นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส พฺรหฺมสหพฺยตาย, ยฺวายํ อกฺขาโต พฺราหฺมเณน ตารุเกฺขนา’’ติฯ อถ กิสฺมิํ ปน โว, วาเสฎฺฐ, วิคฺคโห, กิสฺมิํ วิวาโท, กิสฺมิํ นานาวาโท’’ติ?
523. ‘‘Iti kira , vāseṭṭha, tvaṃ evaṃ vadesi – ‘‘ayameva ujumaggo, ayamañjasāyano niyyāniko niyyāti takkarassa brahmasahabyatāya, yvāyaṃ akkhāto brāhmaṇena pokkharasātinā’’ti. Bhāradvājo māṇavo evamāha – ‘‘ayameva ujumaggo ayamañjasāyano niyyāniko niyyāti takkarassa brahmasahabyatāya, yvāyaṃ akkhāto brāhmaṇena tārukkhenā’’ti. Atha kismiṃ pana vo, vāseṭṭha, viggaho, kismiṃ vivādo, kismiṃ nānāvādo’’ti?
๕๒๔. ‘‘มคฺคามเคฺค, โภ โคตมฯ กิญฺจาปิ, โภ โคตม, พฺราหฺมณา นานามเคฺค ปญฺญเปนฺติ, อทฺธริยา พฺราหฺมณา ติตฺติริยา พฺราหฺมณา ฉโนฺทกา พฺราหฺมณา พวฺหาริชฺฌา พฺราหฺมณา, อถ โข สพฺพานิ ตานิ นิยฺยานิกา นิยฺยนฺติ ตกฺกรสฺส พฺรหฺมสหพฺยตายฯ
524. ‘‘Maggāmagge, bho gotama. Kiñcāpi, bho gotama, brāhmaṇā nānāmagge paññapenti, addhariyā brāhmaṇā tittiriyā brāhmaṇā chandokā brāhmaṇā bavhārijjhā brāhmaṇā, atha kho sabbāni tāni niyyānikā niyyanti takkarassa brahmasahabyatāya.
‘‘เสยฺยถาปิ , โภ โคตม, คามสฺส วา นิคมสฺส วา อวิทูเร พหูนิ เจปิ นานามคฺคานิ ภวนฺติ, อถ โข สพฺพานิ ตานิ คามสโมสรณานิ ภวนฺติ; เอวเมว โข, โภ โคตม, กิญฺจาปิ พฺราหฺมณา นานามเคฺค ปญฺญเปนฺติ, อทฺธริยา พฺราหฺมณา ติตฺติริยา พฺราหฺมณา ฉโนฺทกา พฺราหฺมณา พวฺหาริชฺฌา พฺราหฺมณา, อถ โข สพฺพานิ ตานิ นิยฺยานิกา นิยฺยนฺติ ตกฺกรสฺส พฺรหฺมสหพฺยตายา’’ติฯ
‘‘Seyyathāpi , bho gotama, gāmassa vā nigamassa vā avidūre bahūni cepi nānāmaggāni bhavanti, atha kho sabbāni tāni gāmasamosaraṇāni bhavanti; evameva kho, bho gotama, kiñcāpi brāhmaṇā nānāmagge paññapenti, addhariyā brāhmaṇā tittiriyā brāhmaṇā chandokā brāhmaṇā bavhārijjhā brāhmaṇā, atha kho sabbāni tāni niyyānikā niyyanti takkarassa brahmasahabyatāyā’’ti.
วาเสฎฺฐมาณวานุโยโค
Vāseṭṭhamāṇavānuyogo
๕๒๕. ‘‘นิยฺยนฺตีติ วาเสฎฺฐ วเทสิ’’? ‘‘นิยฺยนฺตีติ, โภ โคตม, วทามิ’’ฯ ‘‘นิยฺยนฺตีติ, วาเสฎฺฐ, วเทสิ’’? ‘‘นิยฺยนฺตีติ, โภ โคตม, วทามิ’’ฯ ‘‘นิยฺยนฺตีติ, วาเสฎฺฐ, วเทสิ’’? ‘‘นิยฺยนฺตี’’ติ, โภ โคตม, วทามิ’’ฯ
525. ‘‘Niyyantīti vāseṭṭha vadesi’’? ‘‘Niyyantīti, bho gotama, vadāmi’’. ‘‘Niyyantīti, vāseṭṭha, vadesi’’? ‘‘Niyyantīti, bho gotama, vadāmi’’. ‘‘Niyyantīti, vāseṭṭha, vadesi’’? ‘‘Niyyantī’’ti, bho gotama, vadāmi’’.
‘‘กิํ ปน, วาเสฎฺฐ, อตฺถิ โกจิ เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ เอกพฺราหฺมโณปิ, เยน พฺรหฺมา สกฺขิทิโฎฺฐ’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’ ฯ
‘‘Kiṃ pana, vāseṭṭha, atthi koci tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ ekabrāhmaṇopi, yena brahmā sakkhidiṭṭho’’ti? ‘‘No hidaṃ, bho gotama’’ .
‘‘กิํ ปน, วาเสฎฺฐ, อตฺถิ โกจิ เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ เอกาจริโยปิ, เยน พฺรหฺมา สกฺขิทิโฎฺฐ’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’ฯ
‘‘Kiṃ pana, vāseṭṭha, atthi koci tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ ekācariyopi, yena brahmā sakkhidiṭṭho’’ti? ‘‘No hidaṃ, bho gotama’’.
‘‘กิํ ปน, วาเสฎฺฐ, อตฺถิ โกจิ เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ เอกาจริยปาจริโยปิ, เยน พฺรหฺมา สกฺขิทิโฎฺฐ’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’ฯ
‘‘Kiṃ pana, vāseṭṭha, atthi koci tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ ekācariyapācariyopi, yena brahmā sakkhidiṭṭho’’ti? ‘‘No hidaṃ, bho gotama’’.
‘‘กิํ ปน, วาเสฎฺฐ, อตฺถิ โกจิ เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ ยาว สตฺตมา อาจริยามหยุคา 1 เยน พฺรหฺมา สกฺขิทิโฎฺฐ’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’ฯ
‘‘Kiṃ pana, vāseṭṭha, atthi koci tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ yāva sattamā ācariyāmahayugā 2 yena brahmā sakkhidiṭṭho’’ti? ‘‘No hidaṃ, bho gotama’’.
๕๒๖. ‘‘กิํ ปน, วาเสฎฺฐ, เยปิ เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ ปุพฺพกา อิสโย มนฺตานํ กตฺตาโร มนฺตานํ ปวตฺตาโร, เยสมิทํ เอตรหิ เตวิชฺชา พฺราหฺมณา โปราณํ มนฺตปทํ คีตํ ปวุตฺตํ สมิหิตํ 3, ตทนุคายนฺติ, ตทนุภาสนฺติ, ภาสิตมนุภาสนฺติ, วาจิตมนุวาเจนฺติ, เสยฺยถิทํ – อฎฺฐโก วามโก วามเทโว เวสฺสามิโตฺต ยมตคฺคิ องฺคีรโส ภารทฺวาโช วาเสโฎฺฐ กสฺสโป ภคุฯ เตปิ เอวมาหํสุ – ‘มยเมตํ ชานาม, มยเมตํ ปสฺสาม, ยตฺถ วา พฺรหฺมา, เยน วา พฺรหฺมา, ยหิํ วา พฺรหฺมา’’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’ฯ
526. ‘‘Kiṃ pana, vāseṭṭha, yepi tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ pubbakā isayo mantānaṃ kattāro mantānaṃ pavattāro, yesamidaṃ etarahi tevijjā brāhmaṇā porāṇaṃ mantapadaṃ gītaṃ pavuttaṃ samihitaṃ 4, tadanugāyanti, tadanubhāsanti, bhāsitamanubhāsanti, vācitamanuvācenti, seyyathidaṃ – aṭṭhako vāmako vāmadevo vessāmitto yamataggi aṅgīraso bhāradvājo vāseṭṭho kassapo bhagu. Tepi evamāhaṃsu – ‘mayametaṃ jānāma, mayametaṃ passāma, yattha vā brahmā, yena vā brahmā, yahiṃ vā brahmā’’’ti? ‘‘No hidaṃ, bho gotama’’.
๕๒๗. ‘‘อิติ กิร, วาเสฎฺฐ, นตฺถิ โกจิ เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ เอกพฺราหฺมโณปิ, เยน พฺรหฺมา สกฺขิทิโฎฺฐฯ นตฺถิ โกจิ เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ เอกาจริโยปิ, เยน พฺรหฺมา สกฺขิทิโฎฺฐ ฯ นตฺถิ โกจิ เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ เอกาจริยปาจริโยปิ, เยน พฺรหฺมา สกฺขิทิโฎฺฐฯ นตฺถิ โกจิ เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ ยาว สตฺตมา อาจริยามหยุคา เยน พฺรหฺมา สกฺขิทิโฎฺฐฯ เยปิ กิร เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ ปุพฺพกา อิสโย มนฺตานํ กตฺตาโร มนฺตานํ ปวตฺตาโร, เยสมิทํ เอตรหิ เตวิชฺชา พฺราหฺมณา โปราณํ มนฺตปทํ คีตํ ปวุตฺตํ สมิหิตํ, ตทนุคายนฺติ, ตทนุภาสนฺติ, ภาสิตมนุภาสนฺติ, วาจิตมนุวาเจนฺติ, เสยฺยถิทํ – อฎฺฐโก วามโก วามเทโว เวสฺสามิโตฺต ยมตคฺคิ องฺคีรโส ภารทฺวาโช วาเสโฎฺฐ กสฺสโป ภคุ, เตปิ น เอวมาหํสุ – ‘มยเมตํ ชานาม, มยเมตํ ปสฺสาม, ยตฺถ วา พฺรหฺมา, เยน วา พฺรหฺมา, ยหิํ วา พฺรหฺมา’ติฯ เตว เตวิชฺชา พฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘ยํ น ชานาม, ยํ น ปสฺสาม, ตสฺส สหพฺยตาย มคฺคํ เทเสมฯ อยเมว อุชุมโคฺค อยมญฺชสายโน นิยฺยานิโก, นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส พฺรหฺมสหพฺยตายา’’’ติฯ
527. ‘‘Iti kira, vāseṭṭha, natthi koci tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ ekabrāhmaṇopi, yena brahmā sakkhidiṭṭho. Natthi koci tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ ekācariyopi, yena brahmā sakkhidiṭṭho . Natthi koci tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ ekācariyapācariyopi, yena brahmā sakkhidiṭṭho. Natthi koci tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ yāva sattamā ācariyāmahayugā yena brahmā sakkhidiṭṭho. Yepi kira tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ pubbakā isayo mantānaṃ kattāro mantānaṃ pavattāro, yesamidaṃ etarahi tevijjā brāhmaṇā porāṇaṃ mantapadaṃ gītaṃ pavuttaṃ samihitaṃ, tadanugāyanti, tadanubhāsanti, bhāsitamanubhāsanti, vācitamanuvācenti, seyyathidaṃ – aṭṭhako vāmako vāmadevo vessāmitto yamataggi aṅgīraso bhāradvājo vāseṭṭho kassapo bhagu, tepi na evamāhaṃsu – ‘mayametaṃ jānāma, mayametaṃ passāma, yattha vā brahmā, yena vā brahmā, yahiṃ vā brahmā’ti. Teva tevijjā brāhmaṇā evamāhaṃsu – ‘yaṃ na jānāma, yaṃ na passāma, tassa sahabyatāya maggaṃ desema. Ayameva ujumaggo ayamañjasāyano niyyāniko, niyyāti takkarassa brahmasahabyatāyā’’’ti.
๕๒๘. ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, วาเสฎฺฐ, นนุ เอวํ สเนฺต เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ อปฺปาฎิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, โภ โคตม, เอวํ สเนฺต เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ อปฺปาฎิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติฯ
528. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, vāseṭṭha, nanu evaṃ sante tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ appāṭihīrakataṃ bhāsitaṃ sampajjatī’’ti? ‘‘Addhā kho, bho gotama, evaṃ sante tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ appāṭihīrakataṃ bhāsitaṃ sampajjatī’’ti.
‘‘สาธุ, วาเสฎฺฐ, เต วต 5, วาเสฎฺฐ, เตวิชฺชา พฺราหฺมณา ยํ น ชานนฺติ, ยํ น ปสฺสนฺติ, ตสฺส สหพฺยตาย มคฺคํ เทเสสฺสนฺติฯ ‘อยเมว อุชุมโคฺค, อยมญฺชสายโน นิยฺยานิโก, นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส พฺรหฺมสหพฺยตายา’ติ, เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ
‘‘Sādhu, vāseṭṭha, te vata 6, vāseṭṭha, tevijjā brāhmaṇā yaṃ na jānanti, yaṃ na passanti, tassa sahabyatāya maggaṃ desessanti. ‘Ayameva ujumaggo, ayamañjasāyano niyyāniko, niyyāti takkarassa brahmasahabyatāyā’ti, netaṃ ṭhānaṃ vijjati.
๕๒๙. ‘‘เสยฺยถาปิ, วาเสฎฺฐ, อนฺธเวณิ ปรมฺปรสํสตฺตา ปุริโมปิ น ปสฺสติ, มชฺฌิโมปิ น ปสฺสติ, ปจฺฉิโมปิ น ปสฺสติฯ เอวเมว โข, วาเสฎฺฐ, อนฺธเวณูปมํ มเญฺญ เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ ภาสิตํ, ปุริโมปิ น ปสฺสติ, มชฺฌิโมปิ น ปสฺสติ, ปจฺฉิโมปิ น ปสฺสติฯ เตสมิทํ เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ ภาสิตํ หสฺสกเญฺญว สมฺปชฺชติ, นามกเญฺญว สมฺปชฺชติ, ริตฺตกเญฺญว สมฺปชฺชติ, ตุจฺฉกเญฺญว สมฺปชฺชติฯ
529. ‘‘Seyyathāpi, vāseṭṭha, andhaveṇi paramparasaṃsattā purimopi na passati, majjhimopi na passati, pacchimopi na passati. Evameva kho, vāseṭṭha, andhaveṇūpamaṃ maññe tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ bhāsitaṃ, purimopi na passati, majjhimopi na passati, pacchimopi na passati. Tesamidaṃ tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ bhāsitaṃ hassakaññeva sampajjati, nāmakaññeva sampajjati, rittakaññeva sampajjati, tucchakaññeva sampajjati.
๕๓๐. ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, วาเสฎฺฐ, ปสฺสนฺติ เตวิชฺชา พฺราหฺมณา จนฺทิมสูริเย, อเญฺญ จาปิ พหุชนา, ยโต จ จนฺทิมสูริยา อุคฺคจฺฉนฺติ, ยตฺถ จ โอคจฺฉนฺติ, อายาจนฺติ โถมยนฺติ ปญฺชลิกา นมสฺสมานา อนุปริวตฺตนฺตี’’ติ?
530. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, vāseṭṭha, passanti tevijjā brāhmaṇā candimasūriye, aññe cāpi bahujanā, yato ca candimasūriyā uggacchanti, yattha ca ogacchanti, āyācanti thomayanti pañjalikā namassamānā anuparivattantī’’ti?
‘‘เอวํ, โภ โคตม, ปสฺสนฺติ เตวิชฺชา พฺราหฺมณา จนฺทิมสูริเย, อเญฺญ จาปิ พหุชนา, ยโต จ จนฺทิมสูริยา อุคฺคจฺฉนฺติ, ยตฺถ จ โอคจฺฉนฺติ, อายาจนฺติ โถมยนฺติ ปญฺชลิกา นมสฺสมานา อนุปริวตฺตนฺตี’’ติฯ
‘‘Evaṃ, bho gotama, passanti tevijjā brāhmaṇā candimasūriye, aññe cāpi bahujanā, yato ca candimasūriyā uggacchanti, yattha ca ogacchanti, āyācanti thomayanti pañjalikā namassamānā anuparivattantī’’ti.
๕๓๑. ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, วาเสฎฺฐ, ยํ ปสฺสนฺติ เตวิชฺชา พฺราหฺมณา จนฺทิมสูริเย, อเญฺญ จาปิ พหุชนา, ยโต จ จนฺทิมสูริยา อุคฺคจฺฉนฺติ, ยตฺถ จ โอคจฺฉนฺติ, อายาจนฺติ โถมยนฺติ ปญฺชลิกา นมสฺสมานา อนุปริวตฺตนฺติ, ปโหนฺติ เตวิชฺชา พฺราหฺมณา จนฺทิมสูริยานํ สหพฺยตาย มคฺคํ เทเสตุํ – ‘‘อยเมว อุชุมโคฺค, อยมญฺชสายโน นิยฺยานิโก, นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส จนฺทิมสูริยานํ สหพฺยตายา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’ฯ
531. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, vāseṭṭha, yaṃ passanti tevijjā brāhmaṇā candimasūriye, aññe cāpi bahujanā, yato ca candimasūriyā uggacchanti, yattha ca ogacchanti, āyācanti thomayanti pañjalikā namassamānā anuparivattanti, pahonti tevijjā brāhmaṇā candimasūriyānaṃ sahabyatāya maggaṃ desetuṃ – ‘‘ayameva ujumaggo, ayamañjasāyano niyyāniko, niyyāti takkarassa candimasūriyānaṃ sahabyatāyā’’ti? ‘‘No hidaṃ, bho gotama’’.
‘‘อิติ กิร, วาเสฎฺฐ, ยํ ปสฺสนฺติ เตวิชฺชา พฺราหฺมณา จนฺทิมสูริเย, อเญฺญ จาปิ พหุชนา, ยโต จ จนฺทิมสูริยา อุคฺคจฺฉนฺติ, ยตฺถ จ โอคจฺฉนฺติ, อายาจนฺติ โถมยนฺติ ปญฺชลิกา นมสฺสมานา อนุปริวตฺตนฺติ, เตสมฺปิ นปฺปโหนฺติ จนฺทิมสูริยานํ สหพฺยตาย มคฺคํ เทเสตุํ – ‘‘อยเมว อุชุมโคฺค, อยมญฺชสายโน นิยฺยานิโก, นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส จนฺทิมสูริยานํ สหพฺยตายา’’ติฯ
‘‘Iti kira, vāseṭṭha, yaṃ passanti tevijjā brāhmaṇā candimasūriye, aññe cāpi bahujanā, yato ca candimasūriyā uggacchanti, yattha ca ogacchanti, āyācanti thomayanti pañjalikā namassamānā anuparivattanti, tesampi nappahonti candimasūriyānaṃ sahabyatāya maggaṃ desetuṃ – ‘‘ayameva ujumaggo, ayamañjasāyano niyyāniko, niyyāti takkarassa candimasūriyānaṃ sahabyatāyā’’ti.
