Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปุคฺคลปญฺญตฺติปาฬิ • Puggalapaññattipāḷi

    ๓. ติกปุคฺคลปญฺญตฺติ

    3. Tikapuggalapaññatti

    ๙๑. กตโม จ ปุคฺคโล นิราโส? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ทุสฺสีโล โหติ ปาปธโมฺม อสุจิ สงฺกสฺสรสมาจาโร ปฎิจฺฉนฺนกมฺมโนฺต อสฺสมโณ สมณปฎิโญฺญ อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฎิโญฺญ อโนฺตปูติ อวสฺสุโต กสมฺพุชาโตฯ โส สุณาติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม กิร ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติฯ ตสฺส น เอวํ โหติ – ‘‘กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามี’’ติฯ อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘นิราโส’’ฯ

    91. Katamo ca puggalo nirāso? Idhekacco puggalo dussīlo hoti pāpadhammo asuci saṅkassarasamācāro paṭicchannakammanto assamaṇo samaṇapaṭiñño abrahmacārī brahmacāripaṭiñño antopūti avassuto kasambujāto. So suṇāti – ‘‘itthannāmo kira bhikkhu āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharatī’’ti. Tassa na evaṃ hoti – ‘‘kudāssu nāmāhampi āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharissāmī’’ti. Ayaṃ vuccati puggalo ‘‘nirāso’’.

    ๙๒. กตโม จ ปุคฺคโล อาสํโส? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล สีลวา โหติ กลฺยาณธโมฺมฯ โส สุณาติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม กิร ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามี’’ติฯ อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อาสํโส’’ฯ

    92. Katamo ca puggalo āsaṃso? Idhekacco puggalo sīlavā hoti kalyāṇadhammo. So suṇāti – ‘‘itthannāmo kira bhikkhu āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharatī’’ti. Tassa evaṃ hoti – ‘‘kudāssu nāmāhampi āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharissāmī’’ti. Ayaṃ vuccati puggalo ‘‘āsaṃso’’.

    ๙๓. กตโม จ ปุคฺคโล วิคตาโส? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ โส สุณาติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม กิร ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติฯ ตสฺส น เอวํ โหติ – ‘‘กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามี’’ติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ยา หิสฺส ปุเพฺพ อวิมุตฺตสฺส วิมุตฺตาสา, สา ปฎิปฺปสฺสทฺธาฯ อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘วิคตาโส’’ฯ

    93. Katamo ca puggalo vigatāso? Idhekacco puggalo āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharati. So suṇāti – ‘‘itthannāmo kira bhikkhu āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharatī’’ti. Tassa na evaṃ hoti – ‘‘kudāssu nāmāhampi āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharissāmī’’ti. Taṃ kissa hetu? Yā hissa pubbe avimuttassa vimuttāsā, sā paṭippassaddhā. Ayaṃ vuccati puggalo ‘‘vigatāso’’.

    ๙๔. ตตฺถ กตเม ตโย คิลานูปมา ปุคฺคลา? ตโย คิลานา – อิเธกโจฺจ คิลาโน ลภโนฺต วา สปฺปายานิ โภชนานิ อลภโนฺต วา สปฺปายานิ โภชนานิ, ลภโนฺต วา สปฺปายานิ เภสชฺชานิ อลภโนฺต วา สปฺปายานิ เภสชฺชานิ, ลภโนฺต วา ปติรูปํ อุปฎฺฐากํ อลภโนฺต วา ปติรูปํ อุปฎฺฐากํ, เนว วุฎฺฐาติ ตมฺหา อาพาธาฯ (๑)

    94. Tattha katame tayo gilānūpamā puggalā? Tayo gilānā – idhekacco gilāno labhanto vā sappāyāni bhojanāni alabhanto vā sappāyāni bhojanāni, labhanto vā sappāyāni bhesajjāni alabhanto vā sappāyāni bhesajjāni, labhanto vā patirūpaṃ upaṭṭhākaṃ alabhanto vā patirūpaṃ upaṭṭhākaṃ, neva vuṭṭhāti tamhā ābādhā. (1)

    อิธ ปเนกโจฺจ คิลาโน ลภโนฺต วา สปฺปายานิ โภชนานิ อลภโนฺต วา สปฺปายานิ โภชนานิ, ลภโนฺต วา สปฺปายานิ เภสชฺชานิ อลภโนฺต วา สปฺปายานิ เภสชฺชานิ, ลภโนฺต วา ปติรูปํ อุปฎฺฐากํ อลภโนฺต วา ปติรูปํ อุปฎฺฐากํ, วุฎฺฐาติ ตมฺหา อาพาธาฯ (๒)

    Idha panekacco gilāno labhanto vā sappāyāni bhojanāni alabhanto vā sappāyāni bhojanāni, labhanto vā sappāyāni bhesajjāni alabhanto vā sappāyāni bhesajjāni, labhanto vā patirūpaṃ upaṭṭhākaṃ alabhanto vā patirūpaṃ upaṭṭhākaṃ, vuṭṭhāti tamhā ābādhā. (2)

    อิธ ปเนกโจฺจ คิลาโน ลภโนฺต สปฺปายานิ โภชนานิ โน อลภโนฺต, ลภโนฺต สปฺปายานิ เภสชฺชานิ โน อลภโนฺต, ลภโนฺต ปติรูปํ อุปฎฺฐากํ โน อลภโนฺต, วุฎฺฐาติ ตมฺหา อาพาธาฯ (๓)

    Idha panekacco gilāno labhanto sappāyāni bhojanāni no alabhanto, labhanto sappāyāni bhesajjāni no alabhanto, labhanto patirūpaṃ upaṭṭhākaṃ no alabhanto, vuṭṭhāti tamhā ābādhā. (3)

    ตตฺร ยฺวายํ คิลาโน ลภโนฺต สปฺปายานิ โภชนานิ โน อลภโนฺต, ลภโนฺต สปฺปายานิ เภสชฺชานิ โน อลภโนฺต, ลภโนฺต ปติรูปํ อุปฎฺฐากํ โน อลภโนฺต, วุฎฺฐาติ ตมฺหา อาพาธา, อิมํ คิลานํ ปฎิจฺจ ภควตา คิลานภตฺตํ อนุญฺญาตํ คิลานเภสชฺชํ อนุญฺญาตํ คิลานุปฎฺฐาโก อนุญฺญาโตฯ อิมญฺจ ปน คิลานํ ปฎิจฺจ อเญฺญปิ คิลานา อุปฎฺฐาตพฺพาฯ

    Tatra yvāyaṃ gilāno labhanto sappāyāni bhojanāni no alabhanto, labhanto sappāyāni bhesajjāni no alabhanto, labhanto patirūpaṃ upaṭṭhākaṃ no alabhanto, vuṭṭhāti tamhā ābādhā, imaṃ gilānaṃ paṭicca bhagavatā gilānabhattaṃ anuññātaṃ gilānabhesajjaṃ anuññātaṃ gilānupaṭṭhāko anuññāto. Imañca pana gilānaṃ paṭicca aññepi gilānā upaṭṭhātabbā.

    เอวเมวํ 1 ตโย คิลานูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ กตเม ตโย? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ลภโนฺต วา ตถาคตํ ทสฺสนาย อลภโนฺต วา ตถาคตํ ทสฺสนาย, ลภโนฺต วา ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ สวณาย อลภโนฺต วา ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ สวณาย, เนว โอกฺกมติ นิยามํ กุสเลสุ ธเมฺมสุ สมฺมตฺตํฯ (๑)

    Evamevaṃ 2 tayo gilānūpamā puggalā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ. Katame tayo? Idhekacco puggalo labhanto vā tathāgataṃ dassanāya alabhanto vā tathāgataṃ dassanāya, labhanto vā tathāgatappaveditaṃ dhammavinayaṃ savaṇāya alabhanto vā tathāgatappaveditaṃ dhammavinayaṃ savaṇāya, neva okkamati niyāmaṃ kusalesu dhammesu sammattaṃ. (1)

    อิธ ปเนกโจฺจ ปุคฺคโล ลภโนฺต วา ตถาคตํ ทสฺสนาย อลภโนฺต วา ตถาคตํ ทสฺสนาย, ลภโนฺต วา ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ สวณาย อลภโนฺต วา ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ สวณาย, โอกฺกมติ นิยามํ กุสเลสุ ธเมฺมสุ สมฺมตฺตํฯ (๒)

    Idha panekacco puggalo labhanto vā tathāgataṃ dassanāya alabhanto vā tathāgataṃ dassanāya, labhanto vā tathāgatappaveditaṃ dhammavinayaṃ savaṇāya alabhanto vā tathāgatappaveditaṃ dhammavinayaṃ savaṇāya, okkamati niyāmaṃ kusalesu dhammesu sammattaṃ. (2)

    อิธ ปเนกโจฺจ ปุคฺคโล ลภโนฺต ตถาคตํ ทสฺสนาย โน อลภโนฺต, ลภโนฺต ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ สวณาย โน อลภโนฺต, โอกฺกมติ นิยามํ กุสเลสุ ธเมฺมสุ สมฺมตฺตํฯ (๓)

    Idha panekacco puggalo labhanto tathāgataṃ dassanāya no alabhanto, labhanto tathāgatappaveditaṃ dhammavinayaṃ savaṇāya no alabhanto, okkamati niyāmaṃ kusalesu dhammesu sammattaṃ. (3)

    ตตฺร ยฺวายํ ปุคฺคโล ลภโนฺต ตถาคตํ ทสฺสนาย โน อลภโนฺต, ลภโนฺต ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ สวณาย โน อลภโนฺต , โอกฺกมติ นิยามํ กุสเลสุ ธเมฺมสุ สมฺมตฺตํ, อิมํ ปุคฺคลํ ปฎิจฺจ ภควตา ธมฺมเทสนา อนุญฺญาตา, อิมญฺจ ปุคฺคลํ ปฎิจฺจ อเญฺญสมฺปิ ธโมฺม เทเสตโพฺพฯ อิเม ตโย คิลานูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ

    Tatra yvāyaṃ puggalo labhanto tathāgataṃ dassanāya no alabhanto, labhanto tathāgatappaveditaṃ dhammavinayaṃ savaṇāya no alabhanto , okkamati niyāmaṃ kusalesu dhammesu sammattaṃ, imaṃ puggalaṃ paṭicca bhagavatā dhammadesanā anuññātā, imañca puggalaṃ paṭicca aññesampi dhammo desetabbo. Ime tayo gilānūpamā puggalā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ.

    ๙๕. กตโม จ ปุคฺคโล กายสกฺขี? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อฎฺฐ วิโมเกฺข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปญฺญาย จสฺส ทิสฺวา เอกเจฺจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘กายสกฺขี’’ฯ

    95. Katamo ca puggalo kāyasakkhī? Idhekacco puggalo aṭṭha vimokkhe kāyena phusitvā viharati, paññāya cassa disvā ekacce āsavā parikkhīṇā honti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘kāyasakkhī’’.

    ๙๖. กตโม จ ปุคฺคโล ทิฎฺฐิปฺปโตฺต? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ธมฺมา ปญฺญาย โวทิฎฺฐา โหนฺติ โวจริตา, ปญฺญาย จสฺส ทิสฺวา เอกเจฺจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ทิฎฺฐิปฺปโตฺต’’ฯ

    96. Katamo ca puggalo diṭṭhippatto? Idhekacco puggalo ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhasamudayo’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodho’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, tathāgatappaveditā cassa dhammā paññāya vodiṭṭhā honti vocaritā, paññāya cassa disvā ekacce āsavā parikkhīṇā honti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘diṭṭhippatto’’.

    ๙๗. กตโม จ ปุคฺคโล สทฺธาวิมุโตฺต? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป.… ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ธมฺมา ปญฺญาย โวทิฎฺฐา โหนฺติ โวจริตา, ปญฺญาย จสฺส ทิสฺวา เอกเจฺจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ, โน จ โข ยถาทิฎฺฐิปฺปตฺตสฺส – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สทฺธาวิมุโตฺต’’ฯ

    97. Katamo ca puggalo saddhāvimutto? Idhekacco puggalo ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ pajānāti…pe… tathāgatappaveditā cassa dhammā paññāya vodiṭṭhā honti vocaritā, paññāya cassa disvā ekacce āsavā parikkhīṇā honti, no ca kho yathādiṭṭhippattassa – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘saddhāvimutto’’.

    ๙๘. กตโม จ ปุคฺคโล คูถภาณี? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล มุสาวาที โหติ สภคฺคโต วา ปริสคฺคโต วา ญาติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา อภินีโต สกฺขิปุโฎฺฐ – ‘‘เอหโมฺภ 3, ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’’ติ, โส อชานํ วา อาห – ‘‘ชานามี’’ติ, ชานํ วา อาห – ‘‘น ชานามี’’ติ, อปสฺสํ วา อาห – ‘‘ปสฺสามี’’ติ, ปสฺสํ วา อาห – ‘‘น ปสฺสามี’’ติฯ อิติ อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิญฺจิกฺขเหตุ วา สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘คูถภาณี’’ฯ

    98. Katamo ca puggalo gūthabhāṇī? Idhekacco puggalo musāvādī hoti sabhaggato vā parisaggato vā ñātimajjhagato vā pūgamajjhagato vā rājakulamajjhagato vā abhinīto sakkhipuṭṭho – ‘‘ehambho 4, purisa, yaṃ jānāsi taṃ vadehī’’ti, so ajānaṃ vā āha – ‘‘jānāmī’’ti, jānaṃ vā āha – ‘‘na jānāmī’’ti, apassaṃ vā āha – ‘‘passāmī’’ti, passaṃ vā āha – ‘‘na passāmī’’ti. Iti attahetu vā parahetu vā āmisakiñcikkhahetu vā sampajānamusā bhāsitā hoti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘gūthabhāṇī’’.

    ๙๙. กตโม จ ปุคฺคโล ปุปฺผภาณี? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฎิวิรโต โหติ สภคฺคโต วา ปริสคฺคโต วา ญาติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา อภินีโต สกฺขิปุโฎฺฐ – ‘‘เอหโมฺภ, ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’’ติ, โส อชานํ วา อาห – ‘‘น ชานามี’’ติ, ชานํ วา อาห – ‘‘ชานามี’’ติ, อปสฺสํ วา อาห – ‘‘น ปสฺสามี’’ติ, ปสฺสํ วา อาห – ‘‘ปสฺสามี’’ติฯ อิติ อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิญฺจิกฺขเหตุ วา น สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปุปฺผภาณี’’ฯ

    99. Katamo ca puggalo pupphabhāṇī? Idhekacco puggalo musāvādaṃ pahāya musāvādā paṭivirato hoti sabhaggato vā parisaggato vā ñātimajjhagato vā pūgamajjhagato vā rājakulamajjhagato vā abhinīto sakkhipuṭṭho – ‘‘ehambho, purisa, yaṃ jānāsi taṃ vadehī’’ti, so ajānaṃ vā āha – ‘‘na jānāmī’’ti, jānaṃ vā āha – ‘‘jānāmī’’ti, apassaṃ vā āha – ‘‘na passāmī’’ti, passaṃ vā āha – ‘‘passāmī’’ti. Iti attahetu vā parahetu vā āmisakiñcikkhahetu vā na sampajānamusā bhāsitā hoti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘pupphabhāṇī’’.

    ๑๐๐. กตโม จ ปุคฺคโล มธุภาณี? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนิยา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา, ตถารูปิํ วาจํ ภาสิตา โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘มธุภาณี’’ฯ

    100. Katamo ca puggalo madhubhāṇī? Idhekacco puggalo yā sā vācā nelā kaṇṇasukhā pemaniyā hadayaṅgamā porī bahujanakantā bahujanamanāpā, tathārūpiṃ vācaṃ bhāsitā hoti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘madhubhāṇī’’.

    ๑๐๑. กตโม จ ปุคฺคโล อรุกูปมจิโตฺต? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล โกธโน โหติ อุปายาสพหุโล, อปฺปมฺปิ วุโตฺต สมาโน อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถียติ 5, โกปญฺจ โทสญฺจ อปฺปจฺจยญฺจ ปาตุกโรติฯ เสยฺยถาปิ นาม ทุฎฺฐารุโก กเฎฺฐน วา กฐลาย 6 วา ฆฎฺฎิโต ภิโยฺยโส มตฺตาย อาสวํ เทติ 7, เอวเมวํ อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล โกธโน โหติ อุปายาสพหุโล, อปฺปมฺปิ วุโตฺต สมาโน อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถียติ, โกปญฺจ โทสญฺจ อปฺปจฺจยญฺจ ปาตุกโรติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อรุกูปมจิโตฺต’’ฯ

    101. Katamo ca puggalo arukūpamacitto? Idhekacco puggalo kodhano hoti upāyāsabahulo, appampi vutto samāno abhisajjati kuppati byāpajjati patitthīyati 8, kopañca dosañca appaccayañca pātukaroti. Seyyathāpi nāma duṭṭhāruko kaṭṭhena vā kaṭhalāya 9 vā ghaṭṭito bhiyyoso mattāya āsavaṃ deti 10, evamevaṃ idhekacco puggalo kodhano hoti upāyāsabahulo, appampi vutto samāno abhisajjati kuppati byāpajjati patitthīyati, kopañca dosañca appaccayañca pātukaroti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘arukūpamacitto’’.

    ๑๐๒. กตโม จ ปุคฺคโล วิชฺชูปมจิโตฺต? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติฯ เสยฺยถาปิ นาม จกฺขุมา ปุริโส รตฺตนฺธการติมิสาย วิชฺชนฺตริกาย รูปานิ ปเสฺสยฺย, เอวเมวํ อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ , ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘วิชฺชูปมจิโตฺต’’ฯ

    102. Katamo ca puggalo vijjūpamacitto? Idhekacco puggalo ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhasamudayo’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodho’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ pajānāti. Seyyathāpi nāma cakkhumā puriso rattandhakāratimisāya vijjantarikāya rūpāni passeyya, evamevaṃ idhekacco puggalo ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhasamudayo’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodho’’ti yathābhūtaṃ pajānāti , ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ pajānāti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘vijjūpamacitto’’.

    ๑๐๓. กตโม จ ปุคฺคโล วชิรูปมจิโตฺต? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ เสยฺยถาปิ นาม วชิรสฺส นตฺถิ กิญฺจิ อเภชฺชํ มณิ วา ปาสาโณ วา, เอวเมวํ อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘วชิรูปมจิโตฺต’’ฯ

    103. Katamo ca puggalo vajirūpamacitto? Idhekacco puggalo āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharati. Seyyathāpi nāma vajirassa natthi kiñci abhejjaṃ maṇi vā pāsāṇo vā, evamevaṃ idhekacco puggalo āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharati – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘vajirūpamacitto’’.

    ๑๐๔. กตโม จ ปุคฺคโล อโนฺธ? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ตถารูปํ จกฺขุ น โหติ ยถารูเปน จกฺขุนา อนธิคตํ วา โภคํ อธิคเจฺฉยฺย, อธิคตํ วา โภคํ ผาติํ กเรยฺย; ตถารูปมฺปิสฺส จกฺขุ น โหติ ยถารูเปน จกฺขุนา กุสลากุสเล ธเมฺม ชาเนยฺย, สาวชฺชานวเชฺช ธเมฺม ชาเนยฺย, หีนปฺปณีเต ธเมฺม ชาเนยฺย, กณฺหสุกฺกสปฺปฎิภาเค ธเมฺม ชาเนยฺย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อโนฺธ’’ฯ

    104. Katamo ca puggalo andho? Idhekaccassa puggalassa tathārūpaṃ cakkhu na hoti yathārūpena cakkhunā anadhigataṃ vā bhogaṃ adhigaccheyya, adhigataṃ vā bhogaṃ phātiṃ kareyya; tathārūpampissa cakkhu na hoti yathārūpena cakkhunā kusalākusale dhamme jāneyya, sāvajjānavajje dhamme jāneyya, hīnappaṇīte dhamme jāneyya, kaṇhasukkasappaṭibhāge dhamme jāneyya – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘andho’’.

    ๑๐๕. กตโม จ ปุคฺคโล เอกจกฺขุ? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ตถารูปํ จกฺขุ โหติ , ยถารูเปน จกฺขุนา อนธิคตํ วา โภคํ อธิคเจฺฉยฺย, อธิคตํ วา โภคํ ผาติํ กเรยฺย; ตถารูปมฺปิสฺส จกฺขุ น โหติ ยถารูเปน จกฺขุนา กุสลากุสเล ธเมฺม ชาเนยฺย, สาวชฺชานวเชฺช ธเมฺม ชาเนยฺย, หีนปฺปณีเต ธเมฺม ชาเนยฺย, กณฺหสุกฺกสปฺปฎิภาเค ธเมฺม ชาเนยฺย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘เอกจกฺขุ’’ฯ

    105. Katamo ca puggalo ekacakkhu? Idhekaccassa puggalassa tathārūpaṃ cakkhu hoti , yathārūpena cakkhunā anadhigataṃ vā bhogaṃ adhigaccheyya, adhigataṃ vā bhogaṃ phātiṃ kareyya; tathārūpampissa cakkhu na hoti yathārūpena cakkhunā kusalākusale dhamme jāneyya, sāvajjānavajje dhamme jāneyya, hīnappaṇīte dhamme jāneyya, kaṇhasukkasappaṭibhāge dhamme jāneyya – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘ekacakkhu’’.

    ๑๐๖. กตโม จ ปุคฺคโล ทฺวิจกฺขุ? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ตถารูปํ จกฺขุ โหติ ยถารูเปน จกฺขุนา อนธิคตํ วา โภคํ อธิคเจฺฉยฺย, อธิคตํ วา โภคํ ผาติํ กเรยฺย; ตถารูปมฺปิสฺส จกฺขุ โหติ ยถารูเปน จกฺขุนา กุสลากุสเล ธเมฺม ชาเนยฺย, สาวชฺชานวเชฺช ธเมฺม ชาเนยฺย, หีนปฺปณีเต ธเมฺม ชาเนยฺย, กณฺหสุกฺกสปฺปฎิภาเค ธเมฺม ชาเนยฺย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ทฺวิจกฺขุ’’ฯ

    106. Katamo ca puggalo dvicakkhu? Idhekaccassa puggalassa tathārūpaṃ cakkhu hoti yathārūpena cakkhunā anadhigataṃ vā bhogaṃ adhigaccheyya, adhigataṃ vā bhogaṃ phātiṃ kareyya; tathārūpampissa cakkhu hoti yathārūpena cakkhunā kusalākusale dhamme jāneyya, sāvajjānavajje dhamme jāneyya, hīnappaṇīte dhamme jāneyya, kaṇhasukkasappaṭibhāge dhamme jāneyya – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘dvicakkhu’’.

    ๑๐๗. กตโม จ ปุคฺคโล อวกุชฺชปโญฺญ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อารามํ คนฺตา 11 โหติ อภิกฺขณํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ธมฺมสฺสวณาย 12ฯ ตสฺส ภิกฺขู ธมฺมํ เทเสนฺติ อาทิกลฺยาณํ มเชฺฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสนฺติฯ โส ตสฺมิํ อาสเน นิสิโนฺน ตสฺสา กถาย เนว อาทิํ มนสิ กโรติ, น มชฺฌํ มนสิ กโรติ, น ปริโยสานํ มนสิ กโรติฯ วุฎฺฐิโตปิ ตมฺหา อาสนา ตสฺสา กถาย เนว อาทิํ มนสิ กโรติ, น มชฺฌํ มนสิ กโรติ, น ปริโยสานํ มนสิ กโรติฯ เสยฺยถาปิ นาม กุโมฺภ นิกฺกุโชฺช 13 ตตฺร อุทกํ อาสิตฺตํ วิวฎฺฎติ, โน สณฺฐาติ; เอวเมวํ อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อารามํ คนฺตา โหติ อภิกฺขณํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ธมฺมสฺสวณาย ฯ ตสฺส ภิกฺขู ธมฺมํ เทเสนฺติ อาทิกลฺยาณํ มเชฺฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสนฺติฯ โส ตสฺมิํ อาสเน นิสิโนฺน ตสฺสา กถาย เนว อาทิํ มนสิ กโรติ, น มชฺฌํ มนสิ กโรติ, น ปริโยสานํ มนสิ กโรติฯ วุฎฺฐิโตปิ ตมฺหา อาสนา ตสฺสา กถาย เนว อาทิํ มนสิ กโรติ, น มชฺฌํ มนสิ กโรติ, น ปริโยสานํ มนสิ กโรติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อวกุชฺชปโญฺญ’’ฯ

    107. Katamo ca puggalo avakujjapañño? Idhekacco puggalo ārāmaṃ gantā 14 hoti abhikkhaṇaṃ bhikkhūnaṃ santike dhammassavaṇāya 15. Tassa bhikkhū dhammaṃ desenti ādikalyāṇaṃ majjhekalyāṇaṃ pariyosānakalyāṇaṃ sātthaṃ sabyañjanaṃ kevalaparipuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ pakāsenti. So tasmiṃ āsane nisinno tassā kathāya neva ādiṃ manasi karoti, na majjhaṃ manasi karoti, na pariyosānaṃ manasi karoti. Vuṭṭhitopi tamhā āsanā tassā kathāya neva ādiṃ manasi karoti, na majjhaṃ manasi karoti, na pariyosānaṃ manasi karoti. Seyyathāpi nāma kumbho nikkujjo 16 tatra udakaṃ āsittaṃ vivaṭṭati, no saṇṭhāti; evamevaṃ idhekacco puggalo ārāmaṃ gantā hoti abhikkhaṇaṃ bhikkhūnaṃ santike dhammassavaṇāya . Tassa bhikkhū dhammaṃ desenti ādikalyāṇaṃ majjhekalyāṇaṃ pariyosānakalyāṇaṃ sātthaṃ sabyañjanaṃ kevalaparipuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ pakāsenti. So tasmiṃ āsane nisinno tassā kathāya neva ādiṃ manasi karoti, na majjhaṃ manasi karoti, na pariyosānaṃ manasi karoti. Vuṭṭhitopi tamhā āsanā tassā kathāya neva ādiṃ manasi karoti, na majjhaṃ manasi karoti, na pariyosānaṃ manasi karoti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘avakujjapañño’’.

    ๑๐๘. กตโม จ ปุคฺคโล อุจฺฉงฺคปโญฺญ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อารามํ คนฺตา โหติ อภิกฺขณํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ธมฺมสฺสวณายฯ ตสฺส ภิกฺขู ธมฺมํ เทเสนฺติ อาทิกลฺยาณํ มเชฺฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสนฺติฯ โส ตสฺมิํ อาสเน นิสิโนฺน ตสฺสา กถาย อาทิมฺปิ มนสิ กโรติ, มชฺฌมฺปิ มนสิ กโรติ, ปริโยสานมฺปิ มนสิ กโรติฯ วุฎฺฐิโต จ โข ตมฺหา อาสนา ตสฺสา กถาย เนว อาทิํ มนสิ กโรติ, น มชฺฌํ มนสิ กโรติ, น ปริโยสานํ มนสิ กโรติฯ เสยฺยถาปิ นาม ปุริสสฺส อุจฺฉเงฺค นานาขชฺชกานิ อากิณฺณานิ – ติลา ตณฺฑุลา 17 โมทกา พทราฯ โส ตมฺหา อาสนา วุฎฺฐหโนฺต สติสโมฺมสา ปกิเรยฺยฯ เอวเมวํ อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อารามํ คนฺตา โหติ อภิกฺขณํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ธมฺมสฺสวณายฯ ตสฺส ภิกฺขู ธมฺมํ เทเสนฺติ อาทิกลฺยาณํ มเชฺฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสนฺติฯ โส ตสฺมิํ อาสเน นิสิโนฺน ตสฺสา กถาย อาทิมฺปิ มนสิ กโรติ, มชฺฌมฺปิ มนสิ กโรติ, ปริโยสานมฺปิ มนสิ กโรติฯ วุฎฺฐิโต จ โข ตมฺหา อาสนา ตสฺสา กถาย เนว อาทิมฺปิ มนสิ กโรติ, น มชฺฌมฺปิ มนสิ กโรติ, น ปริโยสานมฺปิ มนสิ กโรติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อุจฺฉงฺคปโญฺญ’’ฯ

    108. Katamo ca puggalo ucchaṅgapañño? Idhekacco puggalo ārāmaṃ gantā hoti abhikkhaṇaṃ bhikkhūnaṃ santike dhammassavaṇāya. Tassa bhikkhū dhammaṃ desenti ādikalyāṇaṃ majjhekalyāṇaṃ pariyosānakalyāṇaṃ sātthaṃ sabyañjanaṃ kevalaparipuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ pakāsenti. So tasmiṃ āsane nisinno tassā kathāya ādimpi manasi karoti, majjhampi manasi karoti, pariyosānampi manasi karoti. Vuṭṭhito ca kho tamhā āsanā tassā kathāya neva ādiṃ manasi karoti, na majjhaṃ manasi karoti, na pariyosānaṃ manasi karoti. Seyyathāpi nāma purisassa ucchaṅge nānākhajjakāni ākiṇṇāni – tilā taṇḍulā 18 modakā badarā. So tamhā āsanā vuṭṭhahanto satisammosā pakireyya. Evamevaṃ idhekacco puggalo ārāmaṃ gantā hoti abhikkhaṇaṃ bhikkhūnaṃ santike dhammassavaṇāya. Tassa bhikkhū dhammaṃ desenti ādikalyāṇaṃ majjhekalyāṇaṃ pariyosānakalyāṇaṃ sātthaṃ sabyañjanaṃ kevalaparipuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ pakāsenti. So tasmiṃ āsane nisinno tassā kathāya ādimpi manasi karoti, majjhampi manasi karoti, pariyosānampi manasi karoti. Vuṭṭhito ca kho tamhā āsanā tassā kathāya neva ādimpi manasi karoti, na majjhampi manasi karoti, na pariyosānampi manasi karoti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘ucchaṅgapañño’’.

    ๑๐๙. กตโม จ ปุคฺคโล ปุถุปโญฺญ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อารามํ คนฺตา โหติ อภิกฺขณํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ธมฺมสฺสวณายฯ ตสฺส ภิกฺขู ธมฺมํ เทเสนฺติ อาทิกลฺยาณํ มเชฺฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสนฺติฯ โส ตสฺมิํ อาสเน นิสิโนฺน ตสฺสา กถาย อาทิมฺปิ มนสิ กโรติ, มชฺฌมฺปิ มนสิ กโรติ, ปริโยสานมฺปิ มนสิ กโรติฯ วุฎฺฐิโตปิ ตมฺหา อาสนา ตสฺสา กถาย อาทิมฺปิ มนสิ กโรติ, มชฺฌมฺปิ มนสิ กโรติ, ปริโยสานมฺปิ มนสิ กโรติฯ เสยฺยถาปิ นาม กุโมฺภ อุกฺกุโชฺช ตตฺร อุทกํ อาสิตฺตํ สณฺฐาติ, โน วิวฎฺฎติ; เอวเมวํ อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อารามํ คนฺตา โหนฺติ อภิกฺขณํ ภิกฺขูนํ สนฺติเก ธมฺมสฺสวณายฯ ตสฺส ภิกฺขู ธมฺมํ เทเสนฺติ อาทิกลฺยาณํ มเชฺฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสนฺติฯ โส ตสฺมิํ อาสเน นิสิโนฺน ตสฺสา กถาย อาทิมฺปิ มนสิ กโรติ, มชฺฌมฺปิ มนสิ กโรติ, ปริโยสานมฺปิ มนสิ กโรติฯ วุฎฺฐิโตปิ ตมฺหา อาสนา ตสฺสา กถาย อาทิมฺปิ มนสิ กโรติ, มชฺฌมฺปิ มนสิ กโรติ, ปริโยสานมฺปิ มนสิ กโรติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปุถุปโญฺญ’’ฯ

    109. Katamo ca puggalo puthupañño? Idhekacco puggalo ārāmaṃ gantā hoti abhikkhaṇaṃ bhikkhūnaṃ santike dhammassavaṇāya. Tassa bhikkhū dhammaṃ desenti ādikalyāṇaṃ majjhekalyāṇaṃ pariyosānakalyāṇaṃ sātthaṃ sabyañjanaṃ kevalaparipuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ pakāsenti. So tasmiṃ āsane nisinno tassā kathāya ādimpi manasi karoti, majjhampi manasi karoti, pariyosānampi manasi karoti. Vuṭṭhitopi tamhā āsanā tassā kathāya ādimpi manasi karoti, majjhampi manasi karoti, pariyosānampi manasi karoti. Seyyathāpi nāma kumbho ukkujjo tatra udakaṃ āsittaṃ saṇṭhāti, no vivaṭṭati; evamevaṃ idhekacco puggalo ārāmaṃ gantā honti abhikkhaṇaṃ bhikkhūnaṃ santike dhammassavaṇāya. Tassa bhikkhū dhammaṃ desenti ādikalyāṇaṃ majjhekalyāṇaṃ pariyosānakalyāṇaṃ sātthaṃ sabyañjanaṃ kevalaparipuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ pakāsenti. So tasmiṃ āsane nisinno tassā kathāya ādimpi manasi karoti, majjhampi manasi karoti, pariyosānampi manasi karoti. Vuṭṭhitopi tamhā āsanā tassā kathāya ādimpi manasi karoti, majjhampi manasi karoti, pariyosānampi manasi karoti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘puthupañño’’.

    ๑๑๐. กตโม จ ปุคฺคโล กาเมสุ จ ภเวสุ จ อวีตราโค? โสตาปนฺนสกทาคามิโน – อิเม วุจฺจนฺติ ปุคฺคลา ‘‘กาเมสุ จ ภเวสุ จ อวีตราคา’’ฯ

    110. Katamo ca puggalo kāmesu ca bhavesu ca avītarāgo? Sotāpannasakadāgāmino – ime vuccanti puggalā ‘‘kāmesu ca bhavesu ca avītarāgā’’.

    ๑๑๑. กตโม จ ปุคฺคโล กาเมสุ วีตราโค, ภเวสุ อวีตราโค? อนาคามี – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘กาเมสุ วีตราโค, ภเวสุ อวีตราโค’’ฯ

    111. Katamo ca puggalo kāmesu vītarāgo, bhavesu avītarāgo? Anāgāmī – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘kāmesu vītarāgo, bhavesu avītarāgo’’.

    ๑๑๒. กตโม จ ปุคฺคโล กาเมสุ จ ภเวสุ จ วีตราโค? อรหา – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘กาเมสุ จ ภเวสุ จ วีตราโค’’ฯ

    112. Katamo ca puggalo kāmesu ca bhavesu ca vītarāgo? Arahā – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘kāmesu ca bhavesu ca vītarāgo’’.

    ๑๑๓. กตโม จ ปุคฺคโล ปาสาณเลขูปโม? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อภิณฺหํ กุชฺฌติฯ โส จ ขฺวสฺส โกโธ จิรํ ทีฆรตฺตํ อนุเสติฯ เสยฺยถาปิ นาม ปาสาเณ เลขา น ขิปฺปํ ลุชฺชติ วาเตน วา อุทเกน วา, จิรฎฺฐิติกา โหติ; เอวเมวํ อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อภิณฺหํ กุชฺฌติฯ โส จ ขฺวสฺส โกโธ จิรํ ทีฆรตฺตํ อนุเสติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปาสาณเลขูปโม’’ฯ

    113. Katamo ca puggalo pāsāṇalekhūpamo? Idhekacco puggalo abhiṇhaṃ kujjhati. So ca khvassa kodho ciraṃ dīgharattaṃ anuseti. Seyyathāpi nāma pāsāṇe lekhā na khippaṃ lujjati vātena vā udakena vā, ciraṭṭhitikā hoti; evamevaṃ idhekacco puggalo abhiṇhaṃ kujjhati. So ca khvassa kodho ciraṃ dīgharattaṃ anuseti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘pāsāṇalekhūpamo’’.

    ๑๑๔. กตโม จ ปุคฺคโล ปถวิเลขูปโม? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อภิณฺหํ กุชฺฌติฯ โส จ ขฺวสฺส โกโธ น จิรํ ทีฆรตฺตํ อนุเสติฯ เสยฺยถาปิ นาม ปถวิยา 19 เลขา ขิปฺปํ ลุชฺชติ วาเตน วา อุทเกน วา, น จิรฎฺฐิติกา โหติ; เอวเมวํ อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อภิณฺหํ กุชฺฌติฯ โส จ ขฺวสฺส โกโธ น จิรํ ทีฆรตฺตํ อนุเสติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปถวิเลขูปโม’’ฯ

    114. Katamo ca puggalo pathavilekhūpamo? Idhekacco puggalo abhiṇhaṃ kujjhati. So ca khvassa kodho na ciraṃ dīgharattaṃ anuseti. Seyyathāpi nāma pathaviyā 20 lekhā khippaṃ lujjati vātena vā udakena vā, na ciraṭṭhitikā hoti; evamevaṃ idhekacco puggalo abhiṇhaṃ kujjhati. So ca khvassa kodho na ciraṃ dīgharattaṃ anuseti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘pathavilekhūpamo’’.

    ๑๑๕. กตโม จ ปุคฺคโล อุทกเลขูปโม? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อาคาเฬฺหนปิ วุจฺจมาโน ผรุเสนปิ วุจฺจมาโน อมนาเปนปิ วุจฺจมาโน สํสนฺทติเมว 21 สนฺธิยติเมว 22 สโมฺมทติเมว 23ฯ เสยฺยถาปิ นาม อุทเก เลขา ขิปฺปํ ลุชฺชติ, น จิรฎฺฐิติกา โหติ; เอวเมวํ อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อาคาเฬฺหนปิ วุจฺจมาโน ผรุเสนปิ วุจฺจมาโน อมนาเปนปิ วุจฺจมาโน สํสนฺทติเมว สนฺธิยติเมว สโมฺมทติเมว – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อุทกเลขูปโม’’ฯ

    115. Katamo ca puggalo udakalekhūpamo? Idhekacco puggalo āgāḷhenapi vuccamāno pharusenapi vuccamāno amanāpenapi vuccamāno saṃsandatimeva 24 sandhiyatimeva 25 sammodatimeva 26. Seyyathāpi nāma udake lekhā khippaṃ lujjati, na ciraṭṭhitikā hoti; evamevaṃ idhekacco puggalo āgāḷhenapi vuccamāno pharusenapi vuccamāno amanāpenapi vuccamāno saṃsandatimeva sandhiyatimeva sammodatimeva – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘udakalekhūpamo’’.

    ๑๑๖. ตตฺถ กตเม ตโย โปตฺถกูปมา ปุคฺคลา? ตโย โปตฺถกา – นโวปิ โปตฺถโก ทุพฺพโณฺณ เจว โหติ ทุกฺขสมฺผโสฺส จ อปฺปโคฺฆ จ, มชฺฌิโมปิ โปตฺถโก ทุพฺพโณฺณ เจว โหติ ทุกฺขสมฺผโสฺส จ อปฺปโคฺฆ จ, ชิโณฺณปิ โปตฺถโก ทุพฺพโณฺณ เจว โหติ ทุกฺขสมฺผโสฺส จ อปฺปโคฺฆ จฯ ชิณฺณมฺปิ โปตฺถกํ อุกฺขลิปริมชฺชนํ วา กโรนฺติ สงฺการกูเฎ วา นํ ฉเฑฺฑนฺติฯ เอวเมวํ ตโยเม โปตฺถกูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา ภิกฺขูสุฯ กตเม ตโย? นโว เจปิ ภิกฺขุ โหติ ทุสฺสีโล ปาปธโมฺม, อิทมสฺส ทุพฺพณฺณตายฯ เสยฺยถาปิ โส โปตฺถโก ทุพฺพโณฺณ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ เย โข ปนสฺส เสวนฺติ ภชนฺติ ปยิรุปาสนฺติ ทิฎฺฐานุคติํ อาปชฺชนฺติ, เตสํ ตํ โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายฯ อิทมสฺส ทุกฺขสมฺผสฺสตายฯ เสยฺยถาปิ โส โปตฺถโก ทุกฺขสมฺผโสฺส, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ เยสํ โข ปน โส ปฎิคฺคณฺหาติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ , เตสํ ตํ น มหปฺผลํ โหติ น มหานิสํสํฯ อิทมสฺส อปฺปคฺฆตายฯ เสยฺยถาปิ โส โปตฺถโก อปฺปโคฺฆ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ

    116. Tattha katame tayo potthakūpamā puggalā? Tayo potthakā – navopi potthako dubbaṇṇo ceva hoti dukkhasamphasso ca appaggho ca, majjhimopi potthako dubbaṇṇo ceva hoti dukkhasamphasso ca appaggho ca, jiṇṇopi potthako dubbaṇṇo ceva hoti dukkhasamphasso ca appaggho ca. Jiṇṇampi potthakaṃ ukkhaliparimajjanaṃ vā karonti saṅkārakūṭe vā naṃ chaḍḍenti. Evamevaṃ tayome potthakūpamā puggalā santo saṃvijjamānā bhikkhūsu. Katame tayo? Navo cepi bhikkhu hoti dussīlo pāpadhammo, idamassa dubbaṇṇatāya. Seyyathāpi so potthako dubbaṇṇo, tathūpamo ayaṃ puggalo. Ye kho panassa sevanti bhajanti payirupāsanti diṭṭhānugatiṃ āpajjanti, tesaṃ taṃ hoti dīgharattaṃ ahitāya dukkhāya. Idamassa dukkhasamphassatāya. Seyyathāpi so potthako dukkhasamphasso, tathūpamo ayaṃ puggalo. Yesaṃ kho pana so paṭiggaṇhāti cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānapaccayabhesajjaparikkhāraṃ , tesaṃ taṃ na mahapphalaṃ hoti na mahānisaṃsaṃ. Idamassa appagghatāya. Seyyathāpi so potthako appaggho, tathūpamo ayaṃ puggalo.

    มชฺฌิโม เจปิ ภิกฺขุ โหติ…เป.… เถโร เจปิ ภิกฺขุ โหติ ทุสฺสีโล ปาปธโมฺม, อิทมสฺส ทุพฺพณฺณตายฯ เสยฺยถาปิ โส โปตฺถโก ทุพฺพโณฺณ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ เย โข ปนสฺส เสวนฺติ ภชนฺติ ปยิรุปาสนฺติ ทิฎฺฐานุคติํ อาปชฺชนฺติ, เตสํ ตํ โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายฯ อิทมสฺส ทุกฺขสมฺผสฺสตายฯ เสยฺยถาปิ โส โปตฺถโก ทุกฺขสมฺผโสฺส, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ เยสํ โข ปน โส ปฎิคฺคณฺหาติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ, เตสํ ตํ น มหปฺผลํ โหติ น มหานิสํสํฯ อิทมสฺส อปฺปคฺฆตายฯ เสยฺยถาปิ โส โปตฺถโก อปฺปโคฺฆ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ

    Majjhimo cepi bhikkhu hoti…pe… thero cepi bhikkhu hoti dussīlo pāpadhammo, idamassa dubbaṇṇatāya. Seyyathāpi so potthako dubbaṇṇo, tathūpamo ayaṃ puggalo. Ye kho panassa sevanti bhajanti payirupāsanti diṭṭhānugatiṃ āpajjanti, tesaṃ taṃ hoti dīgharattaṃ ahitāya dukkhāya. Idamassa dukkhasamphassatāya. Seyyathāpi so potthako dukkhasamphasso, tathūpamo ayaṃ puggalo. Yesaṃ kho pana so paṭiggaṇhāti cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānapaccayabhesajjaparikkhāraṃ, tesaṃ taṃ na mahapphalaṃ hoti na mahānisaṃsaṃ. Idamassa appagghatāya. Seyyathāpi so potthako appaggho, tathūpamo ayaṃ puggalo.

    เอวรูโป เจ เถโร ภิกฺขุ สงฺฆมเชฺฌ ภณติฯ ตเมนํ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘กิํ นุ โข ตุยฺหํ พาลสฺส อพฺยตฺตสฺส ภณิเตน, ตฺวมฺปิ นาม ภณิตพฺพํ มญฺญสี’’ติ! โส กุปิโต อนตฺตมโน ตถารูปิํ วาจํ นิจฺฉาเรติ ยถารูปาย วาจาย สโงฺฆ ตํ อุกฺขิปติ, สงฺการกูเฎว นํ โปตฺถกํฯ อิเม ตโย โปตฺถกูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา ภิกฺขูสุฯ

    Evarūpo ce thero bhikkhu saṅghamajjhe bhaṇati. Tamenaṃ bhikkhū evamāhaṃsu – ‘‘kiṃ nu kho tuyhaṃ bālassa abyattassa bhaṇitena, tvampi nāma bhaṇitabbaṃ maññasī’’ti! So kupito anattamano tathārūpiṃ vācaṃ nicchāreti yathārūpāya vācāya saṅgho taṃ ukkhipati, saṅkārakūṭeva naṃ potthakaṃ. Ime tayo potthakūpamā puggalā santo saṃvijjamānā bhikkhūsu.

    ๑๑๗. ตตฺถ กตเม ตโย กาสิกวตฺถูปมา ปุคฺคลา? ตีณิ กาสิกวตฺถานิ – นวมฺปิ กาสิกวตฺถํ วณฺณวนฺตเญฺจว โหติ สุขสมฺผสฺสญฺจ มหคฺฆญฺจ, มชฺฌิมมฺปิ กาสิกวตฺถํ วณฺณวนฺตเญฺจว โหติ สุขสมฺผสฺสญฺจ มหคฺฆญฺจ, ชิณฺณมฺปิ กาสิกวตฺถํ วณฺณวนฺตเญฺจว โหติ สุขสมฺผสฺสญฺจ มหคฺฆญฺจฯ ชิณฺณมฺปิ กาสิกวตฺถํ รตนปลิเวฐนํ วา กโรนฺติ คนฺธกรณฺฑเก วา นํ นิกฺขิปนฺติฯ

    117. Tattha katame tayo kāsikavatthūpamā puggalā? Tīṇi kāsikavatthāni – navampi kāsikavatthaṃ vaṇṇavantañceva hoti sukhasamphassañca mahagghañca, majjhimampi kāsikavatthaṃ vaṇṇavantañceva hoti sukhasamphassañca mahagghañca, jiṇṇampi kāsikavatthaṃ vaṇṇavantañceva hoti sukhasamphassañca mahagghañca. Jiṇṇampi kāsikavatthaṃ ratanapaliveṭhanaṃ vā karonti gandhakaraṇḍake vā naṃ nikkhipanti.

    เอวเมวํ ตโยเม กาสิกวตฺถูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา ภิกฺขูสุฯ กตเม ตโย? นโว เจปิ ภิกฺขุ โหติ สีลวา กลฺยาณธโมฺม , อิทมสฺส สุวณฺณตายฯ เสยฺยถาปิ ตํ กาสิกวตฺถํ วณฺณวนฺตํ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ เย โข ปนสฺส เสวนฺติ ภชนฺติ ปยิรุปาสนฺติ ทิฎฺฐานุคติํ อาปชฺชนฺติ, เตสํ ตํ โหติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายฯ อิทมสฺส สุขสมฺผสฺสตายฯ เสยฺยถาปิ ตํ กาสิกวตฺถํ สุขสมฺผสฺสํ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ เยสํ โข ปน โส 27 ปฎิคฺคณฺหาติ 28 จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ, เตสํ ตํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํสํฯ อิทมสฺส มหคฺฆตายฯ เสยฺยถาปิ ตํ กาสิกวตฺถํ มหคฺฆํ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ

    Evamevaṃ tayome kāsikavatthūpamā puggalā santo saṃvijjamānā bhikkhūsu. Katame tayo? Navo cepi bhikkhu hoti sīlavā kalyāṇadhammo , idamassa suvaṇṇatāya. Seyyathāpi taṃ kāsikavatthaṃ vaṇṇavantaṃ, tathūpamo ayaṃ puggalo. Ye kho panassa sevanti bhajanti payirupāsanti diṭṭhānugatiṃ āpajjanti, tesaṃ taṃ hoti dīgharattaṃ hitāya sukhāya. Idamassa sukhasamphassatāya. Seyyathāpi taṃ kāsikavatthaṃ sukhasamphassaṃ, tathūpamo ayaṃ puggalo. Yesaṃ kho pana so 29 paṭiggaṇhāti 30 cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānapaccayabhesajjaparikkhāraṃ, tesaṃ taṃ mahapphalaṃ hoti mahānisaṃsaṃ. Idamassa mahagghatāya. Seyyathāpi taṃ kāsikavatthaṃ mahagghaṃ, tathūpamo ayaṃ puggalo.

    มชฺฌิโม เจปิ ภิกฺขุ…เป.… เถโร เจปิ ภิกฺขุ โหติ สีลวา กลฺยาณธโมฺม, อิทมสฺส สุวณฺณตายฯ เสยฺยถาปิ ตํ กาสิกวตฺถํ วณฺณวนฺตํ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ เย โข ปนสฺส เสวนฺติ ภชนฺติ ปยิรุปาสนฺติ ทิฎฺฐานุคติํ อาปชฺชนฺติ, เตสํ ตํ โหติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายฯ อิทมสฺส สุขสมฺผสฺสตายฯ เสยฺยถาปิ ตํ กาสิกวตฺถํ สุขสมฺผสฺสํ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ เยสํ โข ปน โส ปฎิคฺคณฺหาติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ, เตสํ ตํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํสํฯ อิทมสฺส มหคฺฆตายฯ เสยฺยถาปิ ตํ กาสิกวตฺถํ มหคฺฆํ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ

    Majjhimo cepi bhikkhu…pe… thero cepi bhikkhu hoti sīlavā kalyāṇadhammo, idamassa suvaṇṇatāya. Seyyathāpi taṃ kāsikavatthaṃ vaṇṇavantaṃ, tathūpamo ayaṃ puggalo. Ye kho panassa sevanti bhajanti payirupāsanti diṭṭhānugatiṃ āpajjanti, tesaṃ taṃ hoti dīgharattaṃ hitāya sukhāya. Idamassa sukhasamphassatāya. Seyyathāpi taṃ kāsikavatthaṃ sukhasamphassaṃ, tathūpamo ayaṃ puggalo. Yesaṃ kho pana so paṭiggaṇhāti cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānapaccayabhesajjaparikkhāraṃ, tesaṃ taṃ mahapphalaṃ hoti mahānisaṃsaṃ. Idamassa mahagghatāya. Seyyathāpi taṃ kāsikavatthaṃ mahagghaṃ, tathūpamo ayaṃ puggalo.

    เอวรูโป เจ เถโร ภิกฺขุ สงฺฆมเชฺฌ ภณติ, ตเมนํ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘อปฺปสทฺทา อายสฺมโนฺต โหถ, เถโร ภิกฺขุ ธมฺมญฺจ วินยญฺจ ภณตี’’ติฯ ตสฺส ตํ วจนํ อาเธยฺยํ คจฺฉติ, คนฺธกรณฺฑเกว นํ กาสิกวตฺถํฯ อิเม ตโย กาสิกวตฺถูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา ภิกฺขูสุฯ

    Evarūpo ce thero bhikkhu saṅghamajjhe bhaṇati, tamenaṃ bhikkhū evamāhaṃsu – ‘‘appasaddā āyasmanto hotha, thero bhikkhu dhammañca vinayañca bhaṇatī’’ti. Tassa taṃ vacanaṃ ādheyyaṃ gacchati, gandhakaraṇḍakeva naṃ kāsikavatthaṃ. Ime tayo kāsikavatthūpamā puggalā santo saṃvijjamānā bhikkhūsu.

    ๑๑๘. กตโม จ ปุคฺคโล สุปฺปเมโยฺย? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อุทฺธโต โหติ อุนฺนโฬ จปโล มุขโร วิกิณฺณวาโจ มุฎฺฐสฺสติ อสมฺปชาโน อสมาหิโต วิพฺภนฺตจิโตฺต ปากฎินฺทฺริโย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สุปฺปเมโยฺย’’ฯ

    118. Katamo ca puggalo suppameyyo? Idhekacco puggalo uddhato hoti unnaḷo capalo mukharo vikiṇṇavāco muṭṭhassati asampajāno asamāhito vibbhantacitto pākaṭindriyo – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘suppameyyo’’.

    ๑๑๙. กตโม จ ปุคฺคโล ทุปฺปเมโยฺย? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อนุทฺธโต โหติ อนุนฺนโฬ อจปโล อมุขโร อวิกิณฺณวาโจ อุปฎฺฐิตสฺสติ สมฺปชาโน สมาหิโต เอกคฺคจิโตฺต สํวุตินฺทฺริโย – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ทุปฺปเมโยฺย’’ฯ

    119. Katamo ca puggalo duppameyyo? Idhekacco puggalo anuddhato hoti anunnaḷo acapalo amukharo avikiṇṇavāco upaṭṭhitassati sampajāno samāhito ekaggacitto saṃvutindriyo – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘duppameyyo’’.

    ๑๒๐. กตโม จ ปุคฺคโล อปฺปเมโยฺย? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อปฺปเมโยฺย’’ฯ

    120. Katamo ca puggalo appameyyo? Idhekacco puggalo āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharati – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘appameyyo’’.

    ๑๒๑. กตโม จ ปุคฺคโล น เสวิตโพฺพ น ภชิตโพฺพ น ปยิรุปาสิตโพฺพ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล หีโน โหติ สีเลน สมาธินา ปญฺญายฯ เอวรูโป ปุคฺคโล น เสวิตโพฺพ น ภชิตโพฺพ น ปยิรุปาสิตโพฺพ, อญฺญตฺร อนุทฺทยา อญฺญตฺร อนุกมฺปาฯ

    121. Katamo ca puggalo na sevitabbo na bhajitabbo na payirupāsitabbo? Idhekacco puggalo hīno hoti sīlena samādhinā paññāya. Evarūpo puggalo na sevitabbo na bhajitabbo na payirupāsitabbo, aññatra anuddayā aññatra anukampā.

    ๑๒๒. กตโม จ ปุคฺคโล เสวิตโพฺพ ภชิตโพฺพ ปยิรุปาสิตโพฺพ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล สทิโส โหติ สีเลน สมาธินา ปญฺญายฯ เอวรูโป ปุคฺคโล เสวิตโพฺพ ภชิตโพฺพ ปยิรุปาสิตโพฺพฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘‘สีลสามญฺญคตานํ สตํ สีลกถา จ โน ภวิสฺสติ, สา จ โน ผาสุ ภวิสฺสติ, สา จ โน ปวตฺตินี ภวิสฺสติ; สมาธิสามญฺญคตานํ สตํ สมาธิกถา จ โน ภวิสฺสติ, สา จ โน ผาสุ ภวิสฺสติ, สา จ โน ปวตฺตินี 31 ภวิสฺสติ; ปญฺญาสามญฺญคตานํ สตํ ปญฺญากถา จ โน ภวิสฺสติ, สา จ โน ผาสุ ภวิสฺสติ, สา จ โน ปวตฺตินี ภวิสฺสตี’’ติฯ ตสฺมา เอวรูโป ปุคฺคโล เสวิตโพฺพ ภชิตโพฺพ ปยิรุปาสิตโพฺพฯ

    122. Katamo ca puggalo sevitabbo bhajitabbo payirupāsitabbo? Idhekacco puggalo sadiso hoti sīlena samādhinā paññāya. Evarūpo puggalo sevitabbo bhajitabbo payirupāsitabbo. Taṃ kissa hetu? ‘‘Sīlasāmaññagatānaṃ sataṃ sīlakathā ca no bhavissati, sā ca no phāsu bhavissati, sā ca no pavattinī bhavissati; samādhisāmaññagatānaṃ sataṃ samādhikathā ca no bhavissati, sā ca no phāsu bhavissati, sā ca no pavattinī 32 bhavissati; paññāsāmaññagatānaṃ sataṃ paññākathā ca no bhavissati, sā ca no phāsu bhavissati, sā ca no pavattinī bhavissatī’’ti. Tasmā evarūpo puggalo sevitabbo bhajitabbo payirupāsitabbo.

    ๑๒๓. กตโม จ ปุคฺคโล สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา เสวิตโพฺพ ภชิตโพฺพ ปยิรุปาสิตโพฺพ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อธิโก โหติ สีเลน สมาธินา ปญฺญายฯ เอวรูโป ปุคฺคโล สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา เสวิตโพฺพ ภชิตโพฺพ ปยิรุปาสิตโพฺพฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘‘อปริปูรํ วา สีลกฺขนฺธํ ปริปูเรสฺสามิ, ปริปูรํ วา สีลกฺขนฺธํ ตตฺถ ตตฺถ ปญฺญาย อนุคฺคเหสฺสามิ; อปริปูรํ วา สมาธิกฺขนฺธํ ปริปูเรสฺสามิ, ปริปูรํ วา สมาธิกฺขนฺธํ ตตฺถ ตตฺถ ปญฺญาย อนุคฺคเหสฺสามิ; อปริปูรํ วา ปญฺญากฺขนฺธํ ปริปูเรสฺสามิ, ปริปูรํ วา ปญฺญากฺขนฺธํ ตตฺถ ตตฺถ ปญฺญาย อนุคฺคเหสฺสามี’’ติฯ ตสฺมา เอวรูโป ปุคฺคโล สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา เสวิตโพฺพ ภชิตโพฺพ ปยิรุปาสิตโพฺพฯ

    123. Katamo ca puggalo sakkatvā garuṃ katvā sevitabbo bhajitabbo payirupāsitabbo? Idhekacco puggalo adhiko hoti sīlena samādhinā paññāya. Evarūpo puggalo sakkatvā garuṃ katvā sevitabbo bhajitabbo payirupāsitabbo. Taṃ kissa hetu? ‘‘Aparipūraṃ vā sīlakkhandhaṃ paripūressāmi, paripūraṃ vā sīlakkhandhaṃ tattha tattha paññāya anuggahessāmi; aparipūraṃ vā samādhikkhandhaṃ paripūressāmi, paripūraṃ vā samādhikkhandhaṃ tattha tattha paññāya anuggahessāmi; aparipūraṃ vā paññākkhandhaṃ paripūressāmi, paripūraṃ vā paññākkhandhaṃ tattha tattha paññāya anuggahessāmī’’ti. Tasmā evarūpo puggalo sakkatvā garuṃ katvā sevitabbo bhajitabbo payirupāsitabbo.

    ๑๒๔. กตโม จ ปุคฺคโล ชิคุจฺฉิตโพฺพ น เสวิตโพฺพ น ภชิตโพฺพ น ปยิรุปาสิตโพฺพ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ทุสฺสีโล โหติ ปาปธโมฺม อสุจิ สงฺกสฺสรสมาจาโร ปฎิจฺฉนฺนกมฺมโนฺต อสฺสมโณ สมณปฎิโญฺญ อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฎิโญฺญ อโนฺตปูติ อวสฺสุโต กสมฺพุชาโตฯ เอวรูโป ปุคฺคโล ชิคุจฺฉิตโพฺพ น เสวิตโพฺพ น ภชิตโพฺพ น ปยิรุปาสิตโพฺพฯ ตํ กิสฺส เหตุ? กิญฺจาปิ เอวรูปสฺส ปุคฺคลสฺส น ทิฎฺฐานุคติํ อาปชฺชติ, อถ โข นํ ปาปโก กิตฺติสโทฺท อพฺภุคฺคจฺฉติ – ‘‘ปาปมิโตฺต ปุริสปุคฺคโล ปาปสหาโย ปาปสมฺปวโงฺก’’ติฯ เสยฺยถาปิ นาม อหิ คูถคโต กิญฺจาปิ น ฑํสติ, อถ โข นํ มเกฺขติ; เอวเมวํ กิญฺจาปิ เอวรูปสฺส ปุคฺคลสฺส น ทิฎฺฐานุคติํ อาปชฺชติ, อถ โข นํ ปาปโก กิตฺติสโทฺท อพฺภุคฺคจฺฉติ – ‘‘ปาปมิโตฺต ปุริสปุคฺคโล ปาปสหาโย ปาปสมฺปวโงฺก’’ติ! ตสฺมา เอวรูโป ปุคฺคโล ชิคุจฺฉิตโพฺพ น เสวิตโพฺพ น ภชิตโพฺพ น ปยิรุปาสิตโพฺพฯ

    124. Katamo ca puggalo jigucchitabbo na sevitabbo na bhajitabbo na payirupāsitabbo? Idhekacco puggalo dussīlo hoti pāpadhammo asuci saṅkassarasamācāro paṭicchannakammanto assamaṇo samaṇapaṭiñño abrahmacārī brahmacāripaṭiñño antopūti avassuto kasambujāto. Evarūpo puggalo jigucchitabbo na sevitabbo na bhajitabbo na payirupāsitabbo. Taṃ kissa hetu? Kiñcāpi evarūpassa puggalassa na diṭṭhānugatiṃ āpajjati, atha kho naṃ pāpako kittisaddo abbhuggacchati – ‘‘pāpamitto purisapuggalo pāpasahāyo pāpasampavaṅko’’ti. Seyyathāpi nāma ahi gūthagato kiñcāpi na ḍaṃsati, atha kho naṃ makkheti; evamevaṃ kiñcāpi evarūpassa puggalassa na diṭṭhānugatiṃ āpajjati, atha kho naṃ pāpako kittisaddo abbhuggacchati – ‘‘pāpamitto purisapuggalo pāpasahāyo pāpasampavaṅko’’ti! Tasmā evarūpo puggalo jigucchitabbo na sevitabbo na bhajitabbo na payirupāsitabbo.

    ๑๒๕. กตโม จ ปุคฺคโล อชฺฌุเปกฺขิตโพฺพ น เสวิตโพฺพ น ภชิตโพฺพ น ปยิรุปาสิตโพฺพ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล โกธโน โหติ อุปายาสพหุโล, อปฺปมฺปิ วุโตฺต สมาโน อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถียติ, โกปญฺจ โทสญฺจ อปฺปจฺจยญฺจ ปาตุกโรติฯ เสยฺยถาปิ นาม ทุฎฺฐารุโก กเฎฺฐน วา กฐลาย วา ฆฎฺฎิโต ภิโยฺยโส มตฺตาย อาสวํ เทติ, เอวเมวํ อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล โกธโน โหติ อุปายาสพหุโล, อปฺปมฺปิ วุโตฺต สมาโน อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถียติ, โกปญฺจ โทสญฺจ อปฺปจฺจยญฺจ ปาตุกโรติฯ เสยฺยถาปิ นาม ตินฺทุกาลาตํ กเฎฺฐน วา กฐลาย วา ฆฎฺฎิตํ ภิโยฺยโส มตฺตาย จิจฺจิฎายติ จิฎิจิฎายติ, เอวเมวํ อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล โกธโน โหติ อุปายาสพหุโล, อปฺปมฺปิ วุโตฺต สมาโน อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถียติ, โกปญฺจ โทสญฺจ อปฺปจฺจยญฺจ ปาตุกโรติฯ เสยฺยถาปิ นาม คูถกูโป กเฎฺฐน วา กฐลาย วา ฆฎฺฎิโต ภิโยฺยโส มตฺตาย ทุคฺคโนฺธ โหติ, เอวเมวํ อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล โกธโน โหติ อุปายาสพหุโล, อปฺปมฺปิ วุโตฺต สมาโน อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถียติ, โกปญฺจ โทสญฺจ อปฺปจฺจยญฺจ ปาตุกโรติ; เอวรูโป ปุคฺคโล อชฺฌุเปกฺขิตโพฺพ น เสวิตโพฺพ น ภชิตโพฺพ น ปยิรุปาสิตโพฺพฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘‘อโกฺกเสยฺยปิ มํ ปริภาเสยฺยปิ มํ อนตฺถมฺปิ เม กเรยฺยา’’ติ! ตสฺมา เอวรูโป ปุคฺคโล อชฺฌุเปกฺขิตโพฺพ น เสวิตโพฺพ น ภชิตโพฺพ น ปยิรุปาสิตโพฺพฯ

    125. Katamo ca puggalo ajjhupekkhitabbo na sevitabbo na bhajitabbo na payirupāsitabbo? Idhekacco puggalo kodhano hoti upāyāsabahulo, appampi vutto samāno abhisajjati kuppati byāpajjati patitthīyati, kopañca dosañca appaccayañca pātukaroti. Seyyathāpi nāma duṭṭhāruko kaṭṭhena vā kaṭhalāya vā ghaṭṭito bhiyyoso mattāya āsavaṃ deti, evamevaṃ idhekacco puggalo kodhano hoti upāyāsabahulo, appampi vutto samāno abhisajjati kuppati byāpajjati patitthīyati, kopañca dosañca appaccayañca pātukaroti. Seyyathāpi nāma tindukālātaṃ kaṭṭhena vā kaṭhalāya vā ghaṭṭitaṃ bhiyyoso mattāya cicciṭāyati ciṭiciṭāyati, evamevaṃ idhekacco puggalo kodhano hoti upāyāsabahulo, appampi vutto samāno abhisajjati kuppati byāpajjati patitthīyati, kopañca dosañca appaccayañca pātukaroti. Seyyathāpi nāma gūthakūpo kaṭṭhena vā kaṭhalāya vā ghaṭṭito bhiyyoso mattāya duggandho hoti, evamevaṃ idhekacco puggalo kodhano hoti upāyāsabahulo, appampi vutto samāno abhisajjati kuppati byāpajjati patitthīyati, kopañca dosañca appaccayañca pātukaroti; evarūpo puggalo ajjhupekkhitabbo na sevitabbo na bhajitabbo na payirupāsitabbo. Taṃ kissa hetu? ‘‘Akkoseyyapi maṃ paribhāseyyapi maṃ anatthampi me kareyyā’’ti! Tasmā evarūpo puggalo ajjhupekkhitabbo na sevitabbo na bhajitabbo na payirupāsitabbo.

    ๑๒๖. กตโม จ ปุคฺคโล เสวิตโพฺพ ภชิตโพฺพ ปยิรุปาสิตโพฺพ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล สีลวา โหติ กลฺยาณธโมฺม – เอวรูโป ปุคฺคโล เสวิตโพฺพ ภชิตโพฺพ ปยิรุปาสิตโพฺพฯ ตํ กิสฺส เหตุ? กิญฺจาปิ เอวรูปสฺส ปุคฺคลสฺส น ทิฎฺฐานุคติํ อาปชฺชติ, อถ โข นํ กลฺยาโณ กิตฺติสโทฺท อพฺภุคฺคจฺฉติ – ‘‘กลฺยาณมิโตฺต ปุริสปุคฺคโล กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวโงฺก’’ติ! ตสฺมา เอวรูโป ปุคฺคโล เสวิตโพฺพ ภชิตโพฺพ ปยิรุปาสิตโพฺพฯ

    126. Katamo ca puggalo sevitabbo bhajitabbo payirupāsitabbo? Idhekacco puggalo sīlavā hoti kalyāṇadhammo – evarūpo puggalo sevitabbo bhajitabbo payirupāsitabbo. Taṃ kissa hetu? Kiñcāpi evarūpassa puggalassa na diṭṭhānugatiṃ āpajjati, atha kho naṃ kalyāṇo kittisaddo abbhuggacchati – ‘‘kalyāṇamitto purisapuggalo kalyāṇasahāyo kalyāṇasampavaṅko’’ti! Tasmā evarūpo puggalo sevitabbo bhajitabbo payirupāsitabbo.

    ๑๒๗. กตโม จ ปุคฺคโล สีเลสุ ปริปูรการี, สมาธิสฺมิํ มตฺตโส การี, ปญฺญาย มตฺตโส การี? โสตาปนฺนสกทาคามิโน – อิเม วุจฺจนฺติ ปุคฺคลา สีเลสุ ปริปูรการิโน, สมาธิสฺมิํ มตฺตโส การิโน, ปญฺญาย มตฺตโส การิโนฯ

    127. Katamo ca puggalo sīlesu paripūrakārī, samādhismiṃ mattaso kārī, paññāya mattaso kārī? Sotāpannasakadāgāmino – ime vuccanti puggalā sīlesu paripūrakārino, samādhismiṃ mattaso kārino, paññāya mattaso kārino.

    ๑๒๘. กตโม จ ปุคฺคโล สีเลสุ จ ปริปูรการี, สมาธิสฺมิญฺจ ปริปูรการี, ปญฺญาย มตฺตโส การี? อนาคามี – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สีเลสุ จ ปริปูรการี, สมาธิสฺมิญฺจ ปริปูรการี, ปญฺญาย มตฺตโส การีฯ

    128. Katamo ca puggalo sīlesu ca paripūrakārī, samādhismiñca paripūrakārī, paññāya mattaso kārī? Anāgāmī – ayaṃ vuccati puggalo sīlesu ca paripūrakārī, samādhismiñca paripūrakārī, paññāya mattaso kārī.

    ๑๒๙. กตโม จ ปุคฺคโล สีเลสุ จ ปริปูรการี, สมาธิสฺมิญฺจ ปริปูรการี, ปญฺญาย จ ปริปูรการี? อรหา – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สีเลสุ จ ปริปูรการี, สมาธิสฺมิญฺจ ปริปูรการี, ปญฺญาย จ ปริปูรการีฯ

    129. Katamo ca puggalo sīlesu ca paripūrakārī, samādhismiñca paripūrakārī, paññāya ca paripūrakārī? Arahā – ayaṃ vuccati puggalo sīlesu ca paripūrakārī, samādhismiñca paripūrakārī, paññāya ca paripūrakārī.

    ๑๓๐. ตตฺถ กตเม ตโย สตฺถาโร? อิเธกโจฺจ สตฺถา กามานํ ปริญฺญํ ปญฺญเปติ 33, น รูปานํ ปริญฺญํ ปญฺญเปติ, น เวทนานํ ปริญฺญํ ปญฺญเปติฯ อิธ ปเนกโจฺจ สตฺถา กามานญฺจ ปริญฺญํ ปญฺญเปติ, รูปานญฺจ ปริญฺญํ ปญฺญเปติ, น เวทนานํ ปริญฺญํ ปญฺญเปติฯ อิธ ปเนกโจฺจ สตฺถา กามานญฺจ ปริญฺญํ ปญฺญเปติ, รูปานญฺจ ปริญฺญํ ปญฺญเปติ, เวทนานญฺจ ปริญฺญํ ปญฺญเปติฯ

    130. Tattha katame tayo satthāro? Idhekacco satthā kāmānaṃ pariññaṃ paññapeti 34, na rūpānaṃ pariññaṃ paññapeti, na vedanānaṃ pariññaṃ paññapeti. Idha panekacco satthā kāmānañca pariññaṃ paññapeti, rūpānañca pariññaṃ paññapeti, na vedanānaṃ pariññaṃ paññapeti. Idha panekacco satthā kāmānañca pariññaṃ paññapeti, rūpānañca pariññaṃ paññapeti, vedanānañca pariññaṃ paññapeti.

    ตตฺร ยฺวายํ สตฺถา กามานํ ปริญฺญํ ปญฺญเปติ, น รูปานํ ปริญฺญํ ปญฺญเปติ, น เวทนานํ ปริญฺญํ ปญฺญเปติ, รูปาวจรสมาปตฺติยา ลาภี สตฺถา เตน ทฎฺฐโพฺพฯ ตตฺร ยฺวายํ สตฺถา กามานญฺจ ปริญฺญํ ปญฺญเปติ, รูปานญฺจ ปริญฺญํ ปญฺญเปติ, น เวทนานํ ปริญฺญํ ปญฺญเปติ, อรูปาวจรสมาปตฺติยา ลาภี สตฺถา เตน ทฎฺฐโพฺพฯ ตตฺร ยฺวายํ สตฺถา กามานญฺจ ปริญฺญํ ปญฺญเปติ, รูปานญฺจ ปริญฺญํ ปญฺญเปติ, เวทนานญฺจ ปริญฺญํ ปญฺญเปติ, สมฺมาสมฺพุโทฺธ สตฺถา เตน ทฎฺฐโพฺพฯ อิเม ตโย สตฺถาโรฯ

    Tatra yvāyaṃ satthā kāmānaṃ pariññaṃ paññapeti, na rūpānaṃ pariññaṃ paññapeti, na vedanānaṃ pariññaṃ paññapeti, rūpāvacarasamāpattiyā lābhī satthā tena daṭṭhabbo. Tatra yvāyaṃ satthā kāmānañca pariññaṃ paññapeti, rūpānañca pariññaṃ paññapeti, na vedanānaṃ pariññaṃ paññapeti, arūpāvacarasamāpattiyā lābhī satthā tena daṭṭhabbo. Tatra yvāyaṃ satthā kāmānañca pariññaṃ paññapeti, rūpānañca pariññaṃ paññapeti, vedanānañca pariññaṃ paññapeti, sammāsambuddho satthā tena daṭṭhabbo. Ime tayo satthāro.

    ๑๓๑. ตตฺถ กตเม อปเรปิ ตโย สตฺถาโร? อิเธกโจฺจ สตฺถา ทิเฎฺฐ เจว ธเมฺม อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต ปญฺญเปติ, อภิสมฺปรายญฺจ อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต ปญฺญเปติฯ อิธ ปเนกโจฺจ สตฺถา ทิเฎฺฐ เจว ธเมฺม อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต ปญฺญเปติ, โน จ โข อภิสมฺปรายํ อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต ปญฺญเปติฯ อิธ ปเนกโจฺจ สตฺถา ทิเฎฺฐ เจว ธเมฺม อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต น ปญฺญเปติ, อภิสมฺปรายญฺจ อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต น ปญฺญเปติฯ

    131. Tattha katame aparepi tayo satthāro? Idhekacco satthā diṭṭhe ceva dhamme attānaṃ saccato thetato paññapeti, abhisamparāyañca attānaṃ saccato thetato paññapeti. Idha panekacco satthā diṭṭhe ceva dhamme attānaṃ saccato thetato paññapeti, no ca kho abhisamparāyaṃ attānaṃ saccato thetato paññapeti. Idha panekacco satthā diṭṭhe ceva dhamme attānaṃ saccato thetato na paññapeti, abhisamparāyañca attānaṃ saccato thetato na paññapeti.

    ตตฺร ยฺวายํ สตฺถา ทิเฎฺฐ เจว ธเมฺม อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต ปญฺญเปติ, อภิสมฺปรายญฺจ อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต ปญฺญเปติ, สสฺสตวาโท สตฺถา เตน ทฎฺฐโพฺพฯ ตตฺร ยฺวายํ สตฺถา ทิเฎฺฐ เจว ธเมฺม อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต ปญฺญเปติ, โน จ โข อภิสมฺปรายํ อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต ปญฺญเปติ, อุเจฺฉทวาโท สตฺถา เตน ทฎฺฐโพฺพฯ ตตฺร ยฺวายํ สตฺถา ทิเฎฺฐ เจว ธเมฺม อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต น ปญฺญเปติ, อภิสมฺปรายญฺจ อตฺตานํ สจฺจโต เถตโต น ปญฺญเปติ, สมฺมาสมฺพุโทฺธ สตฺถา เตน ทฎฺฐโพฺพฯ อิเม อปเรปิ ตโย สตฺถาโรฯ

    Tatra yvāyaṃ satthā diṭṭhe ceva dhamme attānaṃ saccato thetato paññapeti, abhisamparāyañca attānaṃ saccato thetato paññapeti, sassatavādo satthā tena daṭṭhabbo. Tatra yvāyaṃ satthā diṭṭhe ceva dhamme attānaṃ saccato thetato paññapeti, no ca kho abhisamparāyaṃ attānaṃ saccato thetato paññapeti, ucchedavādo satthā tena daṭṭhabbo. Tatra yvāyaṃ satthā diṭṭhe ceva dhamme attānaṃ saccato thetato na paññapeti, abhisamparāyañca attānaṃ saccato thetato na paññapeti, sammāsambuddho satthā tena daṭṭhabbo. Ime aparepi tayo satthāro.

    ติกนิเทฺทโสฯ

    Tikaniddeso.







    Footnotes:
    1. เอวเมว (สี.)
    2. evameva (sī.)
    3. เอหิ โภ (สฺยา. ก.) ม. นิ. ๑.๔๔๐; อ. นิ. ๓.๒๘
    4. ehi bho (syā. ka.) ma. ni. 1.440; a. ni. 3.28
    5. ปติฎฺฐียติ (สฺยา. ก.) อ. นิ. ๓.๒๕
    6. กถลาย (ก.), กถเลน (อฎฺฐกถา) อ. นิ. ๓.๒๕
    7. อสฺสวโนติ (สี.)
    8. patiṭṭhīyati (syā. ka.) a. ni. 3.25
    9. kathalāya (ka.), kathalena (aṭṭhakathā) a. ni. 3.25
    10. assavanoti (sī.)
    11. คโต (สี.), คนฺตฺวา (สฺยา.)
    12. ธมฺมสฺสวนาย (สฺยา.)
    13. นิกุโชฺช (สฺยา.) อ. นิ. ๓.๓๐
    14. gato (sī.), gantvā (syā.)
    15. dhammassavanāya (syā.)
    16. nikujjo (syā.) a. ni. 3.30
    17. ติลตณฺฑุลา (ก.) อ. นิ. ๓.๓๐
    18. tilataṇḍulā (ka.) a. ni. 3.30
    19. ปฐวิยา (สี. สฺยา.)
    20. paṭhaviyā (sī. syā.)
    21. … เจว (สฺยา.) อ. นิ. ๓.๑๓๓
    22. … เจว (สฺยา.) อ. นิ. ๓.๑๓๓
    23. … เจว (สฺยา.) อ. นิ. ๓.๑๓๓
    24. … ceva (syā.) a. ni. 3.133
    25. … ceva (syā.) a. ni. 3.133
    26. … ceva (syā.) a. ni. 3.133
    27. เยสํ โข ปน (สพฺพตฺถ) อ. นิ. ๓.๑๐๐
    28. ปติคณฺหาติ (สี.) รูปสิทฺธิฎีกาย ปน สเมติ
    29. yesaṃ kho pana (sabbattha) a. ni. 3.100
    30. patigaṇhāti (sī.) rūpasiddhiṭīkāya pana sameti
    31. ปวตฺตนี (สี.) อ. นิ. ๓.๒๖
    32. pavattanī (sī.) a. ni. 3.26
    33. ปญฺญาเปติ (สี. สฺยา.)
    34. paññāpeti (sī. syā.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / อภิธมฺมปิฎก (อฎฺฐกถา) • Abhidhammapiṭaka (aṭṭhakathā) / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā / ๓. ติกนิเทฺทสวณฺณนา • 3. Tikaniddesavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๓. ติกนิเทฺทสวณฺณนา • 3. Tikaniddesavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā / ๓. ติกนิเทฺทสวณฺณนา • 3. Tikaniddesavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact