Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๑๐. อุทกสุตฺตํ

    10. Udakasuttaṃ

    ๑๐๓. ‘‘อุทโก 1 สุทํ, ภิกฺขเว, รามปุโตฺต เอวํ วาจํ ภาสติ – ‘อิทํ ชาตุ เวทคู, อิทํ ชาตุ สพฺพชี 2, อิทํ ชาตุ อปลิขตํ คณฺฑมูลํ ปลิขณิ’นฺติฯ ตํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, อุทโก รามปุโตฺต อเวทคูเยว สมาโน ‘เวทคูสฺมี’ติ ภาสติ, อสพฺพชีเยว สมาโน ‘สพฺพชีสฺมี’ติ ภาสติ, อปลิขตํเยว คณฺฑมูลํ ปลิขตํ เม ‘คณฺฑมูล’นฺติ ภาสติฯ อิธ โข ตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อิทํ ชาตุ เวทคู, อิทํ ชาตุ สพฺพชี, อิทํ ชาตุ อปลิขตํ คณฺฑมูลํ ปลิขณิ’’’นฺติฯ

    103. ‘‘Udako 3 sudaṃ, bhikkhave, rāmaputto evaṃ vācaṃ bhāsati – ‘idaṃ jātu vedagū, idaṃ jātu sabbajī 4, idaṃ jātu apalikhataṃ gaṇḍamūlaṃ palikhaṇi’nti. Taṃ kho panetaṃ, bhikkhave, udako rāmaputto avedagūyeva samāno ‘vedagūsmī’ti bhāsati, asabbajīyeva samāno ‘sabbajīsmī’ti bhāsati, apalikhataṃyeva gaṇḍamūlaṃ palikhataṃ me ‘gaṇḍamūla’nti bhāsati. Idha kho taṃ, bhikkhave, bhikkhu sammā vadamāno vadeyya – ‘idaṃ jātu vedagū, idaṃ jātu sabbajī, idaṃ jātu apalikhataṃ gaṇḍamūlaṃ palikhaṇi’’’nti.

    ‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, เวทคู โหติ? ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ ปชานาติ; เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เวทคู โหติฯ

    ‘‘Kathañca, bhikkhave, vedagū hoti? Yato kho, bhikkhave, bhikkhu channaṃ phassāyatanānaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ pajānāti; evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu vedagū hoti.

    ‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺพชี โหติ? ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา อนุปาทาวิมุโตฺต โหติ; เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺพชี โหติฯ

    ‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu sabbajī hoti? Yato kho, bhikkhave, bhikkhu channaṃ phassāyatanānaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ viditvā anupādāvimutto hoti; evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu sabbajī hoti.

    ‘‘กถญฺจ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อปลิขตํ คณฺฑมูลํ ปลิขตํ โหติ? คโณฺฑติ โข, ภิกฺขเว, อิมเสฺสตํ จาตุมหาภูติกสฺส กายสฺส อธิวจนํ มาตาเปตฺติกสมฺภวสฺส โอทนกุมฺมาสูปจยสฺส อนิจฺจุจฺฉาทนปริมทฺทนเภทนวิทฺธํสนธมฺมสฺส ฯ คณฺฑมูลนฺติ โข, ภิกฺขเว, ตณฺหาเยตํ อธิวจนํฯ ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตณฺหา ปหีนา โหติ อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวงฺกตา อายติํ อนุปฺปาทธมฺมา; เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อปลิขตํ คณฺฑมูลํ ปลิขตํ โหติฯ

    ‘‘Kathañca , bhikkhave, bhikkhuno apalikhataṃ gaṇḍamūlaṃ palikhataṃ hoti? Gaṇḍoti kho, bhikkhave, imassetaṃ cātumahābhūtikassa kāyassa adhivacanaṃ mātāpettikasambhavassa odanakummāsūpacayassa aniccucchādanaparimaddanabhedanaviddhaṃsanadhammassa . Gaṇḍamūlanti kho, bhikkhave, taṇhāyetaṃ adhivacanaṃ. Yato kho, bhikkhave, bhikkhuno taṇhā pahīnā hoti ucchinnamūlā tālāvatthukatā anabhāvaṅkatā āyatiṃ anuppādadhammā; evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhuno apalikhataṃ gaṇḍamūlaṃ palikhataṃ hoti.

    ‘‘อุทโก สุทํ, ภิกฺขเว, รามปุโตฺต เอวํ วาจํ ภาสติ – ‘อิทํ ชาตุ เวทคู, อิทํ ชาตุ สพฺพชี, อิทํ ชาตุ อปลิขตํ คณฺฑมูลํ ปลิขณิ’นฺติฯ ตํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, อุทโก รามปุโตฺต อเวทคูเยว สมาโน ‘เวทคูสฺมี’ติ ภาสติ, อสพฺพชีเยว สมาโน ‘สพฺพชีสฺมี’ติ ภาสติ; อปลิขตํเยว คณฺฑมูลํ ‘ปลิขตํ เม คณฺฑมูล’นฺติ ภาสติฯ อิธ โข ตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อิทํ ชาตุ เวทคู, อิทํ ชาตุ สพฺพชี, อิทํ ชาตุ อปลิขตํ คณฺฑมูลํ ปลิขณิ’’’นฺติฯ ทสมํฯ

    ‘‘Udako sudaṃ, bhikkhave, rāmaputto evaṃ vācaṃ bhāsati – ‘idaṃ jātu vedagū, idaṃ jātu sabbajī, idaṃ jātu apalikhataṃ gaṇḍamūlaṃ palikhaṇi’nti. Taṃ kho panetaṃ, bhikkhave, udako rāmaputto avedagūyeva samāno ‘vedagūsmī’ti bhāsati, asabbajīyeva samāno ‘sabbajīsmī’ti bhāsati; apalikhataṃyeva gaṇḍamūlaṃ ‘palikhataṃ me gaṇḍamūla’nti bhāsati. Idha kho taṃ, bhikkhave, bhikkhu sammā vadamāno vadeyya – ‘idaṃ jātu vedagū, idaṃ jātu sabbajī, idaṃ jātu apalikhataṃ gaṇḍamūlaṃ palikhaṇi’’’nti. Dasamaṃ.

    สฬวโคฺค ทสโมฯ

    Saḷavaggo dasamo.

    ตสฺสุทฺทานํ –

    Tassuddānaṃ –

    เทฺว สํคยฺหา ปริหานํ, ปมาทวิหารี จ สํวโร;

    Dve saṃgayhā parihānaṃ, pamādavihārī ca saṃvaro;

    สมาธิ ปฎิสลฺลานํ, เทฺว นตุมฺหาเกน อุทฺทโกติฯ

    Samādhi paṭisallānaṃ, dve natumhākena uddakoti.

    สฬายตนวเคฺค ทุติยปณฺณาสโก สมโตฺตฯ

    Saḷāyatanavagge dutiyapaṇṇāsako samatto.

    ตสฺส วคฺคุทฺทานํ –

    Tassa vagguddānaṃ –

    อวิชฺชา มิคชาลญฺจ, คิลานํ ฉนฺนํ จตุตฺถกํ;

    Avijjā migajālañca, gilānaṃ channaṃ catutthakaṃ;

    สฬวเคฺคน ปญฺญาสํ, ทุติโย ปณฺณาสโก อยนฺติฯ

    Saḷavaggena paññāsaṃ, dutiyo paṇṇāsako ayanti.

    ปฐมสตกํฯ

    Paṭhamasatakaṃ.







    Footnotes:
    1. อุทฺทโก (สี. ปี.)
    2. สพฺพชิ (ปี.)
    3. uddako (sī. pī.)
    4. sabbaji (pī.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. อุทกสุตฺตวณฺณนา • 10. Udakasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑๐. อุทกสุตฺตวณฺณนา • 10. Udakasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact