Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi

    อุพฺพาหิกายวูปสมนํ

    Ubbāhikāyavūpasamanaṃ

    ๒๓๑. ‘‘เตหิ เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ ตสฺมิํ อธิกรเณ วินิจฺฉิยมาเน อนนฺตานิ 1 เจว ภสฺสานิ ชายนฺติ, น เจกสฺส 2 ภาสิตสฺส อโตฺถ วิญฺญายติ, อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เอวรูปํ อธิกรณํ อุพฺพาหิกาย วูปสเมตุํฯ ‘‘ทสหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตโพฺพ – สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปโนฺน อณุมเตฺตสุ วเชฺชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มเชฺฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ, ธาตา 3 วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฎฺฐิยา สุปฺปฎิวิทฺธา; อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน สฺวาคตานิ โหนฺติ สุวิภตฺตานิ สุปฺปวตฺตีนิ สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยญฺชนโส ; วินเย โข ปน ฐิโต 4 โหติ อสํหีโร; ปฎิพโล โหติ อุโภ อตฺถปจฺจตฺถิเก อสฺสาเสตุํ สญฺญาเปตุํ นิชฺฌาเปตุํ เปเกฺขตุํ ปสาเทตุํ; อธิกรณสมุปฺปาทวูปสมนกุสโล โหติ; อธิกรณํ ชานาติ; อธิกรณสมุทยํ ชานาติ; อธิกรณนิโรธํ ชานาติ; อธิกรณนิโรธคามินิปฎิปทํ ชานาติฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ ทสหเงฺคหิ สมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนิตโพฺพฯ ปฐมํ ภิกฺขุ ยาจิตโพฺพ, ยาจิตฺวา พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –

    231. ‘‘Tehi ce, bhikkhave, bhikkhūhi tasmiṃ adhikaraṇe vinicchiyamāne anantāni 5 ceva bhassāni jāyanti, na cekassa 6 bhāsitassa attho viññāyati, anujānāmi, bhikkhave, evarūpaṃ adhikaraṇaṃ ubbāhikāya vūpasametuṃ. ‘‘Dasahaṅgehi samannāgato bhikkhu ubbāhikāya sammannitabbo – sīlavā hoti, pātimokkhasaṃvarasaṃvuto viharati ācāragocarasampanno aṇumattesu vajjesu bhayadassāvī, samādāya sikkhati sikkhāpadesu; bahussuto hoti sutadharo sutasannicayo, ye te dhammā ādikalyāṇā majjhekalyāṇā pariyosānakalyāṇā sātthaṃ sabyañjanaṃ kevalaparipuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ abhivadanti, tathārūpassa dhammā bahussutā honti, dhātā 7 vacasā paricitā manasānupekkhitā diṭṭhiyā suppaṭividdhā; ubhayāni kho panassa pātimokkhāni vitthārena svāgatāni honti suvibhattāni suppavattīni suvinicchitāni suttaso anubyañjanaso ; vinaye kho pana ṭhito 8 hoti asaṃhīro; paṭibalo hoti ubho atthapaccatthike assāsetuṃ saññāpetuṃ nijjhāpetuṃ pekkhetuṃ pasādetuṃ; adhikaraṇasamuppādavūpasamanakusalo hoti; adhikaraṇaṃ jānāti; adhikaraṇasamudayaṃ jānāti; adhikaraṇanirodhaṃ jānāti; adhikaraṇanirodhagāminipaṭipadaṃ jānāti. Anujānāmi, bhikkhave, imehi dasahaṅgehi samannāgataṃ bhikkhuṃ ubbāhikāya sammannituṃ. Evañca pana, bhikkhave, sammannitabbo. Paṭhamaṃ bhikkhu yācitabbo, yācitvā byattena bhikkhunā paṭibalena saṅgho ñāpetabbo –

    ๒๓๒. ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อมฺหากํ อิมสฺมิํ อธิกรเณ วินิจฺฉิยมาเน อนนฺตานิ เจว ภสฺสานิ ชายนฺติ, น เจกสฺส ภาสิตสฺส อโตฺถ วิญฺญายติฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ อิตฺถนฺนามญฺจ อิตฺถนฺนามญฺจ ภิกฺขุํ สมฺมเนฺนยฺย อุพฺพาหิกาย อิมํ อธิกรณํ วูปสเมตุํฯ เอสา ญตฺติฯ

    232. ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Amhākaṃ imasmiṃ adhikaraṇe vinicchiyamāne anantāni ceva bhassāni jāyanti, na cekassa bhāsitassa attho viññāyati. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho itthannāmañca itthannāmañca bhikkhuṃ sammanneyya ubbāhikāya imaṃ adhikaraṇaṃ vūpasametuṃ. Esā ñatti.

    ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อมฺหากํ อิมสฺมิํ อธิกรเณ วินิจฺฉิยมาเน อนนฺตานิ เจว ภสฺสานิ ชายนฺติ, น เจกสฺส ภาสิตสฺส อโตฺถ วิญฺญายติฯ สโงฺฆ อิตฺถนฺนามญฺจ อิตฺถนฺนามญฺจ ภิกฺขุํ สมฺมนฺนติ อุพฺพาหิกาย อิมํ อธิกรณํ วูปสเมตุํฯ ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส จ อิตฺถนฺนามสฺส จ ภิกฺขุโน สมฺมุติ อุพฺพาหิกาย อิมํ อธิกรณํ วูปสเมตุํ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ

    ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Amhākaṃ imasmiṃ adhikaraṇe vinicchiyamāne anantāni ceva bhassāni jāyanti, na cekassa bhāsitassa attho viññāyati. Saṅgho itthannāmañca itthannāmañca bhikkhuṃ sammannati ubbāhikāya imaṃ adhikaraṇaṃ vūpasametuṃ. Yassāyasmato khamati itthannāmassa ca itthannāmassa ca bhikkhuno sammuti ubbāhikāya imaṃ adhikaraṇaṃ vūpasametuṃ, so tuṇhassa; yassa nakkhamati, so bhāseyya.

    ‘‘สมฺมโต สเงฺฆน อิตฺถนฺนาโม จ อิตฺถนฺนาโม จ ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย อิมํ อธิกรณํ วูปสเมตุํฯ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติฯ

    ‘‘Sammato saṅghena itthannāmo ca itthannāmo ca bhikkhu ubbāhikāya imaṃ adhikaraṇaṃ vūpasametuṃ. Khamati saṅghassa, tasmā tuṇhī, evametaṃ dhārayāmī’’ti.

    ‘‘เต เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู สโกฺกนฺติ ตํ อธิกรณํ อุพฺพาหิกาย วูปสเมตุํ, อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อธิกรณํ วูปสนฺตํฯ เกน วูปสนฺตํ? สมฺมุขาวินเยนฯ กิญฺจ ตตฺถ สมฺมุขาวินยสฺมิํ? ธมฺมสมฺมุขตา, วินยสมฺมุขตา, ปุคฺคลสมฺมุขตา…เป.… เอวํ วูปสนฺตํ เจ, ภิกฺขเว, อธิกรณํ การโก อุโกฺกเฎติ, อุโกฺกฎนกํ ปาจิตฺติยํฯ

    ‘‘Te ce, bhikkhave, bhikkhū sakkonti taṃ adhikaraṇaṃ ubbāhikāya vūpasametuṃ, idaṃ vuccati, bhikkhave, adhikaraṇaṃ vūpasantaṃ. Kena vūpasantaṃ? Sammukhāvinayena. Kiñca tattha sammukhāvinayasmiṃ? Dhammasammukhatā, vinayasammukhatā, puggalasammukhatā…pe… evaṃ vūpasantaṃ ce, bhikkhave, adhikaraṇaṃ kārako ukkoṭeti, ukkoṭanakaṃ pācittiyaṃ.

    ๒๓๓. ‘‘เตหิ เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ ตสฺมิํ อธิกรเณ วินิจฺฉิยมาเน ตตฺราสฺส ภิกฺขุ ธมฺมกถิโก, ตสฺส เนว สุตฺตํ อาคตํ โหติ, โน สุตฺตวิภโงฺค, โส อตฺถํ อสลฺลเกฺขโนฺต พฺยญฺชนจฺฉายาย อตฺถํ ปฎิพาหติ, พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน เต ภิกฺขู ญาเปตพฺพา –

    233. ‘‘Tehi ce, bhikkhave, bhikkhūhi tasmiṃ adhikaraṇe vinicchiyamāne tatrāssa bhikkhu dhammakathiko, tassa neva suttaṃ āgataṃ hoti, no suttavibhaṅgo, so atthaṃ asallakkhento byañjanacchāyāya atthaṃ paṭibāhati, byattena bhikkhunā paṭibalena te bhikkhū ñāpetabbā –

    ‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตาฯ อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ ธมฺมกถิโกฯ อิมสฺส เนว สุตฺตํ อาคตํ โหติ, โน สุตฺตวิภโงฺคฯ โส อตฺถํ อสลฺลเกฺขโนฺต พฺยญฺชนจฺฉายาย อตฺถํ ปฎิพาหติฯ ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ , อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ วุฎฺฐาเปตฺวา อวเสสา อิมํ อธิกรณํ วูปสเมยฺยามาติฯ

    ‘‘Suṇantu me āyasmantā. Ayaṃ itthannāmo bhikkhu dhammakathiko. Imassa neva suttaṃ āgataṃ hoti, no suttavibhaṅgo. So atthaṃ asallakkhento byañjanacchāyāya atthaṃ paṭibāhati. Yadāyasmantānaṃ pattakallaṃ , itthannāmaṃ bhikkhuṃ vuṭṭhāpetvā avasesā imaṃ adhikaraṇaṃ vūpasameyyāmāti.

    ‘‘เต เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ตํ ภิกฺขุํ วุฎฺฐาเปตฺวา สโกฺกนฺติ ตํ อธิกรณํ วูปสเมตุํ, อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อธิกรณํ วูปสนฺตํฯ เกน วูปสนฺตํ? สมฺมุขาวินเยนฯ กิญฺจ ตตฺถ สมฺมุขาวินยสฺมิํ? ธมฺมสมฺมุขตา, วินยสมฺมุขตา, ปุคฺคลสมฺมุขตา…เป.… เอวํ วูปสนฺตํ เจ, ภิกฺขเว, อธิกรณํ การโก อุโกฺกเฎติ, อุโกฺกฎนกํ ปาจิตฺติยํฯ

    ‘‘Te ce, bhikkhave, bhikkhū taṃ bhikkhuṃ vuṭṭhāpetvā sakkonti taṃ adhikaraṇaṃ vūpasametuṃ, idaṃ vuccati, bhikkhave, adhikaraṇaṃ vūpasantaṃ. Kena vūpasantaṃ? Sammukhāvinayena. Kiñca tattha sammukhāvinayasmiṃ? Dhammasammukhatā, vinayasammukhatā, puggalasammukhatā…pe… evaṃ vūpasantaṃ ce, bhikkhave, adhikaraṇaṃ kārako ukkoṭeti, ukkoṭanakaṃ pācittiyaṃ.

    ‘‘เตหิ เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ ตสฺมิํ อธิกรเณ วินิจฺฉิยมาเน ตตฺราสฺส ภิกฺขุ ธมฺมกถิโก, ตสฺส สุตฺตญฺหิ โข อาคตํ โหติ, โน สุตฺตวิภโงฺค, โส อตฺถํ อสลฺลเกฺขโนฺต พฺยญฺชนจฺฉายาย อตฺถํ ปฎิพาหติ, พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน เต ภิกฺขู ญาเปตพฺพา –

    ‘‘Tehi ce, bhikkhave, bhikkhūhi tasmiṃ adhikaraṇe vinicchiyamāne tatrāssa bhikkhu dhammakathiko, tassa suttañhi kho āgataṃ hoti, no suttavibhaṅgo, so atthaṃ asallakkhento byañjanacchāyāya atthaṃ paṭibāhati, byattena bhikkhunā paṭibalena te bhikkhū ñāpetabbā –

    ‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตาฯ อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ ธมฺมกถิโกฯ อิมสฺส สุตฺตญฺหิ โข อาคตํ โหติ, โน สุตฺตวิภโงฺคฯ โส อตฺถํ อสลฺลเกฺขโนฺต พฺยญฺชนจฺฉายาย อตฺถํ ปฎิพาหติฯ ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ วุฎฺฐาเปตฺวา อวเสสา อิมํ อธิกรณํ วูปสเมยฺยามาติฯ

    ‘‘Suṇantu me āyasmantā. Ayaṃ itthannāmo bhikkhu dhammakathiko. Imassa suttañhi kho āgataṃ hoti, no suttavibhaṅgo. So atthaṃ asallakkhento byañjanacchāyāya atthaṃ paṭibāhati. Yadāyasmantānaṃ pattakallaṃ, itthannāmaṃ bhikkhuṃ vuṭṭhāpetvā avasesā imaṃ adhikaraṇaṃ vūpasameyyāmāti.

    ‘‘เต เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ตํ ภิกฺขุํ วุฎฺฐาเปตฺวา สโกฺกนฺติ ตํ อธิกรณํ วูปสเมตุํ, อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อธิกรณํ วูปสนฺตํฯ เกน วูปสนฺตํ? สมฺมุขาวินเยนฯ กิญฺจ ตตฺถ สมฺมุขาวินยสฺมิํ? ธมฺมสมฺมุขตา, วินยสมฺมุขตา, ปุคฺคลสมฺมุขตา…เป.… เอวํ วูปสนฺตํ เจ, ภิกฺขเว, อธิกรณํ การโก อุโกฺกเฎติ, อุโกฺกฎนกํ ปาจิตฺติยํฯ

    ‘‘Te ce, bhikkhave, bhikkhū taṃ bhikkhuṃ vuṭṭhāpetvā sakkonti taṃ adhikaraṇaṃ vūpasametuṃ, idaṃ vuccati, bhikkhave, adhikaraṇaṃ vūpasantaṃ. Kena vūpasantaṃ? Sammukhāvinayena. Kiñca tattha sammukhāvinayasmiṃ? Dhammasammukhatā, vinayasammukhatā, puggalasammukhatā…pe… evaṃ vūpasantaṃ ce, bhikkhave, adhikaraṇaṃ kārako ukkoṭeti, ukkoṭanakaṃ pācittiyaṃ.







    Footnotes:
    1. อนคฺคานิ (สี.)
    2. น เจตสฺส (ก.)
    3. ธตา (สี. สฺยา.)
    4. เฉโก (ก.)
    5. anaggāni (sī.)
    6. na cetassa (ka.)
    7. dhatā (sī. syā.)
    8. cheko (ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / จูฬวคฺค-อฎฺฐกถา • Cūḷavagga-aṭṭhakathā / อธิกรณวูปสมนสมถกถา • Adhikaraṇavūpasamanasamathakathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / อธิกรณวูปสมนสมถกถาวณฺณนา • Adhikaraṇavūpasamanasamathakathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / อธิกรณกถาวณฺณนา • Adhikaraṇakathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๙. อธิกรณวูปสมนสมถกถา • 9. Adhikaraṇavūpasamanasamathakathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact