Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā

    อุทกกถาวณฺณนา

    Udakakathāvaṇṇanā

    ๑๐๘. อุทกกถายํ มหากุจฺฉิกา อุทกจาฎิ อุทกมณิโก, ‘‘สเมขลา จาฎิ อุทกมณิโก’’ติปิ วทนฺติฯ ตตฺถาติ เตสุ ภาชเนสุฯ ภูตคาเมน สทฺธิมฺปีติ ปิ-สเทฺทน อกปฺปิยปถวิมฺปิ สงฺคณฺหาติฯ ตฬากรกฺขณตฺถายาติ ‘‘มโหทกํ อาคนฺตฺวา ตฬากมริยาทํ มา ฉินฺที’’ติ ตฬากรกฺขณตฺถํฯ นิพฺพหนอุทกนฺติ เอตฺถ ตฬากสฺส เอเกน อุนฺนเตน ปเสฺสน อธิกชลํ นิพฺพหติ นิคจฺฉติ เอเตนาติ ‘‘นิพฺพหน’’นฺติ อธิกชลนิกฺขมนมาติกา วุจฺจติฯ ตตฺถ คจฺฉมานํ อุทกํ นิพฺพหนอุทกํ นามฯ นิทฺธมนตุมฺพนฺติ สสฺสาทีนํ อตฺถาย อิฎฺฐกาทีหิ กตํ อุทกนิกฺขมนปนาฬิฯ มริยาทํ ทุพฺพลํ กตฺวาติ เอตฺถ ทุพฺพลํ อกตฺวาปิ ยถาวุตฺตปฺปโยเค กเต มริยาทํ ฉินฺทิตฺวา นิกฺขนฺตอุทกคฺฆานุรูเปน อวหาเรน กตฺตพฺพเมวฯ ยตฺตกํ ตปฺปจฺจยา สสฺสํ อุปฺปชฺชตีติ พีชกสิกมฺมาทิพฺพยํ ฐเปตฺวา ยํ อธิกลาภํ อุปฺปชฺชติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํฯ น หิ เตหิ กาตพฺพํ วยกรณมฺปิ เอตสฺส ทาตพฺพํฯ อิทญฺจ ตรุณสเสฺส ชาเต อุทกํ วินาเสนฺตสฺส ยุชฺชติ, สเสฺส ปน สพฺพถา อกเตเยว อุทกํ วินาเสเนฺตน จ อุทกคฺฆเมว ทาตพฺพํ, น ตปฺปจฺจยา สกลํ สสฺสํ เตน วินาสิตภณฺฑเสฺสว ภณฺฑเทยฺยตฺตา, อิตรถา วาณิชฺชาทิอตฺถาย ปเรหิ ฐปิตภณฺฑํ อวหรนฺตสฺส ตทุภยมฺปิ คเหตฺวา ภณฺฑคฺฆํ กาตพฺพํ สิยา, ตญฺจ น ยุตฺตนฺติ อมฺหากํ ขนฺติฯ สามิกานํ ธุรนิเกฺขเปนาติ เอตฺถ เอกสฺส สนฺตเก ตฬาเก เขเตฺต จ ชาเต ตเสฺสว ธุรนิเกฺขเปน ปาราชิกํ, ยทิ ปน ตํ ตฬากํ สพฺพสาธารณํ, เขตฺตานิ ปาฎิปุคฺคลิกานิ, ตสฺส ตสฺส ปุคฺคลเสฺสว ธุรนิเกฺขเป อวหาโร, อถ เขตฺตานิปิ สพฺพสาธารณานิ, สเพฺพสํ ธุรนิเกฺขเปเยว ปาราชิกํ, นาสตีติ ทฎฺฐพฺพํฯ

    108. Udakakathāyaṃ mahākucchikā udakacāṭi udakamaṇiko, ‘‘samekhalā cāṭi udakamaṇiko’’tipi vadanti. Tatthāti tesu bhājanesu. Bhūtagāmena saddhimpīti pi-saddena akappiyapathavimpi saṅgaṇhāti. Taḷākarakkhaṇatthāyāti ‘‘mahodakaṃ āgantvā taḷākamariyādaṃ mā chindī’’ti taḷākarakkhaṇatthaṃ. Nibbahanaudakanti ettha taḷākassa ekena unnatena passena adhikajalaṃ nibbahati nigacchati etenāti ‘‘nibbahana’’nti adhikajalanikkhamanamātikā vuccati. Tattha gacchamānaṃ udakaṃ nibbahanaudakaṃ nāma. Niddhamanatumbanti sassādīnaṃ atthāya iṭṭhakādīhi kataṃ udakanikkhamanapanāḷi. Mariyādaṃ dubbalaṃ katvāti ettha dubbalaṃ akatvāpi yathāvuttappayoge kate mariyādaṃ chinditvā nikkhantaudakagghānurūpena avahārena kattabbameva. Yattakaṃ tappaccayā sassaṃ uppajjatīti bījakasikammādibbayaṃ ṭhapetvā yaṃ adhikalābhaṃ uppajjati, taṃ sandhāya vuttaṃ. Na hi tehi kātabbaṃ vayakaraṇampi etassa dātabbaṃ. Idañca taruṇasasse jāte udakaṃ vināsentassa yujjati, sasse pana sabbathā akateyeva udakaṃ vināsentena ca udakagghameva dātabbaṃ, na tappaccayā sakalaṃ sassaṃ tena vināsitabhaṇḍasseva bhaṇḍadeyyattā, itarathā vāṇijjādiatthāya parehi ṭhapitabhaṇḍaṃ avaharantassa tadubhayampi gahetvā bhaṇḍagghaṃ kātabbaṃ siyā, tañca na yuttanti amhākaṃ khanti. Sāmikānaṃ dhuranikkhepenāti ettha ekassa santake taḷāke khette ca jāte tasseva dhuranikkhepena pārājikaṃ, yadi pana taṃ taḷākaṃ sabbasādhāraṇaṃ, khettāni pāṭipuggalikāni, tassa tassa puggalasseva dhuranikkhepe avahāro, atha khettānipi sabbasādhāraṇāni, sabbesaṃ dhuranikkhepeyeva pārājikaṃ, nāsatīti daṭṭhabbaṃ.

    อนิคฺคเตติ อนิกฺขเนฺต, ตฬาเกเยว ฐิเตติ อโตฺถฯ ปเรสํ มาติกามุขนฺติ ขุทฺทกมาติกามุขํฯ อสมฺปเตฺตวาติ ตฬากโต นิกฺขมิตฺวา มหามาติกายํ เอว ฐิเตฯ อนิกฺขเนฺต พทฺธา สุพทฺธาติ ตฬากโต อนิกฺขเนฺต ภณฺฑเทยฺยมฺปิ น โหติ สพฺพสาธารณตฺตา อุทกสฺสาติ อธิปฺปาโยฯ นิกฺขเนฺต ปน ปาฎิปุคฺคลิกํ โหตีติ อาห ‘‘นิกฺขเนฺต พทฺธา ภณฺฑเทยฺย’’นฺติฯ อิธ ปน ขุทฺทกมาติกายํ อปฺปวิฎฺฐตฺตา อวหาโร น ชาโต, ‘‘ตฬากโต อนิคฺคเต ปเรสํ มาติกามุขํ อสมฺปเตฺตวา’’ติ เหฎฺฐา วุตฺตสฺส วิกปฺปทฺวยสฺส ‘‘อนิกฺขเนฺต พทฺธา สุพทฺธา, นิกฺขเนฺต พทฺธา ภณฺฑเทยฺย’’นฺติ อิทํ ทฺวยํ ยถากฺกเมน โยชนตฺถํ วุตฺตํฯ นตฺถิ อวหาโรติ เอตฺถ ‘‘อวหาโร นตฺถิ, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหตี’’ติ เกจิ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํฯ วตฺถุํ…เป.… น สเมตีติ เอตฺถ ตฬากคตอุทกสฺส สพฺพสาธารณตฺตา ปรสนฺตกวตฺถุ น โหตีติ อธิปฺปาโยฯ

    Aniggateti anikkhante, taḷākeyeva ṭhiteti attho. Paresaṃ mātikāmukhanti khuddakamātikāmukhaṃ. Asampattevāti taḷākato nikkhamitvā mahāmātikāyaṃ eva ṭhite. Anikkhante baddhā subaddhāti taḷākato anikkhante bhaṇḍadeyyampi na hoti sabbasādhāraṇattā udakassāti adhippāyo. Nikkhante pana pāṭipuggalikaṃ hotīti āha ‘‘nikkhante baddhā bhaṇḍadeyya’’nti. Idha pana khuddakamātikāyaṃ appaviṭṭhattā avahāro na jāto, ‘‘taḷākato aniggate paresaṃ mātikāmukhaṃ asampattevā’’ti heṭṭhā vuttassa vikappadvayassa ‘‘anikkhante baddhā subaddhā, nikkhante baddhā bhaṇḍadeyya’’nti idaṃ dvayaṃ yathākkamena yojanatthaṃ vuttaṃ. Natthi avahāroti ettha ‘‘avahāro natthi, bhaṇḍadeyyaṃ pana hotī’’ti keci vadanti, taṃ na yuttaṃ. Vatthuṃ…pe… na sametīti ettha taḷākagataudakassa sabbasādhāraṇattā parasantakavatthu na hotīti adhippāyo.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๒. ทุติยปาราชิกํ • 2. Dutiyapārājikaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๒. ทุติยปาราชิกํ • 2. Dutiyapārājikaṃ

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / อุทกกถาวณฺณนา • Udakakathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ภูมฎฺฐกถาทิวณฺณนา • Bhūmaṭṭhakathādivaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact