Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā |
ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ
Namo tassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa
ภิกฺขุนีวิภงฺควณฺณนา
Bhikkhunīvibhaṅgavaṇṇanā
๑. ปาราชิกกณฺฑํ
1. Pārājikakaṇḍaṃ
๑. อุพฺภชาณุมณฺฑลิกสิกฺขาปทวณฺณนา
1. Ubbhajāṇumaṇḍalikasikkhāpadavaṇṇanā
๖๕๖. ภิกฺขุนีวิภเงฺค มิคารมาตุยาติ มิคารมาตุ, วิสาขายาติ อโตฺถฯ ปาฬิยํ ‘‘เอหิ ภิกฺขุนีติ ภิกฺขุนี, ตีหิ สรณคมเนหิ อุปสมฺปนฺนาติ ภิกฺขุนี’’ติ อิทํ ภิกฺขุวิภงฺคปาฬิยา สมทสฺสนตฺถํ อฎฺฐครุธมฺมปฺปฎิคฺคหเณน ลทฺธูปสมฺปทํ มหาปชาปติโคตมิเญฺจว ตาย สห นิกฺขนฺตา ภควโต อาณาย ภิกฺขูนเญฺญว สนฺติเก เอกโตอุปสมฺปนฺนา ปญฺจสตสากิยานิโย จ สนฺธาย วุตฺตํฯ ตา หิ ภควตา อานนฺทเตฺถรสฺส ยาจนาย ปพฺพชฺชํ อนุชานเนฺตน ‘‘เอถ ภิกฺขุนิโย, มม สาสเน ตุเมฺหปิ ปวิสถา’’ติ วุตฺตา วิย ชาตาฯ สากิยานิโย เอว สรณสีลานิ ทตฺวา กมฺมวาจาย อุปสมฺปาทิตตฺตา ‘‘ตีหิ สรณคมเนหิ อุปสมฺปนฺนา’’ติ วุตฺตาฯ น หิ เอตาหิ อญฺญา เอหิภิกฺขุนิภาวาทินา อุปสมฺปนฺนา นาม สนฺติฯ ยํ ปน เถรีคาถาสุ ภทฺทาย กุณฺฑลเกสิยา –
656. Bhikkhunīvibhaṅge migāramātuyāti migāramātu, visākhāyāti attho. Pāḷiyaṃ ‘‘ehi bhikkhunīti bhikkhunī, tīhi saraṇagamanehi upasampannāti bhikkhunī’’ti idaṃ bhikkhuvibhaṅgapāḷiyā samadassanatthaṃ aṭṭhagarudhammappaṭiggahaṇena laddhūpasampadaṃ mahāpajāpatigotamiñceva tāya saha nikkhantā bhagavato āṇāya bhikkhūnaññeva santike ekatoupasampannā pañcasatasākiyāniyo ca sandhāya vuttaṃ. Tā hi bhagavatā ānandattherassa yācanāya pabbajjaṃ anujānantena ‘‘etha bhikkhuniyo, mama sāsane tumhepi pavisathā’’ti vuttā viya jātā. Sākiyāniyo eva saraṇasīlāni datvā kammavācāya upasampāditattā ‘‘tīhi saraṇagamanehi upasampannā’’ti vuttā. Na hi etāhi aññā ehibhikkhunibhāvādinā upasampannā nāma santi. Yaṃ pana therīgāthāsu bhaddāya kuṇḍalakesiyā –
‘‘นิหจฺจ ชาณุํ วนฺทิตฺวา, สมฺมุขา อญฺชลิํ อกํ;
‘‘Nihacca jāṇuṃ vanditvā, sammukhā añjaliṃ akaṃ;
‘เอหิ ภเทฺท’ติ มํ อโวจ, สา เม อาสูปสมฺปทา’’ติฯ (เถรีคา. ๑๐๙) –
‘Ehi bhadde’ti maṃ avoca, sā me āsūpasampadā’’ti. (therīgā. 109) –
วุตฺตํฯ ยญฺจ อปทาเนปิ –
Vuttaṃ. Yañca apadānepi –
‘‘อายาจิโต ตทา อาห, ‘เอหิ ภเทฺท’ติ นายโก;
‘‘Āyācito tadā āha, ‘ehi bhadde’ti nāyako;
ตทาหํ อุปสมฺปนฺนา, ปริตฺตํ โตยมทฺทส’’นฺติฯ (อป. เถรี ๒.๓.๔๔) –
Tadāhaṃ upasampannā, parittaṃ toyamaddasa’’nti. (apa. therī 2.3.44) –
วุตฺตํฯ ตมฺปิ ‘‘เอหิ ตฺวํ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อุปสมฺปทญฺจ คณฺหาหี’’ติ ภควโต อาณา อุปสมฺปทาย การณตฺตา อุปสมฺปทา อโหสีติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ตถา หิ วุตฺตํ เถรีคาถาฎฺฐกถายํ ‘‘เอหิ ภเทฺท, ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ปพฺพชฺช อุปสมฺปชฺชสฺสูติ มํ อวจ อาณาเปสิ, สา สตฺถุ อาณา มยฺหํ อุปสมฺปทาย การณตฺตา อุปสมฺปทา อาสิ อโหสี’’ติ (เถรีคา. อฎฺฐ. ๑๑๑)ฯ
Vuttaṃ. Tampi ‘‘ehi tvaṃ bhikkhunīnaṃ santike pabbajjaṃ, upasampadañca gaṇhāhī’’ti bhagavato āṇā upasampadāya kāraṇattā upasampadā ahosīti imamatthaṃ sandhāya vuttaṃ. Tathā hi vuttaṃ therīgāthāṭṭhakathāyaṃ ‘‘ehi bhadde, bhikkhunupassayaṃ gantvā bhikkhunīnaṃ santike pabbajja upasampajjassūti maṃ avaca āṇāpesi, sā satthu āṇā mayhaṃ upasampadāya kāraṇattā upasampadā āsi ahosī’’ti (therīgā. aṭṭha. 111).
๖๕๗. สาธารณปาราชิเกหีติ เมถุนาทีหิ จตูหิฯ ตานิ, ปน อญฺญานิ จ สาธารณสิกฺขาปทานิ ยสฺมา ภิกฺขุวิภเงฺค วุตฺตนิทานวตฺถาทีสุ เอว สาธารณวเสน ปญฺญตฺตานิ, ปจฺฉา ปน ตานิ ภิกฺขุนีนํ ปาติโมกฺขุเทฺทสํ อนุชานเนฺตน ภควตา ตาสํ สิกฺขาปจฺจกฺขานาภาเวน ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ฉนฺทโส เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสเวยฺยา’’ติอาทินา ตทนุรูปวเสน ปริวเตฺตตฺวา อสาธารณสิกฺขาปเทหิ สทฺธิํ สํสเนฺทตฺวา ภิกฺขุนิปาติโมกฺขุเทฺทสวเสน เอกโต สงฺคหิตานิฯ ยสฺมา จ เนสํ ภิกฺขุวิภเงฺค (ปารา. ๔๔ อาทโย) วุตฺตนเยเนว สโพฺพปิ วินิจฺฉโย สกฺกา ญาตุํ, ตสฺมา ตานิ วเชฺชตฺวา อสาธารณานํ เอว อิธ วิภโงฺค วุโตฺตติ เวทิตพฺพํฯ
657.Sādhāraṇapārājikehīti methunādīhi catūhi. Tāni, pana aññāni ca sādhāraṇasikkhāpadāni yasmā bhikkhuvibhaṅge vuttanidānavatthādīsu eva sādhāraṇavasena paññattāni, pacchā pana tāni bhikkhunīnaṃ pātimokkhuddesaṃ anujānantena bhagavatā tāsaṃ sikkhāpaccakkhānābhāvena ‘‘yā pana bhikkhunī chandaso methunaṃ dhammaṃ paṭiseveyyā’’tiādinā tadanurūpavasena parivattetvā asādhāraṇasikkhāpadehi saddhiṃ saṃsandetvā bhikkhunipātimokkhuddesavasena ekato saṅgahitāni. Yasmā ca nesaṃ bhikkhuvibhaṅge (pārā. 44 ādayo) vuttanayeneva sabbopi vinicchayo sakkā ñātuṃ, tasmā tāni vajjetvā asādhāraṇānaṃ eva idha vibhaṅgo vuttoti veditabbaṃ.
๖๕๙. ภิกฺขูนํ ‘‘กายสํสคฺคํ สาทิเยยฺยา’’ติ อวตฺวา ‘‘สมาปเชฺชยฺยา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ภิกฺขุ อาปตฺติยา น กาเรตโพฺพ’’ติ วุตฺตํฯ ตพฺพหุลนเยนาติ กิริยาสมุฎฺฐานเสฺสว พหุลภาวโต, เอเตน อกิริยาสมุฎฺฐานาปิ อยํ อาปตฺติ โหตีติ ทเสฺสติฯ กิญฺจาปิ ทเสฺสติ, มยํ ปเนตฺถ เอวํ ตกฺกยาม ‘‘กายสํสคฺคกฺขเณ สาทิยนฺติยา กิริยาย อภาเวปิ ตโต ปุเพฺพ ปวตฺติตานํ ปฎิจฺฉนฺนฎฺฐานคมนอิงฺคิตาการทสฺสนาทิกิริยานํ วเสเนว กิริยาสมอุฎฺฐานเมว, ปเรหิ มเคฺค กริยมานุปกฺกเมน นิจฺจลสฺส สาทิยโต สุกฺกวิสฺสฎฺฐิ วิย ปุพฺพปโยคาภาเวปิ วา ตสฺมิเญฺญว ขเณ ปรูปกฺกเมน ชนิยมานาย อตฺตโน กายจลนาทิสงฺขาตาย กิริยาย, สา หิ สาทิยมาเนน ตสฺสา จิเตฺตนาปิ สมุฎฺฐิตา กิริยา นาม โหติ อวายมิตฺวา ปรูปกฺกเมน เมถุนสาทิยเน วิย, ภิกฺขูนํ ปน ปรูปกฺกมชนิตํ กิริยํ อโพฺพหาริกํ กตฺวา อตฺตนา กริยมานปโยควเสเนว ‘กายสํสคฺคํ สมาปเชฺชยฺยา’ติ เอวํ วิเสเสตฺวาว สิกฺขาปทสฺส ปญฺญตฺตตฺตา สาทิยมาเนปิ น โทโสฯ อิตรถา หิ ตพฺพหุลนเยเนตฺถ กิริยเตฺต คยฺหมาเน อเญฺญสมฺปิ กิริยากิริยสิกฺขาปทานํ กิริยตฺตคฺคหณปฺปสโงฺค สิยา’’ติฯ ตสฺมา วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํฯ สาติ กิริยาสมุฎฺฐานตาฯ ตเถวาติ กายสํสคฺคราคี เอวฯ
659. Bhikkhūnaṃ ‘‘kāyasaṃsaggaṃ sādiyeyyā’’ti avatvā ‘‘samāpajjeyyā’’ti vuttattā ‘‘bhikkhu āpattiyā na kāretabbo’’ti vuttaṃ. Tabbahulanayenāti kiriyāsamuṭṭhānasseva bahulabhāvato, etena akiriyāsamuṭṭhānāpi ayaṃ āpatti hotīti dasseti. Kiñcāpi dasseti, mayaṃ panettha evaṃ takkayāma ‘‘kāyasaṃsaggakkhaṇe sādiyantiyā kiriyāya abhāvepi tato pubbe pavattitānaṃ paṭicchannaṭṭhānagamanaiṅgitākāradassanādikiriyānaṃ vaseneva kiriyāsamauṭṭhānameva, parehi magge kariyamānupakkamena niccalassa sādiyato sukkavissaṭṭhi viya pubbapayogābhāvepi vā tasmiññeva khaṇe parūpakkamena janiyamānāya attano kāyacalanādisaṅkhātāya kiriyāya, sā hi sādiyamānena tassā cittenāpi samuṭṭhitā kiriyā nāma hoti avāyamitvā parūpakkamena methunasādiyane viya, bhikkhūnaṃ pana parūpakkamajanitaṃ kiriyaṃ abbohārikaṃ katvā attanā kariyamānapayogavaseneva ‘kāyasaṃsaggaṃ samāpajjeyyā’ti evaṃ visesetvāva sikkhāpadassa paññattattā sādiyamānepi na doso. Itarathā hi tabbahulanayenettha kiriyatte gayhamāne aññesampi kiriyākiriyasikkhāpadānaṃ kiriyattaggahaṇappasaṅgo siyā’’ti. Tasmā vīmaṃsitvā gahetabbaṃ. Sāti kiriyāsamuṭṭhānatā. Tathevāti kāyasaṃsaggarāgī eva.
อุพฺภชาณุมณฺฑลิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Ubbhajāṇumaṇḍalikasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / ภิกฺขุนีวิภงฺค • Bhikkhunīvibhaṅga / ๑. ปฐมปาราชิกํ • 1. Paṭhamapārājikaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / ภิกฺขุนีวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Bhikkhunīvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๑. ปฐมปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Paṭhamapārājikasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๑. ปฐมปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Paṭhamapārājikasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๑. ปฐมปาราชิกสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Paṭhamapārājikasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑. ปฐมปาราชิกสิกฺขาปทํ • 1. Paṭhamapārājikasikkhāpadaṃ