Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปริวารปาฬิ • Parivārapāḷi |
๙. อุพฺพาหิกวโคฺค
9. Ubbāhikavaggo
๔๕๕. ‘‘กติหิ นุ โข, ภเนฺต, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย น สมฺมนฺนิตโพฺพ’’ติ? ‘‘ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย น สมฺมนฺนิตโพฺพฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? น อตฺถกุสโล โหติ, น ธมฺมกุสโล โหติ, น นิรุตฺติกุสโล โหติ, น พฺยญฺชนกุสโล โหติ, น ปุพฺพาปรกุสโล โหติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย น สมฺมนฺนิตโพฺพฯ ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตโพฺพฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อตฺถกุสโล โหติ, ธมฺมกุสโล โหติ, นิรุตฺติกุสโล โหติ, พฺยญฺชนกุสโล โหติ, ปุพฺพาปรกุสโล โหติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตโพฺพฯ
455. ‘‘Katihi nu kho, bhante, aṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya na sammannitabbo’’ti? ‘‘Pañcahupāli, aṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya na sammannitabbo. Katamehi pañcahi? Na atthakusalo hoti, na dhammakusalo hoti, na niruttikusalo hoti, na byañjanakusalo hoti, na pubbāparakusalo hoti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya na sammannitabbo. Pañcahupāli, aṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya sammannitabbo. Katamehi pañcahi? Atthakusalo hoti, dhammakusalo hoti, niruttikusalo hoti, byañjanakusalo hoti, pubbāparakusalo hoti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya sammannitabbo.
‘‘อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย น สมฺมนฺนิตโพฺพฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? โกธโน โหติ โกธาภิภูโต, มกฺขี โหติ มกฺขาภิภูโต, ปฬาสี โหติ ปฬาสาภิภูโต, อิสฺสุกี โหติ อิสฺสาภิภูโต, สนฺทิฎฺฐิปรามาสี โหติ อาธานคฺคาหี ทุปฺปฎินิสฺสคฺคี – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย น สมฺมนฺนิตโพฺพฯ ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตโพฺพฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? น โกธโน โหติ น โกธาภิภูโต, น มกฺขี โหติ น มกฺขาภิภูโต, น ปฬาสี โหติ น ปฬาสาภิภูโต, น อิสฺสุกี โหติ น อิสฺสาภิภูโต, อสนฺทิฎฺฐิปรามาสี โหติ อนาธานคฺคาหี สุปฺปฎินิสฺสคฺคี – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตโพฺพฯ
‘‘Aparehipi, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya na sammannitabbo. Katamehi pañcahi? Kodhano hoti kodhābhibhūto, makkhī hoti makkhābhibhūto, paḷāsī hoti paḷāsābhibhūto, issukī hoti issābhibhūto, sandiṭṭhiparāmāsī hoti ādhānaggāhī duppaṭinissaggī – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya na sammannitabbo. Pañcahupāli, aṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya sammannitabbo. Katamehi pañcahi? Na kodhano hoti na kodhābhibhūto, na makkhī hoti na makkhābhibhūto, na paḷāsī hoti na paḷāsābhibhūto, na issukī hoti na issābhibhūto, asandiṭṭhiparāmāsī hoti anādhānaggāhī suppaṭinissaggī – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya sammannitabbo.
‘‘อปเรหิปิ , อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย น สมฺมนฺนิตโพฺพฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? กุปฺปติ, พฺยาปชฺชติ, ปติฎฺฐิยติ, โกปํ ชเนติ, อขโม โหติ อปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนิํ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย น สมฺมนฺนิตโพฺพฯ ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตโพฺพ ฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? น กุปฺปติ, น พฺยาปชฺชติ, น ปติฎฺฐิยติ, น โกปํ ชเนติ, ขโม โหติ ปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนิํ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตโพฺพฯ
‘‘Aparehipi , upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya na sammannitabbo. Katamehi pañcahi? Kuppati, byāpajjati, patiṭṭhiyati, kopaṃ janeti, akhamo hoti apadakkhiṇaggāhī anusāsaniṃ – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya na sammannitabbo. Pañcahupāli, aṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya sammannitabbo . Katamehi pañcahi? Na kuppati, na byāpajjati, na patiṭṭhiyati, na kopaṃ janeti, khamo hoti padakkhiṇaggāhī anusāsaniṃ – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya sammannitabbo.
‘‘อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย น สมฺมนฺนิตโพฺพฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? ปสาเรตา โหติ โน สาเรตา, อโนกาสกมฺมํ กาเรตฺวา ปวตฺตา โหติ, น ยถาธเมฺม ยถาวินเย ยถาปตฺติยา โจเทตา โหติ, น ยถาธเมฺม ยถาวินเย ยถาปตฺติยา กาเรตา โหติ, น ยถาทิฎฺฐิยา พฺยากตา โหติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย น สมฺมนฺนิตโพฺพฯ ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตโพฺพฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? สาเรตา โหติ โน ปสาเรตา, โอกาสกมฺมํ กาเรตฺวา ปวตฺตา โหติ, ยถาธมฺมํ ยถาวินเย ยถาปตฺติยา โจเทตา โหติ, ยถาธเมฺม ยถาวินเย ยถาปตฺติยา กาเรตา โหติ, ยถาทิฎฺฐิยา พฺยากตา โหติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตโพฺพฯ
‘‘Aparehipi, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya na sammannitabbo. Katamehi pañcahi? Pasāretā hoti no sāretā, anokāsakammaṃ kāretvā pavattā hoti, na yathādhamme yathāvinaye yathāpattiyā codetā hoti, na yathādhamme yathāvinaye yathāpattiyā kāretā hoti, na yathādiṭṭhiyā byākatā hoti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya na sammannitabbo. Pañcahupāli, aṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya sammannitabbo. Katamehi pañcahi? Sāretā hoti no pasāretā, okāsakammaṃ kāretvā pavattā hoti, yathādhammaṃ yathāvinaye yathāpattiyā codetā hoti, yathādhamme yathāvinaye yathāpattiyā kāretā hoti, yathādiṭṭhiyā byākatā hoti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya sammannitabbo.
‘‘อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย น สมฺมนฺนิตโพฺพฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? ฉนฺทาคติํ คจฺฉติ, โทสาคติํ คจฺฉติ, โมหาคติํ คจฺฉติ, ภยาคติํ คจฺฉติ, อลชฺชี จ โหติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย น สมฺมนฺนิตโพฺพฯ ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตโพฺพฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? น ฉนฺทาคติํ คจฺฉติ, น โทสาคติํ คจฺฉติ, น โมหาคติํ คจฺฉติ, น ภยาคติํ คจฺฉติ, ลชฺชี จ โหติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตโพฺพฯ
‘‘Aparehipi, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya na sammannitabbo. Katamehi pañcahi? Chandāgatiṃ gacchati, dosāgatiṃ gacchati, mohāgatiṃ gacchati, bhayāgatiṃ gacchati, alajjī ca hoti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya na sammannitabbo. Pañcahupāli, aṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya sammannitabbo. Katamehi pañcahi? Na chandāgatiṃ gacchati, na dosāgatiṃ gacchati, na mohāgatiṃ gacchati, na bhayāgatiṃ gacchati, lajjī ca hoti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya sammannitabbo.
‘‘อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย น สมฺมนฺนิตโพฺพฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? ฉนฺทาคติํ คจฺฉติ, โทสาคติํ คจฺฉติ, โมหาคติํ คจฺฉติ, ภยาคติํ คจฺฉติ, อกุสโล จ โหติ วินเย – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย น สมฺมนฺนิตโพฺพฯ ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตโพฺพฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? น ฉนฺทาคติํ คจฺฉติ, น โทสาคติํ คจฺฉติ, น โมหาคติํ คจฺฉติ, น ภยาคติํ คจฺฉติ, กุสโล จ โหติ วินเย – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตโพฺพ’’ติฯ
‘‘Aparehipi, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya na sammannitabbo. Katamehi pañcahi? Chandāgatiṃ gacchati, dosāgatiṃ gacchati, mohāgatiṃ gacchati, bhayāgatiṃ gacchati, akusalo ca hoti vinaye – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya na sammannitabbo. Pañcahupāli, aṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya sammannitabbo. Katamehi pañcahi? Na chandāgatiṃ gacchati, na dosāgatiṃ gacchati, na mohāgatiṃ gacchati, na bhayāgatiṃ gacchati, kusalo ca hoti vinaye – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya sammannitabbo’’ti.
๔๕๖. ‘‘กติหิ นุ โข, ภเนฺต, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ พาโลเตฺวว สงฺขํ คจฺฉตี’’ติ? ‘‘ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ พาโลเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? สุตฺตํ น ชานาติ, สุตฺตานุโลมํ น ชานาติ, วินยํ น ชานาติ, วินยานุโลมํ น ชานาติ, น จ ฐานฐานกุสโล โหติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ พาโลเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ปณฺฑิโตเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? สุตฺตํ ชานาติ, สุตฺตานุโลมํ ชานาติ, วินยํ ชานาติ, วินยานุโลมํ ชานาติ, ฐานาฐานกุสโล จ โหติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ปณฺฑิโตเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ
456. ‘‘Katihi nu kho, bhante, aṅgehi samannāgato bhikkhu bālotveva saṅkhaṃ gacchatī’’ti? ‘‘Pañcahupāli, aṅgehi samannāgato bhikkhu bālotveva saṅkhaṃ gacchati. Katamehi pañcahi? Suttaṃ na jānāti, suttānulomaṃ na jānāti, vinayaṃ na jānāti, vinayānulomaṃ na jānāti, na ca ṭhānaṭhānakusalo hoti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu bālotveva saṅkhaṃ gacchati. Pañcahupāli, aṅgehi samannāgato bhikkhu paṇḍitotveva saṅkhaṃ gacchati. Katamehi pañcahi? Suttaṃ jānāti, suttānulomaṃ jānāti, vinayaṃ jānāti, vinayānulomaṃ jānāti, ṭhānāṭhānakusalo ca hoti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu paṇḍitotveva saṅkhaṃ gacchati.
‘‘อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ พาโลเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? ธมฺมํ น ชานาติ, ธมฺมานุโลมํ ชานาติ, วินยํ น ชานาติ, วินยานุโลมํ น ชานาติ, น จ ปุพฺพาปรกุสโล โหติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ พาโลเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ปณฺฑิโตเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? ธมฺมํ ชานาติ, ธมฺมานุโลมํ ชานาติ, วินยํ ชานาติ, วินยานุโลมํ ชานาติ, ปุพฺพาปรกุสโล จ โหติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ปณฺฑิโตเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ
‘‘Aparehipi, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu bālotveva saṅkhaṃ gacchati. Katamehi pañcahi? Dhammaṃ na jānāti, dhammānulomaṃ jānāti, vinayaṃ na jānāti, vinayānulomaṃ na jānāti, na ca pubbāparakusalo hoti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu bālotveva saṅkhaṃ gacchati. Pañcahupāli, aṅgehi samannāgato bhikkhu paṇḍitotveva saṅkhaṃ gacchati. Katamehi pañcahi? Dhammaṃ jānāti, dhammānulomaṃ jānāti, vinayaṃ jānāti, vinayānulomaṃ jānāti, pubbāparakusalo ca hoti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu paṇḍitotveva saṅkhaṃ gacchati.
‘‘อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ พาโลเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? วตฺถุํ น ชานาติ, นิทานํ น ชานาติ, ปญฺญตฺติํ น ชานาติ, ปทปจฺจาภฎฺฐํ น ชานาติ, อนุสนฺธิวจนปถํ น ชานาติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ พาโลเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ปณฺฑิโตเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? วตฺถุํ ชานาติ, นิทานํ ชานาติ, ปญฺญตฺติํ ชานาติ, ปทปจฺจาภฎฺฐํ ชานาติ, อนุสนฺธิวจนปถํ ชานาติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ปณฺฑิโตเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ
‘‘Aparehipi, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu bālotveva saṅkhaṃ gacchati. Katamehi pañcahi? Vatthuṃ na jānāti, nidānaṃ na jānāti, paññattiṃ na jānāti, padapaccābhaṭṭhaṃ na jānāti, anusandhivacanapathaṃ na jānāti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu bālotveva saṅkhaṃ gacchati. Pañcahupāli, aṅgehi samannāgato bhikkhu paṇḍitotveva saṅkhaṃ gacchati. Katamehi pañcahi? Vatthuṃ jānāti, nidānaṃ jānāti, paññattiṃ jānāti, padapaccābhaṭṭhaṃ jānāti, anusandhivacanapathaṃ jānāti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu paṇḍitotveva saṅkhaṃ gacchati.
‘‘อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ พาโลเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อาปตฺติํ น ชานาติ, อาปตฺติสมุฎฺฐานํ น ชานาติ, อาปตฺติยา ปโยคํ น ชานาติ, อาปตฺติยา วูปสมํ น ชานาติ, อาปตฺติยา น วินิจฺฉยกุสโล โหติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ พาโลเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ปณฺฑิโตเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อาปตฺติํ ชานาติ , อาปตฺติสมุฎฺฐานํ ชานาติ, อาปตฺติยา ปโยคํ ชานาติ, อาปตฺติยา วูปสมํ ชานาติ, อาปตฺติยา วินิจฺฉยกุสโล โหติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ปณฺฑิโตเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ
‘‘Aparehipi, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu bālotveva saṅkhaṃ gacchati. Katamehi pañcahi? Āpattiṃ na jānāti, āpattisamuṭṭhānaṃ na jānāti, āpattiyā payogaṃ na jānāti, āpattiyā vūpasamaṃ na jānāti, āpattiyā na vinicchayakusalo hoti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu bālotveva saṅkhaṃ gacchati. Pañcahupāli, aṅgehi samannāgato bhikkhu paṇḍitotveva saṅkhaṃ gacchati. Katamehi pañcahi? Āpattiṃ jānāti , āpattisamuṭṭhānaṃ jānāti, āpattiyā payogaṃ jānāti, āpattiyā vūpasamaṃ jānāti, āpattiyā vinicchayakusalo hoti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu paṇḍitotveva saṅkhaṃ gacchati.
‘‘อปเรหิปิ , อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ พาโลเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อธิกรณํ น ชานาติ, อธิกรณสมุฎฺฐานํ น ชานาติ, อธิกรณสฺส ปโยคํ น ชานาติ, อธิกรณสฺส วูปสมํ น ชานาติ, อธิกรณสฺส น วินิจฺฉยกุสโล โหติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ พาโลเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ปณฺฑิโตเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อธิกรณํ ชานาติ, อธิกรณสมุฎฺฐานํ ชานาติ, อธิกรณสฺส ปโยคํ ชานาติ, อธิกรณสฺส วูปสมํ ชานาติ, อธิกรณสฺส วินิจฺฉยกุสโล โหติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ปณฺฑิโตเตฺวว สงฺขํ คจฺฉตี’’ติฯ
‘‘Aparehipi , upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu bālotveva saṅkhaṃ gacchati. Katamehi pañcahi? Adhikaraṇaṃ na jānāti, adhikaraṇasamuṭṭhānaṃ na jānāti, adhikaraṇassa payogaṃ na jānāti, adhikaraṇassa vūpasamaṃ na jānāti, adhikaraṇassa na vinicchayakusalo hoti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu bālotveva saṅkhaṃ gacchati. Pañcahupāli, aṅgehi samannāgato bhikkhu paṇḍitotveva saṅkhaṃ gacchati. Katamehi pañcahi? Adhikaraṇaṃ jānāti, adhikaraṇasamuṭṭhānaṃ jānāti, adhikaraṇassa payogaṃ jānāti, adhikaraṇassa vūpasamaṃ jānāti, adhikaraṇassa vinicchayakusalo hoti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu paṇḍitotveva saṅkhaṃ gacchatī’’ti.
อุพฺพาหิกวโคฺค นิฎฺฐิโต นวโมฯ
Ubbāhikavaggo niṭṭhito navamo.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
น อตฺถกุสโล เจว, โกธโน กุปฺปตี จ โย;
Na atthakusalo ceva, kodhano kuppatī ca yo;
ปสาเรตา ฉนฺทาคติํ, อกุสโล ตเถว จฯ
Pasāretā chandāgatiṃ, akusalo tatheva ca.
สุตฺตํ ธมฺมญฺจ วตฺถุญฺจ, อาปตฺติ อธิกรณํ;
Suttaṃ dhammañca vatthuñca, āpatti adhikaraṇaṃ;
เทฺว เทฺว ปกาสิตา สเพฺพ, กณฺหสุกฺกํ วิชานถาติฯ
Dve dve pakāsitā sabbe, kaṇhasukkaṃ vijānathāti.
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / ปริวาร-อฎฺฐกถา • Parivāra-aṭṭhakathā / อุพฺพาหิกวคฺควณฺณนา • Ubbāhikavaggavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / อุพฺพาหิกวคฺควณฺณนา • Ubbāhikavaggavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / โวหารวคฺคาทิวณฺณนา • Vohāravaggādivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / อุพฺพาหิกวคฺควณฺณนา • Ubbāhikavaggavaṇṇanā