Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā

    เถยฺยสํวาสกวตฺถุกถาวณฺณนา

    Theyyasaṃvāsakavatthukathāvaṇṇanā

    ๑๑๐. เถยฺยสํวาสกวตฺถุมฺหิ โกลญฺญาติ กุเล ชาตา, ตตฺถ วา วิทิตา ญาตา ปสิทฺธา, ตํ วา ชานนฺติ โกลญฺญาติ ญาตกานํ นามํฯ เถยฺยาย ลิงฺคคฺคหณมตฺตมฺปิ อิธ สํวาโส เอวาติ อาห ‘‘ตโย เถยฺยสํวาสกา’’ติฯ น ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนนฺติ ภิกฺขูนํ, สามเณรานํ วา วนฺทนํ น สาทิยติฯ

    110. Theyyasaṃvāsakavatthumhi kolaññāti kule jātā, tattha vā viditā ñātā pasiddhā, taṃ vā jānanti kolaññāti ñātakānaṃ nāmaṃ. Theyyāya liṅgaggahaṇamattampi idha saṃvāso evāti āha ‘‘tayo theyyasaṃvāsakā’’ti. Na yathāvuḍḍhaṃ vandananti bhikkhūnaṃ, sāmaṇerānaṃ vā vandanaṃ na sādiyati.

    ยถาวุฑฺฒํ วนฺทนนฺติ อตฺตนา มุสาวาเทน ทสฺสิตวสฺสกฺกเมน ภิกฺขูนํ วนฺทนํ สาทิยติ, ทหรสามเณโร ปน วุฑฺฒสามเณรานํ, ทหรภิกฺขุ จ วุฑฺฒานํ วนฺทนํ สาทิยโนฺตปิ เถยฺยสํวาสโก น โหติฯ อิมสฺมิํ อเตฺถติ สํวาสเตฺถนกเตฺถฯ

    Yathāvuḍḍhaṃ vandananti attanā musāvādena dassitavassakkamena bhikkhūnaṃ vandanaṃ sādiyati, daharasāmaṇero pana vuḍḍhasāmaṇerānaṃ, daharabhikkhu ca vuḍḍhānaṃ vandanaṃ sādiyantopi theyyasaṃvāsako na hoti. Imasmiṃ attheti saṃvāsatthenakatthe.

    ‘‘ภิกฺขุวสฺสานี’’ติ อิทํ สํวาสเตฺถนเก วุตฺตปาฐวเสน วุตฺตํ, สยเมว ปน ปพฺพชิตฺวา สามเณรวสฺสานิ คเณโนฺตปิ อุภยเตฺถนโก เอวฯ น เกวลญฺจ ปุริโสว, อิตฺถีปิ ภิกฺขุนีสุ เอวํ ปฎิปชฺชติ, เถยฺยสํวาสิกาวฯ อาทิกมฺมิกาปิ เจตฺถ น มุจฺจนฺติ, อุปสมฺปเนฺนสุ เอว ปญฺญตฺตาปตฺติํ ปฎิจฺจ อาทิกมฺมิกา วุตฺตา, เตเนเวตฺถ อาทิกมฺมิโกปิ น มุโตฺตฯ

    ‘‘Bhikkhuvassānī’’ti idaṃ saṃvāsatthenake vuttapāṭhavasena vuttaṃ, sayameva pana pabbajitvā sāmaṇeravassāni gaṇentopi ubhayatthenako eva. Na kevalañca purisova, itthīpi bhikkhunīsu evaṃ paṭipajjati, theyyasaṃvāsikāva. Ādikammikāpi cettha na muccanti, upasampannesu eva paññattāpattiṃ paṭicca ādikammikā vuttā, tenevettha ādikammikopi na mutto.

    ราช…เป.… ภเยนาติ เอตฺถ ภย-สโทฺท ปเจฺจกํ โยเชตโพฺพฯ ยาว โส สุทฺธมานโสติ ‘‘อิมินา ลิเงฺคน ภิกฺขู วเญฺจตฺวา เตหิ สํวสิสฺสามี’’ติ อสุทฺธจิตฺตาภาเวน สุทฺธจิโตฺตฯ เตน หิ อสุทฺธจิเตฺตน ลิเงฺค คหิตมเตฺต ปจฺฉา ภิกฺขูหิ สห สํวสตุ วา มา วา, ลิงฺคเตฺถนโก โหติฯ ปจฺฉา สํวสโนฺตปิ อภโพฺพ หุตฺวา สํวสติฯ ตสฺมา อุภยเตฺถนโกปิ ลิงฺคเตฺถนเก เอว ปวิสตีติ เวทิตพฺพํฯ โย ปน ราชาทิภเยน สุทฺธจิโตฺตว ลิงฺคํ คเหตฺวา วิจรโนฺต ปจฺฉา ‘‘ภิกฺขุวสฺสานิ คเณตฺวา ชีวิสฺสามี’’ติ อสุทฺธจิตฺตํ อุปฺปาเทติ, โส จิตฺตุปฺปาทมเตฺตน เถยฺยสํวาสโกปิ น โหติ สุทฺธจิเตฺตน คหิตลิงฺคตฺตาฯ สเจ ปน โส ภิกฺขูนํ สนฺติกํ คนฺตฺวา สามเณรวสฺสคณนาทิํ กโรติ, ตทา สํวาสเตฺถนโก, อุภยเตฺถนโก วา โหตีติ ทฎฺฐพฺพํฯ ยํ ปน ปรโต สห ธุรนิเกฺขเปน ‘‘อยมฺปิ เถยฺยสํวาสโก, วา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ภิกฺขูหิ สงฺคมฺม สํวาสาธิวาสนวเสน ธุรนิเกฺขปํ สนฺธาย วุตฺตํฯ เตน วุตฺตํ ‘‘สํวาสํ นาธิวาเสติ ยาวา’’ติฯ ตสฺส ตาว เถยฺยสํวาสโก นาม น วุจฺจตีติ สมฺพโนฺธ ทฎฺฐโพฺพฯ เอตฺถ จ โจราทิภยํ วินาปิ กีฬาธิปฺปาเยน ลิงฺคํ คเหตฺวา ภิกฺขูนํ สนฺติเก ปพฺพชิตาลยํ ทเสฺสตฺวา วนฺทนาทิํ อสาทิยโนฺตปิ ‘‘โสภติ นุ โข เม ปพฺพชิตลิงฺค’’นฺติอาทินา สุทฺธจิเตฺตน คณฺหโนฺตปิ เถยฺยสํวาสโก น โหตีติ ทฎฺฐพฺพํฯ

    Rāja…pe… bhayenāti ettha bhaya-saddo paccekaṃ yojetabbo. Yāva so suddhamānasoti ‘‘iminā liṅgena bhikkhū vañcetvā tehi saṃvasissāmī’’ti asuddhacittābhāvena suddhacitto. Tena hi asuddhacittena liṅge gahitamatte pacchā bhikkhūhi saha saṃvasatu vā mā vā, liṅgatthenako hoti. Pacchā saṃvasantopi abhabbo hutvā saṃvasati. Tasmā ubhayatthenakopi liṅgatthenake eva pavisatīti veditabbaṃ. Yo pana rājādibhayena suddhacittova liṅgaṃ gahetvā vicaranto pacchā ‘‘bhikkhuvassāni gaṇetvā jīvissāmī’’ti asuddhacittaṃ uppādeti, so cittuppādamattena theyyasaṃvāsakopi na hoti suddhacittena gahitaliṅgattā. Sace pana so bhikkhūnaṃ santikaṃ gantvā sāmaṇeravassagaṇanādiṃ karoti, tadā saṃvāsatthenako, ubhayatthenako vā hotīti daṭṭhabbaṃ. Yaṃ pana parato saha dhuranikkhepena ‘‘ayampi theyyasaṃvāsako, vā’’ti vuttaṃ, taṃ bhikkhūhi saṅgamma saṃvāsādhivāsanavasena dhuranikkhepaṃ sandhāya vuttaṃ. Tena vuttaṃ ‘‘saṃvāsaṃ nādhivāseti yāvā’’ti. Tassa tāva theyyasaṃvāsako nāma na vuccatīti sambandho daṭṭhabbo. Ettha ca corādibhayaṃ vināpi kīḷādhippāyena liṅgaṃ gahetvā bhikkhūnaṃ santike pabbajitālayaṃ dassetvā vandanādiṃ asādiyantopi ‘‘sobhati nu kho me pabbajitaliṅga’’ntiādinā suddhacittena gaṇhantopi theyyasaṃvāsako na hotīti daṭṭhabbaṃ.

    สพฺพปาสณฺฑิยภตฺตานีติ สพฺพสามยิกานํ สาธารณํ กตฺวา ปญฺญตฺตภตฺตานิ, อิทญฺจ ภิกฺขูนเญฺญว นิยมิตภตฺตคหเณ สํวาโสปิ สมฺภเวยฺยาติ สพฺพสาธารณภตฺตํ วุตฺตํฯ สํวาสํ ปน อสาทิยิตฺวา อภิกฺขุกวิหาราทีสุ วิหารภตฺตาทีนิ ภุญฺชโนฺตปิ เถยฺยสํวาสโก น โหติ เอวฯ กมฺมนฺตานุฎฺฐาเนนาติ กสิอาทิกมฺมกรเณนฯ ปตฺตจีวรํ อาทายาติ ภิกฺขุลิงฺคเวเสน สรีเรน ธาเรตฺวาฯ

    Sabbapāsaṇḍiyabhattānīti sabbasāmayikānaṃ sādhāraṇaṃ katvā paññattabhattāni, idañca bhikkhūnaññeva niyamitabhattagahaṇe saṃvāsopi sambhaveyyāti sabbasādhāraṇabhattaṃ vuttaṃ. Saṃvāsaṃ pana asādiyitvā abhikkhukavihārādīsu vihārabhattādīni bhuñjantopi theyyasaṃvāsako na hoti eva. Kammantānuṭṭhānenāti kasiādikammakaraṇena. Pattacīvaraṃ ādāyāti bhikkhuliṅgavesena sarīrena dhāretvā.

    ‘‘โย เอวํ ปพฺพชติ, โส เถยฺยสํวาสโก นาม โหตี’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ, ‘‘เถยฺยสํวาสโก’’ติ ปน นามํ อชานโนฺตปิ ‘‘เอวํ กาตุํ น วฎฺฎตี’’ติ วา ‘‘เอวํ กโรโนฺต สมโณ นาม น โหตี’’ติ วา ‘‘ยทิ อาโรเจสฺสามิ, ฉเฑฺฑสฺสนฺติ ม’’นฺติ วา ‘‘เยน เกนจิ ปพฺพชฺชา เม น รุหตี’’ติ ชานาติ, เถยฺยสํวาสโก โหติฯ โย ปน ปฐมํ ‘‘ปพฺพชฺชา เอวํ เม คหิตา’’ติสญฺญี เกวลํ อนฺตรา อตฺตโน เสตวตฺถนิวาสนาทิวิปฺปการํ ปกาเสตุํ ลชฺชโนฺต น กเถติ, โส เถยฺยสํวาสโก น โหติฯ อนุปสมฺปนฺนกาเลเยวาติ เอตฺถ อวธารเณน อุปสมฺปนฺนกาเล เถยฺยสํวาสกลกฺขณํ ญตฺวา วญฺจนายปิ นาโรเจติ, เถยฺยสํวาสโก น โหตีติ ทีเปติฯ โส ปริสุทฺธจิเตฺตน คหิตลิงฺคตฺตา ลิงฺคเตฺถนโก น โหติ, ลทฺธูปสมฺปทตฺตา ตทนุคุณเสฺสว สํวาสสฺส สาทิตตฺตา สํวาสเตฺถนโกปิ น โหติฯ อนุปสมฺปโนฺน ปน ลิงฺคเตฺถนโก โหติ, สํวาสารหสฺส ลิงฺคสฺส คหิตตฺตา สํวาสสาทิยนมเตฺตน สํวาสเตฺถนโก โหติฯ

    ‘‘Yo evaṃ pabbajati, so theyyasaṃvāsako nāma hotī’’ti idaṃ nidassanamattaṃ, ‘‘theyyasaṃvāsako’’ti pana nāmaṃ ajānantopi ‘‘evaṃ kātuṃ na vaṭṭatī’’ti vā ‘‘evaṃ karonto samaṇo nāma na hotī’’ti vā ‘‘yadi ārocessāmi, chaḍḍessanti ma’’nti vā ‘‘yena kenaci pabbajjā me na ruhatī’’ti jānāti, theyyasaṃvāsako hoti. Yo pana paṭhamaṃ ‘‘pabbajjā evaṃ me gahitā’’tisaññī kevalaṃ antarā attano setavatthanivāsanādivippakāraṃ pakāsetuṃ lajjanto na katheti, so theyyasaṃvāsako na hoti. Anupasampannakāleyevāti ettha avadhāraṇena upasampannakāle theyyasaṃvāsakalakkhaṇaṃ ñatvā vañcanāyapi nāroceti, theyyasaṃvāsako na hotīti dīpeti. So parisuddhacittena gahitaliṅgattā liṅgatthenako na hoti, laddhūpasampadattā tadanuguṇasseva saṃvāsassa sāditattā saṃvāsatthenakopi na hoti. Anupasampanno pana liṅgatthenako hoti, saṃvāsārahassa liṅgassa gahitattā saṃvāsasādiyanamattena saṃvāsatthenako hoti.

    สลิเงฺค ฐิโตติ สลิงฺคภาเว ฐิโตฯ เถยฺยสํวาสโก น โหตีติ ภิกฺขูหิ ทินฺนลิงฺคสฺส อปริจฺจตฺตตฺตา ลิงฺคเตฺถนโก น โหติ, ภิกฺขุปฎิญฺญาย อปริจฺจตฺตตฺตา สํวาสเตฺถนโก น โหตีติฯ ยํ ปน มาติกาฎฺฐกถายํ ‘‘ลิงฺคานุรูปสฺส สํวาสสฺส สาทิตตฺตา น สํวาสเตฺถนโก’’ติ (กงฺขา. อฎฺฐ. ปฐมปาราชิกวณฺณนา) การณํ วุตฺตํ, ตมฺปิ อิทเมว การณํ สนฺธาย วุตฺตํฯ อิตรถา สามเณรสฺสปิ ภิกฺขุวสฺสคณนาทีสุ ลิงฺคานุรูปสํวาโส เอว สาทิโตติ สํวาสเตฺถนกตา น สิยา ภิกฺขูหิ ทินฺนลิงฺคสฺส อุภินฺนมฺปิ สาธารณตฺตาฯ ยถา เจตฺถ ภิกฺขุ, เอวํ สามเณโรปิ ปาราชิกํ สมาปโนฺน สามเณรปฎิญฺญาย อปริจฺจตฺตตฺตา สํวาสเตฺถนโก น โหตีติ เวทิตโพฺพฯ โสภตีติ สมฺปฎิจฺฉิตฺวาติ กาสาวธารเณ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา คิหิภาวํ สมฺปฎิจฺฉิตฺวาฯ

    Saliṅge ṭhitoti saliṅgabhāve ṭhito. Theyyasaṃvāsako na hotīti bhikkhūhi dinnaliṅgassa apariccattattā liṅgatthenako na hoti, bhikkhupaṭiññāya apariccattattā saṃvāsatthenako na hotīti. Yaṃ pana mātikāṭṭhakathāyaṃ ‘‘liṅgānurūpassa saṃvāsassa sāditattā na saṃvāsatthenako’’ti (kaṅkhā. aṭṭha. paṭhamapārājikavaṇṇanā) kāraṇaṃ vuttaṃ, tampi idameva kāraṇaṃ sandhāya vuttaṃ. Itarathā sāmaṇerassapi bhikkhuvassagaṇanādīsu liṅgānurūpasaṃvāso eva sāditoti saṃvāsatthenakatā na siyā bhikkhūhi dinnaliṅgassa ubhinnampi sādhāraṇattā. Yathā cettha bhikkhu, evaṃ sāmaṇeropi pārājikaṃ samāpanno sāmaṇerapaṭiññāya apariccattattā saṃvāsatthenako na hotīti veditabbo. Sobhatīti sampaṭicchitvāti kāsāvadhāraṇe dhuraṃ nikkhipitvā gihibhāvaṃ sampaṭicchitvā.

    โย โกจิ วุฑฺฒปพฺพชิโตติ สามเณรํ สนฺธาย วุตฺตํฯ มหาเปฬาทีสูติ วิลีวาทิมเยสุ ฆรทฺวาเรสุ ฐปิตภตฺตภาชนวิเสเสสุ, เอเตน วิหาเร ภิกฺขูหิ สทฺธิํ วสฺสคณนาทีนํ อกรณํ ทเสฺสติฯ

    Yo koci vuḍḍhapabbajitoti sāmaṇeraṃ sandhāya vuttaṃ. Mahāpeḷādīsūti vilīvādimayesu gharadvāresu ṭhapitabhattabhājanavisesesu, etena vihāre bhikkhūhi saddhiṃ vassagaṇanādīnaṃ akaraṇaṃ dasseti.

    เถยฺยสํวาสกวตฺถุกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Theyyasaṃvāsakavatthukathāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi / ๔๘. เถยฺยสํวาสกวตฺถุ • 48. Theyyasaṃvāsakavatthu

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / เถยฺยสํวาสกวตฺถุกถา • Theyyasaṃvāsakavatthukathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / เถยฺยสํวาสกวตฺถุกถาวณฺณนา • Theyyasaṃvāsakavatthukathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / เถยฺยสํวาสกวตฺถุกถาวณฺณนา • Theyyasaṃvāsakavatthukathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๔๘. ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถา • 48. Titthiyapakkantakakathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact