Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๙. อุทายีสุตฺตํ
9. Udāyīsuttaṃ
๒๙. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อุทายิํ อามเนฺตสิ – ‘‘กติ นุ โข, อุทายิ, อนุสฺสติฎฺฐานานี’’ติ? เอวํ วุเตฺต อายสฺมา อุทายี ตุณฺหี อโหสิฯ ทุติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อุทายิํ อามเนฺตสิ – ‘‘กติ นุ โข, อุทายิ, อนุสฺสติฎฺฐานานี’’ติ? ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา อุทายี ตุณฺหี อโหสิฯ ตติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อุทายิํ อามเนฺตสิ – ‘‘กติ นุ โข, อุทายิ, อนุสฺสติฎฺฐานานี’’ติ? ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อุทายี ตุณฺหี อโหสิฯ
29. Atha kho bhagavā āyasmantaṃ udāyiṃ āmantesi – ‘‘kati nu kho, udāyi, anussatiṭṭhānānī’’ti? Evaṃ vutte āyasmā udāyī tuṇhī ahosi. Dutiyampi kho bhagavā āyasmantaṃ udāyiṃ āmantesi – ‘‘kati nu kho, udāyi, anussatiṭṭhānānī’’ti? Dutiyampi kho āyasmā udāyī tuṇhī ahosi. Tatiyampi kho bhagavā āyasmantaṃ udāyiṃ āmantesi – ‘‘kati nu kho, udāyi, anussatiṭṭhānānī’’ti? Tatiyampi kho āyasmā udāyī tuṇhī ahosi.
อถ โข อายสฺมา อานโนฺท อายสฺมนฺตํ อุทายิํ เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา ตํ, อาวุโส อุทายิ, อามเนฺตสี’’ติฯ ‘‘สุโณมหํ , อาวุโส อานนฺท, ภควโตฯ อิธ , ภเนฺต, ภิกฺขุ อเนกวิหิตํ ปุเพฺพนิวาสํ อนุสฺสรติ – เสยฺยถิทํ เอกมฺปิ ชาติํ เทฺวปิ ชาติโย…เป.…ฯ อิติ สาการํ สอุเทฺทสํ อเนกวิหิตํ ปุเพฺพนิวาสํ อนุสฺสรติฯ อิทํ, ภเนฺต, อนุสฺสติฎฺฐาน’’นฺติฯ
Atha kho āyasmā ānando āyasmantaṃ udāyiṃ etadavoca – ‘‘satthā taṃ, āvuso udāyi, āmantesī’’ti. ‘‘Suṇomahaṃ , āvuso ānanda, bhagavato. Idha , bhante, bhikkhu anekavihitaṃ pubbenivāsaṃ anussarati – seyyathidaṃ ekampi jātiṃ dvepi jātiyo…pe…. Iti sākāraṃ sauddesaṃ anekavihitaṃ pubbenivāsaṃ anussarati. Idaṃ, bhante, anussatiṭṭhāna’’nti.
อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามเนฺตสิ – ‘‘อญฺญาสิํ โข อหํ, อานนฺท – ‘เนวายํ อุทายี โมฆปุริโส อธิจิตฺตํ อนุยุโตฺต วิหรตี’ติฯ กติ นุ โข, อานนฺท, อนุสฺสติฎฺฐานานี’’ติ?
Atha kho bhagavā āyasmantaṃ ānandaṃ āmantesi – ‘‘aññāsiṃ kho ahaṃ, ānanda – ‘nevāyaṃ udāyī moghapuriso adhicittaṃ anuyutto viharatī’ti. Kati nu kho, ānanda, anussatiṭṭhānānī’’ti?
‘‘ปญฺจ, ภเนฺต, อนุสฺสติฎฺฐานานิฯ กตมานิ ปญฺจ? อิธ, ภเนฺต, ภิกฺขุ วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อิทํ, ภเนฺต, อนุสฺสติฎฺฐานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหาราย สํวตฺตติฯ
‘‘Pañca, bhante, anussatiṭṭhānāni. Katamāni pañca? Idha, bhante, bhikkhu vivicceva kāmehi…pe… tatiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Idaṃ, bhante, anussatiṭṭhānaṃ evaṃ bhāvitaṃ evaṃ bahulīkataṃ diṭṭhadhammasukhavihārāya saṃvattati.
‘‘ปุน จปรํ, ภเนฺต, ภิกฺขุ อาโลกสญฺญํ มนสิ กโรติ, ทิวา สญฺญํ อธิฎฺฐาติ, ยถา ทิวา ตถา รตฺติํ, ยถา รตฺติํ ตถา ทิวา; อิติ วิวเฎน เจตสา อปริโยนเทฺธน สปฺปภาสํ จิตฺตํ ภาเวติฯ อิทํ, ภเนฺต, อนุสฺสติฎฺฐานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ ญาณทสฺสนปฺปฎิลาภาย สํวตฺตติฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhante, bhikkhu ālokasaññaṃ manasi karoti, divā saññaṃ adhiṭṭhāti, yathā divā tathā rattiṃ, yathā rattiṃ tathā divā; iti vivaṭena cetasā apariyonaddhena sappabhāsaṃ cittaṃ bhāveti. Idaṃ, bhante, anussatiṭṭhānaṃ evaṃ bhāvitaṃ evaṃ bahulīkataṃ ñāṇadassanappaṭilābhāya saṃvattati.
‘‘ปุน จปรํ, ภเนฺต, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตํ ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ – ‘อตฺถิ อิมสฺมิํ กาเย เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ มํสํ นฺหารุ 1 อฎฺฐิ อฎฺฐิมิญฺชํ วกฺกํ หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาสํ อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุโพฺพ โลหิตํ เสโท เมโท อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺต’นฺติฯ อิทํ, ภเนฺต , อนุสฺสติฎฺฐานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ กามราคปฺปหานาย สํวตฺตติฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhante, bhikkhu imameva kāyaṃ uddhaṃ pādatalā adho kesamatthakā tacapariyantaṃ pūraṃ nānappakārassa asucino paccavekkhati – ‘atthi imasmiṃ kāye kesā lomā nakhā dantā taco maṃsaṃ nhāru 2 aṭṭhi aṭṭhimiñjaṃ vakkaṃ hadayaṃ yakanaṃ kilomakaṃ pihakaṃ papphāsaṃ antaṃ antaguṇaṃ udariyaṃ karīsaṃ pittaṃ semhaṃ pubbo lohitaṃ sedo medo assu vasā kheḷo siṅghāṇikā lasikā mutta’nti. Idaṃ, bhante , anussatiṭṭhānaṃ evaṃ bhāvitaṃ evaṃ bahulīkataṃ kāmarāgappahānāya saṃvattati.
‘‘เสยฺยถาปิ วา ปน 9 ปเสฺสยฺย สรีรํ สีวถิกาย ฉฑฺฑิตํ กาเกหิ วา ขชฺชมานํ กุลเลหิ วา ขชฺชมานํ คิเชฺฌหิ วา ขชฺชมานํ สุนเขหิ วา ขชฺชมานํ สิงฺคาเลหิ 10 วา ขชฺชมานํ วิวิเธหิ วา ปาณกชาเตหิ ขชฺชมานํฯ โส อิมเมว กายํ เอวํ อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธโมฺม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’’’ติฯ
‘‘Seyyathāpi vā pana 11 passeyya sarīraṃ sīvathikāya chaḍḍitaṃ kākehi vā khajjamānaṃ kulalehi vā khajjamānaṃ gijjhehi vā khajjamānaṃ sunakhehi vā khajjamānaṃ siṅgālehi 12 vā khajjamānaṃ vividhehi vā pāṇakajātehi khajjamānaṃ. So imameva kāyaṃ evaṃ upasaṃharati – ‘ayampi kho kāyo evaṃdhammo evaṃbhāvī evaṃanatīto’’’ti.
‘‘เสยฺยถาปิ วา ปน ปเสฺสยฺย สรีรํ สีวถิกาย ฉฑฺฑิตํ อฎฺฐิกสงฺขลิกํ สมํสโลหิตํ นฺหารุสมฺพนฺธํ…เป.… อฎฺฐิกสงฺขลิกํ นิมฺมํสโลหิตมกฺขิตํ นฺหารุสมฺพนฺธํ… อฎฺฐิกสงฺขลิกํ อปคตมํสโลหิตํ นฺหารุสมฺพนฺธํฯ อฎฺฐิกานิ อปคตสมฺพนฺธานิ ทิสาวิทิสาวิกฺขิตฺตานิ 13, อเญฺญน หตฺถฎฺฐิกํ อเญฺญน ปาทฎฺฐิกํ อเญฺญน ชงฺฆฎฺฐิกํ อเญฺญน อูรุฎฺฐิกํ อเญฺญน กฎิฎฺฐิกํ 14 อเญฺญน 15 ผาสุกฎฺฐิกํ อเญฺญน ปิฎฺฐิกณฺฎกฎฺฐิกํ อเญฺญน ขนฺธฎฺฐิกํ อเญฺญน คีวฎฺฐิกํ อเญฺญน หนุกฎฺฐิกํ อเญฺญน ทนฺตกฎฺฐิกํ อเญฺญน สีสกฎาหํ 16, อฎฺฐิกานิ เสตานิ สงฺขวณฺณปฺปฎิภาคานิ 17 อฎฺฐิกานิ ปุญฺชกิตานิ 18 เตโรวสฺสิกานิ อฎฺฐิกานิ ปูตีนิ จุณฺณกชาตานิฯ โส อิมเมว กายํ เอวํ อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธโมฺม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’ติฯ อิทํ, ภเนฺต, อนุสฺสติฎฺฐานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ อสฺมิมานสมุคฺฆาตาย สํวตฺตติฯ
‘‘Seyyathāpi vā pana passeyya sarīraṃ sīvathikāya chaḍḍitaṃ aṭṭhikasaṅkhalikaṃ samaṃsalohitaṃ nhārusambandhaṃ…pe… aṭṭhikasaṅkhalikaṃ nimmaṃsalohitamakkhitaṃ nhārusambandhaṃ… aṭṭhikasaṅkhalikaṃ apagatamaṃsalohitaṃ nhārusambandhaṃ. Aṭṭhikāni apagatasambandhāni disāvidisāvikkhittāni 19, aññena hatthaṭṭhikaṃ aññena pādaṭṭhikaṃ aññena jaṅghaṭṭhikaṃ aññena ūruṭṭhikaṃ aññena kaṭiṭṭhikaṃ 20 aññena 21 phāsukaṭṭhikaṃ aññena piṭṭhikaṇṭakaṭṭhikaṃ aññena khandhaṭṭhikaṃ aññena gīvaṭṭhikaṃ aññena hanukaṭṭhikaṃ aññena dantakaṭṭhikaṃ aññena sīsakaṭāhaṃ 22, aṭṭhikāni setāni saṅkhavaṇṇappaṭibhāgāni 23 aṭṭhikāni puñjakitāni 24 terovassikāni aṭṭhikāni pūtīni cuṇṇakajātāni. So imameva kāyaṃ evaṃ upasaṃharati – ‘ayampi kho kāyo evaṃdhammo evaṃbhāvī evaṃanatīto’ti. Idaṃ, bhante, anussatiṭṭhānaṃ evaṃ bhāvitaṃ evaṃ bahulīkataṃ asmimānasamugghātāya saṃvattati.
‘‘ปุน จปรํ, ภเนฺต, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา…เป.… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อิทํ, ภเนฺต, อนุสฺสติฎฺฐานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ อเนกธาตุปฎิเวธาย สํวตฺตติฯ อิมานิ โข, ภเนฺต, ปญฺจ อนุสฺสติฎฺฐานานี’’ติฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhante, bhikkhu sukhassa ca pahānā…pe… catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Idaṃ, bhante, anussatiṭṭhānaṃ evaṃ bhāvitaṃ evaṃ bahulīkataṃ anekadhātupaṭivedhāya saṃvattati. Imāni kho, bhante, pañca anussatiṭṭhānānī’’ti.
‘‘สาธุ, สาธุ, อานนฺท! เตน หิ ตฺวํ, อานนฺท, อิทมฺปิ ฉฎฺฐํ อนุสฺสติฎฺฐานํ ธาเรหิฯ อิธานนฺท, ภิกฺขุ สโตว อภิกฺกมติ สโตว ปฎิกฺกมติ สโตว ติฎฺฐติ สโตว นิสีทติ สโตว เสยฺยํ กเปฺปติ สโตว กมฺมํ อธิฎฺฐาติฯ อิทํ, อานนฺท, อนุสฺสติฎฺฐานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ สติสมฺปชญฺญาย สํวตฺตตี’’ติฯ นวมํฯ
‘‘Sādhu, sādhu, ānanda! Tena hi tvaṃ, ānanda, idampi chaṭṭhaṃ anussatiṭṭhānaṃ dhārehi. Idhānanda, bhikkhu satova abhikkamati satova paṭikkamati satova tiṭṭhati satova nisīdati satova seyyaṃ kappeti satova kammaṃ adhiṭṭhāti. Idaṃ, ānanda, anussatiṭṭhānaṃ evaṃ bhāvitaṃ evaṃ bahulīkataṃ satisampajaññāya saṃvattatī’’ti. Navamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๙. อุทายีสุตฺตวณฺณนา • 9. Udāyīsuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๙. อุทายีสุตฺตวณฺณนา • 9. Udāyīsuttavaṇṇanā