Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya

    ๓. ปริพฺพาชกวโคฺค

    3. Paribbājakavaggo

    ๑. เตวิชฺชวจฺฉสุตฺตํ

    1. Tevijjavacchasuttaṃ

    ๑๘๕. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฎาคารสาลายํฯ เตน โข ปน สมเยน วจฺฉโคโตฺต ปริพฺพาชโก เอกปุณฺฑรีเก ปริพฺพาชการาเม ปฎิวสติฯ อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เวสาลิํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘อติปฺปโค โข ตาว เวสาลิยํ ปิณฺฑาย จริตุํ; ยํนูนาหํ เยน เอกปุณฺฑรีโก ปริพฺพาชการาโม เยน วจฺฉโคโตฺต ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติฯ อถ โข ภควา เยน เอกปุณฺฑรีโก ปริพฺพาชการาโม เยน วจฺฉโคโตฺต ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกมิฯ อทฺทสา โข วจฺฉโคโตฺต ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํฯ ทิสฺวาน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอตุ โข, ภเนฺต, ภควาฯ สฺวาคตํ 1, ภเนฺต, ภควโตฯ จิรสฺสํ โข, ภเนฺต, ภควา อิมํ ปริยายมกาสิ ยทิทํ อิธาคมนายฯ นิสีทตุ, ภเนฺต, ภควา อิทมาสนํ ปญฺญตฺต’’นฺติฯ นิสีทิ ภควา ปญฺญเตฺต อาสเนฯ วจฺฉโคโตฺตปิ โข ปริพฺพาชโก อญฺญตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข วจฺฉโคโตฺต ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, ภเนฺต – ‘สมโณ โคตโม สพฺพญฺญู สพฺพทสฺสาวี, อปริเส+สํ ญาณทสฺสนํ ปฎิชานาติ, จรโต จ เม ติฎฺฐโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส จ สตตํ สมิตํ ญาณทสฺสนํ ปจฺจุปฎฺฐิต’นฺติฯ เย เต, ภเนฺต, เอวมาหํสุ – ‘สมโณ โคตโม สพฺพญฺญู สพฺพทสฺสาวี, อปริเสสํ ญาณทสฺสนํ ปฎิชานาติ, จรโต จ เม ติฎฺฐโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส จ สตตํ สมิตํ ญาณทสฺสนํ ปจฺจุปฎฺฐิต’นฺติ, กจฺจิ เต, ภเนฺต, ภควโต วุตฺตวาทิโน, น จ ภควนฺตํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ, ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรนฺติ, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุวาโท คารยฺหํ ฐานํ อาคจฺฉตี’’ติ? ‘‘เย เต, วจฺฉ, เอวมาหํสุ – ‘สมโณ โคตโม สพฺพญฺญู สพฺพทสฺสาวี, อปริเสสํ ญาณทสฺสนํ ปฎิชานาติ, จรโต จ เม ติฎฺฐโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส จ สตตํ สมิตํ ญาณทสฺสนํ ปจฺจุปฎฺฐิต’นฺติ, น เม เต วุตฺตวาทิโน, อพฺภาจิกฺขนฺติ จ ปน มํ อสตา อภูเตนา’’ติฯ

    185. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā vesāliyaṃ viharati mahāvane kūṭāgārasālāyaṃ. Tena kho pana samayena vacchagotto paribbājako ekapuṇḍarīke paribbājakārāme paṭivasati. Atha kho bhagavā pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya vesāliṃ piṇḍāya pāvisi. Atha kho bhagavato etadahosi – ‘‘atippago kho tāva vesāliyaṃ piṇḍāya carituṃ; yaṃnūnāhaṃ yena ekapuṇḍarīko paribbājakārāmo yena vacchagotto paribbājako tenupasaṅkameyya’’nti. Atha kho bhagavā yena ekapuṇḍarīko paribbājakārāmo yena vacchagotto paribbājako tenupasaṅkami. Addasā kho vacchagotto paribbājako bhagavantaṃ dūratova āgacchantaṃ. Disvāna bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘etu kho, bhante, bhagavā. Svāgataṃ 2, bhante, bhagavato. Cirassaṃ kho, bhante, bhagavā imaṃ pariyāyamakāsi yadidaṃ idhāgamanāya. Nisīdatu, bhante, bhagavā idamāsanaṃ paññatta’’nti. Nisīdi bhagavā paññatte āsane. Vacchagottopi kho paribbājako aññataraṃ nīcaṃ āsanaṃ gahetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho vacchagotto paribbājako bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘sutaṃ metaṃ, bhante – ‘samaṇo gotamo sabbaññū sabbadassāvī, aparise+saṃ ñāṇadassanaṃ paṭijānāti, carato ca me tiṭṭhato ca suttassa ca jāgarassa ca satataṃ samitaṃ ñāṇadassanaṃ paccupaṭṭhita’nti. Ye te, bhante, evamāhaṃsu – ‘samaṇo gotamo sabbaññū sabbadassāvī, aparisesaṃ ñāṇadassanaṃ paṭijānāti, carato ca me tiṭṭhato ca suttassa ca jāgarassa ca satataṃ samitaṃ ñāṇadassanaṃ paccupaṭṭhita’nti, kacci te, bhante, bhagavato vuttavādino, na ca bhagavantaṃ abhūtena abbhācikkhanti, dhammassa cānudhammaṃ byākaronti, na ca koci sahadhammiko vādānuvādo gārayhaṃ ṭhānaṃ āgacchatī’’ti? ‘‘Ye te, vaccha, evamāhaṃsu – ‘samaṇo gotamo sabbaññū sabbadassāvī, aparisesaṃ ñāṇadassanaṃ paṭijānāti, carato ca me tiṭṭhato ca suttassa ca jāgarassa ca satataṃ samitaṃ ñāṇadassanaṃ paccupaṭṭhita’nti, na me te vuttavādino, abbhācikkhanti ca pana maṃ asatā abhūtenā’’ti.

    ๑๘๖. ‘‘กถํ พฺยากรมานา ปน มยํ, ภเนฺต, วุตฺตวาทิโน เจว ภควโต อสฺสาม, น จ ภควนฺตํ อภูเตน อพฺภาจิเกฺขยฺยาม, ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากเรยฺยาม, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุวาโท คารยฺหํ ฐานํ อาคเจฺฉยฺยา’’ติ?

    186. ‘‘Kathaṃ byākaramānā pana mayaṃ, bhante, vuttavādino ceva bhagavato assāma, na ca bhagavantaṃ abhūtena abbhācikkheyyāma, dhammassa cānudhammaṃ byākareyyāma, na ca koci sahadhammiko vādānuvādo gārayhaṃ ṭhānaṃ āgaccheyyā’’ti?

    ‘‘‘เตวิโชฺช สมโณ โคตโม’ติ โข, วจฺฉ, พฺยากรมาโน วุตฺตวาที เจว เม อสฺส, น จ มํ อภูเตน อพฺภาจิเกฺขยฺย, ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากเรยฺย, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุวาโท คารยฺหํ ฐานํ อาคเจฺฉยฺยฯ อหญฺหิ, วจฺฉ, ยาวเทว อากงฺขามิ อเนกวิหิตํ ปุเพฺพนิวาสํ อนุสฺสรามิ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาติํ เทฺวปิ ชาติโย…เป.… อิติ สาการํ สอุเทฺทสํ อเนกวิหิตํ ปุเพฺพนิวาสํ อนุสฺสรามิฯ อหญฺหิ, วจฺฉ, ยาวเทว อากงฺขามิ ทิเพฺพน จกฺขุนา วิสุเทฺธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สเตฺต ปสฺสามิ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวเณฺณ ทุพฺพเณฺณ สุคเต ทุคฺคเต…เป.… ยถากมฺมูปเค สเตฺต ปชานามิฯ อหญฺหิ, วจฺฉ, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรามิฯ

    ‘‘‘Tevijjo samaṇo gotamo’ti kho, vaccha, byākaramāno vuttavādī ceva me assa, na ca maṃ abhūtena abbhācikkheyya, dhammassa cānudhammaṃ byākareyya, na ca koci sahadhammiko vādānuvādo gārayhaṃ ṭhānaṃ āgaccheyya. Ahañhi, vaccha, yāvadeva ākaṅkhāmi anekavihitaṃ pubbenivāsaṃ anussarāmi, seyyathidaṃ – ekampi jātiṃ dvepi jātiyo…pe… iti sākāraṃ sauddesaṃ anekavihitaṃ pubbenivāsaṃ anussarāmi. Ahañhi, vaccha, yāvadeva ākaṅkhāmi dibbena cakkhunā visuddhena atikkantamānusakena satte passāmi cavamāne upapajjamāne hīne paṇīte suvaṇṇe dubbaṇṇe sugate duggate…pe… yathākammūpage satte pajānāmi. Ahañhi, vaccha, āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharāmi.

    ‘‘‘เตวิโชฺช สมโณ โคตโม’ติ โข, วจฺฉ, พฺยากรมาโน วุตฺตวาที เจว เม อสฺส, น จ มํ อภูเตน อพฺภาจิเกฺขยฺย, ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากเรยฺย, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุวาโท คารยฺหํ ฐานํ อาคเจฺฉยฺยา’’ติฯ

    ‘‘‘Tevijjo samaṇo gotamo’ti kho, vaccha, byākaramāno vuttavādī ceva me assa, na ca maṃ abhūtena abbhācikkheyya, dhammassa cānudhammaṃ byākareyya, na ca koci sahadhammiko vādānuvādo gārayhaṃ ṭhānaṃ āgaccheyyā’’ti.

    เอวํ วุเตฺต, วจฺฉโคโตฺต ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อตฺถิ นุ โข, โภ โคตม, โกจิ คิหี คิหิสํโยชนํ อปฺปหาย กายสฺส เภทา ทุกฺขสฺสนฺตกโร’’ติ? ‘‘นตฺถิ โข, วจฺฉ, โกจิ คิหี คิหิสํโยชนํ อปฺปหาย กายสฺส เภทา ทุกฺขสฺสนฺตกโร’’ติฯ

    Evaṃ vutte, vacchagotto paribbājako bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘atthi nu kho, bho gotama, koci gihī gihisaṃyojanaṃ appahāya kāyassa bhedā dukkhassantakaro’’ti? ‘‘Natthi kho, vaccha, koci gihī gihisaṃyojanaṃ appahāya kāyassa bhedā dukkhassantakaro’’ti.

    ‘‘อตฺถิ ปน, โภ โคตม, โกจิ คิหี คิหิสํโยชนํ อปฺปหาย กายสฺส เภทา สคฺคูปโค’’ติ? ‘‘น โข, วจฺฉ, เอกํเยว สตํ น เทฺว สตานิ น ตีณิ สตานิ น จตฺตาริ สตานิ น ปญฺจ สตานิ, อถ โข ภิโยฺยว เย คิหี คิหิสํโยชนํ อปฺปหาย กายสฺส เภทา สคฺคูปคา’’ติ 3

    ‘‘Atthi pana, bho gotama, koci gihī gihisaṃyojanaṃ appahāya kāyassa bhedā saggūpago’’ti? ‘‘Na kho, vaccha, ekaṃyeva sataṃ na dve satāni na tīṇi satāni na cattāri satāni na pañca satāni, atha kho bhiyyova ye gihī gihisaṃyojanaṃ appahāya kāyassa bhedā saggūpagā’’ti 4.

    ‘‘อตฺถิ นุ โข, โภ โคตม, โกจิ อาชีวโก 5 กายสฺส เภทา ทุกฺขสฺสนฺตกโร’’ติ? ‘‘นตฺถิ โข, วจฺฉ, โกจิ อาชีวโก กายสฺส เภทา ทุกฺขสฺสนฺตกโร’’ติฯ

    ‘‘Atthi nu kho, bho gotama, koci ājīvako 6 kāyassa bhedā dukkhassantakaro’’ti? ‘‘Natthi kho, vaccha, koci ājīvako kāyassa bhedā dukkhassantakaro’’ti.

    ‘‘อตฺถิ ปน, โภ โคตม, โกจิ อาชีวโก กายสฺส เภทา สคฺคูปโค’’ติ? ‘‘อิโต โข โส, วจฺฉ, เอกนวุโต กโปฺป 7 ยมหํ อนุสฺสรามิ, นาภิชานามิ กญฺจิ อาชีวกํ สคฺคูปคํ อญฺญตฺร เอเกน; โสปาสิ กมฺมวาที กิริยวาที’’ติฯ ‘‘เอวํ สเนฺต, โภ โคตม, สุญฺญํ อทุํ ติตฺถายตนํ อนฺตมโส สคฺคูปเคนปี’’ติ? ‘‘เอวํ, วจฺฉ, สุญฺญํ อทุํ ติตฺถายตนํ อนฺตมโส สคฺคูปเคนปี’’ติฯ

    ‘‘Atthi pana, bho gotama, koci ājīvako kāyassa bhedā saggūpago’’ti? ‘‘Ito kho so, vaccha, ekanavuto kappo 8 yamahaṃ anussarāmi, nābhijānāmi kañci ājīvakaṃ saggūpagaṃ aññatra ekena; sopāsi kammavādī kiriyavādī’’ti. ‘‘Evaṃ sante, bho gotama, suññaṃ aduṃ titthāyatanaṃ antamaso saggūpagenapī’’ti? ‘‘Evaṃ, vaccha, suññaṃ aduṃ titthāyatanaṃ antamaso saggūpagenapī’’ti.

    อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมโน วจฺฉโคโตฺต ปริพฺพาชโก ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ

    Idamavoca bhagavā. Attamano vacchagotto paribbājako bhagavato bhāsitaṃ abhinandīti.

    เตวิชฺชวจฺฉสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ ปฐมํฯ

    Tevijjavacchasuttaṃ niṭṭhitaṃ paṭhamaṃ.







    Footnotes:
    1. สาคตํ (สี. ปี.)
    2. sāgataṃ (sī. pī.)
    3. ‘‘อตฺถิ โข วจฺฉ โกจิ คิหี คิหิสํโยชนํ อปฺปหาย กายสฺส เภทา สคฺคูปโคติ’’ฯ (ก.)
    4. ‘‘atthi kho vaccha koci gihī gihisaṃyojanaṃ appahāya kāyassa bhedā saggūpagoti’’. (ka.)
    5. อาชีวิโก (ก.)
    6. ājīviko (ka.)
    7. อิโต โก วจฺฉ เอกนวุเต กเปฺป (ก.)
    8. ito ko vaccha ekanavute kappe (ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๑. เตวิชฺชวจฺฉสุตฺตวณฺณนา • 1. Tevijjavacchasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๑. เตวิชฺชวจฺฉสุตฺตวณฺณนา • 1. Tevijjavacchasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact