Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā |
ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถา
Titthiyapakkantakakathā
ติตฺถิยปกฺกนฺตโก ภิกฺขเวติ เอตฺถ ปน ติตฺถิเยสุ ปกฺกโนฺต ปวิโฎฺฐติ ติตฺถิยปกฺกนฺตโกฯ โส น เกวลํ น อุปสมฺปาเทตโพฺพ, อถ โข น ปพฺพาเชตโพฺพปิฯ ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – อุปสมฺปโนฺน ภิกฺขุ ติตฺถิโย ภวิสฺสามีติ สลิเงฺคเนว เตสํ อุปสฺสยํ คจฺฉติ, ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฎํฯ เตสํ ลิเงฺค อาทินฺนมเตฺต ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติฯ โยปิ สยเมว ‘‘ติตฺถิโย ภวิสฺสามี’’ติ กุสจีราทีนิ นิวาเสติ, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติเยวฯ โย ปน นโคฺค นฺหายโนฺต อตฺตานํ โอโลเกตฺวา ‘‘โสภติ เม อาชีวกภาโว, อาชีวโก ภวิสฺสามี’’ติ กาสายานิ อนาทาย นโคฺคว อาชีวกานํ อุปสฺสยํ คจฺฉติ, ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฎํฯ สเจ ปนสฺส อนฺตรามเคฺค หิโรตฺตปฺปํ อุปฺปชฺชติ, ทุกฺกฎานิ เทเสตฺวา มุจฺจติฯ เตสํ อุปสฺสยํ คนฺตฺวาปิ เตหิ วา โอวทิโต อตฺตนา วา ‘‘อิเมสํ ปพฺพชฺชา อติทุกฺขา’’ติ นิวตฺตโนฺตปิ มุจฺจติเยวฯ
Titthiyapakkantakobhikkhaveti ettha pana titthiyesu pakkanto paviṭṭhoti titthiyapakkantako. So na kevalaṃ na upasampādetabbo, atha kho na pabbājetabbopi. Tatrāyaṃ vinicchayo – upasampanno bhikkhu titthiyo bhavissāmīti saliṅgeneva tesaṃ upassayaṃ gacchati, padavāre padavāre dukkaṭaṃ. Tesaṃ liṅge ādinnamatte titthiyapakkantako hoti. Yopi sayameva ‘‘titthiyo bhavissāmī’’ti kusacīrādīni nivāseti, titthiyapakkantako hotiyeva. Yo pana naggo nhāyanto attānaṃ oloketvā ‘‘sobhati me ājīvakabhāvo, ājīvako bhavissāmī’’ti kāsāyāni anādāya naggova ājīvakānaṃ upassayaṃ gacchati, padavāre padavāre dukkaṭaṃ. Sace panassa antarāmagge hirottappaṃ uppajjati, dukkaṭāni desetvā muccati. Tesaṃ upassayaṃ gantvāpi tehi vā ovadito attanā vā ‘‘imesaṃ pabbajjā atidukkhā’’ti nivattantopi muccatiyeva.
สเจ ปน ‘‘กิํ ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชาย อุกฺกฎฺฐ’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เกสมสฺสุลุญฺจนาทีนี’’ติ วุโตฺต เอกเกสมฺปิ ลุญฺจาเปติ, อุกฺกุฎิกปฺปธานาทีนิ วา วตฺตานิ อาทิยติ, โมรปิญฺฉาทีนิ วา นิวาเสติ, เตสํ ลิงฺคํ คณฺหาติ, ‘‘อยํ ปพฺพชฺชา เสฎฺฐา’’ติ เสฎฺฐภาวํ วา อุปคจฺฉติ, น มุจฺจติ, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติฯ สเจ ปน ‘‘โสภติ นุ โข เม ติตฺถิยปพฺพชฺชา, นนุ โข โสภตี’’ติ วีมํสนตฺถํ กุสจีราทีนิ วา นิวาเสติ, ชฎํ วา พนฺธติ, ขาริกาชํ วา อาทิยติ, ยาว น สมฺปฎิจฺฉติ, ตาว นํ ลทฺธิ รกฺขติ, สมฺปฎิจฺฉิตมเตฺต ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติฯ อจฺฉินฺนจีวโร ปน กุสจีราทีนิ นิวาเสโนฺต ราชภยาทีหิ วา ติตฺถิยลิงฺคํ คณฺหโนฺต ลทฺธิยา อภาเวน เนว ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติฯ
Sace pana ‘‘kiṃ tumhākaṃ pabbajjāya ukkaṭṭha’’nti pucchitvā ‘‘kesamassuluñcanādīnī’’ti vutto ekakesampi luñcāpeti, ukkuṭikappadhānādīni vā vattāni ādiyati, morapiñchādīni vā nivāseti, tesaṃ liṅgaṃ gaṇhāti, ‘‘ayaṃ pabbajjā seṭṭhā’’ti seṭṭhabhāvaṃ vā upagacchati, na muccati, titthiyapakkantako hoti. Sace pana ‘‘sobhati nu kho me titthiyapabbajjā, nanu kho sobhatī’’ti vīmaṃsanatthaṃ kusacīrādīni vā nivāseti, jaṭaṃ vā bandhati, khārikājaṃ vā ādiyati, yāva na sampaṭicchati, tāva naṃ laddhi rakkhati, sampaṭicchitamatte titthiyapakkantako hoti. Acchinnacīvaro pana kusacīrādīni nivāsento rājabhayādīhi vā titthiyaliṅgaṃ gaṇhanto laddhiyā abhāvena neva titthiyapakkantako hoti.
อยญฺจ ติตฺถิยปกฺกนฺตโก นาม อุปสมฺปนฺนภิกฺขุนา กถิโต, ตสฺมา สามเณโร สลิเงฺคน ติตฺถายตนํ คโตปิ ปุน ปพฺพชฺชญฺจ อุปสมฺปทญฺจ ลภตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํฯ ปุริโม ปน เถยฺยสํวาสโก อนุปสมฺปเนฺนน กถิโต; ตสฺมา อุปสมฺปโนฺน กูฎวสฺสํ คเณโนฺตปิ อสฺสมโณ น โหติฯ ลิเงฺค สอุสฺสาโห ปาราชิกํ อาปชฺชิตฺวา ภิกฺขุวสฺสาทีนิ คเณโนฺตปิ เถยฺยสํวาสโก น โหตีติฯ
Ayañca titthiyapakkantako nāma upasampannabhikkhunā kathito, tasmā sāmaṇero saliṅgena titthāyatanaṃ gatopi puna pabbajjañca upasampadañca labhatīti kurundiyaṃ vuttaṃ. Purimo pana theyyasaṃvāsako anupasampannena kathito; tasmā upasampanno kūṭavassaṃ gaṇentopi assamaṇo na hoti. Liṅge saussāho pārājikaṃ āpajjitvā bhikkhuvassādīni gaṇentopi theyyasaṃvāsako na hotīti.
ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถา นิฎฺฐิตาฯ
Titthiyapakkantakakathā niṭṭhitā.