๕๓๒. ‘‘อิติ ปน 7 น กิร เตวิเชฺชหิ พฺราหฺมเณหิ พฺรหฺมา สกฺขิทิโฎฺฐฯ นปิ กิร เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ อาจริเยหิ พฺรหฺมา สกฺขิทิโฎฺฐฯ นปิ กิร เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ อาจริยปาจริเยหิ พฺรหฺมา สกฺขิทิโฎฺฐฯ นปิ กิร เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ ยาว สตฺตมา 8 อาจริยามหยุเคหิ พฺรหฺมา สกฺขิทิโฎฺฐฯ เยปิ กิร เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ ปุพฺพกา อิสโย มนฺตานํ กตฺตาโร มนฺตานํ ปวตฺตาโร, เยสมิทํ เอตรหิ เตวิชฺชา พฺราหฺมณา โปราณํ มนฺตปทํ คีตํ ปวุตฺตํ สมิหิตํ, ตทนุคายนฺติ, ตทนุภาสนฺติ, ภาสิตมนุภาสนฺติ, วาจิตมนุวาเจนฺติ, เสยฺยถิทํ – อฎฺฐโก วามโก วามเทโว เวสฺสามิโตฺต ยมตคฺคิ องฺคีรโส ภารทฺวาโช วาเสโฎฺฐ กสฺสโป ภคุ, เตปิ น เอวมาหํสุ – ‘‘มยเมตํ ชานาม, มยเมตํ ปสฺสาม, ยตฺถ วา พฺรหฺมา, เยน วา พฺรหฺมา, ยหิํ วา พฺรหฺมา’’ติฯ เตว เตวิชฺชา พฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘‘ยํ น ชานาม, ยํ น ปสฺสาม, ตสฺส สหพฺยตาย มคฺคํ เทเสม – อยเมว อุชุมโคฺค อยมญฺชสายโน นิยฺยานิโก นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส พฺรหฺมสหพฺยตายา’’ติฯ
532. ‘‘Iti pana 9 na kira tevijjehi brāhmaṇehi brahmā sakkhidiṭṭho. Napi kira tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ ācariyehi brahmā sakkhidiṭṭho. Napi kira tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ ācariyapācariyehi brahmā sakkhidiṭṭho. Napi kira tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ yāva sattamā 10 ācariyāmahayugehi brahmā sakkhidiṭṭho. Yepi kira tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ pubbakā isayo mantānaṃ kattāro mantānaṃ pavattāro, yesamidaṃ etarahi tevijjā brāhmaṇā porāṇaṃ mantapadaṃ gītaṃ pavuttaṃ samihitaṃ, tadanugāyanti, tadanubhāsanti, bhāsitamanubhāsanti, vācitamanuvācenti, seyyathidaṃ – aṭṭhako vāmako vāmadevo vessāmitto yamataggi aṅgīraso bhāradvājo vāseṭṭho kassapo bhagu, tepi na evamāhaṃsu – ‘‘mayametaṃ jānāma, mayametaṃ passāma, yattha vā brahmā, yena vā brahmā, yahiṃ vā brahmā’’ti. Teva tevijjā brāhmaṇā evamāhaṃsu – ‘‘yaṃ na jānāma, yaṃ na passāma, tassa sahabyatāya maggaṃ desema – ayameva ujumaggo ayamañjasāyano niyyāniko niyyāti takkarassa brahmasahabyatāyā’’ti.
๕๓๓. ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, วาเสฎฺฐ, นนุ เอวํ สเนฺต เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ อปฺปาฎิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, โภ โคตม , เอวํ สเนฺต เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ อปฺปาฎิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติฯ
533. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, vāseṭṭha, nanu evaṃ sante tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ appāṭihīrakataṃ bhāsitaṃ sampajjatī’’ti? ‘‘Addhā kho, bho gotama , evaṃ sante tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ appāṭihīrakataṃ bhāsitaṃ sampajjatī’’ti.
‘‘สาธุ, วาเสฎฺฐ, เต วต, วาเสฎฺฐ, เตวิชฺชา พฺราหฺมณา ยํ น ชานนฺติ, ยํ น ปสฺสนฺติ, ตสฺส สหพฺยตาย มคฺคํ เทเสสฺสนฺติ – ‘‘อยเมว อุชุมโคฺค, อยมญฺชสายโน นิยฺยานิโก, นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส พฺรหฺมสหพฺยตายา’’ติ, เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ
‘‘Sādhu, vāseṭṭha, te vata, vāseṭṭha, tevijjā brāhmaṇā yaṃ na jānanti, yaṃ na passanti, tassa sahabyatāya maggaṃ desessanti – ‘‘ayameva ujumaggo, ayamañjasāyano niyyāniko, niyyāti takkarassa brahmasahabyatāyā’’ti, netaṃ ṭhānaṃ vijjati.
ชนปทกลฺยาณีอุปมา
Janapadakalyāṇīupamā
๕๓๔. ‘‘เสยฺยถาปิ, วาเสฎฺฐ, ปุริโส เอวํ วเทยฺย – ‘‘อหํ ยา อิมสฺมิํ ชนปเท ชนปทกลฺยาณี, ตํ อิจฺฉามิ, ตํ กาเมมี’’ติฯ ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘‘อโมฺภ ปุริส, ยํ ตฺวํ ชนปทกลฺยาณิํ อิจฺฉสิ กาเมสิ, ชานาสิ ตํ ชนปทกลฺยาณิํ – ขตฺติยี วา พฺราหฺมณี วา เวสฺสี วา สุทฺที วา’’ติ? อิติ ปุโฎฺฐ ‘‘โน’’ติ วเทยฺยฯ
534. ‘‘Seyyathāpi, vāseṭṭha, puriso evaṃ vadeyya – ‘‘ahaṃ yā imasmiṃ janapade janapadakalyāṇī, taṃ icchāmi, taṃ kāmemī’’ti. Tamenaṃ evaṃ vadeyyuṃ – ‘‘ambho purisa, yaṃ tvaṃ janapadakalyāṇiṃ icchasi kāmesi, jānāsi taṃ janapadakalyāṇiṃ – khattiyī vā brāhmaṇī vā vessī vā suddī vā’’ti? Iti puṭṭho ‘‘no’’ti vadeyya.
‘‘ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘‘อโมฺภ ปุริส, ยํ ตฺวํ ชนปทกลฺยาณิํ อิจฺฉสิ กาเมสิ, ชานาสิ ตํ ชนปทกลฺยาณิํ – เอวํนามา เอวํโคตฺตาติ วา, ทีฆา วา รสฺสา วา มชฺฌิมา วา กาฬี วา สามา วา มงฺคุรจฺฉวี วาติ, อมุกสฺมิํ คาเม วา นิคเม วา นคเร วา’’ติ? อิติ ปุโฎฺฐ ‘โน’ติ วเทยฺยฯ ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘‘อโมฺภ ปุริส, ยํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ, ตํ ตฺวํ อิจฺฉสิ กาเมสี’’ติ? อิติ ปุโฎฺฐ ‘‘อามา’’ติ วเทยฺยฯ
‘‘Tamenaṃ evaṃ vadeyyuṃ – ‘‘ambho purisa, yaṃ tvaṃ janapadakalyāṇiṃ icchasi kāmesi, jānāsi taṃ janapadakalyāṇiṃ – evaṃnāmā evaṃgottāti vā, dīghā vā rassā vā majjhimā vā kāḷī vā sāmā vā maṅguracchavī vāti, amukasmiṃ gāme vā nigame vā nagare vā’’ti? Iti puṭṭho ‘no’ti vadeyya. Tamenaṃ evaṃ vadeyyuṃ – ‘‘ambho purisa, yaṃ tvaṃ na jānāsi na passasi, taṃ tvaṃ icchasi kāmesī’’ti? Iti puṭṭho ‘‘āmā’’ti vadeyya.
๕๓๕. ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, วาเสฎฺฐ, นนุ เอวํ สเนฺต ตสฺส ปุริสสฺส อปฺปาฎิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, โภ โคตม, เอวํ สเนฺต ตสฺส ปุริสสฺส อปฺปาฎิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติฯ
535. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, vāseṭṭha, nanu evaṃ sante tassa purisassa appāṭihīrakataṃ bhāsitaṃ sampajjatī’’ti? ‘‘Addhā kho, bho gotama, evaṃ sante tassa purisassa appāṭihīrakataṃ bhāsitaṃ sampajjatī’’ti.
๕๓๖. ‘‘เอวเมว โข, วาเสฎฺฐ, น กิร เตวิเชฺชหิ พฺราหฺมเณหิ พฺรหฺมา สกฺขิทิโฎฺฐ, นปิ กิร เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ อาจริเยหิ พฺรหฺมา สกฺขิทิโฎฺฐ, นปิ กิร เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ อาจริยปาจริเยหิ พฺรหฺมา สกฺขิทิโฎฺฐฯ นปิ กิร เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ ยาว สตฺตมา อาจริยามหยุเคหิ พฺรหฺมา สกฺขิทิโฎฺฐฯ เยปิ กิร เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ ปุพฺพกา อิสโย มนฺตานํ กตฺตาโร มนฺตานํ ปวตฺตาโร, เยสมิทํ เอตรหิ เตวิชฺชา พฺราหฺมณา โปราณํ มนฺตปทํ คีตํ ปวุตฺตํ สมิหิตํ, ตทนุคายนฺติ, ตทนุภาสนฺติ, ภาสิตมนุภาสนฺติ, วาจิตมนุวาเจนฺติ , เสยฺยถิทํ – อฎฺฐโก วามโก วามเทโว เวสฺสามิโตฺต ยมตคฺคิ องฺคีรโส ภารทฺวาโช วาเสโฎฺฐ กสฺสโป ภคุ, เตปิ น เอวมาหํสุ – ‘‘มยเมตํ ชานาม, มยเมตํ ปสฺสาม, ยตฺถ วา พฺรหฺมา, เยน วา พฺรหฺมา, ยหิํ วา พฺรหฺมา’’ติฯ เตว เตวิชฺชา พฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘‘ยํ น ชานาม, ยํ น ปสฺสาม, ตสฺส สหพฺยตาย มคฺคํ เทเสม – อยเมว อุชุมโคฺค อยมญฺชสายโน นิยฺยานิโก นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส พฺรหฺมสหพฺยตายา’’ติฯ
536. ‘‘Evameva kho, vāseṭṭha, na kira tevijjehi brāhmaṇehi brahmā sakkhidiṭṭho, napi kira tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ ācariyehi brahmā sakkhidiṭṭho, napi kira tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ ācariyapācariyehi brahmā sakkhidiṭṭho. Napi kira tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ yāva sattamā ācariyāmahayugehi brahmā sakkhidiṭṭho. Yepi kira tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ pubbakā isayo mantānaṃ kattāro mantānaṃ pavattāro, yesamidaṃ etarahi tevijjā brāhmaṇā porāṇaṃ mantapadaṃ gītaṃ pavuttaṃ samihitaṃ, tadanugāyanti, tadanubhāsanti, bhāsitamanubhāsanti, vācitamanuvācenti , seyyathidaṃ – aṭṭhako vāmako vāmadevo vessāmitto yamataggi aṅgīraso bhāradvājo vāseṭṭho kassapo bhagu, tepi na evamāhaṃsu – ‘‘mayametaṃ jānāma, mayametaṃ passāma, yattha vā brahmā, yena vā brahmā, yahiṃ vā brahmā’’ti. Teva tevijjā brāhmaṇā evamāhaṃsu – ‘‘yaṃ na jānāma, yaṃ na passāma, tassa sahabyatāya maggaṃ desema – ayameva ujumaggo ayamañjasāyano niyyāniko niyyāti takkarassa brahmasahabyatāyā’’ti.
๕๓๗. ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, วาเสฎฺฐ, นนุ เอวํ สเนฺต เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ อปฺปาฎิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, โภ โคตม, เอวํ สเนฺต เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ อปฺปาฎิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติฯ
537. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, vāseṭṭha, nanu evaṃ sante tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ appāṭihīrakataṃ bhāsitaṃ sampajjatī’’ti? ‘‘Addhā kho, bho gotama, evaṃ sante tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ appāṭihīrakataṃ bhāsitaṃ sampajjatī’’ti.
‘‘สาธุ, วาเสฎฺฐ, เต วต, วาเสฎฺฐ, เตวิชฺชา พฺราหฺมณา ยํ น ชานนฺติ, ยํ น ปสฺสนฺติ, ตสฺส สหพฺยตาย มคฺคํ เทเสสฺสนฺติ – อยเมว อุชุมโคฺค อยมญฺชสายโน นิยฺยานิโก นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส พฺรหฺมสหพฺยตายาติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ
‘‘Sādhu, vāseṭṭha, te vata, vāseṭṭha, tevijjā brāhmaṇā yaṃ na jānanti, yaṃ na passanti, tassa sahabyatāya maggaṃ desessanti – ayameva ujumaggo ayamañjasāyano niyyāniko niyyāti takkarassa brahmasahabyatāyāti netaṃ ṭhānaṃ vijjati.
นิเสฺสณีอุปมา
Nisseṇīupamā
๕๓๘. ‘‘เสยฺยถาปิ , วาเสฎฺฐ, ปุริโส จาตุมหาปเถ นิเสฺสณิํ กเรยฺย – ปาสาทสฺส อาโรหณายฯ ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘‘อโมฺภ ปุริส, ยสฺส ตฺวํ 11 ปาสาทสฺส อาโรหณาย นิเสฺสณิํ กโรสิ, ชานาสิ ตํ ปาสาทํ – ปุรตฺถิมาย วา ทิสาย ทกฺขิณาย วา ทิสาย ปจฺฉิมาย วา ทิสาย อุตฺตราย วา ทิสาย อุโจฺจ วา นีโจ วา มชฺฌิโม วา’’ติ? อิติ ปุโฎฺฐ ‘‘โน’’ติ วเทยฺยฯ
538. ‘‘Seyyathāpi , vāseṭṭha, puriso cātumahāpathe nisseṇiṃ kareyya – pāsādassa ārohaṇāya. Tamenaṃ evaṃ vadeyyuṃ – ‘‘ambho purisa, yassa tvaṃ 12 pāsādassa ārohaṇāya nisseṇiṃ karosi, jānāsi taṃ pāsādaṃ – puratthimāya vā disāya dakkhiṇāya vā disāya pacchimāya vā disāya uttarāya vā disāya ucco vā nīco vā majjhimo vā’’ti? Iti puṭṭho ‘‘no’’ti vadeyya.
‘‘ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘‘อโมฺภ ปุริส, ยํ ตฺวํ น ชานาสิ, น ปสฺสสิ, ตสฺส ตฺวํ ปาสาทสฺส อาโรหณาย นิเสฺสณิํ กโรสี’’ติ? อิติ ปุโฎฺฐ ‘‘อามา’’ติ วเทยฺยฯ
‘‘Tamenaṃ evaṃ vadeyyuṃ – ‘‘ambho purisa, yaṃ tvaṃ na jānāsi, na passasi, tassa tvaṃ pāsādassa ārohaṇāya nisseṇiṃ karosī’’ti? Iti puṭṭho ‘‘āmā’’ti vadeyya.
๕๓๙. ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, วาเสฎฺฐ, นนุ เอวํ สเนฺต ตสฺส ปุริสสฺส อปฺปาฎิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, โภ โคตม, เอวํ สเนฺต ตสฺส ปุริสสฺส อปฺปาฎิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติฯ
539. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, vāseṭṭha, nanu evaṃ sante tassa purisassa appāṭihīrakataṃ bhāsitaṃ sampajjatī’’ti? ‘‘Addhā kho, bho gotama, evaṃ sante tassa purisassa appāṭihīrakataṃ bhāsitaṃ sampajjatī’’ti.
๕๔๐. ‘‘เอวเมว โข, วาเสฎฺฐ, น กิร เตวิเชฺชหิ พฺราหฺมเณหิ พฺรหฺมา สกฺขิทิโฎฺฐ, นปิ กิร เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ อาจริเยหิ พฺรหฺมา สกฺขิทิโฎฺฐ, นปิ กิร เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ อาจริยปาจริเยหิ พฺรหฺมา สกฺขิทิโฎฺฐ, นปิ กิร เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ ยาว สตฺตมา อาจริยามหยุเคหิ พฺรหฺมา สกฺขิทิโฎฺฐฯ เยปิ กิร เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ ปุพฺพกา อิสโย มนฺตานํ กตฺตาโร มนฺตานํ ปวตฺตาโร, เยสมิทํ เอตรหิ เตวิชฺชา พฺราหฺมณา โปราณํ มนฺตปทํ คีตํ ปวุตฺตํ สมิหิตํ, ตทนุคายนฺติ, ตทนุภาสนฺติ, ภาสิตมนุภาสนฺติ, วาจิตมนุวาเจนฺติ, เสยฺยถิทํ – อฎฺฐโก วามโก วามเทโว เวสฺสามิโตฺต ยมตคฺคิ องฺคีรโส ภารทฺวาโช วาเสโฎฺฐ กสฺสโป ภคุ, เตปิ น เอวมาหํสุ – มยเมตํ ชานาม , มยเมตํ ปสฺสาม, ยตฺถ วา พฺรหฺมา, เยน วา พฺรหฺมา, ยหิํ วา พฺรหฺมาติฯ เตว เตวิชฺชา พฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘‘ยํ น ชานาม, ยํ น ปสฺสาม, ตสฺส สหพฺยตาย มคฺคํ เทเสม, อยเมว อุชุมโคฺค อยมญฺชสายโน นิยฺยานิโก นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส พฺรหฺมสหพฺยตายา’’ติฯ
540. ‘‘Evameva kho, vāseṭṭha, na kira tevijjehi brāhmaṇehi brahmā sakkhidiṭṭho, napi kira tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ ācariyehi brahmā sakkhidiṭṭho, napi kira tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ ācariyapācariyehi brahmā sakkhidiṭṭho, napi kira tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ yāva sattamā ācariyāmahayugehi brahmā sakkhidiṭṭho. Yepi kira tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ pubbakā isayo mantānaṃ kattāro mantānaṃ pavattāro, yesamidaṃ etarahi tevijjā brāhmaṇā porāṇaṃ mantapadaṃ gītaṃ pavuttaṃ samihitaṃ, tadanugāyanti, tadanubhāsanti, bhāsitamanubhāsanti, vācitamanuvācenti, seyyathidaṃ – aṭṭhako vāmako vāmadevo vessāmitto yamataggi aṅgīraso bhāradvājo vāseṭṭho kassapo bhagu, tepi na evamāhaṃsu – mayametaṃ jānāma , mayametaṃ passāma, yattha vā brahmā, yena vā brahmā, yahiṃ vā brahmāti. Teva tevijjā brāhmaṇā evamāhaṃsu – ‘‘yaṃ na jānāma, yaṃ na passāma, tassa sahabyatāya maggaṃ desema, ayameva ujumaggo ayamañjasāyano niyyāniko niyyāti takkarassa brahmasahabyatāyā’’ti.
๕๔๑. ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, วาเสฎฺฐ, นนุ เอวํ สเนฺต เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ อปฺปาฎิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, โภ โคตม, เอวํ สเนฺต เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ อปฺปาฎิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติฯ
541. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, vāseṭṭha, nanu evaṃ sante tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ appāṭihīrakataṃ bhāsitaṃ sampajjatī’’ti? ‘‘Addhā kho, bho gotama, evaṃ sante tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ appāṭihīrakataṃ bhāsitaṃ sampajjatī’’ti.
‘‘สาธุ, วาเสฎฺฐฯ เต วต, วาเสฎฺฐ, เตวิชฺชา พฺราหฺมณา ยํ น ชานนฺติ, ยํ น ปสฺสนฺติ, ตสฺส สหพฺยตาย มคฺคํ เทเสสฺสนฺติฯ อยเมว อุชุมโคฺค อยมญฺชสายโน นิยฺยานิโก นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส พฺรหฺมสพฺยตายาติ, เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ
‘‘Sādhu, vāseṭṭha. Te vata, vāseṭṭha, tevijjā brāhmaṇā yaṃ na jānanti, yaṃ na passanti, tassa sahabyatāya maggaṃ desessanti. Ayameva ujumaggo ayamañjasāyano niyyāniko niyyāti takkarassa brahmasabyatāyāti, netaṃ ṭhānaṃ vijjati.
อจิรวตีนทีอุปมา
Aciravatīnadīupamā
๕๔๒. ‘‘เสยฺยถาปิ, วาเสฎฺฐ, อยํ อจิรวตี นที ปูรา อุทกสฺส สมติตฺติกา กากเปยฺยาฯ อถ ปุริโส อาคเจฺฉยฺย ปารตฺถิโก ปารคเวสี ปารคามี ปารํ ตริตุกาโมฯ โส โอริเม ตีเร ฐิโต ปาริมํ ตีรํ อเวฺหยฺย – ‘‘เอหิ ปาราปารํ, เอหิ ปาราปาร’’นฺติฯ
542. ‘‘Seyyathāpi, vāseṭṭha, ayaṃ aciravatī nadī pūrā udakassa samatittikā kākapeyyā. Atha puriso āgaccheyya pāratthiko pāragavesī pāragāmī pāraṃ taritukāmo. So orime tīre ṭhito pārimaṃ tīraṃ avheyya – ‘‘ehi pārāpāraṃ, ehi pārāpāra’’nti.
๕๔๓. ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, วาเสฎฺฐ, อปิ นุ ตสฺส ปุริสสฺส อวฺหายนเหตุ วา อายาจนเหตุ วา ปตฺถนเหตุ วา อภินนฺทนเหตุ วา อจิรวติยา นทิยา ปาริมํ ตีรํ โอริมํ ตีรํ อาคเจฺฉยฺยา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’ฯ
543. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, vāseṭṭha, api nu tassa purisassa avhāyanahetu vā āyācanahetu vā patthanahetu vā abhinandanahetu vā aciravatiyā nadiyā pārimaṃ tīraṃ orimaṃ tīraṃ āgaccheyyā’’ti? ‘‘No hidaṃ, bho gotama’’.
๕๔๔. ‘‘เอวเมว โข, วาเสฎฺฐ, เตวิชฺชา พฺราหฺมณา เย ธมฺมา พฺราหฺมณการกา เต ธเมฺม ปหาย วตฺตมานา, เย ธมฺมา อพฺราหฺมณการกา เต ธเมฺม สมาทาย วตฺตมานา เอวมาหํสุ – ‘‘อินฺทมวฺหยาม, โสมมวฺหยาม, วรุณมวฺหยาม, อีสานมวฺหยาม, ปชาปติมวฺหยาม, พฺรหฺมมวฺหยาม, มหิทฺธิมวฺหยาม, ยมมวฺหยามา’’ติฯ
544. ‘‘Evameva kho, vāseṭṭha, tevijjā brāhmaṇā ye dhammā brāhmaṇakārakā te dhamme pahāya vattamānā, ye dhammā abrāhmaṇakārakā te dhamme samādāya vattamānā evamāhaṃsu – ‘‘indamavhayāma, somamavhayāma, varuṇamavhayāma, īsānamavhayāma, pajāpatimavhayāma, brahmamavhayāma, mahiddhimavhayāma, yamamavhayāmā’’ti.
‘‘เต วต, วาเสฎฺฐ, เตวิชฺชา พฺราหฺมณา เย ธมฺมา พฺราหฺมณการกา เต ธเมฺม ปหาย วตฺตมานา, เย ธมฺมา อพฺราหฺมณการกา เต ธเมฺม สมาทาย วตฺตมานา อวฺหายนเหตุ วา อายาจนเหตุ วา ปตฺถนเหตุ วา อภินนฺทนเหตุ วา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา พฺรหฺมานํ สหพฺยูปคา ภวิสฺสนฺตี’’ติ, เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ
‘‘Te vata, vāseṭṭha, tevijjā brāhmaṇā ye dhammā brāhmaṇakārakā te dhamme pahāya vattamānā, ye dhammā abrāhmaṇakārakā te dhamme samādāya vattamānā avhāyanahetu vā āyācanahetu vā patthanahetu vā abhinandanahetu vā kāyassa bhedā paraṃ maraṇā brahmānaṃ sahabyūpagā bhavissantī’’ti, netaṃ ṭhānaṃ vijjati.
๕๔๕. ‘‘เสยฺยถาปิ, วาเสฎฺฐ, อยํ อจิรวตี นที ปูรา อุทกสฺส สมติตฺติกา กากเปยฺยาฯ อถ ปุริโส อาคเจฺฉยฺย ปารตฺถิโก ปารคเวสี ปารคามี ปารํ ตริตุกาโมฯ โส โอริเม ตีเร ทฬฺหาย อนฺทุยา ปจฺฉาพาหํ คาฬฺหพนฺธนํ พโทฺธฯ
545. ‘‘Seyyathāpi, vāseṭṭha, ayaṃ aciravatī nadī pūrā udakassa samatittikā kākapeyyā. Atha puriso āgaccheyya pāratthiko pāragavesī pāragāmī pāraṃ taritukāmo. So orime tīre daḷhāya anduyā pacchābāhaṃ gāḷhabandhanaṃ baddho.
‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, วาเสฎฺฐ, อปิ นุ โส ปุริโส อจิรวติยา นทิยา โอริมา ตีรา ปาริมํ ตีรํ คเจฺฉยฺยา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’ฯ
‘‘Taṃ kiṃ maññasi, vāseṭṭha, api nu so puriso aciravatiyā nadiyā orimā tīrā pārimaṃ tīraṃ gaccheyyā’’ti? ‘‘No hidaṃ, bho gotama’’.
๕๔๖. ‘‘เอวเมว โข, วาเสฎฺฐ, ปญฺจิเม กามคุณา อริยสฺส วินเย อนฺทูติปิ วุจฺจนฺติ, พนฺธนนฺติปิ วุจฺจนฺติฯ กตเม ปญฺจ? จกฺขุวิเญฺญยฺยา รูปา อิฎฺฐา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียาฯ โสตวิเญฺญยฺยา สทฺทา…เป.… ฆานวิเญฺญยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิเญฺญยฺยา รสา… กายวิเญฺญยฺยา โผฎฺฐพฺพา อิฎฺฐา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียาฯ
546. ‘‘Evameva kho, vāseṭṭha, pañcime kāmaguṇā ariyassa vinaye andūtipi vuccanti, bandhanantipi vuccanti. Katame pañca? Cakkhuviññeyyā rūpā iṭṭhā kantā manāpā piyarūpā kāmūpasaṃhitā rajanīyā. Sotaviññeyyā saddā…pe… ghānaviññeyyā gandhā… jivhāviññeyyā rasā… kāyaviññeyyā phoṭṭhabbā iṭṭhā kantā manāpā piyarūpā kāmūpasaṃhitā rajanīyā.
‘‘อิเม โข, วาเสฎฺฐ, ปญฺจ กามคุณา อริยสฺส วินเย อนฺทูติปิ วุจฺจนฺติ, พนฺธนนฺติปิ วุจฺจนฺติ ฯ อิเม โข วาเสฎฺฐ ปญฺจ กามคุเณ เตวิชฺชา พฺราหฺมณา คธิตา มุจฺฉิตา อโชฺฌปนฺนา อนาทีนวทสฺสาวิโน อนิสฺสรณปญฺญา ปริภุญฺชนฺติฯ เต วต, วาเสฎฺฐ, เตวิชฺชา พฺราหฺมณา เย ธมฺมา พฺราหฺมณการกา, เต ธเมฺม ปหาย วตฺตมานา, เย ธมฺมา อพฺราหฺมณการกา, เต ธเมฺม สมาทาย วตฺตมานา ปญฺจ กามคุเณ คธิตา มุจฺฉิตา อโชฺฌปนฺนา อนาทีนวทสฺสาวิโน อนิสฺสรณปญฺญา ปริภุญฺชนฺตา กามนฺทุพนฺธนพทฺธา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา พฺรหฺมานํ สหพฺยูปคา ภวิสฺสนฺตี’’ติ, เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ
‘‘Ime kho, vāseṭṭha, pañca kāmaguṇā ariyassa vinaye andūtipi vuccanti, bandhanantipi vuccanti . Ime kho vāseṭṭha pañca kāmaguṇe tevijjā brāhmaṇā gadhitā mucchitā ajjhopannā anādīnavadassāvino anissaraṇapaññā paribhuñjanti. Te vata, vāseṭṭha, tevijjā brāhmaṇā ye dhammā brāhmaṇakārakā, te dhamme pahāya vattamānā, ye dhammā abrāhmaṇakārakā, te dhamme samādāya vattamānā pañca kāmaguṇe gadhitā mucchitā ajjhopannā anādīnavadassāvino anissaraṇapaññā paribhuñjantā kāmandubandhanabaddhā kāyassa bhedā paraṃ maraṇā brahmānaṃ sahabyūpagā bhavissantī’’ti, netaṃ ṭhānaṃ vijjati.
๕๔๗. ‘‘เสยฺยถาปิ , วาเสฎฺฐ, อยํ อจิรวตี นที ปูรา อุทกสฺส สมติตฺติกา กากเปยฺยาฯ อถ ปุริโส อาคเจฺฉยฺย ปารตฺถิโก ปารคเวสี ปารคามี ปารํ ตริตุกาโมฯ โส โอริเม ตีเร สสีสํ ปารุปิตฺวา นิปเชฺชยฺยฯ
547. ‘‘Seyyathāpi , vāseṭṭha, ayaṃ aciravatī nadī pūrā udakassa samatittikā kākapeyyā. Atha puriso āgaccheyya pāratthiko pāragavesī pāragāmī pāraṃ taritukāmo. So orime tīre sasīsaṃ pārupitvā nipajjeyya.
‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, วาเสฎฺฐ, อปิ นุ โส ปุริโส อจิรวติยา นทิยา โอริมา ตีรา ปาริมํ ตีรํ คเจฺฉยฺยา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’ฯ
‘‘Taṃ kiṃ maññasi, vāseṭṭha, api nu so puriso aciravatiyā nadiyā orimā tīrā pārimaṃ tīraṃ gaccheyyā’’ti? ‘‘No hidaṃ, bho gotama’’.
๕๔๘. ‘‘เอวเมว โข, วาเสฎฺฐ, ปญฺจิเม นีวรณา อริยสฺส วินเย อาวรณาติปิ วุจฺจนฺติ, นีวรณาติปิ วุจฺจนฺติ, โอนาหนาติปิ วุจฺจนฺติ, ปริโยนาหนาติปิ วุจฺจนฺติฯ กตเม ปญฺจ? กามจฺฉนฺทนีวรณํ, พฺยาปาทนีวรณํ, ถินมิทฺธนีวรณํ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจนีวรณํ, วิจิกิจฺฉานีวรณํฯ อิเม โข, วาเสฎฺฐ, ปญฺจ นีวรณา อริยสฺส วินเย อาวรณาติปิ วุจฺจนฺติ, นีวรณาติปิ วุจฺจนฺติ, โอนาหนาติปิ วุจฺจนฺติ, ปริโยนาหนาติปิ วุจฺจนฺติฯ
548. ‘‘Evameva kho, vāseṭṭha, pañcime nīvaraṇā ariyassa vinaye āvaraṇātipi vuccanti, nīvaraṇātipi vuccanti, onāhanātipi vuccanti, pariyonāhanātipi vuccanti. Katame pañca? Kāmacchandanīvaraṇaṃ, byāpādanīvaraṇaṃ, thinamiddhanīvaraṇaṃ, uddhaccakukkuccanīvaraṇaṃ, vicikicchānīvaraṇaṃ. Ime kho, vāseṭṭha, pañca nīvaraṇā ariyassa vinaye āvaraṇātipi vuccanti, nīvaraṇātipi vuccanti, onāhanātipi vuccanti, pariyonāhanātipi vuccanti.
๕๔๙. ‘‘อิเมหิ โข, วาเสฎฺฐ, ปญฺจหิ นีวรเณหิ เตวิชฺชา พฺราหฺมณา อาวุฎา นิวุฎา โอนทฺธา 13 ปริโยนทฺธาฯ เต วต, วาเสฎฺฐ, เตวิชฺชา พฺราหฺมณา เย ธมฺมา พฺราหฺมณการกา เต ธเมฺม ปหาย วตฺตมานา, เย ธมฺมา อพฺราหฺมณการกา เต ธเมฺม สมาทาย วตฺตมานา ปญฺจหิ นีวรเณหิ อาวุฎา นิวุฎา โอนทฺธา ปริโยนทฺธา 14 กายสฺส เภทา ปรํ มรณา พฺรหฺมานํ สหพฺยูปคา ภวิสฺสนฺตี’’ติ, เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ
549. ‘‘Imehi kho, vāseṭṭha, pañcahi nīvaraṇehi tevijjā brāhmaṇā āvuṭā nivuṭā onaddhā 15 pariyonaddhā. Te vata, vāseṭṭha, tevijjā brāhmaṇā ye dhammā brāhmaṇakārakā te dhamme pahāya vattamānā, ye dhammā abrāhmaṇakārakā te dhamme samādāya vattamānā pañcahi nīvaraṇehi āvuṭā nivuṭā onaddhā pariyonaddhā 16 kāyassa bhedā paraṃ maraṇā brahmānaṃ sahabyūpagā bhavissantī’’ti, netaṃ ṭhānaṃ vijjati.
สํสนฺทนกถา
Saṃsandanakathā
๕๕๐. ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, วาเสฎฺฐ, กินฺติ เต สุตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ, สปริคฺคโห วา พฺรหฺมา อปริคฺคโห วา’’ติ? ‘‘อปริคฺคโห, โภ โคตม’’ฯ ‘‘สเวรจิโตฺต วา อเวรจิโตฺต วา’’ติ? ‘‘อเวรจิโตฺต, โภ โคตม’’ฯ ‘‘สพฺยาปชฺชจิโตฺต วา อพฺยาปชฺชจิโตฺต วา’’ติ? ‘‘อพฺยาปชฺชจิโตฺต, โภ โคตม’’ฯ ‘‘สํกิลิฎฺฐจิโตฺต วา อสํกิลิฎฺฐจิโตฺต วา’’ติ? ‘‘อสํกิลิฎฺฐจิโตฺต, โภ โคตม’’ฯ ‘‘วสวตฺตี วา อวสวตฺตี วา’’ติ? ‘‘วสวตฺตี, โภ โคตม’’ฯ
550. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, vāseṭṭha, kinti te sutaṃ brāhmaṇānaṃ vuddhānaṃ mahallakānaṃ ācariyapācariyānaṃ bhāsamānānaṃ, sapariggaho vā brahmā apariggaho vā’’ti? ‘‘Apariggaho, bho gotama’’. ‘‘Saveracitto vā averacitto vā’’ti? ‘‘Averacitto, bho gotama’’. ‘‘Sabyāpajjacitto vā abyāpajjacitto vā’’ti? ‘‘Abyāpajjacitto, bho gotama’’. ‘‘Saṃkiliṭṭhacitto vā asaṃkiliṭṭhacitto vā’’ti? ‘‘Asaṃkiliṭṭhacitto, bho gotama’’. ‘‘Vasavattī vā avasavattī vā’’ti? ‘‘Vasavattī, bho gotama’’.
‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, วาเสฎฺฐ, สปริคฺคหา วา เตวิชฺชา พฺราหฺมณา อปริคฺคหา วา’’ติ? ‘‘สปริคฺคหา, โภ โคตม’’ฯ ‘‘สเวรจิตฺตา วา อเวรจิตฺตา วา’’ติ? ‘‘สเวรจิตฺตา, โภ โคตม’’ ฯ ‘‘สพฺยาปชฺชจิตฺตา วา อพฺยาปชฺชจิตฺตา วา’’ติ? ‘‘สพฺยาปชฺชจิตฺตา, โภ โคตม’’ฯ ‘‘สํกิลิฎฺฐจิตฺตา วา อสํกิลิฎฺฐจิตฺตา วา’’ติ? ‘‘สํกิลิฎฺฐจิตฺตา, โภ โคตม’’ฯ ‘‘วสวตฺตี วา อวสวตฺตี วา’’ติ? ‘‘อวสวตฺตี, โภ โคตม’’ฯ
‘‘Taṃ kiṃ maññasi, vāseṭṭha, sapariggahā vā tevijjā brāhmaṇā apariggahā vā’’ti? ‘‘Sapariggahā, bho gotama’’. ‘‘Saveracittā vā averacittā vā’’ti? ‘‘Saveracittā, bho gotama’’ . ‘‘Sabyāpajjacittā vā abyāpajjacittā vā’’ti? ‘‘Sabyāpajjacittā, bho gotama’’. ‘‘Saṃkiliṭṭhacittā vā asaṃkiliṭṭhacittā vā’’ti? ‘‘Saṃkiliṭṭhacittā, bho gotama’’. ‘‘Vasavattī vā avasavattī vā’’ti? ‘‘Avasavattī, bho gotama’’.
๕๕๑. ‘‘อิติ กิร, วาเสฎฺฐ, สปริคฺคหา เตวิชฺชา พฺราหฺมณา อปริคฺคโห พฺรหฺมาฯ อปิ นุ โข สปริคฺคหานํ เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ อปริคฺคเหน พฺรหฺมุนา สทฺธิํ สํสนฺทติ สเมตี’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’ฯ ‘‘สาธุ, วาเสฎฺฐ, เต วต, วาเสฎฺฐ, สปริคฺคหา เตวิชฺชา พฺราหฺมณา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปริคฺคหสฺส พฺรหฺมุโน สหพฺยูปคา ภวิสฺสนฺตี’’ติ, เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ
551. ‘‘Iti kira, vāseṭṭha, sapariggahā tevijjā brāhmaṇā apariggaho brahmā. Api nu kho sapariggahānaṃ tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ apariggahena brahmunā saddhiṃ saṃsandati sametī’’ti? ‘‘No hidaṃ, bho gotama’’. ‘‘Sādhu, vāseṭṭha, te vata, vāseṭṭha, sapariggahā tevijjā brāhmaṇā kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apariggahassa brahmuno sahabyūpagā bhavissantī’’ti, netaṃ ṭhānaṃ vijjati.
‘‘อิติ กิร, วาเสฎฺฐ, สเวรจิตฺตา เตวิชฺชา พฺราหฺมณา, อเวรจิโตฺต พฺรหฺมา…เป.… สพฺยาปชฺชจิตฺตา เตวิชฺชา พฺราหฺมณา อพฺยาปชฺชจิโตฺต พฺรหฺมา… สํกิลิฎฺฐจิตฺตา เตวิชฺชา พฺราหฺมณา อสํกิลิฎฺฐจิโตฺต พฺรหฺมา… อวสวตฺตี เตวิชฺชา พฺราหฺมณา วสวตฺตี พฺรหฺมา, อปิ นุ โข อวสวตฺตีนํ เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ วสวตฺตินา พฺรหฺมุนา สทฺธิํ สํสนฺทติ สเมตี’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’ฯ ‘‘สาธุ, วาเสฎฺฐ, เต วต, วาเสฎฺฐ, อวสวตฺตี เตวิชฺชา พฺราหฺมณา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา วสวตฺติสฺส พฺรหฺมุโน สหพฺยูปคา ภวิสฺสนฺตี’’ติ, เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ
‘‘Iti kira, vāseṭṭha, saveracittā tevijjā brāhmaṇā, averacitto brahmā…pe… sabyāpajjacittā tevijjā brāhmaṇā abyāpajjacitto brahmā… saṃkiliṭṭhacittā tevijjā brāhmaṇā asaṃkiliṭṭhacitto brahmā… avasavattī tevijjā brāhmaṇā vasavattī brahmā, api nu kho avasavattīnaṃ tevijjānaṃ brāhmaṇānaṃ vasavattinā brahmunā saddhiṃ saṃsandati sametī’’ti? ‘‘No hidaṃ, bho gotama’’. ‘‘Sādhu, vāseṭṭha, te vata, vāseṭṭha, avasavattī tevijjā brāhmaṇā kāyassa bhedā paraṃ maraṇā vasavattissa brahmuno sahabyūpagā bhavissantī’’ti, netaṃ ṭhānaṃ vijjati.
๕๕๓. เอวํ วุเตฺต, วาเสโฎฺฐ มาณโว ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, โภ โคตม, สมโณ โคตโม พฺรหฺมานํ สหพฺยตาย มคฺคํ ชานาตี’’ติฯ ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, วาเสฎฺฐฯ อาสเนฺน อิโต มนสากฎํ, น อิโต ทูเร มนสากฎ’’นฺติ? ‘‘เอวํ, โภ โคตม, อาสเนฺน อิโต มนสากฎํ, น อิโต ทูเร มนสากฎ’’นฺติฯ
553. Evaṃ vutte, vāseṭṭho māṇavo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘sutaṃ metaṃ, bho gotama, samaṇo gotamo brahmānaṃ sahabyatāya maggaṃ jānātī’’ti. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, vāseṭṭha. Āsanne ito manasākaṭaṃ, na ito dūre manasākaṭa’’nti? ‘‘Evaṃ, bho gotama, āsanne ito manasākaṭaṃ, na ito dūre manasākaṭa’’nti.
๕๕๔. ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, วาเสฎฺฐ, อิธสฺส ปุริโส มนสากเฎ ชาตสํวโทฺธฯ ตเมนํ มนสากฎโต ตาวเทว อวสฎํ มนสากฎสฺส มคฺคํ ปุเจฺฉยฺยุํฯ สิยา นุ โข, วาเสฎฺฐ, ตสฺส ปุริสสฺส มนสากเฎ ชาตสํวทฺธสฺส มนสากฎสฺส มคฺคํ ปุฎฺฐสฺส ทนฺธายิตตฺตํ วา วิตฺถายิตตฺตํ วา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม’’ฯ ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อมุ หิ, โภ โคตม, ปุริโส มนสากเฎ ชาตสํวโทฺธ, ตสฺส สพฺพาเนว มนสากฎสฺส มคฺคานิ สุวิทิตานี’’ติฯ
554. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, vāseṭṭha, idhassa puriso manasākaṭe jātasaṃvaddho. Tamenaṃ manasākaṭato tāvadeva avasaṭaṃ manasākaṭassa maggaṃ puccheyyuṃ. Siyā nu kho, vāseṭṭha, tassa purisassa manasākaṭe jātasaṃvaddhassa manasākaṭassa maggaṃ puṭṭhassa dandhāyitattaṃ vā vitthāyitattaṃ vā’’ti? ‘‘No hidaṃ, bho gotama’’. ‘‘Taṃ kissa hetu’’? ‘‘Amu hi, bho gotama, puriso manasākaṭe jātasaṃvaddho, tassa sabbāneva manasākaṭassa maggāni suviditānī’’ti.
‘‘สิยา โข, วาเสฎฺฐ, ตสฺส ปุริสสฺส มนสากเฎ ชาตสํวทฺธสฺส มนสากฎสฺส มคฺคํ ปุฎฺฐสฺส ทนฺธายิตตฺตํ วา วิตฺถายิตตฺตํ วา, น เตฺวว ตถาคตสฺส พฺรหฺมโลเก วา พฺรหฺมโลกคามินิยา วา ปฎิปทาย ปุฎฺฐสฺส ทนฺธายิตตฺตํ วา วิตฺถายิตตฺตํ วาฯ พฺรหฺมานํ จาหํ, วาเสฎฺฐ, ปชานามิ พฺรหฺมโลกญฺจ พฺรหฺมโลกคามินิญฺจ ปฎิปทํ, ยถา ปฎิปโนฺน จ พฺรหฺมโลกํ อุปปโนฺน, ตญฺจ ปชานามี’’ติฯ
‘‘Siyā kho, vāseṭṭha, tassa purisassa manasākaṭe jātasaṃvaddhassa manasākaṭassa maggaṃ puṭṭhassa dandhāyitattaṃ vā vitthāyitattaṃ vā, na tveva tathāgatassa brahmaloke vā brahmalokagāminiyā vā paṭipadāya puṭṭhassa dandhāyitattaṃ vā vitthāyitattaṃ vā. Brahmānaṃ cāhaṃ, vāseṭṭha, pajānāmi brahmalokañca brahmalokagāminiñca paṭipadaṃ, yathā paṭipanno ca brahmalokaṃ upapanno, tañca pajānāmī’’ti.
๕๕๕. เอวํ วุเตฺต, วาเสโฎฺฐ มาณโว ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, โภ โคตม, สมโณ โคตโม พฺรหฺมานํ สหพฺยตาย มคฺคํ เทเสตี’’ติฯ ‘‘สาธุ โน ภวํ โคตโม พฺรหฺมานํ สหพฺยตาย มคฺคํ เทเสตุ อุลฺลุมฺปตุ ภวํ โคตโม พฺราหฺมณิํ ปช’’นฺติฯ ‘‘เตน หิ, วาเสฎฺฐ, สุณาหิ; สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ โภ’’ติ โข วาเสโฎฺฐ มาณโว ภควโต ปจฺจโสฺสสิฯ
555. Evaṃ vutte, vāseṭṭho māṇavo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘sutaṃ metaṃ, bho gotama, samaṇo gotamo brahmānaṃ sahabyatāya maggaṃ desetī’’ti. ‘‘Sādhu no bhavaṃ gotamo brahmānaṃ sahabyatāya maggaṃ desetu ullumpatu bhavaṃ gotamo brāhmaṇiṃ paja’’nti. ‘‘Tena hi, vāseṭṭha, suṇāhi; sādhukaṃ manasi karohi; bhāsissāmī’’ti. ‘‘Evaṃ bho’’ti kho vāseṭṭho māṇavo bhagavato paccassosi.
พฺรหฺมโลกมคฺคเทสนา
Brahmalokamaggadesanā
๕๕๖. ภควา เอตทโวจ – ‘‘อิธ, วาเสฎฺฐ, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ, สมฺมาสมฺพุโทฺธ…เป.… (ยถา ๑๙๐-๒๑๒ อนุเจฺฉเทสุ เอวํ วิตฺถาเรตพฺพํ)ฯ เอวํ โข, วาเสฎฺฐ, ภิกฺขุ สีลสมฺปโนฺน โหติ…เป.… ตสฺสิเม ปญฺจ นีวรเณ ปหีเน อตฺตนิ สมนุปสฺสโต ปาโมชฺชํ ชายติ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติฯ
556. Bhagavā etadavoca – ‘‘idha, vāseṭṭha, tathāgato loke uppajjati arahaṃ, sammāsambuddho…pe… (yathā 190-212 anucchedesu evaṃ vitthāretabbaṃ). Evaṃ kho, vāseṭṭha, bhikkhu sīlasampanno hoti…pe… tassime pañca nīvaraṇe pahīne attani samanupassato pāmojjaṃ jāyati, pamuditassa pīti jāyati, pītimanassa kāyo passambhati, passaddhakāyo sukhaṃ vedeti, sukhino cittaṃ samādhiyati.
‘‘โส เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ ฯ ตถา ทุติยํฯ ตถา ตติยํฯ ตถา จตุตฺถํฯ อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปเชฺชน ผริตฺวา วิหรติฯ
‘‘So mettāsahagatena cetasā ekaṃ disaṃ pharitvā viharati . Tathā dutiyaṃ. Tathā tatiyaṃ. Tathā catutthaṃ. Iti uddhamadho tiriyaṃ sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ lokaṃ mettāsahagatena cetasā vipulena mahaggatena appamāṇena averena abyāpajjena pharitvā viharati.
‘‘เสยฺยถาปิ, วาเสฎฺฐ, พลวา สงฺขธโม อปฺปกสิเรเนว จตุทฺทิสา วิญฺญาเปยฺย; เอวเมว โข, วาเสฎฺฐ, เอวํ ภาวิตาย เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา ยํ ปมาณกตํ กมฺมํ น ตํ ตตฺราวสิสฺสติ, น ตํ ตตฺราวติฎฺฐติฯ อยมฺปิ โข, วาเสฎฺฐ, พฺรหฺมานํ สหพฺยตาย มโคฺคฯ
‘‘Seyyathāpi, vāseṭṭha, balavā saṅkhadhamo appakasireneva catuddisā viññāpeyya; evameva kho, vāseṭṭha, evaṃ bhāvitāya mettāya cetovimuttiyā yaṃ pamāṇakataṃ kammaṃ na taṃ tatrāvasissati, na taṃ tatrāvatiṭṭhati. Ayampi kho, vāseṭṭha, brahmānaṃ sahabyatāya maggo.
‘‘ปุน จปรํ, วาเสฎฺฐ, ภิกฺขุ กรุณาสหคเตน เจตสา…เป.… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป.… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติฯ ตถา ทุติยํฯ ตถา ตติยํฯ ตถา จตุตฺถํฯ อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปเชฺชน ผริตฺวา วิหรติฯ
‘‘Puna caparaṃ, vāseṭṭha, bhikkhu karuṇāsahagatena cetasā…pe… muditāsahagatena cetasā…pe… upekkhāsahagatena cetasā ekaṃ disaṃ pharitvā viharati. Tathā dutiyaṃ. Tathā tatiyaṃ. Tathā catutthaṃ. Iti uddhamadho tiriyaṃ sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ lokaṃ upekkhāsahagatena cetasā vipulena mahaggatena appamāṇena averena abyāpajjena pharitvā viharati.
‘‘เสยฺยถาปิ , วาเสฎฺฐ, พลวา สงฺขธโม อปฺปกสิเรเนว จตุทฺทิสา วิญฺญาเปยฺยฯ เอวเมว โข, วาเสฎฺฐ, เอวํ ภาวิตาย อุเปกฺขาย เจโตวิมุตฺติยา ยํ ปมาณกตํ กมฺมํ น ตํ ตตฺราวสิสฺสติ, น ตํ ตตฺราวติฎฺฐติฯ อยํ โข, วาเสฎฺฐ, พฺรหฺมานํ สหพฺยตาย มโคฺคฯ
‘‘Seyyathāpi , vāseṭṭha, balavā saṅkhadhamo appakasireneva catuddisā viññāpeyya. Evameva kho, vāseṭṭha, evaṃ bhāvitāya upekkhāya cetovimuttiyā yaṃ pamāṇakataṃ kammaṃ na taṃ tatrāvasissati, na taṃ tatrāvatiṭṭhati. Ayaṃ kho, vāseṭṭha, brahmānaṃ sahabyatāya maggo.
๕๕๗. ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, วาเสฎฺฐ, เอวํวิหารี ภิกฺขุ สปริคฺคโห วา อปริคฺคโห วา’’ติ? ‘‘อปริคฺคโห, โภ โคตม’’ฯ ‘‘สเวรจิโตฺต วา อเวรจิโตฺต วา’’ติ? ‘‘อเวรจิโตฺต, โภ โคตม’’ฯ ‘‘สพฺยาปชฺชจิโตฺต วา อพฺยาปชฺชจิโตฺต วา’’ติ? ‘‘อพฺยาปชฺชจิโตฺต, โภ โคตม’’ฯ ‘‘สํกิลิฎฺฐจิโตฺต วา อสํกิลิฎฺฐจิโตฺต วา’’ติ? ‘‘อสํกิลิฎฺฐจิโตฺต, โภ โคตม’’ฯ ‘‘วสวตฺตี วา อวสวตฺตี วา’’ติ? ‘‘วสวตฺตี, โภ โคตม’’ฯ
557. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, vāseṭṭha, evaṃvihārī bhikkhu sapariggaho vā apariggaho vā’’ti? ‘‘Apariggaho, bho gotama’’. ‘‘Saveracitto vā averacitto vā’’ti? ‘‘Averacitto, bho gotama’’. ‘‘Sabyāpajjacitto vā abyāpajjacitto vā’’ti? ‘‘Abyāpajjacitto, bho gotama’’. ‘‘Saṃkiliṭṭhacitto vā asaṃkiliṭṭhacitto vā’’ti? ‘‘Asaṃkiliṭṭhacitto, bho gotama’’. ‘‘Vasavattī vā avasavattī vā’’ti? ‘‘Vasavattī, bho gotama’’.
‘‘อิติ กิร, วาเสฎฺฐ, อปริคฺคโห ภิกฺขุ, อปริคฺคโห พฺรหฺมาฯ อปิ นุ โข อปริคฺคหสฺส ภิกฺขุโน อปริคฺคเหน พฺรหฺมุนา สทฺธิํ สํสนฺทติ สเมตี’’ติ? ‘‘เอวํ, โภ โคตม’’ฯ ‘‘สาธุ, วาเสฎฺฐ, โส วต วาเสฎฺฐ อปริคฺคโห ภิกฺขุ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปริคฺคหสฺส พฺรหฺมุโน สหพฺยูปโค ภวิสฺสตี’’ติ, ฐานเมตํ วิชฺชติฯ
‘‘Iti kira, vāseṭṭha, apariggaho bhikkhu, apariggaho brahmā. Api nu kho apariggahassa bhikkhuno apariggahena brahmunā saddhiṃ saṃsandati sametī’’ti? ‘‘Evaṃ, bho gotama’’. ‘‘Sādhu, vāseṭṭha, so vata vāseṭṭha apariggaho bhikkhu kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apariggahassa brahmuno sahabyūpago bhavissatī’’ti, ṭhānametaṃ vijjati.
๕๕๘. ‘‘อิติ กิร, วาเสฎฺฐ, อเวรจิโตฺต ภิกฺขุ, อเวรจิโตฺต พฺรหฺมา…เป.… อพฺยาปชฺชจิโตฺต ภิกฺขุ, อพฺยาปชฺชจิโตฺต พฺรหฺมา… อสํกิลิฎฺฐจิโตฺต ภิกฺขุ, อสํกิลิฎฺฐจิโตฺต พฺรหฺมา… วสวตฺตี ภิกฺขุ, วสวตฺตี พฺรหฺมา, อปิ นุ โข วสวตฺติสฺส ภิกฺขุโน วสวตฺตินา พฺรหฺมุนา สทฺธิํ สํสนฺทติ สเมตี’’ติ ? ‘‘เอวํ, โภ โคตม’’ฯ ‘‘สาธุ, วาเสฎฺฐ, โส วต, วาเสฎฺฐ, วสวตฺตี ภิกฺขุ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา วสวตฺติสฺส พฺรหฺมุโน สหพฺยูปโค ภวิสฺสตีติ, ฐานเมตํ วิชฺชตี’’ติฯ
558. ‘‘Iti kira, vāseṭṭha, averacitto bhikkhu, averacitto brahmā…pe… abyāpajjacitto bhikkhu, abyāpajjacitto brahmā… asaṃkiliṭṭhacitto bhikkhu, asaṃkiliṭṭhacitto brahmā… vasavattī bhikkhu, vasavattī brahmā, api nu kho vasavattissa bhikkhuno vasavattinā brahmunā saddhiṃ saṃsandati sametī’’ti ? ‘‘Evaṃ, bho gotama’’. ‘‘Sādhu, vāseṭṭha, so vata, vāseṭṭha, vasavattī bhikkhu kāyassa bhedā paraṃ maraṇā vasavattissa brahmuno sahabyūpago bhavissatīti, ṭhānametaṃ vijjatī’’ti.
๕๕๙. เอวํ วุเตฺต, วาเสฎฺฐภารทฺวาชา มาณวา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุเชฺชยฺย, ปฎิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิเกฺขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปโชฺชตํ ธาเรยฺย ‘จกฺขุมโนฺต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติฯ เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธโมฺม ปกาสิโต ฯ เอเต มยํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉาม, ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสเก โน ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตเคฺค ปาณุเปเต สรณํ คเต’’ติฯ
559. Evaṃ vutte, vāseṭṭhabhāradvājā māṇavā bhagavantaṃ etadavocuṃ – ‘‘abhikkantaṃ, bho gotama, abhikkantaṃ, bho gotama! Seyyathāpi, bho gotama, nikkujjitaṃ vā ukkujjeyya, paṭicchannaṃ vā vivareyya, mūḷhassa vā maggaṃ ācikkheyya, andhakāre vā telapajjotaṃ dhāreyya ‘cakkhumanto rūpāni dakkhantī’ti. Evamevaṃ bhotā gotamena anekapariyāyena dhammo pakāsito . Ete mayaṃ bhavantaṃ gotamaṃ saraṇaṃ gacchāma, dhammañca bhikkhusaṅghañca. Upāsake no bhavaṃ gotamo dhāretu ajjatagge pāṇupete saraṇaṃ gate’’ti.
เตวิชฺชสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ เตรสมํฯ
Tevijjasuttaṃ niṭṭhitaṃ terasamaṃ.
สีลกฺขนฺธวโคฺค นิฎฺฐิโตฯ
Sīlakkhandhavaggo niṭṭhito.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
พฺรหฺมาสามญฺญอมฺพฎฺฐ ,
Brahmāsāmaññaambaṭṭha ,
โสณกูฎมหาลิชาลินี;
Soṇakūṭamahālijālinī;
สีหโปฎฺฐปาทสุโภ เกวโฎฺฎ,
Sīhapoṭṭhapādasubho kevaṭṭo,
โลหิจฺจเตวิชฺชา เตรสาติฯ
Lohiccatevijjā terasāti.
สีลกฺขนฺธวคฺคปาฬิ นิฎฺฐิตาฯ
Sīlakkhandhavaggapāḷi niṭṭhitā.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ทีฆ นิกาย (อฎฺฐกถา) • Dīgha nikāya (aṭṭhakathā) / ๑๓. เตวิชฺชสุตฺตวณฺณนา • 13. Tevijjasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ทีฆนิกาย (ฎีกา) • Dīghanikāya (ṭīkā) / ๑๓. เตวิชฺชสุตฺตวณฺณนา • 13. Tevijjasuttavaṇṇanā