Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๙. ติสฺสสุตฺตวณฺณนา
9. Tissasuttavaṇṇanā
๒๔๓. ภณฺฑกนฺติ ปตฺตจีวรํฯ นิสีทิเยว วตฺตสฺส อสิกฺขิตตฺตาฯ ตุชฺชนเตฺถน วาจา เอว สตฺติโยติ อาห ‘‘วาจาสตฺตีหี’’ติฯ
243.Bhaṇḍakanti pattacīvaraṃ. Nisīdiyeva vattassa asikkhitattā. Tujjanatthena vācā eva sattiyoti āha ‘‘vācāsattīhī’’ti.
วาจาย สนฺนิโตทเกนาติ วจนสงฺขาเตน สมนฺตโต นิจฺจํ กตฺวา อุปตุทนโต สนฺนิตุทเกนฯ วิภตฺติอโลเปน โส นิเทฺทโสฯ เตนาห ‘‘วจนปโตเทนา’’ติฯ
Vācāya sannitodakenāti vacanasaṅkhātena samantato niccaṃ katvā upatudanato sannitudakena. Vibhattialopena so niddeso. Tenāha ‘‘vacanapatodenā’’ti.
อุจฺจกุเล ชาติ เอตสฺสาติ ชาติมา, พฺรหฺมชาติโก อิสิฯ มาตโงฺคติ จณฺฑาโลฯ ตตฺถาติ กุมฺภการสาลายํฯ โอกาสํ ยาจิ กุมฺภการํฯ มหนฺตํ ทิสฺวา อาห – ‘‘ปฐมตรํ ปวิโฎฺฐ ปพฺพชิโต’’ติฯ ตเตฺถวาติ ตสฺสาเยว สาลาย ทฺวารํ นิสฺสาย ทฺวารสมีเปฯ เมติ มยาฯ ขม มยฺหนฺติ มยฺหํ อปราธํ ขมสฺสุฯ เตติ ตยาฯ ปุน เตติ ตวฯ คณฺหิ อุคฺคนฺตุํ อปฺปทานวเสนฯ เตนาห ‘‘นาสฺส อุคฺคนฺตุํ อทาสี’’ติฯ ปพุชฺฌิํสูติ นิทฺทาย ปพุชฺฌิํสุ ปกติยา ปพุชฺฌนเวลาย อุปคตตฺตาฯ
Uccakule jāti etassāti jātimā, brahmajātiko isi. Mātaṅgoti caṇḍālo. Tatthāti kumbhakārasālāyaṃ. Okāsaṃ yāci kumbhakāraṃ. Mahantaṃ disvā āha – ‘‘paṭhamataraṃ paviṭṭho pabbajito’’ti. Tatthevāti tassāyeva sālāya dvāraṃ nissāya dvārasamīpe. Meti mayā. Khama mayhanti mayhaṃ aparādhaṃ khamassu. Teti tayā. Puna teti tava. Gaṇhi uggantuṃ appadānavasena. Tenāha ‘‘nāssa uggantuṃ adāsī’’ti. Pabujjhiṃsūti niddāya pabujjhiṃsu pakatiyā pabujjhanavelāya upagatattā.
ฉโวติ นิหีโนฯ อนนฺตมาโยติ วิวิธมาโย มายาวีฯ
Chavoti nihīno. Anantamāyoti vividhamāyo māyāvī.
โสติ มตฺติกาปิโณฺฑฯ ‘‘สตฺตธา ภิชฺชี’’ติ เอตฺถายมธิปฺปาโย – ยํ เตน ตาปเสน ปารมิตาปริภาวนสมิทฺธาหิ นานาวิหารสมาปตฺติปริปูริตาหิ สีลทิฎฺฐิสมฺปทาทีหิ สุสงฺขตสนฺตาเน มหากรุณาธิวาเส มหาสเตฺต โพธิสเตฺต อริยูปวาทกมฺมํ อภิสปสงฺขาตํ ผรุสวจนํ ปวตฺติตํ, ตํ มหาสตฺตสฺส เขตฺตวิเสสภาวโต ตสฺส จ อชฺฌาสยผรุสตาย ทิฎฺฐธมฺมเวทนียํ หุตฺวา สเจ โส มหาสตฺตํ น ขมาเปติ, ตํ กกฺขฬํ หุตฺวา วิปจฺจนสภาวํ ชาตํ, ขมาปิเต ปน มหาสเตฺต ปโยคสมฺปตฺติปฎิพาหิตตฺตา อวิปากธมฺมตํ อาปชฺชติ อโหสิกมฺมภาวโตฯ อยญฺหิ อริยูปวาทปาปสฺส ทิฎฺฐธมฺมเวทนียสฺส จ ธมฺมตาฯ ยํ ตํ โพธิสเตฺตน สูริยุคฺคมนนิวารณํ กตํ, อยํ โพธิสเตฺตน ทิโฎฺฐ อุปาโยฯ เตน หิ อุพฺพาฬฺหา มนุสฺสา โพธิสตฺตสฺส สนฺติเก ตาปสํ อาเนตฺวา ขมาเปสุํฯ โสปิ จ มหาสตฺตสฺส คุเณ ชานิตฺวา ตสฺมิํ จิตฺตํ ปสาเทสิฯ ยํ ปนสฺส มตฺถเก มตฺติกาปิณฺฑสฺส ฐปนํ ตสฺส สตฺตธา ผาลนํ กตํ, ตํ มนุสฺสานํ จิตฺตานุรกฺขณตฺถํฯ อญฺญถา หิ อิเม ปพฺพชิตา สมานา จิตฺตสฺส วสํ วตฺตนฺติ, น ปน จิตฺตมตฺตโน วเส วตฺตาเปนฺตีติ มหาสตฺตมฺปิ เตน สทิสํ กตฺวา คเณฺหยฺยุํ, ตทสฺส เนสํ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายาติฯ ปติรูปนฺติ ยุตฺตํฯ
Soti mattikāpiṇḍo. ‘‘Sattadhā bhijjī’’ti etthāyamadhippāyo – yaṃ tena tāpasena pāramitāparibhāvanasamiddhāhi nānāvihārasamāpattiparipūritāhi sīladiṭṭhisampadādīhi susaṅkhatasantāne mahākaruṇādhivāse mahāsatte bodhisatte ariyūpavādakammaṃ abhisapasaṅkhātaṃ pharusavacanaṃ pavattitaṃ, taṃ mahāsattassa khettavisesabhāvato tassa ca ajjhāsayapharusatāya diṭṭhadhammavedanīyaṃ hutvā sace so mahāsattaṃ na khamāpeti, taṃ kakkhaḷaṃ hutvā vipaccanasabhāvaṃ jātaṃ, khamāpite pana mahāsatte payogasampattipaṭibāhitattā avipākadhammataṃ āpajjati ahosikammabhāvato. Ayañhi ariyūpavādapāpassa diṭṭhadhammavedanīyassa ca dhammatā. Yaṃ taṃ bodhisattena sūriyuggamananivāraṇaṃ kataṃ, ayaṃ bodhisattena diṭṭho upāyo. Tena hi ubbāḷhā manussā bodhisattassa santike tāpasaṃ ānetvā khamāpesuṃ. Sopi ca mahāsattassa guṇe jānitvā tasmiṃ cittaṃ pasādesi. Yaṃ panassa matthake mattikāpiṇḍassa ṭhapanaṃ tassa sattadhā phālanaṃ kataṃ, taṃ manussānaṃ cittānurakkhaṇatthaṃ. Aññathā hi ime pabbajitā samānā cittassa vasaṃ vattanti, na pana cittamattano vase vattāpentīti mahāsattampi tena sadisaṃ katvā gaṇheyyuṃ, tadassa nesaṃ dīgharattaṃ ahitāya dukkhāyāti. Patirūpanti yuttaṃ.
ติสฺสสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Tissasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๙. ติสฺสสุตฺตํ • 9. Tissasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๙. ติสฺสสุตฺตวณฺณนา • 9. Tissasuttavaṇṇanā