Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๒. ติสฺสสุตฺตํ

    2. Tissasuttaṃ

    ๘๔. สาวตฺถินิทานํฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ติโสฺส ภควโต ปิตุจฺฉาปุโตฺต สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ เอวมาโรเจติ – ‘‘อปิ เม, อาวุโส, มธุรกชาโต วิย กาโย; ทิสาปิ เม น ปกฺขายนฺติ; ธมฺมาปิ มํ น ปฎิภนฺติ; ถินมิทฺธญฺจ 1 เม จิตฺตํ ปริยาทาย ติฎฺฐติ; อนภิรโต จ พฺรหฺมจริยํ จรามิ; โหติ จ เม ธเมฺมสุ วิจิกิจฺฉา’’ติฯ

    84. Sāvatthinidānaṃ. Tena kho pana samayena āyasmā tisso bhagavato pitucchāputto sambahulānaṃ bhikkhūnaṃ evamāroceti – ‘‘api me, āvuso, madhurakajāto viya kāyo; disāpi me na pakkhāyanti; dhammāpi maṃ na paṭibhanti; thinamiddhañca 2 me cittaṃ pariyādāya tiṭṭhati; anabhirato ca brahmacariyaṃ carāmi; hoti ca me dhammesu vicikicchā’’ti.

    อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อายสฺมา, ภเนฺต, ติโสฺส ภควโต ปิตุจฺฉาปุโตฺต สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ เอวมาโรเจติ – ‘อปิ เม, อาวุโส, มธุรกชาโต วิย กาโย; ทิสาปิ เม น ปกฺขายนฺติ; ธมฺมาปิ มํ น ปฎิภนฺติ; ถินมิทฺธญฺจ เม จิตฺตํ ปริยาทาย ติฎฺฐติ; อนภิรโต จ พฺรหฺมจริยํ จรามิ; โหติ จ เม ธเมฺมสุ วิจิกิจฺฉา’’’ติฯ

    Atha kho sambahulā bhikkhū yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinnā kho te bhikkhū bhagavantaṃ etadavocuṃ – ‘‘āyasmā, bhante, tisso bhagavato pitucchāputto sambahulānaṃ bhikkhūnaṃ evamāroceti – ‘api me, āvuso, madhurakajāto viya kāyo; disāpi me na pakkhāyanti; dhammāpi maṃ na paṭibhanti; thinamiddhañca me cittaṃ pariyādāya tiṭṭhati; anabhirato ca brahmacariyaṃ carāmi; hoti ca me dhammesu vicikicchā’’’ti.

    อถ โข ภควา อญฺญตรํ ภิกฺขุํ อามเนฺตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, มม วจเนน ติสฺสํ ภิกฺขุํ อามเนฺตหี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ปฎิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา ติโสฺส เตนุปสงฺกมิ ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ติสฺสํ เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา ตํ, อาวุโส ติสฺส, อามเนฺตตี’’ติฯ ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา ติโสฺส ตสฺส ภิกฺขุโน ปฎิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ ติสฺสํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ติสฺส, สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ เอวมาโรเจสิ – ‘อปิ เม, อาวุโส, มธุรกชาโต วิย กาโย…เป.… โหติ จ เม ธเมฺมสุ วิจิกิจฺฉา’’’ติ? ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ฯ ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, ติสฺส, รูเป อวิคตราคสฺส อวิคตจฺฉนฺทสฺส อวิคตเปมสฺส อวิคตปิปาสสฺส อวิคตปริฬาหสฺส อวิคตตณฺหสฺส, ตสฺส รูปสฺส วิปริณามญฺญถาภาวา อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ฯ

    Atha kho bhagavā aññataraṃ bhikkhuṃ āmantesi – ‘‘ehi tvaṃ, bhikkhu, mama vacanena tissaṃ bhikkhuṃ āmantehī’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho so bhikkhu bhagavato paṭissutvā yenāyasmā tisso tenupasaṅkami ; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ tissaṃ etadavoca – ‘‘satthā taṃ, āvuso tissa, āmantetī’’ti. ‘‘Evamāvuso’’ti kho āyasmā tisso tassa bhikkhuno paṭissutvā yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnaṃ kho āyasmantaṃ tissaṃ bhagavā etadavoca – ‘‘saccaṃ kira tvaṃ, tissa, sambahulānaṃ bhikkhūnaṃ evamārocesi – ‘api me, āvuso, madhurakajāto viya kāyo…pe… hoti ca me dhammesu vicikicchā’’’ti? ‘‘Evaṃ, bhante’’. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, tissa, rūpe avigatarāgassa avigatacchandassa avigatapemassa avigatapipāsassa avigatapariḷāhassa avigatataṇhassa, tassa rūpassa vipariṇāmaññathābhāvā uppajjanti sokaparidevadukkhadomanassupāyāsā’’ti? ‘‘Evaṃ, bhante’’.

    ‘‘สาธุ สาธุ, ติสฺส! เอวเญฺหตํ, ติสฺส, โหติฯ ยถา ตํ รูเป อวิคตราคสฺส… เวทนาย… สญฺญาย… สงฺขาเรสุ อวิคตราคสฺส…เป.… เตสํ สงฺขารานํ วิปริณามญฺญถาภาวา อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ฯ

    ‘‘Sādhu sādhu, tissa! Evañhetaṃ, tissa, hoti. Yathā taṃ rūpe avigatarāgassa… vedanāya… saññāya… saṅkhāresu avigatarāgassa…pe… tesaṃ saṅkhārānaṃ vipariṇāmaññathābhāvā uppajjanti sokaparidevadukkhadomanassupāyāsā’’ti? ‘‘Evaṃ, bhante’’.

    ‘‘สาธุ สาธุ, ติสฺส! เอวเญฺหตํ, ติสฺส, โหติฯ ยถา ตํ วิญฺญาเณ อวิคตราคสฺส อวิคตจฺฉนฺทสฺส อวิคตเปมสฺส อวิคตปิปาสสฺส อวิคตปริฬาหสฺส อวิคตตณฺหสฺส, ตสฺส วิญฺญาณสฺส วิปริณามญฺญถาภาวา อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ฯ

    ‘‘Sādhu sādhu, tissa! Evañhetaṃ, tissa, hoti. Yathā taṃ viññāṇe avigatarāgassa avigatacchandassa avigatapemassa avigatapipāsassa avigatapariḷāhassa avigatataṇhassa, tassa viññāṇassa vipariṇāmaññathābhāvā uppajjanti sokaparidevadukkhadomanassupāyāsā’’ti? ‘‘Evaṃ, bhante’’.

    ‘‘สาธุ สาธุ, ติสฺส! เอวเญฺหตํ, ติสฺส, โหติฯ ยถา ตํ วิญฺญาเณ อวิคตราคสฺสฯ ตํ กิํ มญฺญสิ, ติสฺส, รูเป วิคตราคสฺส วิคตจฺฉนฺทสฺส วิคตเปมสฺส วิคตปิปาสสฺส วิคตปริฬาหสฺส วิคตตณฺหสฺส, ตสฺส รูปสฺส วิปริณามญฺญถาภาวา อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ

    ‘‘Sādhu sādhu, tissa! Evañhetaṃ, tissa, hoti. Yathā taṃ viññāṇe avigatarāgassa. Taṃ kiṃ maññasi, tissa, rūpe vigatarāgassa vigatacchandassa vigatapemassa vigatapipāsassa vigatapariḷāhassa vigatataṇhassa, tassa rūpassa vipariṇāmaññathābhāvā uppajjanti sokaparidevadukkhadomanassupāyāsā’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’.

    ‘‘สาธุ สาธุ, ติสฺส! เอวเญฺหตํ, ติสฺส, โหติฯ ยถา ตํ รูเป วิคตราคสฺส… เวทนาย… สญฺญาย… สงฺขาเรสุ วิคตราคสฺส… วิญฺญาเณ วิคตราคสฺส วิคตจฺฉนฺทสฺส วิคตเปมสฺส วิคตปิปาสสฺส วิคตปริฬาหสฺส วิคตตณฺหสฺส ตสฺส วิญฺญาณสฺส วิปริณามญฺญถาภาวา อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ

    ‘‘Sādhu sādhu, tissa! Evañhetaṃ, tissa, hoti. Yathā taṃ rūpe vigatarāgassa… vedanāya… saññāya… saṅkhāresu vigatarāgassa… viññāṇe vigatarāgassa vigatacchandassa vigatapemassa vigatapipāsassa vigatapariḷāhassa vigatataṇhassa tassa viññāṇassa vipariṇāmaññathābhāvā uppajjanti sokaparidevadukkhadomanassupāyāsā’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’.

    ‘‘สาธุ สาธุ, ติสฺส! เอวเญฺหตํ, ติสฺส, โหติฯ ยถา ตํ วิญฺญาเณ วิคตราคสฺสฯ ตํ กิํ มญฺญสิ, ติสฺส, รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภเนฺต’’ฯ ‘‘เวทนา … สญฺญา… สงฺขารา… วิญฺญาณํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภเนฺต’’ฯ ตสฺมาติห…เป.… เอวํ ปสฺสํ…เป.… นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาตี’’ติฯ

    ‘‘Sādhu sādhu, tissa! Evañhetaṃ, tissa, hoti. Yathā taṃ viññāṇe vigatarāgassa. Taṃ kiṃ maññasi, tissa, rūpaṃ niccaṃ vā aniccaṃ vā’’ti? ‘‘Aniccaṃ, bhante’’. ‘‘Vedanā … saññā… saṅkhārā… viññāṇaṃ niccaṃ vā aniccaṃ vā’’ti? ‘‘Aniccaṃ, bhante’’. Tasmātiha…pe… evaṃ passaṃ…pe… nāparaṃ itthattāyāti pajānātī’’ti.

    ‘‘เสยฺยถาปิ, ติสฺส, เทฺว ปุริสา – เอโก ปุริโส อมคฺคกุสโล, เอโก ปุริโส มคฺคกุสโลฯ ตเมนํ โส อมคฺคกุสโล ปุริโส อมุํ มคฺคกุสลํ ปุริสํ มคฺคํ ปุเจฺฉยฺยฯ โส เอวํ วเทยฺย – ‘เอหิ, โภ ปุริส, อยํ มโคฺคฯ เตน มุหุตฺตํ คจฺฉฯ เตน มุหุตฺตํ คนฺตฺวา ทกฺขิสฺสสิ เทฺวธาปถํ, ตตฺถ วามํ มุญฺจิตฺวา ทกฺขิณํ คณฺหาหิฯ เตน มุหุตฺตํ คจฺฉฯ เตน มุหุตฺตํ คนฺตฺวา ทกฺขิสฺสสิ ติพฺพํ วนสณฺฑํฯ เตน มุหุตฺตํ คจฺฉฯ เตน มุหุตฺตํ คนฺตฺวา ทกฺขิสฺสสิ มหนฺตํ นินฺนํ ปลฺลลํ ฯ เตน มุหุตฺตํ คจฺฉฯ เตน มุหุตฺตํ คนฺตฺวา ทกฺขิสฺสสิ โสพฺภํ ปปาตํฯ เตน มุหุตฺตํ คจฺฉฯ เตน มุหุตฺตํ คนฺตฺวา ทกฺขิสฺสสิ สมํ ภูมิภาคํ รมณีย’’’นฺติฯ

    ‘‘Seyyathāpi, tissa, dve purisā – eko puriso amaggakusalo, eko puriso maggakusalo. Tamenaṃ so amaggakusalo puriso amuṃ maggakusalaṃ purisaṃ maggaṃ puccheyya. So evaṃ vadeyya – ‘ehi, bho purisa, ayaṃ maggo. Tena muhuttaṃ gaccha. Tena muhuttaṃ gantvā dakkhissasi dvedhāpathaṃ, tattha vāmaṃ muñcitvā dakkhiṇaṃ gaṇhāhi. Tena muhuttaṃ gaccha. Tena muhuttaṃ gantvā dakkhissasi tibbaṃ vanasaṇḍaṃ. Tena muhuttaṃ gaccha. Tena muhuttaṃ gantvā dakkhissasi mahantaṃ ninnaṃ pallalaṃ . Tena muhuttaṃ gaccha. Tena muhuttaṃ gantvā dakkhissasi sobbhaṃ papātaṃ. Tena muhuttaṃ gaccha. Tena muhuttaṃ gantvā dakkhissasi samaṃ bhūmibhāgaṃ ramaṇīya’’’nti.

    ‘‘อุปมา โข มฺยายํ, ติสฺส, กตา อตฺถสฺส วิญฺญาปนายฯ อยํ เจเวตฺถ อโตฺถ – ‘ปุริโส อมคฺคกุสโล’ติ โข, ติสฺส, ปุถุชฺชนเสฺสตํ อธิวจนํฯ ‘ปุริโส มคฺคกุสโล’ติ โข, ติสฺส, ตถาคตเสฺสตํ อธิวจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ ‘เทฺวธาปโถ’ติ โข, ติสฺส, วิจิกิจฺฉาเยตํ อธิวจนํ ฯ ‘วาโม มโคฺค’ติ โข, ติสฺส, อฎฺฐงฺคิกเสฺสตํ มิจฺฉามคฺคสฺส อธิวจนํ, เสยฺยถิทํ – มิจฺฉาทิฎฺฐิยา…เป.… มิจฺฉาสมาธิสฺสฯ ‘ทกฺขิโณ มโคฺค’ติ โข, ติสฺส, อริยเสฺสตํ อฎฺฐงฺคิกสฺส มคฺคสฺส อธิวจนํ, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฎฺฐิยา…เป.… สมฺมาสมาธิสฺสฯ ‘ติโพฺพ วนสโณฺฑ’ติ โข, ติสฺส, อวิชฺชาเยตํ อธิวจนํฯ ‘มหนฺตํ นินฺนํ ปลฺลล’นฺติ โข, ติสฺส, กามานเมตํ อธิวจนํฯ ‘โสโพฺภ ปปาโต’ติ โข, ติสฺส, โกธูปายาสเสฺสตํ อธิวจนํฯ ‘สโม ภูมิภาโค รมณีโย’ติ โข, ติสฺส, นิพฺพานเสฺสตํ อธิวจนํฯ อภิรม, ติสฺส, อภิรม, ติสฺส! อหโมวาเทน อหมนุคฺคเหน อหมนุสาสนิยา’’ติ 3

    ‘‘Upamā kho myāyaṃ, tissa, katā atthassa viññāpanāya. Ayaṃ cevettha attho – ‘puriso amaggakusalo’ti kho, tissa, puthujjanassetaṃ adhivacanaṃ. ‘Puriso maggakusalo’ti kho, tissa, tathāgatassetaṃ adhivacanaṃ arahato sammāsambuddhassa. ‘Dvedhāpatho’ti kho, tissa, vicikicchāyetaṃ adhivacanaṃ . ‘Vāmo maggo’ti kho, tissa, aṭṭhaṅgikassetaṃ micchāmaggassa adhivacanaṃ, seyyathidaṃ – micchādiṭṭhiyā…pe… micchāsamādhissa. ‘Dakkhiṇo maggo’ti kho, tissa, ariyassetaṃ aṭṭhaṅgikassa maggassa adhivacanaṃ, seyyathidaṃ – sammādiṭṭhiyā…pe… sammāsamādhissa. ‘Tibbo vanasaṇḍo’ti kho, tissa, avijjāyetaṃ adhivacanaṃ. ‘Mahantaṃ ninnaṃ pallala’nti kho, tissa, kāmānametaṃ adhivacanaṃ. ‘Sobbho papāto’ti kho, tissa, kodhūpāyāsassetaṃ adhivacanaṃ. ‘Samo bhūmibhāgo ramaṇīyo’ti kho, tissa, nibbānassetaṃ adhivacanaṃ. Abhirama, tissa, abhirama, tissa! Ahamovādena ahamanuggahena ahamanusāsaniyā’’ti 4.

    อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมโน อายสฺมา ติโสฺส ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ ทุติยํฯ

    Idamavoca bhagavā. Attamano āyasmā tisso bhagavato bhāsitaṃ abhinandīti. Dutiyaṃ.







    Footnotes:
    1. ถีนมิทฺธญฺจ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    2. thīnamiddhañca (sī. syā. kaṃ. pī.)
    3. อหมามิสธมฺมานุคฺคเหน มโมวาเทน มมานุสาสนิยาติ (ก.)
    4. ahamāmisadhammānuggahena mamovādena mamānusāsaniyāti (ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๒. ติสฺสสุตฺตวณฺณนา • 2. Tissasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๒. ติสฺสสุตฺตวณฺณนา • 2. Tissasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact