Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā)

    ๒. ฐานสุตฺตวณฺณนา

    2. Ṭhānasuttavaṇṇanā

    ๑๙๒. ทุติเย สํวาเสนาติ สหวาเสนฯ สีลํ เวทิตพฺพนฺติ ‘‘อยํ สุสีโล วา ทุสฺสีโล วา’’ติ สห วสเนฺตน อุปสงฺกมเนฺตน ชานิตโพฺพฯ ตญฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา, น อิตฺตรนฺติ ตญฺจ สีลํ ทีเฆน กาเลน เวทิตพฺพํ, น อิตฺตเรนฯ ทฺวีหตีหญฺหิ สํยตากาโร จ สํวุตินฺทฺริยากาโร จ น สกฺกา ทเสฺสตุํฯ มนสิ กโรตาติ ตมฺปิ ‘‘สีลมสฺส ปริคฺคเหสฺสามี’’ติ มนสิกโรเนฺตน ปจฺจเวกฺขเนฺตเนว สกฺกา ชานิตุํ, น อิตเรนฯ ปญฺญวตาติ ตมฺปิ สปฺปเญฺญเนว ปณฺฑิเตนฯ พาโล หิ มนสิกโรโนฺตปิ ชานิตุํ น สโกฺกติฯ

    192. Dutiye saṃvāsenāti sahavāsena. Sīlaṃ veditabbanti ‘‘ayaṃ susīlo vā dussīlo vā’’ti saha vasantena upasaṅkamantena jānitabbo. Tañca kho dīghena addhunā, na ittaranti tañca sīlaṃ dīghena kālena veditabbaṃ, na ittarena. Dvīhatīhañhi saṃyatākāro ca saṃvutindriyākāro ca na sakkā dassetuṃ. Manasi karotāti tampi ‘‘sīlamassa pariggahessāmī’’ti manasikarontena paccavekkhanteneva sakkā jānituṃ, na itarena. Paññavatāti tampi sappaññeneva paṇḍitena. Bālo hi manasikarontopi jānituṃ na sakkoti.

    สํโวหาเรนาติ อปราปรํ กถเนนฯ

    Saṃvohārenāti aparāparaṃ kathanena.

    ‘‘โย หิ โกจิ มนุเสฺสสุ, โวหารํ อุปชีวติ;

    ‘‘Yo hi koci manussesu, vohāraṃ upajīvati;

    เอวํ วาเสฎฺฐ ชานาหิ, วาณิโช โส น พฺราหฺมโณ’’ติฯ (ม. นิ. ๒.๔๕๗; สุ. นิ. ๖๑๙) –

    Evaṃ vāseṭṭha jānāhi, vāṇijo so na brāhmaṇo’’ti. (ma. ni. 2.457; su. ni. 619) –

    เอตฺถ หิ พฺยวหาโร นามฯ ‘‘จตฺตาโร อริยโวหารา, จตฺตาโร อนริยโวหารา’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๑๓) เอตฺถ เจตนาฯ ‘‘สงฺขา สมญฺญา ปญฺญตฺติ โวหาโร’’ติ (ธ. ส. ๑๓๑๓-๑๓๑๕; มหานิ. ๗๓) เอตฺถ ปญฺญตฺติฯ ‘‘โวหารมเตฺตน โส โวหเรยฺยา’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๕) เอตฺถ กถาโวหาโรฯ อิธาปิ เอโสว อธิเปฺปโตฯ เอกจฺจสฺส หิ สมฺมุขากถา ปรมฺมุขากถาย น สเมติ ปรมฺมุขากถา สมฺมุขากถายฯ ตถา ปุริมกถา ปจฺฉิมกถาย, ปจฺฉิมกถา จ ปุริมกถายฯ โส กถเนเนว สกฺกา ชานิตุํ ‘‘อสุจิ เอโส ปุคฺคโล’’ติฯ สุจิสีลสฺส ปน ปุริมํ ปจฺฉิเมน, ปจฺฉิมญฺจ ปุริเมน สเมติฯ สมฺมุขากถิตํ ปรมฺมุขากถิเตน สเมติ, ปรมฺมุขากถิตญฺจ สมฺมุขากถิเตน, ตสฺมา กถเนน สกฺกา สุจิภาโว ชานิตุนฺติ ปกาเสโนฺต เอวมาหฯ

    Ettha hi byavahāro nāma. ‘‘Cattāro ariyavohārā, cattāro anariyavohārā’’ti (dī. ni. 3.313) ettha cetanā. ‘‘Saṅkhā samaññā paññatti vohāro’’ti (dha. sa. 1313-1315; mahāni. 73) ettha paññatti. ‘‘Vohāramattena so vohareyyā’’ti (saṃ. ni. 1.25) ettha kathāvohāro. Idhāpi esova adhippeto. Ekaccassa hi sammukhākathā parammukhākathāya na sameti parammukhākathā sammukhākathāya. Tathā purimakathā pacchimakathāya, pacchimakathā ca purimakathāya. So kathaneneva sakkā jānituṃ ‘‘asuci eso puggalo’’ti. Sucisīlassa pana purimaṃ pacchimena, pacchimañca purimena sameti. Sammukhākathitaṃ parammukhākathitena sameti, parammukhākathitañca sammukhākathitena, tasmā kathanena sakkā sucibhāvo jānitunti pakāsento evamāha.

    ถาโมติ ญาณถาโมฯ ยสฺส หิ ญาณถาโม นตฺถิ, โส อุปฺปเนฺนสุ อุปทฺทเวสุ คเหตพฺพํ คหณํ กตฺตพฺพํ กิจฺจํ อปสฺสโนฺต อทฺวารกฆรํ ปวิโฎฺฐ วิย จรติฯ เตนาห ‘‘อาปทาสุ, ภิกฺขเว, ถาโม เวทิตโพฺพ’’ติฯ

    Thāmoti ñāṇathāmo. Yassa hi ñāṇathāmo natthi, so uppannesu upaddavesu gahetabbaṃ gahaṇaṃ kattabbaṃ kiccaṃ apassanto advārakagharaṃ paviṭṭho viya carati. Tenāha ‘‘āpadāsu, bhikkhave, thāmo veditabbo’’ti.

    สากจฺฉายาติ สํกถายฯ ทุปฺปญฺญสฺส หิ กถา อุทเก เคณฺฑุ วิย อุปฺปิลวติฯ ปญฺญวโต กเถนฺตสฺส ปฎิภานํ อนนฺตํ โหติฯ อุทกวิปฺผนฺทิเตเนว หิ มโจฺฉ ขุทฺทโก วา มหโนฺต วาติ ญายติฯ

    Sākacchāyāti saṃkathāya. Duppaññassa hi kathā udake geṇḍu viya uppilavati. Paññavato kathentassa paṭibhānaṃ anantaṃ hoti. Udakavipphanditeneva hi maccho khuddako vā mahanto vāti ñāyati.

    ญาติวินาโสติ โจรโรคภยาทีหิ ญาตีนํ วินาโสฯ โภคานํ พฺยสนํ โภคพฺยสนํ, ราชโจราทิวเสน โภควินาโสติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘ทุติยปเทปิ เอเสว นโย’’ติฯ ปญฺหุมฺมโคฺคติ ปญฺหคเวสนํ, ญาตุํ อิจฺฉิตสฺส อตฺถสฺส วีมํสนนฺติ อโตฺถฯ อตปฺปกนฺติ อติตฺติกรเฎฺฐน อตปฺปกํ สาทุรสโภชนํ วิยฯ สณฺหนฺติ สุขุมสภาวํฯ

    Ñātivināsoti corarogabhayādīhi ñātīnaṃ vināso. Bhogānaṃ byasanaṃ bhogabyasanaṃ, rājacorādivasena bhogavināsoti attho. Tenāha ‘‘dutiyapadepi eseva nayo’’ti. Pañhummaggoti pañhagavesanaṃ, ñātuṃ icchitassa atthassa vīmaṃsananti attho. Atappakanti atittikaraṭṭhena atappakaṃ sādurasabhojanaṃ viya. Saṇhanti sukhumasabhāvaṃ.

    ฐานสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Ṭhānasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๒. ฐานสุตฺตํ • 2. Ṭhānasuttaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๒. ฐานสุตฺตวณฺณนา • 2. Ṭhānasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact