Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā |
ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถาวณฺณนา
Titthiyapakkantakakathāvaṇṇanā
ติตฺถิยปกฺกนฺตกาทิกถาสุ เตสํ ลิเงฺค อาทินฺนมเตฺตติ วีมํสาทิอธิปฺปายํ วินา ‘‘ติตฺถิโย ภวิสฺสามี’’ติ สนฺนิฎฺฐานวเสน ลิเงฺค กาเยน ธาริตมเตฺตฯ สยเมวาติ ติตฺถิยานํ สนฺติกํ อคนฺตฺวา สยเมว สงฺฆาราเมปิ กุสจีราทีนิ นิวาเสติฯ อาชีวโก ภวิสฺสามิ…เป.… คจฺฉตีติ อาชีวกานํ สนฺติเก เตสํ ปพฺพชนวิธินา ‘‘อาชีวโก ภวิสฺสามี’’ติ คจฺฉติฯ ตสฺส หิ ติตฺถิยภาวูปคมนํ ปติ สนฺนิฎฺฐาเน วิชฺชมาเนปิ ‘‘คนฺตฺวา ภวิสฺสามี’’ติ ปริกปฺปิตตฺตา ปทวาเร ทุกฺกฎเมว วุตฺตํฯ ทุกฺกฎนฺติ ปาฬิยา อวุเตฺตปิ เมถุนาทีสุ วุตฺตปุพฺพปโยคทุกฺกฎานุโลมโต วุตฺตํฯ เอเตน จ สนฺนิฎฺฐานวเสน ลิเงฺค สมฺปฎิจฺฉิเต ปาราชิกํ, ตโต ปุริมปโยเค ถุลฺลจฺจยญฺจ วตฺตพฺพเมว, ถุลฺลจฺจยกฺขเณ นิวตฺตโนฺตปิ อาปตฺติํ เทสาเปตฺวา มุจฺจติ เอวาติ ทฎฺฐพฺพํฯ ยถา เจตฺถ, เอวํ สงฺฆเภเทปิ โลหิตุปฺปาเทปิ ภิกฺขูนํ ปุพฺพปโยคาทีสุ ทุกฺกฎถุลฺลจฺจยปาราชิกาหิ มุจฺจนสีมา จ เวทิตพฺพาฯ สาสนวิรุทฺธตาเยตฺถ อาทิกมฺมิกานมฺปิ อนาปตฺติ น วุตฺตาฯ ปพฺพชฺชายปิ อภพฺพตาทสฺสนตฺถํ ปเนเต, อเญฺญ จ ปาราชิกกเณฺฑ วิสุํ สิกฺขาปเทน ปาราชิกาทิํ อทเสฺสตฺวา อิธ อภเพฺพสุ เอว วุตฺตาติ เวทิตพฺพํฯ
Titthiyapakkantakādikathāsu tesaṃ liṅge ādinnamatteti vīmaṃsādiadhippāyaṃ vinā ‘‘titthiyo bhavissāmī’’ti sanniṭṭhānavasena liṅge kāyena dhāritamatte. Sayamevāti titthiyānaṃ santikaṃ agantvā sayameva saṅghārāmepi kusacīrādīni nivāseti. Ājīvako bhavissāmi…pe… gacchatīti ājīvakānaṃ santike tesaṃ pabbajanavidhinā ‘‘ājīvako bhavissāmī’’ti gacchati. Tassa hi titthiyabhāvūpagamanaṃ pati sanniṭṭhāne vijjamānepi ‘‘gantvā bhavissāmī’’ti parikappitattā padavāre dukkaṭameva vuttaṃ. Dukkaṭanti pāḷiyā avuttepi methunādīsu vuttapubbapayogadukkaṭānulomato vuttaṃ. Etena ca sanniṭṭhānavasena liṅge sampaṭicchite pārājikaṃ, tato purimapayoge thullaccayañca vattabbameva, thullaccayakkhaṇe nivattantopi āpattiṃ desāpetvā muccati evāti daṭṭhabbaṃ. Yathā cettha, evaṃ saṅghabhedepi lohituppādepi bhikkhūnaṃ pubbapayogādīsu dukkaṭathullaccayapārājikāhi muccanasīmā ca veditabbā. Sāsanaviruddhatāyettha ādikammikānampi anāpatti na vuttā. Pabbajjāyapi abhabbatādassanatthaṃ panete, aññe ca pārājikakaṇḍe visuṃ sikkhāpadena pārājikādiṃ adassetvā idha abhabbesu eva vuttāti veditabbaṃ.
ตํ ลทฺธินฺติ ติตฺถิยเวเส เสฎฺฐภาวคฺคหณเมว สนฺธาย วุตฺตํฯ เตสญฺหิ ติตฺถิยานํ สสฺสตาทิคฺคาหํ คณฺหโนฺตปิ ลิเงฺค อสมฺปฎิจฺฉิเต ติตฺถิยปกฺกนฺตโก น โหติ, ตํ ลทฺธิํ อคฺคเหตฺวาปิ ‘‘เอเตสํ วตจริยา สุนฺทรา’’ติ ลิงฺคํ สมฺปฎิจฺฉโนฺต ติตฺถิยปกฺกนฺตโก โหติ เอว ฯ ลทฺธิยา อภาเวนาติ ภิกฺขุภาเว สาลยตาย ติตฺถิยภาวูปคมนลทฺธิยา อภาเวน, เอเตน จ อาปทาสุ กุสจีราทิํ ปารุปนฺตสฺสาปิ นคฺคสฺส วิย อนาปตฺติํ ทเสฺสติฯ
Taṃladdhinti titthiyavese seṭṭhabhāvaggahaṇameva sandhāya vuttaṃ. Tesañhi titthiyānaṃ sassatādiggāhaṃ gaṇhantopi liṅge asampaṭicchite titthiyapakkantako na hoti, taṃ laddhiṃ aggahetvāpi ‘‘etesaṃ vatacariyā sundarā’’ti liṅgaṃ sampaṭicchanto titthiyapakkantako hoti eva . Laddhiyā abhāvenāti bhikkhubhāve sālayatāya titthiyabhāvūpagamanaladdhiyā abhāvena, etena ca āpadāsu kusacīrādiṃ pārupantassāpi naggassa viya anāpattiṃ dasseti.
อุปสมฺปนฺนภิกฺขุนา กถิโตติ เอตฺถ สงฺฆเภทโกปิ อุปสมฺปนฺนภิกฺขุนาว กถิโต, มาตุฆาตกาทโย ปน อนุปสมฺปเนฺนนาปีติ ทฎฺฐพฺพํฯ
Upasampannabhikkhunā kathitoti ettha saṅghabhedakopi upasampannabhikkhunāva kathito, mātughātakādayo pana anupasampannenāpīti daṭṭhabbaṃ.
ติตฺถิยปกฺกนฺตกกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Titthiyapakkantakakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.