Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-อภินว-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-abhinava-ṭīkā |
๒. อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา
2. Udositasikkhāpadavaṇṇanā
ภิกฺขุนาติ ภิกฺขุสฺสาติ อโตฺถ, สามิอเตฺถ เจตํ กรณวจนํฯ เตนาห ‘‘ปุริมสิกฺขาปเท วิยา’’ติอาทิฯ อถ กสฺมา กรณวเสเนว กรณวจนสฺส อตฺถํ อคฺคเหตฺวา สามิวเสน อโตฺถ เวทิตโพฺพติ อาห ‘‘กรณวเสน หี’’ติอาทิฯ หีติ การณเตฺถ นิปาโตฯ ฉินฺนปลิโพโธติ ฉินฺนจีวราวาสปลิโพโธฯ เอกาว รตฺติ เอกรตฺตํ, สมาสนฺตคตสฺส อตฺถํฯ ติณฺณํ จีวรานํ สมาหาโรติ ติจีวรํฯ เตน ติจีวเรน, ตีหิ จีวเรหีติ อโตฺถฯ เอเกน วิปฺปวุโตฺถปิ (ปารา. อฎฺฐ. ๒.๔๗๕-๔๗๖) หิ ติจีวเรน วิปฺปวุโตฺถ นาม โหติ ปฎิสิทฺธปริยาปเนฺนน วิปฺปวุตฺถตฺตา, อวยเวปิ วา สมุทายโวหารโตฯ เตนาห ‘‘ติจีวราธิฎฺฐานนเยนา’’ติอาทิฯ
Bhikkhunāti bhikkhussāti attho, sāmiatthe cetaṃ karaṇavacanaṃ. Tenāha ‘‘purimasikkhāpade viyā’’tiādi. Atha kasmā karaṇavaseneva karaṇavacanassa atthaṃ aggahetvā sāmivasena attho veditabboti āha ‘‘karaṇavasena hī’’tiādi. Hīti kāraṇatthe nipāto. Chinnapalibodhoti chinnacīvarāvāsapalibodho. Ekāva ratti ekarattaṃ, samāsantagatassa atthaṃ. Tiṇṇaṃ cīvarānaṃ samāhāroti ticīvaraṃ. Tena ticīvarena, tīhi cīvarehīti attho. Ekena vippavutthopi (pārā. aṭṭha. 2.475-476) hi ticīvarena vippavuttho nāma hoti paṭisiddhapariyāpannena vippavutthattā, avayavepi vā samudāyavohārato. Tenāha ‘‘ticīvarādhiṭṭhānanayenā’’tiādi.
อิทานิ วิปฺปวาสลกฺขณววตฺถาปนตฺถํ ‘‘คาโม เอกูปจาโร’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ นิเวสนนฺติ อุโทสิตาทีนํ วเสน อกตาย ปติสฺสยวิกติยา อธิวจนํฯ อุโทสิโตติ (ปารา. อฎฺฐ. ๒.๔๘๒-๔๘๗) ยานาทีนํ ภณฺฑานํ สาลาฯ โย ‘‘อุทวสิโต’’ติปิ วุจฺจติฯ อโฎฺฎติ ปฎิราชาทิปฎิพาหนตฺถํ อิฎฺฐกาหิ กโต พหลภิตฺติโก จตุปญฺจภูมิโก ปติสฺสยวิเสโสฯ ‘‘อโฎฺฎติ พหลภิตฺติกเคหํ, ยสฺส โคปานสิโย อคฺคเหตฺวา อิฎฺฐกาหิ เอว ฉทนํ โหตี’’ติ อปเรฯ ‘‘อฎฺฎากาเรน กรียตี’’ติปิ วทนฺติฯ มาโฬติ เอกกูฎสงฺคหิโต จตุรสฺสปาสาโท, เอกกูฎสงฺคหิโต วา อเนกโกณวโนฺต ปติสฺสยวิเสโสฯ ‘‘มาโฬติ วฎฺฎากาเรน กตเสนาสน’’นฺติ อปเรฯ ปาสาโทติ ทีฆปาสาโท, อฑฺฒโยคาทิเภโท อฎฺฎมาฬหมฺมิยวชฺชิโต สโพฺพ วา ปาสาโทฯ หมฺมิยนฺติ มุณฺฑจฺฉทนปาสาโทฯ ‘‘จนฺทิยงฺคณยุตฺต’’นฺติ อปเรฯ นาวาติ ถลฎฺฐอุทกฎฺฐวเสน ทฺวิธา นาวาฯ สโตฺถติ ชงฺฆสโตฺถ, สกฎสโตฺถ วาฯ ธญฺญกรณนฺติ (ปารา. อฎฺฐ. ๒.๔๙๑-๔๙๔) ขลํ วุจฺจติฯ อาราโมติ ปุปฺผาราโม, ผลาราโม วาฯ วิหาโรติ สปริกฺขิโตฺต วา อปริกฺขิโตฺต วา สกโล อาวาโสฯ ‘‘เคหมฺปี’’ติ เกจิฯ นิเวสนาทีนิ เจตฺถ คามโต พหิ นิวิฎฺฐานิ คหิตานิฯ อโนฺตคาเม ฐิตานํ ปน คามคฺคหเณเนว คหิตตฺตา คามปริหาโรเยวาติฯ ‘‘นิเวสนาทโย หมฺมิยปริโยสานา คามปริเกฺขปโต พหิ นิวิฎฺฐา’’ติ อปเรฯ หตฺถปาสาติกฺกเมติ เอตฺถ หตฺถปาโส นาม อฑฺฒเตยฺยรตนปฺปมาโณ ปเทโส, ตสฺส อติกฺกโม หตฺถปาสาติกฺกโม, ตสฺมิํ หตฺถปาสาติกฺกเมฯ หตฺถปาสพฺภนฺตเร ปน วตฺถุํ วฎฺฎติฯ ตํ ปมาณํ อติกฺกมิตฺวา สเจปิ อิทฺธิมา ภิกฺขุ อากาเส อรุณํ อุฎฺฐาเปติ, นิสฺสคฺคิยเมว โหติฯ
Idāni vippavāsalakkhaṇavavatthāpanatthaṃ ‘‘gāmo ekūpacāro’’tiādimāha. Tattha nivesananti udositādīnaṃ vasena akatāya patissayavikatiyā adhivacanaṃ. Udositoti (pārā. aṭṭha. 2.482-487) yānādīnaṃ bhaṇḍānaṃ sālā. Yo ‘‘udavasito’’tipi vuccati. Aṭṭoti paṭirājādipaṭibāhanatthaṃ iṭṭhakāhi kato bahalabhittiko catupañcabhūmiko patissayaviseso. ‘‘Aṭṭoti bahalabhittikagehaṃ, yassa gopānasiyo aggahetvā iṭṭhakāhi eva chadanaṃ hotī’’ti apare. ‘‘Aṭṭākārena karīyatī’’tipi vadanti. Māḷoti ekakūṭasaṅgahito caturassapāsādo, ekakūṭasaṅgahito vā anekakoṇavanto patissayaviseso. ‘‘Māḷoti vaṭṭākārena katasenāsana’’nti apare. Pāsādoti dīghapāsādo, aḍḍhayogādibhedo aṭṭamāḷahammiyavajjito sabbo vā pāsādo. Hammiyanti muṇḍacchadanapāsādo. ‘‘Candiyaṅgaṇayutta’’nti apare. Nāvāti thalaṭṭhaudakaṭṭhavasena dvidhā nāvā. Satthoti jaṅghasattho, sakaṭasattho vā. Dhaññakaraṇanti (pārā. aṭṭha. 2.491-494) khalaṃ vuccati. Ārāmoti pupphārāmo, phalārāmo vā. Vihāroti saparikkhitto vā aparikkhitto vā sakalo āvāso. ‘‘Gehampī’’ti keci. Nivesanādīni cettha gāmato bahi niviṭṭhāni gahitāni. Antogāme ṭhitānaṃ pana gāmaggahaṇeneva gahitattā gāmaparihāroyevāti. ‘‘Nivesanādayo hammiyapariyosānā gāmaparikkhepato bahi niviṭṭhā’’ti apare. Hatthapāsātikkameti ettha hatthapāso nāma aḍḍhateyyaratanappamāṇo padeso, tassa atikkamo hatthapāsātikkamo, tasmiṃ hatthapāsātikkame. Hatthapāsabbhantare pana vatthuṃ vaṭṭati. Taṃ pamāṇaṃ atikkamitvā sacepi iddhimā bhikkhu ākāse aruṇaṃ uṭṭhāpeti, nissaggiyameva hoti.
อยํ ปเนตฺถ วินิจฺฉโย – สเจ (ปารา. อฎฺฐ. ๒.๔๗๗-๔๗๘) คาโม เอกสฺส รโญฺญ วา โภชกสฺส วา วเสน เอกกุลสฺส โหติ, ปาการาทินา ปริกฺขิตฺตตฺตา เอกูปจาโร จ, เอวรูเป คาเม จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺมิํ คามพฺภนฺตเร ยถารุจิตฎฺฐาเน วสิตพฺพํ, สเจ อปริกฺขิโตฺต, ยสฺมิํ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺมิํ ฆเร วสิตพฺพํ, ตสฺส ฆรสฺส สมนฺตโต หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํฯ
Ayaṃ panettha vinicchayo – sace (pārā. aṭṭha. 2.477-478) gāmo ekassa rañño vā bhojakassa vā vasena ekakulassa hoti, pākārādinā parikkhittattā ekūpacāro ca, evarūpe gāme cīvaraṃ nikkhipitvā tasmiṃ gāmabbhantare yathārucitaṭṭhāne vasitabbaṃ, sace aparikkhitto, yasmiṃ ghare cīvaraṃ nikkhittaṃ hoti, tasmiṃ ghare vasitabbaṃ, tassa gharassa samantato hatthapāsā vā na vijahitabbaṃ.
สเจ คาโม เวสาลิกุสินาราทโย วิย นานาราชูนํ วา โภชกานํ วา โหติ, วุตฺตปฺปกาเรน ปริกฺขิโตฺต จ, เอวรูเป คาเม ยสฺมิํ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺมิํ ฆเร วา วตฺถพฺพํ, ตสฺส ฆรสฺส หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํฯ ยสฺสา วีถิยา ฆรํ โหติ, ตสฺสา วีถิยา ตสฺส ฆรสฺส สมฺมุขาฎฺฐาเน สภายํ วา ฆรทฺวาเร วา วตฺถพฺพํ, เตสํ สภาทฺวารานํ หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํฯ
Sace gāmo vesālikusinārādayo viya nānārājūnaṃ vā bhojakānaṃ vā hoti, vuttappakārena parikkhitto ca, evarūpe gāme yasmiṃ ghare cīvaraṃ nikkhittaṃ hoti, tasmiṃ ghare vā vatthabbaṃ, tassa gharassa hatthapāsā vā na vijahitabbaṃ. Yassā vīthiyā gharaṃ hoti, tassā vīthiyā tassa gharassa sammukhāṭṭhāne sabhāyaṃ vā gharadvāre vā vatthabbaṃ, tesaṃ sabhādvārānaṃ hatthapāsā vā na vijahitabbaṃ.
สเจ โส คาโม อปริกฺขิโตฺต, ยสฺมิํ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตตฺถ วา ตสฺส หตฺถปาเส วา วตฺถพฺพํฯ นิเวสเน ปน สเจ เอกกุลสฺส นิเวสนํ โหติ, ปริกฺขิตฺตญฺจ, อโนฺตนิเวสเน จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อโนฺตนิเวสเน วตฺถพฺพํฯ อปริกฺขิตฺตํ เจ โหติ, ยสฺมิํ คเพฺภ จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตสฺมิํ วตฺถพฺพํ, ตสฺส คพฺภสฺส หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํฯ
Sace so gāmo aparikkhitto, yasmiṃ ghare cīvaraṃ nikkhittaṃ, tattha vā tassa hatthapāse vā vatthabbaṃ. Nivesane pana sace ekakulassa nivesanaṃ hoti, parikkhittañca, antonivesane cīvaraṃ nikkhipitvā antonivesane vatthabbaṃ. Aparikkhittaṃ ce hoti, yasmiṃ gabbhe cīvaraṃ nikkhittaṃ, tasmiṃ vatthabbaṃ, tassa gabbhassa hatthapāsā vā na vijahitabbaṃ.
สเจ นานากุลสฺส นิเวสนํ โหติ, ปริกฺขิตฺตญฺจ, ยสฺมิํ คเพฺภ จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตสฺมิํ คเพฺภ วตฺถพฺพํ, สเพฺพสํ สาธารณทฺวารมูเล วา เตสํ คพฺภทฺวารมูลานํ หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํฯ อปริกฺขิตฺตํ เจ, ยสฺมิํ คเพฺภ จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตสฺมิํ คเพฺภ วตฺถพฺพํ, ตสฺส คพฺภสฺส หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํฯ เอส นโย อุโทสิตาทีสุปิฯ
Sace nānākulassa nivesanaṃ hoti, parikkhittañca, yasmiṃ gabbhe cīvaraṃ nikkhittaṃ, tasmiṃ gabbhe vatthabbaṃ, sabbesaṃ sādhāraṇadvāramūle vā tesaṃ gabbhadvāramūlānaṃ hatthapāsā vā na vijahitabbaṃ. Aparikkhittaṃ ce, yasmiṃ gabbhe cīvaraṃ nikkhittaṃ, tasmiṃ gabbhe vatthabbaṃ, tassa gabbhassa hatthapāsā vā na vijahitabbaṃ. Esa nayo udositādīsupi.
สโตฺถ ปน ชงฺฆสโตฺถ วา โหตุ, สกฎสโตฺถ วาฯ สเจ เอกกุลสฺส สโตฺถ โหติ, สเตฺถ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ปุรโต วา ปจฺฉโต วา สตฺตพฺภนฺตรา น วิชหิตพฺพา, ปสฺสโต อพฺภนฺตรํ น วิชหิตพฺพํฯ สเจ (ปารา. อฎฺฐ. ๒.๔๘๙) สโตฺถ คจฺฉโนฺต คามํ วา นทิํ วา ปริยาทิยิตฺวา ติฎฺฐติ, อโนฺตปวิเฎฺฐน สทฺธิํ เอกาพโทฺธ หุตฺวา โอรญฺจ ปารญฺจ ผริตฺวา ฐิโต โหติ, สตฺถปริหาโรว ลพฺภติฯ อถ คาเม วา นทิยา วา ปริยาปโนฺน โหติ อโนฺตปวิโฎฺฐ, คามปริหาโร เจว นทิปริหาโร จ ลพฺภติฯ สเจ วิหารสีมํ อติกฺกมิตฺวา ติฎฺฐติ, อโนฺตสีมาย จ จีวรํ โหติ, วิหารํ คนฺตฺวา วสิตพฺพํฯ สเจ พหิสีมาย จีวรํ โหติ, สตฺถสมีเปเยว วสิตพฺพํฯ สเจ คจฺฉโนฺต สกเฎ วา ภเคฺค, โคเณ วา นเฎฺฐ อนฺตรา ฉิชฺชติ, ยสฺมิํ โกฎฺฐาเส จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตตฺถ วสิตพฺพํฯ
Sattho pana jaṅghasattho vā hotu, sakaṭasattho vā. Sace ekakulassa sattho hoti, satthe cīvaraṃ nikkhipitvā purato vā pacchato vā sattabbhantarā na vijahitabbā, passato abbhantaraṃ na vijahitabbaṃ. Sace (pārā. aṭṭha. 2.489) sattho gacchanto gāmaṃ vā nadiṃ vā pariyādiyitvā tiṭṭhati, antopaviṭṭhena saddhiṃ ekābaddho hutvā orañca pārañca pharitvā ṭhito hoti, satthaparihārova labbhati. Atha gāme vā nadiyā vā pariyāpanno hoti antopaviṭṭho, gāmaparihāro ceva nadiparihāro ca labbhati. Sace vihārasīmaṃ atikkamitvā tiṭṭhati, antosīmāya ca cīvaraṃ hoti, vihāraṃ gantvā vasitabbaṃ. Sace bahisīmāya cīvaraṃ hoti, satthasamīpeyeva vasitabbaṃ. Sace gacchanto sakaṭe vā bhagge, goṇe vā naṭṭhe antarā chijjati, yasmiṃ koṭṭhāse cīvaraṃ nikkhittaṃ, tattha vasitabbaṃ.
เขเตฺตปิ (ปารา. อฎฺฐ. ๒.๔๙๐) สเจ เอกกุลสฺส เขตฺตํ โหติ, ปริกฺขิตฺตญฺจ, อโนฺตเขเตฺต จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อโนฺตเขเตฺต วตฺถพฺพํฯ สเจ อปริกฺขิตฺตํ, หตฺถปาสา จีวรํ น วิชหิตพฺพํฯ สเจ นานากุลสฺส เขตฺตํ โหติ, ปริกฺขิตฺตญฺจ, อโนฺตเขเตฺต จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา เขตฺตทฺวารมูเล วา วตฺถพฺพํ, ตสฺส หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํฯ สเจ อปริกฺขิตฺตํ, จีวรํ หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพํฯ เอส นโย ธญฺญกรณาราเมสุ ทฺวีสุปิฯ วิหาเร ปน นิเวสเน วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโยฯ
Khettepi (pārā. aṭṭha. 2.490) sace ekakulassa khettaṃ hoti, parikkhittañca, antokhette cīvaraṃ nikkhipitvā antokhette vatthabbaṃ. Sace aparikkhittaṃ, hatthapāsā cīvaraṃ na vijahitabbaṃ. Sace nānākulassa khettaṃ hoti, parikkhittañca, antokhette cīvaraṃ nikkhipitvā khettadvāramūle vā vatthabbaṃ, tassa hatthapāsā vā na vijahitabbaṃ. Sace aparikkhittaṃ, cīvaraṃ hatthapāsā na vijahitabbaṃ. Esa nayo dhaññakaraṇārāmesu dvīsupi. Vihāre pana nivesane vuttasadisova vinicchayo.
รุกฺขมูเล ปน ยํ มชฺฌนฺหิเก กาเล สมนฺตา ฉายา ผรติ, ตสฺมิํ ฐาเน อวิรเฬ ปเทเส ตสฺส ฉายาย ผุโฎฺฐกาสสฺส อโนฺตเยว นิกฺขิปิตพฺพํฯ สเจ วิรฬสาขสฺส รุกฺขสฺส อาตเปน ผุโฎฺฐกาเส ฐเปติ, อรุณุคฺคมเน จ โส ภิกฺขุ ตสฺส หตฺถปาเส น โหติ, อญฺญสฺมิํ ฐาเน ตสฺส ฉายายปิ โหติ, นิสฺสคฺคิยํ โหติฯ สเจ นานากุลสฺส รุโกฺข โหติ, จีวรสฺส หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพํฯ
Rukkhamūle pana yaṃ majjhanhike kāle samantā chāyā pharati, tasmiṃ ṭhāne aviraḷe padese tassa chāyāya phuṭṭhokāsassa antoyeva nikkhipitabbaṃ. Sace viraḷasākhassa rukkhassa ātapena phuṭṭhokāse ṭhapeti, aruṇuggamane ca so bhikkhu tassa hatthapāse na hoti, aññasmiṃ ṭhāne tassa chāyāyapi hoti, nissaggiyaṃ hoti. Sace nānākulassa rukkho hoti, cīvarassa hatthapāsā na vijahitabbaṃ.
อโชฺฌกาเส ปน วิญฺฌาฎวิอาทีสุ อรเญฺญสุปิ สมุทฺทมเชฺฌ มจฺฉพนฺธานํ อคมนปถทีปเกสุปิ จีวรํ ฐเปตฺวา ตโต สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตเร ปเทเส ยตฺถ กตฺถจิ วสิตพฺพํ, อิโต อญฺญตฺถ วสโนฺต วิปฺปวุโตฺถ นาม โหตีติ ทฎฺฐพฺพํฯ
Ajjhokāse pana viñjhāṭaviādīsu araññesupi samuddamajjhe macchabandhānaṃ agamanapathadīpakesupi cīvaraṃ ṭhapetvā tato samantā sattabbhantare padese yattha katthaci vasitabbaṃ, ito aññattha vasanto vippavuttho nāma hotīti daṭṭhabbaṃ.
อิมสฺส ปน วิตฺถารสฺส อิธ อวุตฺตตฺตา, สมนฺตปาสาทิกายญฺจ วุตฺตตฺตา ‘‘อยเมตฺถ สเงฺขโป’’ติอาทิ วุตฺตํฯ เอตฺถาติ ‘‘ติจีวเรน วิปฺปวเสยฺยา’’ติ เอตสฺมิํ ปเทฯ สเงฺขโปติ สเงฺขปวณฺณนาฯ เอตฺถ ปน ปาฬิยํ (ปารา. ๔๗๗) ‘‘คาโม เอกูปจาโร นานูปจาโร’’ติอาทินา อวิเสเสน มาติกํ นิกฺขิปิตฺวาปิ คามนิเวสนอุโทสิตเขตฺตธญฺญกรณอารามวิหารานํ เอกูปจารนานูปจารตา ‘‘คาโม เอกูปจาโร นาม เอกกุลสฺส คาโม โหติ ปริกฺขิโตฺต จ อปริกฺขิโตฺต จา’’ติอาทินา (ปารา. ๔๗๘) ปริกฺขิตฺตาปริกฺขิตฺตวเสน วิภตฺตาฯ อฎฺฎมาฬปาสาทหมฺมิยนาวาสตฺถรุกฺขมูลอโชฺฌกาสานํ ปน เอวํ อวตฺวา ‘‘เอกกุลสฺส อโฎฺฎ โหติ, นานากุลสฺส อโฎฺฎ โหตี’’ติอาทินา (ปารา. ๔๘๔) นเยน เอกกุลนานากุลวเสน จ อเนฺต ‘‘อโชฺฌกาโส เอกูปจาโร นาม อคามเก อรเญฺญ สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรา เอกูปจาโร, ตโต ปรํ นานูปจาโรติ (ปารา. ๔๙๔) จ เอวํ เอกูปจารนานูปจารตา วิภตฺตาฯ ตสฺมา คามาทีสุ ปริกฺขิตฺตํ เอกูปจารํ, อปริกฺขิตฺตํ นานูปจารนฺติ จ, อฎฺฎาทิสุ ยํ เอกกุลสฺส, ตํ เอกูปจารํ, ยํ นานากุลสฺส, ตํ นานูปจารนฺติ จ คเหตพฺพํฯ อโชฺฌกาเส วุตฺตนเยน คเหตพฺพํฯ อุปจาโรติ หิ ‘‘คาโม เอกูปจาโร นานูปจาโร’’ติอาทีสุ ทฺวารํ, ‘‘อโชฺฌกาโส เอกูปจาโร’’ติ เอตฺถ สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรสงฺขาตํ ปมาณนฺติ อปเรฯ
Imassa pana vitthārassa idha avuttattā, samantapāsādikāyañca vuttattā ‘‘ayamettha saṅkhepo’’tiādi vuttaṃ. Etthāti ‘‘ticīvarena vippavaseyyā’’ti etasmiṃ pade. Saṅkhepoti saṅkhepavaṇṇanā. Ettha pana pāḷiyaṃ (pārā. 477) ‘‘gāmo ekūpacāro nānūpacāro’’tiādinā avisesena mātikaṃ nikkhipitvāpi gāmanivesanaudositakhettadhaññakaraṇaārāmavihārānaṃ ekūpacāranānūpacāratā ‘‘gāmo ekūpacāro nāma ekakulassa gāmo hoti parikkhitto ca aparikkhitto cā’’tiādinā (pārā. 478) parikkhittāparikkhittavasena vibhattā. Aṭṭamāḷapāsādahammiyanāvāsattharukkhamūlaajjhokāsānaṃ pana evaṃ avatvā ‘‘ekakulassa aṭṭo hoti, nānākulassa aṭṭo hotī’’tiādinā (pārā. 484) nayena ekakulanānākulavasena ca ante ‘‘ajjhokāso ekūpacāro nāma agāmake araññe samantā sattabbhantarā ekūpacāro, tato paraṃ nānūpacāroti (pārā. 494) ca evaṃ ekūpacāranānūpacāratā vibhattā. Tasmā gāmādīsu parikkhittaṃ ekūpacāraṃ, aparikkhittaṃ nānūpacāranti ca, aṭṭādisu yaṃ ekakulassa, taṃ ekūpacāraṃ, yaṃ nānākulassa, taṃ nānūpacāranti ca gahetabbaṃ. Ajjhokāse vuttanayena gahetabbaṃ. Upacāroti hi ‘‘gāmo ekūpacāro nānūpacāro’’tiādīsu dvāraṃ, ‘‘ajjhokāso ekūpacāro’’ti ettha samantā sattabbhantarasaṅkhātaṃ pamāṇanti apare.
อญฺญตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยาติ ภิกฺขุโน สเงฺฆน ทินฺนา สมฺมุติ ภิกฺขุสมฺมุติ, ตํ วินาติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘ยํ สโงฺฆ’’ติอาทิฯ อวิปฺปวาสสมฺมุติํ เทตีติ อวิปฺปวาสา สมฺมุติ, อวิปฺปวาสาย วา สมฺมุติ อวิปฺปวาสสมฺมุติ, ตํ ญตฺติทุติเยน กเมฺมน เทตีติ อโตฺถฯ
Aññatra bhikkhusammutiyāti bhikkhuno saṅghena dinnā sammuti bhikkhusammuti, taṃ vināti attho. Tenāha ‘‘yaṃ saṅgho’’tiādi. Avippavāsasammutiṃ detīti avippavāsā sammuti, avippavāsāya vā sammuti avippavāsasammuti, taṃ ñattidutiyena kammena detīti attho.
สนฺตรุตฺตเรนาติ ‘‘อนฺตร’’นฺติ อนฺตรวาสโก วุจฺจติ, ‘‘อุตฺตร’’นฺติ อุตฺตราสโงฺค, สห อนฺตเรน อุตฺตรํ สนฺตรุตฺตรํ, เตน สนฺตรุตฺตเรน, สห อนฺตรวาสเกน อุตฺตราสเงฺคนาติ อโตฺถฯ อโนฺตอรุเณ ปจฺจุทฺธเฎติ นิวตฺติตฺวา สมฺปาปุณิตุมสโกฺกเนฺตน ตเตฺถว ฐตฺวา อโนฺต อรุเณ ปจฺจุทฺธเฎฯ ปจฺจาคนฺตพฺพนฺติ ยถา โรโค น กุปฺปติ, ตถา ปุน จีวรสฺส ฐปิตฎฺฐานํ อาคนฺตพฺพํฯ ยโต ปฎฺฐาย หิ สตฺถํ วา ปริเยสติ, ‘‘คจฺฉามี’’ติ อาโภคํ วา กโรติ, ตโต ปฎฺฐาย วฎฺฎติฯ ‘‘น ทานิ คมิสฺสามี’’ติ เอวํ ปน ธุรนิเกฺขปํ กโรเนฺตน ปจฺจุทฺธริตพฺพํ ‘‘อติเรกจีวรฎฺฐาเน ฐสฺสตี’’ติฯ เตนาห ‘‘ตเตฺถว วา ฐิเตน ปจฺจุทฺธริตพฺพ’’นฺติฯ โสติ ยสฺส สมฺมุติ ทินฺนา, โส โรโคฯ ลทฺธกปฺปิยเมว ปุน สมฺมุติทานกิจฺจํ นตฺถีติ อธิปฺปาโยฯ
Santaruttarenāti ‘‘antara’’nti antaravāsako vuccati, ‘‘uttara’’nti uttarāsaṅgo, saha antarena uttaraṃ santaruttaraṃ, tena santaruttarena, saha antaravāsakena uttarāsaṅgenāti attho. Antoaruṇe paccuddhaṭeti nivattitvā sampāpuṇitumasakkontena tattheva ṭhatvā anto aruṇe paccuddhaṭe. Paccāgantabbanti yathā rogo na kuppati, tathā puna cīvarassa ṭhapitaṭṭhānaṃ āgantabbaṃ. Yato paṭṭhāya hi satthaṃ vā pariyesati, ‘‘gacchāmī’’ti ābhogaṃ vā karoti, tato paṭṭhāya vaṭṭati. ‘‘Na dāni gamissāmī’’ti evaṃ pana dhuranikkhepaṃ karontena paccuddharitabbaṃ ‘‘atirekacīvaraṭṭhāne ṭhassatī’’ti. Tenāha ‘‘tattheva vā ṭhitena paccuddharitabba’’nti. Soti yassa sammuti dinnā, so rogo. Laddhakappiyameva puna sammutidānakiccaṃ natthīti adhippāyo.
อธิฎฺฐิตจีวรตาติ ติจีวราธิฎฺฐานนเยน อธิฎฺฐิตจีวรตาฯ วิปฺปวาโส นาม ยทิ พทฺธสีมายํ จีวรํ โหติ, ตโต พหิ อรุณุฎฺฐาปนํฯ อถ อพทฺธสีมายํ, ยถาวุตฺตคามาทีนํ พหิ หตฺถปาสาติกฺกเม อรุณุฎฺฐาปนํฯ พทฺธสีมายํ ปน ยตฺถ กตฺถจิ จีวรํ ฐเปตฺวา อโนฺตสีมายเมว ยตฺถ กตฺถจิ วสิตุํ วฎฺฎติฯ อิธ อปจฺจุทฺธรณํ อกิริยาติ สมฺพโนฺธฯ
Adhiṭṭhitacīvaratāti ticīvarādhiṭṭhānanayena adhiṭṭhitacīvaratā. Vippavāso nāma yadi baddhasīmāyaṃ cīvaraṃ hoti, tato bahi aruṇuṭṭhāpanaṃ. Atha abaddhasīmāyaṃ, yathāvuttagāmādīnaṃ bahi hatthapāsātikkame aruṇuṭṭhāpanaṃ. Baddhasīmāyaṃ pana yattha katthaci cīvaraṃ ṭhapetvā antosīmāyameva yattha katthaci vasituṃ vaṭṭati. Idha apaccuddharaṇaṃ akiriyāti sambandho.
อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Udositasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.