Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อปทานปาฬิ • Apadānapāḷi

    ๑๐. อุเทนเตฺถรอปทานํ

    10. Udenattheraapadānaṃ

    ๓๓๐.

    330.

    ‘‘หิมวนฺตสฺสาวิทูเร , ปทุโม นาม ปพฺพโต;

    ‘‘Himavantassāvidūre , padumo nāma pabbato;

    อสฺสโม สุกโต มยฺหํ, ปณฺณสาลา สุมาปิตาฯ

    Assamo sukato mayhaṃ, paṇṇasālā sumāpitā.

    ๓๓๑.

    331.

    ‘‘นทิโย สนฺทเร ตตฺถ, สุปติตฺถา มโนรมา;

    ‘‘Nadiyo sandare tattha, supatitthā manoramā;

    อโจฺฉทกา สีตชลา, สนฺทเร นทิโย สทาฯ

    Acchodakā sītajalā, sandare nadiyo sadā.

    ๓๓๒.

    332.

    ‘‘ปาฐีนา ปาวุสา มจฺฉา, พลชา มุญฺชโรหิตา;

    ‘‘Pāṭhīnā pāvusā macchā, balajā muñjarohitā;

    โสเภนฺตา นทิโย เอเต, วสนฺติ นทิยา สทาฯ

    Sobhentā nadiyo ete, vasanti nadiyā sadā.

    ๓๓๓.

    333.

    ‘‘อมฺพชมฺพูหิ สญฺฉนฺนา, กเรริติลกา ตถา;

    ‘‘Ambajambūhi sañchannā, kareritilakā tathā;

    อุทฺทาลกา ปาฎลิโย, โสเภนฺติ มม อสฺสมํฯ

    Uddālakā pāṭaliyo, sobhenti mama assamaṃ.

    ๓๓๔.

    334.

    ‘‘อโงฺกลกา พิมฺพิชาลา, มายาการี จ ปุปฺผิตา;

    ‘‘Aṅkolakā bimbijālā, māyākārī ca pupphitā;

    คเนฺธน อุปวายนฺตา, โสเภนฺติ มม อสฺสมํฯ

    Gandhena upavāyantā, sobhenti mama assamaṃ.

    ๓๓๕.

    335.

    ‘‘อติมุตฺตา สตฺตลิกา, นาคา สาลา จ ปุปฺผิตา;

    ‘‘Atimuttā sattalikā, nāgā sālā ca pupphitā;

    ทิพฺพคนฺธํ สมฺปวนฺตา, โสเภนฺติ มม อสฺสมํฯ

    Dibbagandhaṃ sampavantā, sobhenti mama assamaṃ.

    ๓๓๖.

    336.

    ‘‘โกสมฺพา สฬลา นีปา, อฎฺฐงฺคาปิ จ ปุปฺผิตา 1;

    ‘‘Kosambā saḷalā nīpā, aṭṭhaṅgāpi ca pupphitā 2;

    ทิพฺพคนฺธํ สมฺปวนฺตา, โสเภนฺติ มม อสฺสมํฯ

    Dibbagandhaṃ sampavantā, sobhenti mama assamaṃ.

    ๓๓๗.

    337.

    ‘‘หรีตกา อามลกา, อมฺพชมฺพุวิภีตกา;

    ‘‘Harītakā āmalakā, ambajambuvibhītakā;

    โกลา ภลฺลาตกา พิลฺลา, ผลานิ พหุ อสฺสเมฯ

    Kolā bhallātakā billā, phalāni bahu assame.

    ๓๓๘.

    338.

    ‘‘กลมฺพา กนฺทลี ตตฺถ, ปุปฺผนฺติ มม อสฺสเม;

    ‘‘Kalambā kandalī tattha, pupphanti mama assame;

    ทิพฺพคนฺธํ 3 สมฺปวนฺตา, โสเภนฺติ มม อสฺสมํฯ

    Dibbagandhaṃ 4 sampavantā, sobhenti mama assamaṃ.

    ๓๓๙.

    339.

    ‘‘อโสกปิณฺฑิวารี จ 5, นิมฺพรุกฺขา จ ปุปฺผิตา;

    ‘‘Asokapiṇḍivārī ca 6, nimbarukkhā ca pupphitā;

    ทิพฺพคนฺธํ สมฺปวนฺตา, โสเภนฺติ มม อสฺสมํฯ

    Dibbagandhaṃ sampavantā, sobhenti mama assamaṃ.

    ๓๔๐.

    340.

    ‘‘ปุนฺนาคา คิริปุนฺนาคา, ติมิรา ตตฺถ ปุปฺผิตา;

    ‘‘Punnāgā giripunnāgā, timirā tattha pupphitā;

    ทิพฺพคนฺธํ สมฺปวนฺตา, โสเภนฺติ มม อสฺสมํฯ

    Dibbagandhaṃ sampavantā, sobhenti mama assamaṃ.

    ๓๔๑.

    341.

    ‘‘นิคฺคุณฺฑี สิรินิคฺคุณฺฑี, จมฺปรุเกฺขตฺถ ปุปฺผิตา;

    ‘‘Nigguṇḍī sirinigguṇḍī, camparukkhettha pupphitā;

    ทิพฺพคนฺธํ สมฺปวนฺตา, โสเภนฺติ มม อสฺสมํฯ

    Dibbagandhaṃ sampavantā, sobhenti mama assamaṃ.

    ๓๔๒.

    342.

    ‘‘อวิทูเร โปกฺขรณี, จกฺกวากูปกูชิตา;

    ‘‘Avidūre pokkharaṇī, cakkavākūpakūjitā;

    มนฺทาลเกหิ สญฺฉนฺนา, ปทุมุปฺปลเกหิ จฯ

    Mandālakehi sañchannā, padumuppalakehi ca.

    ๓๔๓.

    343.

    ‘‘อโจฺฉทกา สีตชลา, สุปติตฺถา มโนรมา;

    ‘‘Acchodakā sītajalā, supatitthā manoramā;

    อจฺฉา ผลิกสมานา, โสเภนฺติ มม อสฺสมํฯ

    Acchā phalikasamānā, sobhenti mama assamaṃ.

    ๓๔๔.

    344.

    ‘‘ปทุมา ปุปฺผเร ตตฺถ, ปุณฺฑรีกา จ อุปฺปลา;

    ‘‘Padumā pupphare tattha, puṇḍarīkā ca uppalā;

    มนฺทาลเกหิ สญฺฉนฺนา, โสเภนฺติ มม อสฺสมํฯ

    Mandālakehi sañchannā, sobhenti mama assamaṃ.

    ๓๔๕.

    345.

    ‘‘ปาฐีนา ปาวุสา มจฺฉา, พลชา มุญฺชโรหิตา;

    ‘‘Pāṭhīnā pāvusā macchā, balajā muñjarohitā;

    วิจรนฺตาว เต ตตฺถ, โสเภนฺติ มม อสฺสมํฯ

    Vicarantāva te tattha, sobhenti mama assamaṃ.

    ๓๔๖.

    346.

    ‘‘กุมฺภีลา สุสุมารา จ, กจฺฉปา จ คหา พหู;

    ‘‘Kumbhīlā susumārā ca, kacchapā ca gahā bahū;

    โอคหา อชครา จ, โสเภนฺติ มม อสฺสมํฯ

    Ogahā ajagarā ca, sobhenti mama assamaṃ.

    ๓๔๗.

    347.

    ‘‘ปาเรวตา รวิหํสา, จกฺกวากา นทีจรา;

    ‘‘Pārevatā ravihaṃsā, cakkavākā nadīcarā;

    ทินฺทิภา สาฬิกา เจตฺถ, โสเภนฺติ มม อสฺสมํฯ

    Dindibhā sāḷikā cettha, sobhenti mama assamaṃ.

    ๓๔๘.

    348.

    ‘‘นยิตา อมฺพคนฺธี จ, เกตกา ตตฺถ ปุปฺผิตา;

    ‘‘Nayitā ambagandhī ca, ketakā tattha pupphitā;

    ทิพฺพคนฺธํ สมฺปวนฺตา, โสเภนฺติ มม อสฺสมํฯ

    Dibbagandhaṃ sampavantā, sobhenti mama assamaṃ.

    ๓๔๙.

    349.

    ‘‘สีหา พฺยคฺฆา จ ทีปี จ, อจฺฉโกกตรจฺฉกา;

    ‘‘Sīhā byagghā ca dīpī ca, acchakokataracchakā;

    อนุสญฺจรนฺตา ปวเน, โสเภนฺติ มม อสฺสมํฯ

    Anusañcarantā pavane, sobhenti mama assamaṃ.

    ๓๕๐.

    350.

    ‘‘ชฎาภาเรน ภริตา, อชินุตฺตรวาสนา;

    ‘‘Jaṭābhārena bharitā, ajinuttaravāsanā;

    อนุสญฺจรนฺตา ปวเน, โสเภนฺติ มม อสฺสมํฯ

    Anusañcarantā pavane, sobhenti mama assamaṃ.

    ๓๕๑.

    351.

    ‘‘อชินานิธรา เอเต, นิปกา สนฺตวุตฺติโน;

    ‘‘Ajinānidharā ete, nipakā santavuttino;

    อปฺปาหาราว เต สเพฺพ, โสเภนฺติ มม อสฺสมํฯ

    Appāhārāva te sabbe, sobhenti mama assamaṃ.

    ๓๕๒.

    352.

    ‘‘ขาริภารํ คเหตฺวาน, อโชฺฌคยฺห วนํ ตทา;

    ‘‘Khāribhāraṃ gahetvāna, ajjhogayha vanaṃ tadā;

    มูลผลานิ ภุญฺชนฺตา, วสนฺติ อสฺสเม ตทาฯ

    Mūlaphalāni bhuñjantā, vasanti assame tadā.

    ๓๕๓.

    353.

    ‘‘น เต ทารุํ อาหรนฺติ, อุทกํ ปาทโธวนํ;

    ‘‘Na te dāruṃ āharanti, udakaṃ pādadhovanaṃ;

    สเพฺพสํ อานุภาเวน, สยเมวาหรียติฯ

    Sabbesaṃ ānubhāvena, sayamevāharīyati.

    ๓๕๔.

    354.

    ‘‘จุลฺลาสีติสหสฺสานิ, อิสเยตฺถ สมาคตา;

    ‘‘Cullāsītisahassāni, isayettha samāgatā;

    สเพฺพว ฌายิโน เอเต, อุตฺตมตฺถคเวสกาฯ

    Sabbeva jhāyino ete, uttamatthagavesakā.

    ๓๕๕.

    355.

    ‘‘ตปสฺสิโน พฺรหฺมจารี, โจเทนฺตา อปฺปนาว เต;

    ‘‘Tapassino brahmacārī, codentā appanāva te;

    อมฺพราวจรา สเพฺพ, วสนฺติ อสฺสเม ตทาฯ

    Ambarāvacarā sabbe, vasanti assame tadā.

    ๓๕๖.

    356.

    ‘‘ปญฺจาหํ สนฺนิปตนฺติ, เอกคฺคา สนฺตวุตฺติโน;

    ‘‘Pañcāhaṃ sannipatanti, ekaggā santavuttino;

    อโญฺญญฺญํ อภิวาเทตฺวา, ปกฺกมนฺติ ทิสามุขาฯ

    Aññoññaṃ abhivādetvā, pakkamanti disāmukhā.

    ๓๕๗.

    357.

    ‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺมาน ปารคู;

    ‘‘Padumuttaro nāma jino, sabbadhammāna pāragū;

    ตมนฺธการํ วิธมํ, อุปฺปชฺชิ ตาวเท ชิโนฯ

    Tamandhakāraṃ vidhamaṃ, uppajji tāvade jino.

    ๓๕๘.

    358.

    ‘‘มม อสฺสมสามนฺตา, ยโกฺข อาสิ มหิทฺธิโก;

    ‘‘Mama assamasāmantā, yakkho āsi mahiddhiko;

    โส เม สํสิตฺถ สมฺพุทฺธํ, ชลชุตฺตมนายกํฯ

    So me saṃsittha sambuddhaṃ, jalajuttamanāyakaṃ.

    ๓๕๙.

    359.

    ‘‘เอส พุโทฺธ สมุปฺปโนฺน, ปทุมุตฺตโร มหามุนิ;

    ‘‘Esa buddho samuppanno, padumuttaro mahāmuni;

    ขิปฺปํ คนฺตฺวาน สมฺพุทฺธํ, ปยิรูปาส มาริสฯ

    Khippaṃ gantvāna sambuddhaṃ, payirūpāsa mārisa.

    ๓๖๐.

    360.

    ‘‘ยกฺขสฺส วจนํ สุตฺวา, วิปฺปสเนฺนน เจตสา;

    ‘‘Yakkhassa vacanaṃ sutvā, vippasannena cetasā;

    อสฺสมํ สํสาเมตฺวาน, นิกฺขมิํ วิปินา ตทาฯ

    Assamaṃ saṃsāmetvāna, nikkhamiṃ vipinā tadā.

    ๓๖๑.

    361.

    ‘‘เจเฬว ฑยฺหมานมฺหิ, นิกฺขมิตฺวาน อสฺสมา;

    ‘‘Ceḷeva ḍayhamānamhi, nikkhamitvāna assamā;

    เอกรตฺติํ นิวาเสตฺวา 7, อุปคจฺฉิํ วินายกํฯ

    Ekarattiṃ nivāsetvā 8, upagacchiṃ vināyakaṃ.

    ๓๖๒.

    362.

    ‘‘ปทุมุตฺตโร โลกวิทู, อาหุตีนํ ปฎิคฺคโห;

    ‘‘Padumuttaro lokavidū, āhutīnaṃ paṭiggaho;

    จตุสจฺจํ ปกาเสโนฺต, เทเสสิ อมตํ ปทํฯ

    Catusaccaṃ pakāsento, desesi amataṃ padaṃ.

    ๓๖๓.

    363.

    ‘‘สุผุลฺลํ ปทุมํ คยฺห, อุปคนฺตฺวา มเหสิโน;

    ‘‘Suphullaṃ padumaṃ gayha, upagantvā mahesino;

    ปสนฺนจิโตฺต สุมโน, พุทฺธสฺส อภิโรปยิํฯ

    Pasannacitto sumano, buddhassa abhiropayiṃ.

    ๓๖๔.

    364.

    ‘‘ปูชยิตฺวาน สมฺพุทฺธํ, ชลชุตฺตมนายกํ;

    ‘‘Pūjayitvāna sambuddhaṃ, jalajuttamanāyakaṃ;

    เอกํสํ อชินํ กตฺวา, สนฺถวิํ โลกนายกํฯ

    Ekaṃsaṃ ajinaṃ katvā, santhaviṃ lokanāyakaṃ.

    ๓๖๕.

    365.

    ‘‘เยน ญาเณน สมฺพุโทฺธ, วสตีห อนาสโว;

    ‘‘Yena ñāṇena sambuddho, vasatīha anāsavo;

    ตํ ญาณํ กิตฺตยิสฺสามิ, สุณาถ มม ภาสโตฯ

    Taṃ ñāṇaṃ kittayissāmi, suṇātha mama bhāsato.

    ๓๖๖.

    366.

    ‘‘‘สํสารโสตํ ฉินฺทิตฺวา, ตาเรสิ สพฺพปาณินํ;

    ‘‘‘Saṃsārasotaṃ chinditvā, tāresi sabbapāṇinaṃ;

    ตว ธมฺมํ สุณิตฺวาน, ตณฺหาโสตํ ตรนฺติ เตฯ

    Tava dhammaṃ suṇitvāna, taṇhāsotaṃ taranti te.

    ๓๖๗.

    367.

    ‘‘‘ตุวํ สตฺถา จ เกตุ จ, ธโช ยูโป จ ปาณินํ;

    ‘‘‘Tuvaṃ satthā ca ketu ca, dhajo yūpo ca pāṇinaṃ;

    ปรายโณ ปติฎฺฐา จ, ทีโป จ ทฺวิปทุตฺตม 9

    Parāyaṇo patiṭṭhā ca, dīpo ca dvipaduttama 10.

    ๓๖๘.

    368.

    ‘‘‘ยาวตา คณิโน โลเก, สตฺถวาหา ปวุจฺจเร;

    ‘‘‘Yāvatā gaṇino loke, satthavāhā pavuccare;

    ตุวํ อโคฺคสิ สพฺพญฺญุ, ตว อโนฺตคธาว เตฯ

    Tuvaṃ aggosi sabbaññu, tava antogadhāva te.

    ๓๖๙.

    369.

    ‘‘‘ตว ญาเณน สพฺพญฺญุ, ตาเรสิ ชนตํ พหุํ;

    ‘‘‘Tava ñāṇena sabbaññu, tāresi janataṃ bahuṃ;

    ตว ทสฺสนมาคมฺม, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสเรฯ

    Tava dassanamāgamma, dukkhassantaṃ karissare.

    ๓๗๐.

    370.

    ‘‘‘เย เกจิเม คนฺธชาตา, โลเก วายนฺติ จกฺขุม;

    ‘‘‘Ye kecime gandhajātā, loke vāyanti cakkhuma;

    ตว คนฺธสโม นตฺถิ, ปุญฺญเกฺขเตฺต มหามุเน’ฯ

    Tava gandhasamo natthi, puññakkhette mahāmune’.

    ๓๗๑.

    371.

    ‘‘‘ติรจฺฉานโยนิํ นิรยํ, ปริโมเจสิ 11 จกฺขุม;

    ‘‘‘Tiracchānayoniṃ nirayaṃ, parimocesi 12 cakkhuma;

    อสงฺขตํ ปทํ สนฺตํ, เทเสสิ 13 ตฺวํ มหามุเน’ฯ

    Asaṅkhataṃ padaṃ santaṃ, desesi 14 tvaṃ mahāmune’.

    ๓๗๒.

    372.

    ‘‘ปทุมุตฺตโร โลกวิทู, อาหุตีนํ ปฎิคฺคโห;

    ‘‘Padumuttaro lokavidū, āhutīnaṃ paṭiggaho;

    ภิกฺขุสเงฺฆ นิสีทิตฺวา, อิมา คาถา อภาสถฯ

    Bhikkhusaṅghe nisīditvā, imā gāthā abhāsatha.

    ๓๗๓.

    373.

    ‘‘‘โย เม ญาณํ อปูเชสิ, ปสโนฺน เสหิ ปาณิภิ;

    ‘‘‘Yo me ñāṇaṃ apūjesi, pasanno sehi pāṇibhi;

    ตมหํ กิตฺตยิสฺสามิ, สุณาถ มม ภาสโตฯ

    Tamahaṃ kittayissāmi, suṇātha mama bhāsato.

    ๓๗๔.

    374.

    ‘‘‘ติํสกปฺปสหสฺสานิ, เทวโลเก รมิสฺสติ;

    ‘‘‘Tiṃsakappasahassāni, devaloke ramissati;

    สหสฺสกฺขตฺตุํ ราชา จ, จกฺกวตฺตี ภวิสฺสติ’ฯ

    Sahassakkhattuṃ rājā ca, cakkavattī bhavissati’.

    ๓๗๕.

    375.

    ‘‘สุลทฺธลาภํ ลโทฺธมฺหิ, โตสยิตฺวาน สุพฺพตํ;

    ‘‘Suladdhalābhaṃ laddhomhi, tosayitvāna subbataṃ;

    สพฺพาสเว ปริญฺญาย, วิหรามิ อนาสโวฯ

    Sabbāsave pariññāya, viharāmi anāsavo.

    ๓๗๖.

    376.

    ‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… วิหรามิ อนาสโวฯ

    ‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… viharāmi anāsavo.

    ๓๗๗.

    377.

    ‘‘สฺวาคตํ วต เม อาสิ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํฯ

    ‘‘Svāgataṃ vata me āsi…pe… kataṃ buddhassa sāsanaṃ.

    ๓๗๘.

    378.

    ‘‘ปฎิสมฺภิทา จตโสฺส…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’ฯ

    ‘‘Paṭisambhidā catasso…pe… kataṃ buddhassa sāsanaṃ’’.

    อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา อุเทโน เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติฯ

    Itthaṃ sudaṃ āyasmā udeno thero imā gāthāyo abhāsitthāti.

    อุเทนเตฺถรสฺสาปทานํ ทสมํฯ

    Udenattherassāpadānaṃ dasamaṃ.

    เมเตฺตยฺยวโคฺค เอกจตฺตาลีสโมฯ

    Metteyyavaggo ekacattālīsamo.

    ตสฺสุทฺทานํ –

    Tassuddānaṃ –

    เมเตฺตโยฺย ปุณฺณโก เถโร, เมตฺตคู โธตโกปิ จ;

    Metteyyo puṇṇako thero, mettagū dhotakopi ca;

    อุปสิโว จ นโนฺท จ, เหมโก สตฺตโม ตหิํฯ

    Upasivo ca nando ca, hemako sattamo tahiṃ.

    โตเทโยฺย ชตุกณฺณี จ, อุเทโน จ มหายโส;

    Todeyyo jatukaṇṇī ca, udeno ca mahāyaso;

    ตีณิ คาถาสตาเนตฺถ, อสีติ ตีณิ จุตฺตริํฯ

    Tīṇi gāthāsatānettha, asīti tīṇi cuttariṃ.







    Footnotes:
    1. อฎฺฐงฺคา จ สุปุปฺผิตา (สี.), กฎฺฐงฺคา จ สุปุปฺผิตา (ปี.)
    2. aṭṭhaṅgā ca supupphitā (sī.), kaṭṭhaṅgā ca supupphitā (pī.)
    3. ทิพฺพคนฺธา (สี. สฺยา. ปี.) เอวํ ปรตฺถปิ
    4. dibbagandhā (sī. syā. pī.) evaṃ paratthapi
    5. อโสกปิณฺฑี จ วรี (สี. สฺยา.), อโสกปิณฺฑี จ วารี (ปี.)
    6. asokapiṇḍī ca varī (sī. syā.), asokapiṇḍī ca vārī (pī.)
    7. นิวสิตฺวา (สี.), นิวาเสน (?)
    8. nivasitvā (sī.), nivāsena (?)
    9. ทิปทุตฺตม (สี. สฺยา. ปี.)
    10. dipaduttama (sī. syā. pī.)
    11. ปริโมเจหิ (สฺยา. ก.)
    12. parimocehi (syā. ka.)
    13. เทเสหิ (สฺยา. ก.)
    14. desehi (syā. ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / อปทาน-อฎฺฐกถา • Apadāna-aṭṭhakathā / ๒. ปุณฺณกเตฺถรอปทานวณฺณนา • 2. Puṇṇakattheraapadānavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact