Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā |
ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถาวณฺณนา
Titthiyapakkantakakathāvaṇṇanā
ติตฺถิยปกฺกนฺตโก, ภิกฺขเวติอาทิ อตฺตโน นิทานภูเต ปสูรวตฺถุสฺมิํ เอว วตฺตพฺพํ สมานมฺปิ ตตฺถ วาริตอธิการาภาวา อภพฺพาฯ อิเธว เถยฺยสํวาสเกน วินา สมฺภวโต วุโตฺตฯ ตตฺถ ‘‘อถ โข น ปพฺพาเชตโพฺพปี’’ติ อิเธว วจนํ ปสูรสฺส อุปสมฺปทาย เอว ยาจนิจฺฉาย ทสฺสเนน, ‘‘โส อาคโต น อุปสมฺปาเทตโพฺพ’’ติ ภควโต อุปสมฺปทามตฺตปฎิเสธเนน จ ปพฺพชฺชานุมติโทสปฺปสงฺคภยาติ เวทิตพฺพํฯ เตสํ ลิเงฺค อาทินฺนมเตฺต ลทฺธิยา คหิตายปิ อคฺคหิตายปิ ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ, อวนฺทนียเสฺสว นคฺคลิงฺคสฺส เสฎฺฐภาวํ วา อุปคจฺฉติ, น มุจฺจติ, เอตฺถ ‘‘ปทวาเร ทุกฺกฎํ, อาชีวโก ภวิสฺสนฺติ วิสมจิตฺตวเสน คตตฺตา นโคฺค หุตฺวา น คมเนนา’’ติ วทนฺติฯ อุภินฺนมฺปิ วเสน ยุตฺตนฺติ มม ตโกฺกฯ ตาว นํ ลทฺธิ รกฺขติ อสมฺปฎิจฺฉิตตฺตาฯ อุปสมฺปนฺนภิกฺขุนา กถิโตติ กถํ ปญฺญายติ? อฎฺฐกถาวจนปฺปมาณโตวาติ เอเกฯ นิทานวเสนาติ เอเกฯ ปสูรสฺส อุปสมฺปนฺนตฺตา อุปสมฺปนฺนานํ เอว ติตฺถิยปกฺกนฺตตาวจนโตติ เอเกฯ ยถาห ‘‘อุปชฺฌาโย ปกฺกโนฺตวา โหติ, วิพฺภโนฺต วา, กาลํกโต วา, ปกฺขสงฺกโนฺต วา’’ติ อาจริโยฯ ปกฺขสงฺกโนฺต วาติ สามเณรนาสนาวตฺถูสุ อภาวโตติ เอเกฯ อญฺญติตฺถิยปุพฺพสฺส อุปสมฺปนฺนสฺส สโต ปกฺขสงฺกนฺตภยา อนุปสมฺปนฺนกาเล อุปสมฺปทตฺถํ ปริวาสปญฺญาปเนนาติ เอเก ฯ ปพฺพชฺชตฺถมฺปีติ เจ? น, ปุเพฺพ วิจาริตตฺตา, อปพฺพชิตสฺส อธิสีลาภาวโต จฯ ปาติโมกฺขสีลญฺหิ อธิสีลํ นาม, ตญฺจ อปพฺพชิตสฺส นตฺถิฯ อิมสฺส จ ปริวาสวเตฺต อธิสีลํ วุตฺตํฯ ยถาห ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยปุโพฺพ ติพฺพจฺฉโนฺท โหติ อุเทฺทเส ปริปุจฺฉาย อธิสีเล’’ติ (มหาว. ๘๗)ฯ อปิจ ‘‘สเจ, ภิกฺขเว, ชาติยา สากิโย อญฺญติตฺถิยปุโพฺพ อาคจฺฉติ, โส อาคโต อุปสมฺปาเทตโพฺพ’’ติ (มหาว. ๘๗) เอตฺถ อุปสมฺปทามตฺตปริทีปนโตฯ อุปสมฺปทามตฺตปริทีปนเญฺหตฺถ ตเสฺสว ปริวาสทานสิทฺธิโตฯ ปริวาสทานตฺตนิทสฺสนเตฺถ เหสา ปาฬิฯ
Titthiyapakkantako, bhikkhavetiādi attano nidānabhūte pasūravatthusmiṃ eva vattabbaṃ samānampi tattha vāritaadhikārābhāvā abhabbā. Idheva theyyasaṃvāsakena vinā sambhavato vutto. Tattha ‘‘atha kho na pabbājetabbopī’’ti idheva vacanaṃ pasūrassa upasampadāya eva yācanicchāya dassanena, ‘‘so āgato na upasampādetabbo’’ti bhagavato upasampadāmattapaṭisedhanena ca pabbajjānumatidosappasaṅgabhayāti veditabbaṃ. Tesaṃ liṅge ādinnamatte laddhiyā gahitāyapi aggahitāyapi titthiyapakkantako hoti, avandanīyasseva naggaliṅgassa seṭṭhabhāvaṃ vā upagacchati, na muccati, ettha ‘‘padavāre dukkaṭaṃ, ājīvako bhavissanti visamacittavasena gatattā naggo hutvā na gamanenā’’ti vadanti. Ubhinnampi vasena yuttanti mama takko. Tāva naṃ laddhi rakkhati asampaṭicchitattā. Upasampannabhikkhunā kathitoti kathaṃ paññāyati? Aṭṭhakathāvacanappamāṇatovāti eke. Nidānavasenāti eke. Pasūrassa upasampannattā upasampannānaṃ eva titthiyapakkantatāvacanatoti eke. Yathāha ‘‘upajjhāyo pakkantovā hoti, vibbhanto vā, kālaṃkato vā, pakkhasaṅkanto vā’’ti ācariyo. Pakkhasaṅkanto vāti sāmaṇeranāsanāvatthūsu abhāvatoti eke. Aññatitthiyapubbassa upasampannassa sato pakkhasaṅkantabhayā anupasampannakāle upasampadatthaṃ parivāsapaññāpanenāti eke . Pabbajjatthampīti ce? Na, pubbe vicāritattā, apabbajitassa adhisīlābhāvato ca. Pātimokkhasīlañhi adhisīlaṃ nāma, tañca apabbajitassa natthi. Imassa ca parivāsavatte adhisīlaṃ vuttaṃ. Yathāha ‘‘puna caparaṃ, bhikkhave, aññatitthiyapubbo tibbacchando hoti uddese paripucchāya adhisīle’’ti (mahāva. 87). Apica ‘‘sace, bhikkhave, jātiyā sākiyo aññatitthiyapubbo āgacchati, so āgato upasampādetabbo’’ti (mahāva. 87) ettha upasampadāmattaparidīpanato. Upasampadāmattaparidīpanañhettha tasseva parivāsadānasiddhito. Parivāsadānattanidassanatthe hesā pāḷi.
ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Titthiyapakkantakakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.