Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สุตฺตนิปาต-อฎฺฐกถา • Suttanipāta-aṭṭhakathā

    ๑๔. ตุวฎกสุตฺตวณฺณนา

    14. Tuvaṭakasuttavaṇṇanā

    ๙๒๒. ปุจฺฉามิ นฺติ ตุวฎกสุตฺตํฯ กา อุปฺปตฺติ? อิทมฺปิ ตสฺมิํเยว มหาสมเย ‘‘กา นุ โข อรหตฺตปฺปตฺติยา ปฎิปตฺตี’’ติ อุปฺปนฺนจิตฺตานํ เอกจฺจานํ เทวตานํ ตมตฺถํ ปกาเสตุํ ปุริมนเยเนว นิมฺมิตพุเทฺธน อตฺตานํ ปุจฺฉาเปตฺวา วุตฺตํฯ

    922.Pucchāmitanti tuvaṭakasuttaṃ. Kā uppatti? Idampi tasmiṃyeva mahāsamaye ‘‘kā nu kho arahattappattiyā paṭipattī’’ti uppannacittānaṃ ekaccānaṃ devatānaṃ tamatthaṃ pakāsetuṃ purimanayeneva nimmitabuddhena attānaṃ pucchāpetvā vuttaṃ.

    ตตฺถ อาทิคาถาย ตาว ปุจฺฉามีติ เอตฺถ อทิฎฺฐโชตนาทิวเสน ปุจฺฉา วิภชิตาฯ อาทิจฺจพนฺธุนฺติ อาทิจฺจสฺส โคตฺตพนฺธุํฯ วิเวกํ สนฺติปทญฺจาติ วิเวกญฺจ สนฺติปทญฺจฯ กถํ ทิสฺวาติ เกน การเณน ทิสฺวา, กถํ ปวตฺตทสฺสโน หุตฺวาติ วุตฺตํ โหติฯ

    Tattha ādigāthāya tāva pucchāmīti ettha adiṭṭhajotanādivasena pucchā vibhajitā. Ādiccabandhunti ādiccassa gottabandhuṃ. Vivekaṃ santipadañcāti vivekañca santipadañca. Kathaṃ disvāti kena kāraṇena disvā, kathaṃ pavattadassano hutvāti vuttaṃ hoti.

    ๙๒๓. อถ ภควา ยสฺมา ยถา ปสฺสโนฺต กิเลเส อุปรุนฺธติ, ตถา ปวตฺตทสฺสโน หุตฺวา ปรินิพฺพาติ, ตสฺมา ตมตฺถํ อาวิกโรโนฺต นานปฺปกาเรน ตํ เทวปริสํ กิเลสปฺปหาเน นิโยเชโนฺต ‘‘มูลํ ปปญฺจสงฺขายา’’ติ อารภิตฺวา ปญฺจ คาถา อภาสิฯ

    923. Atha bhagavā yasmā yathā passanto kilese uparundhati, tathā pavattadassano hutvā parinibbāti, tasmā tamatthaṃ āvikaronto nānappakārena taṃ devaparisaṃ kilesappahāne niyojento ‘‘mūlaṃ papañcasaṅkhāyā’’ti ārabhitvā pañca gāthā abhāsi.

    ตตฺถ อาทิคาถาย ตาว สเงฺขปโตฺถ – ปปญฺจาติ สงฺขาตตฺตา ปปญฺจา เอว ปปญฺจสงฺขาฯ ตสฺสา อวิชฺชาทโย กิเลสา มูลํ, ตํ ปปญฺจสงฺขาย มูลํ อสฺมีติ ปวตฺตมานญฺจ สพฺพํ มนฺตาย อุปรุเนฺธฯ ยา กาจิ อชฺฌตฺตํ ตณฺหา อุปเชฺชยฺยุํ, ตาสํ วินยา สทา สโต สิเกฺข อุปฎฺฐิตสฺสติ หุตฺวา สิเกฺขยฺยาติฯ

    Tattha ādigāthāya tāva saṅkhepattho – papañcāti saṅkhātattā papañcā eva papañcasaṅkhā. Tassā avijjādayo kilesā mūlaṃ, taṃ papañcasaṅkhāya mūlaṃ asmīti pavattamānañca sabbaṃ mantāya uparundhe. Yā kāci ajjhattaṃ taṇhā upajjeyyuṃ, tāsaṃ vinayā sadā sato sikkhe upaṭṭhitassati hutvā sikkheyyāti.

    ๙๒๔. เอวํ ตาว ปฐมคาถาย เอว ติสิกฺขายุตฺตํ เทสนํ อรหตฺตนิกูเฎน เทเสตฺวา ปุน มานปฺปหานวเสน เทเสตุํ ‘‘ยํ กิญฺจี’’ติ คาถมาหฯ ตตฺถ ยํ กิญฺจิ ธมฺมมภิชญฺญา อชฺฌตฺตนฺติ ยํ กิญฺจิ อุจฺจากุลีนตาทิกํ อตฺตโน คุณํ ชาเนยฺย อถ วาปิ พหิทฺธาติ อถ วา พหิทฺธาปิ อาจริยุปชฺฌายานํ วา คุณํ ชาเนยฺยฯ น เตน ถามํ กุเพฺพถาติ เตน คุเณน ถามํ น กเรยฺยฯ

    924. Evaṃ tāva paṭhamagāthāya eva tisikkhāyuttaṃ desanaṃ arahattanikūṭena desetvā puna mānappahānavasena desetuṃ ‘‘yaṃ kiñcī’’ti gāthamāha. Tattha yaṃ kiñci dhammamabhijaññā ajjhattanti yaṃ kiñci uccākulīnatādikaṃ attano guṇaṃ jāneyya atha vāpi bahiddhāti atha vā bahiddhāpi ācariyupajjhāyānaṃ vā guṇaṃ jāneyya. Na tena thāmaṃ kubbethāti tena guṇena thāmaṃ na kareyya.

    ๙๒๕. อิทานิสฺส อกรณวิธิํ ทเสฺสโนฺต ‘‘เสโยฺย น เตนา’’ติ คาถมาหฯ ตสฺสโตฺถ – เตน จ มาเนน ‘‘เสโยฺยห’’นฺติ วา ‘‘นีโจห’’นฺติ วา ‘‘สริโกฺขห’’นฺติ วาปิ น มเญฺญยฺย, เตหิ จ อุจฺจากุลีนตาทีหิ คุเณหิ ผุโฎฺฐ อเนกรูเปหิ ‘‘อหํ อุจฺจากุลา ปพฺพชิโต’’ติอาทินา นเยน อตฺตานํ วิกเปฺปโนฺต น ติเฎฺฐยฺย

    925. Idānissa akaraṇavidhiṃ dassento ‘‘seyyo na tenā’’ti gāthamāha. Tassattho – tena ca mānena ‘‘seyyoha’’nti vā ‘‘nīcoha’’nti vā ‘‘sarikkhoha’’nti vāpi na maññeyya, tehi ca uccākulīnatādīhi guṇehi phuṭṭho anekarūpehi ‘‘ahaṃ uccākulā pabbajito’’tiādinā nayena attānaṃ vikappento na tiṭṭheyya.

    ๙๒๖. เอวํ มานปฺปหานวเสนปิ เทเสตฺวา อิทานิ สพฺพกิเลสูปสมวเสนปิ เทเสตุํ ‘‘อชฺฌตฺตเมวา’’ติ คาถมาหฯ ตตฺถ อชฺฌตฺตเมวุปสเมติ อตฺตนิ เอว ราคาทิสพฺพกิเลเส อุปสเมยฺยฯ น อญฺญโต ภิกฺขุ สนฺติเมเสยฺยาติ ฐเปตฺวา จ สติปฎฺฐานาทีนิ อเญฺญน อุปาเยน สนฺติํ น ปริเยเสยฺยฯ กุโต นิรตฺตา วาติ นิรตฺตา กุโต เอวฯ

    926. Evaṃ mānappahānavasenapi desetvā idāni sabbakilesūpasamavasenapi desetuṃ ‘‘ajjhattamevā’’ti gāthamāha. Tattha ajjhattamevupasameti attani eva rāgādisabbakilese upasameyya. Na aññato bhikkhu santimeseyyāti ṭhapetvā ca satipaṭṭhānādīni aññena upāyena santiṃ na pariyeseyya. Kuto nirattā vāti nirattā kuto eva.

    ๙๒๗. อิทานิ อชฺฌตฺตํ อุปสนฺตสฺส ขีณาสวสฺส ตาทิภาวํ ทเสฺสโนฺต ‘‘มเชฺฌ ยถา’’ติ คาถมาหฯ ตสฺสโตฺถ – ยถา มหาสมุทฺทสฺส อุปริมเหฎฺฐิมภาคานํ เวมชฺฌสงฺขาเต จตุโยชนสหสฺสปฺปมาเณ มเชฺฌ ปพฺพตนฺตเร ฐิตสฺส วา มเชฺฌ สมุทฺทสฺส อูมิ น ชายติ, ฐิโตว โส โหติ อวิกมฺปมาโน, เอวํ อเนโช ขีณาสโว ลาภาทีสุ ฐิโต อสฺส อวิกมฺปมาโน, โส ตาทิโส ราคาทิอุสฺสทํ ภิกฺขุ น กเรยฺย กุหิญฺจีติฯ

    927. Idāni ajjhattaṃ upasantassa khīṇāsavassa tādibhāvaṃ dassento ‘‘majjhe yathā’’ti gāthamāha. Tassattho – yathā mahāsamuddassa uparimaheṭṭhimabhāgānaṃ vemajjhasaṅkhāte catuyojanasahassappamāṇe majjhe pabbatantare ṭhitassa vā majjhe samuddassa ūmi na jāyati, ṭhitova so hoti avikampamāno, evaṃ anejo khīṇāsavo lābhādīsu ṭhito assa avikampamāno, so tādiso rāgādiussadaṃ bhikkhu na kareyya kuhiñcīti.

    ๙๒๘. อิทานิ เอตํ อรหตฺตนิกูเฎน เทสิตํ ธมฺมเทสนํ อพฺภนุโมทโนฺต ตสฺส จ อรหตฺตสฺส อาทิปฎิปทํ ปุจฺฉโนฺต นิมฺมิตพุโทฺธ ‘‘อกิตฺตยี’’ติ คาถมาหฯ ตตฺถ อกิตฺตยีติ อาจิกฺขิฯ วิวฎจกฺขูติ วิวเฎหิ อนาวรเณหิ ปญฺจหิ จกฺขูหิ สมนฺนาคโตฯ สกฺขิธมฺมนฺติ สยํ อภิญฺญาตํ อตฺตปจฺจกฺขํ ธมฺมํฯ ปริสฺสยวินยนฺติ ปริสฺสยวินยนํฯ ปฎิปทํ วเทหีติ อิทานิ ปฎิปตฺติํ วเทหิฯ ภทฺทเนฺตติ ‘‘ภทฺทํ ตว อตฺถู’’ติ ภควนฺตํ อาลปโนฺต อาหฯ อถ วา ภทฺทํ สุนฺทรํ ตว ปฎิปทํ วเทหีติ วุตฺตํ โหติฯ ปาติโมกฺขํ อถ วาปิ สมาธินฺติ ตเมว ปฎิปทํ ภินฺทิตฺวา ปุจฺฉติฯ ปฎิปทนฺติ เอเตน วา มคฺคํ ปุจฺฉติฯ อิตเรหิ สีลํ สมาธิญฺจ ปุจฺฉติฯ

    928. Idāni etaṃ arahattanikūṭena desitaṃ dhammadesanaṃ abbhanumodanto tassa ca arahattassa ādipaṭipadaṃ pucchanto nimmitabuddho ‘‘akittayī’’ti gāthamāha. Tattha akittayīti ācikkhi. Vivaṭacakkhūti vivaṭehi anāvaraṇehi pañcahi cakkhūhi samannāgato. Sakkhidhammanti sayaṃ abhiññātaṃ attapaccakkhaṃ dhammaṃ. Parissayavinayanti parissayavinayanaṃ. Paṭipadaṃ vadehīti idāni paṭipattiṃ vadehi. Bhaddanteti ‘‘bhaddaṃ tava atthū’’ti bhagavantaṃ ālapanto āha. Atha vā bhaddaṃ sundaraṃ tava paṭipadaṃ vadehīti vuttaṃ hoti. Pātimokkhaṃ atha vāpi samādhinti tameva paṭipadaṃ bhinditvā pucchati. Paṭipadanti etena vā maggaṃ pucchati. Itarehi sīlaṃ samādhiñca pucchati.

    ๙๒๙-๓๐. อถสฺส ภควา ยสฺมา อินฺทฺริยสํวโร สีลสฺส รกฺขา , ยสฺมา วา อิมินา อนุกฺกเมน เทสิยมานา อยํ เทสนา ตาสํ เทวตานํ สปฺปายา, ตสฺมา อินฺทฺริยสํวรโต ปภุติ ปฎิปทํ ทเสฺสโนฺต ‘‘จกฺขูหี’’ติอาทิมารโทฺธฯ ตตฺถ จกฺขูหิ เนว โลลสฺสาติ อทิฎฺฐทกฺขิตพฺพาทิวเสน จกฺขูหิ โลโล เนวสฺสฯ คามกถาย อาวรเย โสตนฺติ ติรจฺฉานกถาโต โสตํ อาวเรยฺยฯ ผเสฺสนาติ โรคผเสฺสนฯ ภวญฺจ นาภิชเปฺปยฺยาติ ตสฺส ผสฺสสฺส วิโนทนตฺถาย กามภวาทิภวญฺจ น ปเตฺถยฺยฯ เภรเวสุ จ น สมฺปเวเธยฺยาติ ตสฺส ผสฺสสฺส ปจฺจยภูเตสุ สีหพฺยคฺฆาทีสุ เภรเวสุ จ น สมฺปเวเธยฺย, อวเสเสสุ วา ฆานินฺทฺริยมนินฺทฺริยวิสเยสุ นปฺปเวเธยฺยฯ เอวํ ปริปูโร อินฺทฺริยสํวโร วุโตฺต โหติฯ ปุริเมหิ วา อินฺทฺริยสํวรํ ทเสฺสตฺวา อิมินา ‘‘อรเญฺญ วสตา เภรวํ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา น เวธิตพฺพ’’นฺติ ทเสฺสติฯ

    929-30. Athassa bhagavā yasmā indriyasaṃvaro sīlassa rakkhā , yasmā vā iminā anukkamena desiyamānā ayaṃ desanā tāsaṃ devatānaṃ sappāyā, tasmā indriyasaṃvarato pabhuti paṭipadaṃ dassento ‘‘cakkhūhī’’tiādimāraddho. Tattha cakkhūhi neva lolassāti adiṭṭhadakkhitabbādivasena cakkhūhi lolo nevassa. Gāmakathāya āvaraye sotanti tiracchānakathāto sotaṃ āvareyya. Phassenāti rogaphassena. Bhavañcanābhijappeyyāti tassa phassassa vinodanatthāya kāmabhavādibhavañca na pattheyya. Bheravesu ca na sampavedheyyāti tassa phassassa paccayabhūtesu sīhabyagghādīsu bheravesu ca na sampavedheyya, avasesesu vā ghānindriyamanindriyavisayesu nappavedheyya. Evaṃ paripūro indriyasaṃvaro vutto hoti. Purimehi vā indriyasaṃvaraṃ dassetvā iminā ‘‘araññe vasatā bheravaṃ disvā vā sutvā vā na vedhitabba’’nti dasseti.

    ๙๓๑. ลทฺธา น สนฺนิธิํ กยิราติ เอเตสํ อนฺนาทีนํ ยํกิญฺจิ ธเมฺมน ลภิตฺวา ‘‘อรเญฺญ จ เสนาสเน วสตา สทา ทุลฺลภ’’นฺติ จิเนฺตตฺวา สนฺนิธิํ น กเรยฺยฯ

    931.Laddhā na sannidhiṃ kayirāti etesaṃ annādīnaṃ yaṃkiñci dhammena labhitvā ‘‘araññe ca senāsane vasatā sadā dullabha’’nti cintetvā sannidhiṃ na kareyya.

    ๙๓๒. ฌายี น ปาทโลลสฺสาติ ฌานาภิรโต จ น ปาทโลโล อสฺสฯ วิรเม กุกฺกุจฺจา นปฺปมเชฺชยฺยาติ หตฺถกุกฺกุจฺจาทิกุกฺกุจฺจํ วิโนเทยฺยฯ สกฺกจฺจการิตาย เจตฺถ นปฺปมเชฺชยฺยฯ

    932.Jhāyīna pādalolassāti jhānābhirato ca na pādalolo assa. Virame kukkuccā nappamajjeyyāti hatthakukkuccādikukkuccaṃ vinodeyya. Sakkaccakāritāya cettha nappamajjeyya.

    ๙๓๓. ตนฺทิํ มายํ หสฺสํ ขิฑฺฑนฺติ อาลสิยญฺจ มายญฺจ หสฺสญฺจ กายิกเจตสิกขิฑฺฑญฺจฯ สวิภูสนฺติ สทฺธิํ วิภูสายฯ

    933.Tandiṃ māyaṃ hassaṃ khiḍḍanti ālasiyañca māyañca hassañca kāyikacetasikakhiḍḍañca. Savibhūsanti saddhiṃ vibhūsāya.

    ๙๓๔-๗. อาถพฺพณนฺติ อาถพฺพณิกมนฺตปฺปโยคํฯ สุปินนฺติ สุปินสตฺถํฯ ลกฺขณนฺติ มณิลกฺขณาทิํฯ โน วิทเหติ นปฺปโยเชยฺยฯ วิรุตนฺติ มิคาทีนํ วสฺสิตํฯ เปสุณิยนฺติ เปสุญฺญํฯ กยวิกฺกเยติ ปญฺจหิ สหธมฺมิเกหิ สทฺธิํ วญฺจนาวเสน วา อุทยปตฺถนาวเสน วา น ติเฎฺฐยฺยฯ อุปวาทํ ภิกฺขุ น กเรยฺยาติ อุปวาทกเร กิเลเส อนิพฺพเตฺตโนฺต อตฺตนิ ปเรหิ สมณพฺราหฺมเณหิ อุปวาทํ น ชเนยฺยฯ คาเม จ นาภิสเชฺชยฺยาติ คาเม จ คิหิสํสคฺคาทีหิ นาภิสเชฺชยฺยฯ ลาภกมฺยา ชนํ น ลปเยยฺยาติ ลาภกามตาย ชนํ นาลปเยยฺยฯ ปยุตฺตนฺติ จีวราทีหิ สมฺปยุตฺตํ , ตทตฺถํ วา ปโยชิตํฯ

    934-7.Āthabbaṇanti āthabbaṇikamantappayogaṃ. Supinanti supinasatthaṃ. Lakkhaṇanti maṇilakkhaṇādiṃ. No vidaheti nappayojeyya. Virutanti migādīnaṃ vassitaṃ. Pesuṇiyanti pesuññaṃ. Kayavikkayeti pañcahi sahadhammikehi saddhiṃ vañcanāvasena vā udayapatthanāvasena vā na tiṭṭheyya. Upavādaṃ bhikkhu na kareyyāti upavādakare kilese anibbattento attani parehi samaṇabrāhmaṇehi upavādaṃ na janeyya. Gāme ca nābhisajjeyyāti gāme ca gihisaṃsaggādīhi nābhisajjeyya. Lābhakamyā janaṃ na lapayeyyāti lābhakāmatāya janaṃ nālapayeyya. Payuttanti cīvarādīhi sampayuttaṃ , tadatthaṃ vā payojitaṃ.

    ๙๓๘-๙. โมสวเชฺช น นีเยถาติ มุสาวาเท น นีเยถฯ ชีวิเตนาติ ชีวิกายฯ สุตฺวา รุสิโต พหุํ วาจํ, สมณานํ วา ปุถุชนานนฺติ รุสิโต ฆฎฺฎิโต ปเรหิ เตส สมณานํ วา ขตฺติยาทิเภทานํ วา อเญฺญสํ ปุถุชนานํ พหุมฺปิ อนิฎฺฐวาจํ สุตฺวาฯ น ปฎิวชฺชาติ น ปฎิวเทยฺยฯ กิํ การณํ? น หิ สโนฺต ปฎิเสนิกโรนฺติ

    938-9.Mosavajje na nīyethāti musāvāde na nīyetha. Jīvitenāti jīvikāya. Sutvā rusito bahuṃ vācaṃ, samaṇānaṃ vā puthujanānanti rusito ghaṭṭito parehi tesa samaṇānaṃ vā khattiyādibhedānaṃ vā aññesaṃ puthujanānaṃ bahumpi aniṭṭhavācaṃ sutvā. Na paṭivajjāti na paṭivadeyya. Kiṃ kāraṇaṃ? Na hi santo paṭisenikaronti.

    ๙๔๐. เอตญฺจ ธมฺมมญฺญายาติ สพฺพเมตํ ยถาวุตฺตํ ธมฺมํ ญตฺวาฯ วิจินนฺติ วิจินโนฺตฯ สนฺตีติ นิพฺพุติํ ญตฺวาติ นิพฺพุติํ ราคาทีนํ สนฺตีติ ญตฺวาฯ

    940.Etañca dhammamaññāyāti sabbametaṃ yathāvuttaṃ dhammaṃ ñatvā. Vicinanti vicinanto. Santīti nibbutiṃ ñatvāti nibbutiṃ rāgādīnaṃ santīti ñatvā.

    ๙๔๑. กิํการณา นปฺปมเชฺชอิติ เจ – อภิภู หิ โสติ คาถาฯ ตตฺถ อภิภูติ รูปาทีนํ อภิภวิตาฯ อนภิภูโตติ เตหิ อนภิภูโตฯ สกฺขิธมฺมมนีติหมทสฺสีติ ปจฺจกฺขเมว อนีติหํ ธมฺมมทฺทกฺขิฯ สทา นมสฺสมนุสิเกฺขติ สทา นมสฺสโนฺต ติโสฺส สิกฺขาโย สิเกฺขยฺยฯ เสสํ สพฺพตฺถ ปากฎเมวฯ

    941. Kiṃkāraṇā nappamajjeiti ce – abhibhū hi soti gāthā. Tattha abhibhūti rūpādīnaṃ abhibhavitā. Anabhibhūtoti tehi anabhibhūto. Sakkhidhammamanītihamadassīti paccakkhameva anītihaṃ dhammamaddakkhi. Sadā namassamanusikkheti sadā namassanto tisso sikkhāyo sikkheyya. Sesaṃ sabbattha pākaṭameva.

    เกวลํ ปน เอตฺถ ‘‘จกฺขูหิ เนว โลโล’’ติอาทีหิ อินฺทฺริยสํวโร, ‘‘อนฺนานมโถ ปานาน’’นฺติอาทีหิ สนฺนิธิปฎิเกฺขปมุเขน ปจฺจยปฎิเสวนสีลํ, เมถุนโมสวชฺชเปสุณิยาทีหิ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ, ‘‘อาถพฺพณํ สุปินํ ลกฺขณ’’นฺติอาทีหิ อาชีวปาริสุทฺธิสีลํ, ‘‘ฌายี อสฺสา’’ติ อิมินา สมาธิ, ‘‘วิจินํ ภิกฺขู’’ติ อิมินา ปญฺญา, ‘‘สทา สโต สิเกฺข’’ติ อิมินา ปุน สเงฺขปโต ติโสฺสปิ สิกฺขา, ‘‘อถ อาสเนสุ สยเนสุ, อปฺปสเทฺทสุ ภิกฺขุ วิหเรยฺย, นิทฺทํ น พหุลีกเรยฺยา’’ติอาทีหิ สีลสมาธิปญฺญานํ อุปการาปการสงฺคณฺหนวิโนทนานิ วุตฺตานีติฯ เอวํ ภควา นิมฺมิตสฺส ปริปุณฺณปฎิปทํ วตฺวา อรหตฺตนิกูเฎน เทสนํ นิฎฺฐาเปสิ, เทสนาปริโยสาเน ปุราเภทสุเตฺต วุตฺตสทิโสเยวาภิสมโย อโหสีติฯ

    Kevalaṃ pana ettha ‘‘cakkhūhi neva lolo’’tiādīhi indriyasaṃvaro, ‘‘annānamatho pānāna’’ntiādīhi sannidhipaṭikkhepamukhena paccayapaṭisevanasīlaṃ, methunamosavajjapesuṇiyādīhi pātimokkhasaṃvarasīlaṃ, ‘‘āthabbaṇaṃ supinaṃ lakkhaṇa’’ntiādīhi ājīvapārisuddhisīlaṃ, ‘‘jhāyī assā’’ti iminā samādhi, ‘‘vicinaṃ bhikkhū’’ti iminā paññā, ‘‘sadā sato sikkhe’’ti iminā puna saṅkhepato tissopi sikkhā, ‘‘atha āsanesu sayanesu, appasaddesu bhikkhu vihareyya, niddaṃ na bahulīkareyyā’’tiādīhi sīlasamādhipaññānaṃ upakārāpakārasaṅgaṇhanavinodanāni vuttānīti. Evaṃ bhagavā nimmitassa paripuṇṇapaṭipadaṃ vatvā arahattanikūṭena desanaṃ niṭṭhāpesi, desanāpariyosāne purābhedasutte vuttasadisoyevābhisamayo ahosīti.

    ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฎฺฐกถาย

    Paramatthajotikāya khuddaka-aṭṭhakathāya

    สุตฺตนิปาต-อฎฺฐกถาย ตุวฎกสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Suttanipāta-aṭṭhakathāya tuvaṭakasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / สุตฺตนิปาตปาฬิ • Suttanipātapāḷi / ๑๔. ตุวฎกสุตฺตํ • 14. Tuvaṭakasuttaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact