Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya

    ๙. อุทายีสุตฺตํ

    9. Udāyīsuttaṃ

    ๑๕๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุทายี มหติยา คิหิปริสาย ปริวุโต ธมฺมํ เทเสโนฺต นิสิโนฺน โหติฯ อทฺทสา โข อายสฺมา อานโนฺท อายสฺมนฺตํ อุทายิํ มหติยา คิหิปริสาย ปริวุตํ ธมฺมํ เทเสนฺตํ นิสินฺนํฯ ทิสฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา อานโนฺท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อายสฺมา, ภเนฺต, อุทายี มหติยา คิหิปริสาย ปริวุโต ธมฺมํ เทเสตี’’ติ 1

    159. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā kosambiyaṃ viharati ghositārāme. Tena kho pana samayena āyasmā udāyī mahatiyā gihiparisāya parivuto dhammaṃ desento nisinno hoti. Addasā kho āyasmā ānando āyasmantaṃ udāyiṃ mahatiyā gihiparisāya parivutaṃ dhammaṃ desentaṃ nisinnaṃ. Disvā yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā ānando bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘āyasmā, bhante, udāyī mahatiyā gihiparisāya parivuto dhammaṃ desetī’’ti 2.

    ‘‘น โข, อานนฺท , สุกรํ ปเรสํ ธมฺมํ เทเสตุํฯ ปเรสํ, อานนฺท, ธมฺมํ เทเสเนฺตน ปญฺจ ธเมฺม อชฺฌตฺตํ อุปฎฺฐาเปตฺวา ปเรสํ ธโมฺม เทเสตโพฺพฯ กตเม ปญฺจ? ‘อนุปุพฺพิํ กถํ 3 กเถสฺสามี’ติ ปเรสํ ธโมฺม เทเสตโพฺพ; ‘ปริยายทสฺสาวี กถํ กเถสฺสามี’ติ ปเรสํ ธโมฺม เทเสตโพฺพ; ‘อนุทฺทยตํ ปฎิจฺจ กถํ กเถสฺสามี’ติ ปเรสํ ธโมฺม เทเสตโพฺพ; ‘น อามิสนฺตโร กถํ กเถสฺสามี’ติ ปเรสํ ธโมฺม เทเสตโพฺพ; ‘อตฺตานญฺจ ปรญฺจ อนุปหจฺจ กถํ กเถสฺสามี’ติ ปเรสํ ธโมฺม เทเสตโพฺพฯ น โข, อานนฺท, สุกรํ ปเรสํ ธมฺมํ เทเสตุํฯ ปเรสํ, อานนฺท, ธมฺมํ เทเสเนฺตน อิเม ปญฺจ ธเมฺม อชฺฌตฺตํ อุปฎฺฐาเปตฺวา ปเรสํ ธโมฺม เทเสตโพฺพ’’ติฯ นวมํฯ

    ‘‘Na kho, ānanda , sukaraṃ paresaṃ dhammaṃ desetuṃ. Paresaṃ, ānanda, dhammaṃ desentena pañca dhamme ajjhattaṃ upaṭṭhāpetvā paresaṃ dhammo desetabbo. Katame pañca? ‘Anupubbiṃ kathaṃ 4 kathessāmī’ti paresaṃ dhammo desetabbo; ‘pariyāyadassāvī kathaṃ kathessāmī’ti paresaṃ dhammo desetabbo; ‘anuddayataṃ paṭicca kathaṃ kathessāmī’ti paresaṃ dhammo desetabbo; ‘na āmisantaro kathaṃ kathessāmī’ti paresaṃ dhammo desetabbo; ‘attānañca parañca anupahacca kathaṃ kathessāmī’ti paresaṃ dhammo desetabbo. Na kho, ānanda, sukaraṃ paresaṃ dhammaṃ desetuṃ. Paresaṃ, ānanda, dhammaṃ desentena ime pañca dhamme ajjhattaṃ upaṭṭhāpetvā paresaṃ dhammo desetabbo’’ti. Navamaṃ.







    Footnotes:
    1. เทเสโนฺต นิสิโนฺน’’ติ (สฺยา.)
    2. desento nisinno’’ti (syā.)
    3. อานุปุพฺพิกถํ (สี.), อนุปุพฺพิกถํ (สฺยา. ปี. ก.)
    4. ānupubbikathaṃ (sī.), anupubbikathaṃ (syā. pī. ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๙. อุทายีสุตฺตวณฺณนา • 9. Udāyīsuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / (๑๖) ๑. สทฺธมฺมวโคฺค • (16) 1. Saddhammavaggo


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact