Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā |
๒. อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา
2. Udositasikkhāpadavaṇṇanā
๔๗๑-๔๗๓. ทุติเย อถานนฺทเตฺถโร กถํ โอกาสํ ปฎิลภติ, กิํ กโรโนฺต จ อาหิณฺฑตีติ อาห ‘‘เถโร กิรา’’ติอาทิฯ อวิปฺปวาเสติ นิมิตฺตเตฺถ ภุมฺมํ, อวิปฺปวาสตฺถนฺติ อโตฺถ, วิปฺปวาสปจฺจยา ยา อาปตฺติ, ตทภาวตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติฯ
471-473. Dutiye athānandatthero kathaṃ okāsaṃ paṭilabhati, kiṃ karonto ca āhiṇḍatīti āha ‘‘thero kirā’’tiādi. Avippavāseti nimittatthe bhummaṃ, avippavāsatthanti attho, vippavāsapaccayā yā āpatti, tadabhāvatthanti vuttaṃ hoti.
๔๗๕-๔๗๖. เอวํ ฉินฺนปลิโพโธติ เอวํ อิเมหิ จีวรนิฎฺฐานกถินุพฺภาเรหิ ฉินฺนปลิโพโธฯ อธิฎฺฐิเตสูติ ติจีวราธิฎฺฐานนเยน อธิฎฺฐิเตสุฯ ติจีวเรน วิปฺปวุโตฺถ โหตีติ ‘‘รุโกฺข ฉิโนฺน, ปโฎ ทโฑฺฒ’’ติอาทีสุ วิย อวยเวปิ สมุทายโวหาโร ลพฺภตีติ วุตฺตํฯ
475-476.Evaṃ chinnapalibodhoti evaṃ imehi cīvaraniṭṭhānakathinubbhārehi chinnapalibodho. Adhiṭṭhitesūti ticīvarādhiṭṭhānanayena adhiṭṭhitesu. Ticīvarena vippavuttho hotīti ‘‘rukkho chinno, paṭo daḍḍho’’tiādīsu viya avayavepi samudāyavohāro labbhatīti vuttaṃ.
๔๗๗-๔๗๘. ปริขาย วา ปริกฺขิโตฺตติ อิมินา จ สมนฺตา นทีตฬากาทิอุทเกน ปริกฺขิโตฺตปิ ปริกฺขิโตฺตเยวาติ ทเสฺสติฯ เอตฺตาวตาติ ‘‘ปริกฺขิโตฺต’’ติ อิมินา วจเนนฯ อากาเส อรุณํ อุฎฺฐาเปตีติ ฆรสฺส อุปริ อากาเส อฑฺฒเตยฺยรตนปฺปมาณํ อติกฺกมิตฺวา อรุณํ อุฎฺฐาเปติฯ ฆรํ นิเวสนุโทสิตาทิลกฺขณเมว, น ปน ปาฎิเยกฺกํ ฆรํ นาม อตฺถีติ อาห ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิฯ
477-478.Parikhāyavā parikkhittoti iminā ca samantā nadītaḷākādiudakena parikkhittopi parikkhittoyevāti dasseti. Ettāvatāti ‘‘parikkhitto’’ti iminā vacanena. Ākāse aruṇaṃ uṭṭhāpetīti gharassa upari ākāse aḍḍhateyyaratanappamāṇaṃ atikkamitvā aruṇaṃ uṭṭhāpeti. Gharaṃ nivesanudositādilakkhaṇameva, na pana pāṭiyekkaṃ gharaṃ nāma atthīti āha ‘‘ettha cā’’tiādi.
๔๗๙. ปาฬิยํ วุตฺตนเยน ‘‘สภาเย’’ติ อวตฺวา ‘‘สภาย’’นฺติ ปจฺจตฺตวจนํ สภาย-สทฺทสฺส นปุํสกลิงฺคตาวิภาวนตฺถํ วุตฺตํฯ สภา-สทฺทปริยาโยปิ หิ สภาย-สโทฺท นปุํสกลิงฺคยุโตฺต อิธ วุโตฺตติ อิมมตฺถํ ทเสฺสโนฺต ‘‘ลิงฺคพฺยตฺตเยน สภา วุตฺตา’’ติ อาหฯ จีวรหตฺถปาเส วสิตพฺพํ นตฺถีติ จีวรหตฺถปาเสเยว วสิตพฺพนฺติ นตฺถิฯ ยํ ตสฺสา…เป.… น วิชหิตพฺพนฺติ เอตฺถ ตสฺสา วีถิยา สมฺมุขฎฺฐาเน สภายทฺวารานํ คหเณเนว ตตฺถ สพฺพานิปิ เคหานิ สา จ อนฺตรวีถิ คหิตาเยว โหติฯ อติหริตฺวา ฆเร นิกฺขิปตีติ ตํ วีถิํ มุญฺจิตฺวา ฐิเต อญฺญสฺมิํ ฆเร นิกฺขิปติฯ ปุรโต วา ปจฺฉโต วา หตฺถปาเสติ ฆรสฺส หตฺถปาสํ สนฺธาย วทติฯ
479. Pāḷiyaṃ vuttanayena ‘‘sabhāye’’ti avatvā ‘‘sabhāya’’nti paccattavacanaṃ sabhāya-saddassa napuṃsakaliṅgatāvibhāvanatthaṃ vuttaṃ. Sabhā-saddapariyāyopi hi sabhāya-saddo napuṃsakaliṅgayutto idha vuttoti imamatthaṃ dassento ‘‘liṅgabyattayena sabhā vuttā’’ti āha. Cīvarahatthapāse vasitabbaṃ natthīti cīvarahatthapāseyeva vasitabbanti natthi. Yaṃ tassā…pe… na vijahitabbanti ettha tassā vīthiyā sammukhaṭṭhāne sabhāyadvārānaṃ gahaṇeneva tattha sabbānipi gehāni sā ca antaravīthi gahitāyeva hoti. Atiharitvā ghare nikkhipatīti taṃ vīthiṃ muñcitvā ṭhite aññasmiṃ ghare nikkhipati. Purato vā pacchato vā hatthapāseti gharassa hatthapāsaṃ sandhāya vadati.
นิเวสนาทีสุ ปริกฺขิตฺตตาย เอกูปจารตา, อปริกฺขิตฺตตาย นานูปจารตา จ เวทิตพฺพาติ ทเสฺสโนฺต ‘‘เอเตเนวุปาเยนา’’ติอาทิมาหฯ นิเวสนาทีนิ คามโต พหิ สนฺนิวิฎฺฐานิ คหิตานีติ เวทิตพฺพํฯ อโนฺตคาเม ฐิตานญฺหิ คามคฺคหเณน คหิตตฺตา คามปริหาโรเยวาติฯ สพฺพตฺถาปีติ คามาทีสุ อโชฺฌกาสปริยเนฺตสุ ปนฺนรสสุฯ ปริเกฺขปาทิวเสนาติ เอตฺถ อาทิ-สเทฺทน อปริเกฺขปเสฺสว คหณํ เวทิตพฺพํ, น เอกกุลาทีนมฺปิฯ
Nivesanādīsu parikkhittatāya ekūpacāratā, aparikkhittatāya nānūpacāratā ca veditabbāti dassento ‘‘etenevupāyenā’’tiādimāha. Nivesanādīni gāmato bahi sanniviṭṭhāni gahitānīti veditabbaṃ. Antogāme ṭhitānañhi gāmaggahaṇena gahitattā gāmaparihāroyevāti. Sabbatthāpīti gāmādīsu ajjhokāsapariyantesu pannarasasu. Parikkhepādivasenāti ettha ādi-saddena aparikkhepasseva gahaṇaṃ veditabbaṃ, na ekakulādīnampi.
๔๘๐-๔๘๗. โอวรโก นาม คพฺภสฺส อพฺภนฺตเร อโญฺญ คโพฺภติปิ วทนฺติฯ มุณฺฑจฺฉทนปาสาโทติ จนฺทิกงฺคณยุโตฺต ปาสาโทฯ
480-487.Ovarako nāma gabbhassa abbhantare añño gabbhotipi vadanti. Muṇḍacchadanapāsādoti candikaṅgaṇayutto pāsādo.
๔๘๙. สโตฺถติ ชงฺฆสโตฺถ สกฎสโตฺถ วาฯ ปริยาทิยิตฺวาติ วินิวิชฺฌิตฺวาฯ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวติ ‘‘อโนฺตปวิเฎฺฐน…เป.… ฐิโต โหตี’’ติฯ ตตฺถ อโนฺตปวิเฎฺฐนาติ คามสฺส นทิยา วา อโนฺตปวิเฎฺฐนฯ นทีปริหาโร จ ลพฺภตีติ เอตฺถ ‘‘วิสุํ นทีปริหารสฺส อวุตฺตตฺตา คามาทีหิ อญฺญตฺถ วิย จีวรหตฺถปาโสเยว นทีปริหาโร’’ติ ตีสุปิ คณฺฐิปเทสุ วุตฺตํฯ วิหารสีมนฺติ อวิปฺปวาสสีมํ สนฺธายาหฯ วิหารํ คนฺตฺวา วสิตพฺพนฺติ อโนฺตสีมาย ยตฺถ กตฺถจิ วสิตพฺพํฯ สตฺถสมีเปเยวาติ อิทํ ยถาวุตฺตอพฺภนฺตรปริเจฺฉทวเสน วุตฺตํฯ ปาฬิยํ นานากุลสฺส สโตฺถ โหติ, สเตฺถ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพนฺติ เอตฺถ หตฺถปาโส นาม สตฺถสฺส หตฺถปาโสติ เวทิตพฺพํฯ
489.Satthoti jaṅghasattho sakaṭasattho vā. Pariyādiyitvāti vinivijjhitvā. Vuttamevatthaṃ vibhāveti ‘‘antopaviṭṭhena…pe… ṭhito hotī’’ti. Tattha antopaviṭṭhenāti gāmassa nadiyā vā antopaviṭṭhena. Nadīparihāro ca labbhatīti ettha ‘‘visuṃ nadīparihārassa avuttattā gāmādīhi aññattha viya cīvarahatthapāsoyeva nadīparihāro’’ti tīsupi gaṇṭhipadesu vuttaṃ. Vihārasīmanti avippavāsasīmaṃ sandhāyāha. Vihāraṃ gantvā vasitabbanti antosīmāya yattha katthaci vasitabbaṃ. Satthasamīpeyevāti idaṃ yathāvuttaabbhantaraparicchedavasena vuttaṃ. Pāḷiyaṃ nānākulassasattho hoti, satthe cīvaraṃ nikkhipitvā hatthapāsā na vijahitabbanti ettha hatthapāso nāma satthassa hatthapāsoti veditabbaṃ.
๔๙๐. เอกกุลสฺส เขเตฺตติ อปริกฺขิตฺตํ สนฺธาย วทติฯ ยสฺมา ‘‘นานากุลสฺส ปริกฺขิเตฺต เขเตฺต จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา เขตฺตทฺวารมูเล วา ตสฺส หตฺถปาเส วา วตฺถพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา ทฺวารมูลโต อญฺญตฺถ อโนฺตเขเตฺตปิ วสเนฺตน จีวรํ หตฺถปาเส กตฺวาเยว วสิตพฺพํฯ
490.Ekakulassa khetteti aparikkhittaṃ sandhāya vadati. Yasmā ‘‘nānākulassa parikkhitte khette cīvaraṃ nikkhipitvā khettadvāramūle vā tassa hatthapāse vā vatthabba’’nti vuttaṃ, tasmā dvāramūlato aññattha antokhettepi vasantena cīvaraṃ hatthapāse katvāyeva vasitabbaṃ.
๔๙๑-๔๙๔. ‘‘วิหาโร นาม สปริกฺขิโตฺต วา อปริกฺขิโตฺต วา สกโล อาวาโส’’ติ วทนฺติฯ ยสฺมิํ วิหาเรติ เอตฺถ ปน เอกํ เคหเมว วุตฺตํฯ เอกกุลนานากุลสนฺตกตา เจตฺถ การาปกานํ วเสน เวทิตพฺพาฯ ฉายาย ผุโฎฺฐกาสสฺส อโนฺต เอวาติ ยทา มหาวีถิยํ อุชุกเมว คจฺฉนฺตํ สูริยมณฺฑลํ มชฺฌนฺหิกํ ปาปุณาติ, ตทา ยํ โอกาสํ ฉายา ผรติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํฯ อคมนปเถติ ยํ ตทเหว คนฺตฺวา ปุน อาคนฺตุํ สกฺกา น โหติ, ตาทิสํ สนฺธาย วุตฺตํฯ
491-494.‘‘Vihāro nāma saparikkhitto vā aparikkhitto vā sakalo āvāso’’ti vadanti. Yasmiṃ vihāreti ettha pana ekaṃ gehameva vuttaṃ. Ekakulanānākulasantakatā cettha kārāpakānaṃ vasena veditabbā. Chāyāya phuṭṭhokāsassa anto evāti yadā mahāvīthiyaṃ ujukameva gacchantaṃ sūriyamaṇḍalaṃ majjhanhikaṃ pāpuṇāti, tadā yaṃ okāsaṃ chāyā pharati, taṃ sandhāya vuttaṃ. Agamanapatheti yaṃ tadaheva gantvā puna āgantuṃ sakkā na hoti, tādisaṃ sandhāya vuttaṃ.
๔๙๕. นทิํ โอตรตีติ หตฺถปาสํ มุญฺจิตฺวา โอตรติฯ น อาปชฺชตีติ ปริโภคปจฺจยา ทุกฺกฎํ นาปชฺชติฯ เตนาห ‘‘โส หี’’ติอาทิฯ อปริโภคารหตฺตาติ อิมินาว นิสฺสคฺคิยจีวรํ อนิสฺสเชฺชตฺวา ปริภุญฺชนฺตสฺส ทุกฺกฎํ อจิตฺตกนฺติ สิทฺธํฯ เอกํ ปารุปิตฺวา เอกํ อํสกูเฎ ฐเปตฺวา คนฺตพฺพนฺติ อิทํ พหูนํ สญฺจารฎฺฐาเน เอวํ อกตฺวา คมนํ น สารุปฺปนฺติ กตฺวา วุตฺตํฯ พหิคาเม ฐเปตฺวา…เป.… วินยกมฺมํ กาตพฺพนฺติ วุตฺตตฺตา อธิฎฺฐาเน วิย ปรมฺมุขา ฐิตมฺปิ นิสฺสคฺคิยํ จีวรํ นิสฺสชฺชิตุํ นิสฺสฎฺฐจีวรญฺจ ทาตุํ วฎฺฎตีติ เวทิตพฺพํฯ
495.Nadiṃ otaratīti hatthapāsaṃ muñcitvā otarati. Na āpajjatīti paribhogapaccayā dukkaṭaṃ nāpajjati. Tenāha ‘‘so hī’’tiādi. Aparibhogārahattāti imināva nissaggiyacīvaraṃ anissajjetvā paribhuñjantassa dukkaṭaṃ acittakanti siddhaṃ. Ekaṃ pārupitvā ekaṃ aṃsakūṭe ṭhapetvā gantabbanti idaṃ bahūnaṃ sañcāraṭṭhāne evaṃ akatvā gamanaṃ na sāruppanti katvā vuttaṃ. Bahigāme ṭhapetvā…pe… vinayakammaṃ kātabbanti vuttattā adhiṭṭhāne viya parammukhā ṭhitampi nissaggiyaṃ cīvaraṃ nissajjituṃ nissaṭṭhacīvarañca dātuṃ vaṭṭatīti veditabbaṃ.
คมเน สอุสฺสาหตฺตา ‘‘นิสฺสโย ปน น ปฎิปฺปสฺสมฺภตี’’ติ วุตฺตํฯ มุหุตฺตํ สยิตฺวา…เป.… นิสฺสโย จ ปฎิปฺปสฺสมฺภตีติ เอตฺถ ‘‘อุสฺสาเห อปริจฺจเตฺตปิ คมนสฺส อุปจฺฉินฺนตฺตา ปุน อุฎฺฐาย สอุสฺสาหํ คจฺฉนฺตานมฺปิ อนฺตรา อรุเณ อุฎฺฐิเต นิสฺสโย ปฎิปฺปสฺสมฺภติเยวา’’ติ วทนฺติฯ ปรโต มุหุตฺตํ ฐตฺวาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ อญฺญมญฺญสฺส วจนํ อคฺคเหตฺวา คตาติ เอตฺถ สเจ เอวํ คจฺฉนฺตา ‘‘ปุรารุณา อญฺญมญฺญํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ อุสฺสาหํ วินาว คตา โหนฺติ, อรุณุคฺคมเน นิสฺสยปฎิปฺปสฺสทฺธิ น วตฺตพฺพา ปฐมตรํเยว ปฎิปฺปสฺสมฺภนโตฯ อถ ‘‘ปุรารุณา ปสฺสิสฺสามา’’ติ สอุสฺสาหาว คจฺฉนฺติ, นิสฺสยปฎิปฺปสฺสทฺธิเยว น วตฺตพฺพาฯ เอวญฺจ สติ ‘‘สห อรุณุคฺคมนา นิสฺสโย ปฎิปฺปสฺสมฺภตี’’ติ กสฺมา วุตฺตํ? วุจฺจเต – สอุสฺสหตฺตา ปฐมตรํ ปฎิปฺปสฺสทฺธิ น วุตฺตาฯ สติปิ จ อุสฺสาหภาเว เอกโต คมนสฺส อุปจฺฉินฺนตฺตา ‘‘มุหุตฺตํ ฐตฺวา’’ติ เอตฺถ วิย สห อรุณุคฺคมนา ปฎิปฺปสฺสทฺธิเยว วุตฺตาฯ
Gamane saussāhattā ‘‘nissayo pana na paṭippassambhatī’’ti vuttaṃ. Muhuttaṃ sayitvā…pe… nissayo ca paṭippassambhatīti ettha ‘‘ussāhe apariccattepi gamanassa upacchinnattā puna uṭṭhāya saussāhaṃ gacchantānampi antarā aruṇe uṭṭhite nissayo paṭippassambhatiyevā’’ti vadanti. Parato muhuttaṃ ṭhatvāti etthāpi eseva nayo. Aññamaññassa vacanaṃ aggahetvā gatāti ettha sace evaṃ gacchantā ‘‘purāruṇā aññamaññaṃ passissāmā’’ti ussāhaṃ vināva gatā honti, aruṇuggamane nissayapaṭippassaddhi na vattabbā paṭhamataraṃyeva paṭippassambhanato. Atha ‘‘purāruṇā passissāmā’’ti saussāhāva gacchanti, nissayapaṭippassaddhiyeva na vattabbā. Evañca sati ‘‘saha aruṇuggamanā nissayo paṭippassambhatī’’ti kasmā vuttaṃ? Vuccate – saussahattā paṭhamataraṃ paṭippassaddhi na vuttā. Satipi ca ussāhabhāve ekato gamanassa upacchinnattā ‘‘muhuttaṃ ṭhatvā’’ti ettha viya saha aruṇuggamanā paṭippassaddhiyeva vuttā.
อโนฺตสีมายํ คามนฺติ อวิปฺปวาสสีมาสมฺมุติยา ปจฺฉา ปติฎฺฐาปิตคามํ สนฺธาย วทติ คามํ อโนฺต กตฺวา อวิปฺปวาสสีมาสมฺมุติยา อภาวโตฯ เนว จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺตีติ อวิปฺปวาสสีมาภาวโต วุตฺตํ, น นิสฺสโย ปฎิปฺปสฺสมฺภตีติ สอุสฺสาหภาวโตฯ อนฺตรามเคฺคเยว จ เนสํ อรุณํ อุคฺคจฺฉตีติ ธมฺมํ สุตฺวา อาคจฺฉนฺตานํ อรุณํ อุคฺคจฺฉติฯ อสฺสติยา คจฺฉตีติ อสฺสติยา อตฺตโน จีวรํ อปจฺจุทฺธริตฺวา เถรสฺส จีวรํ อปจฺจุทฺธราเปตฺวา คจฺฉติฯ เอวํ คเต ตสฺมิํ ปจฺฉา เถเรน สริตฺวา ปฎิปชฺชิตพฺพวิธิํ ทเสฺสติ ‘‘อตฺตโน จีวรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา ทหรสฺส จีวรํ วิสฺสาเสน คเหตฺวา ฐเปตพฺพ’’นฺติฯ คนฺตฺวา วตฺตโพฺพติ อาคตกิจฺจํ นิฎฺฐเปตฺวา วิหารํ คเตน ปฎิปชฺชิตพฺพวิธิํ ทเสฺสติฯ อนธิฎฺฐิตจีวรตา, อนตฺถตกถินตา, อลทฺธสมฺมุติตา, รตฺติวิปฺปวาโสติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิฯ
Antosīmāyaṃ gāmanti avippavāsasīmāsammutiyā pacchā patiṭṭhāpitagāmaṃ sandhāya vadati gāmaṃ anto katvā avippavāsasīmāsammutiyā abhāvato. Neva cīvarāni nissaggiyāni hontīti avippavāsasīmābhāvato vuttaṃ, na nissayo paṭippassambhatīti saussāhabhāvato. Antarāmaggeyeva ca nesaṃ aruṇaṃ uggacchatīti dhammaṃ sutvā āgacchantānaṃ aruṇaṃ uggacchati. Assatiyā gacchatīti assatiyā attano cīvaraṃ apaccuddharitvā therassa cīvaraṃ apaccuddharāpetvā gacchati. Evaṃ gate tasmiṃ pacchā therena saritvā paṭipajjitabbavidhiṃ dasseti ‘‘attano cīvaraṃ paccuddharitvā daharassa cīvaraṃ vissāsena gahetvā ṭhapetabba’’nti. Gantvā vattabboti āgatakiccaṃ niṭṭhapetvā vihāraṃ gatena paṭipajjitabbavidhiṃ dasseti. Anadhiṭṭhitacīvaratā, anatthatakathinatā, aladdhasammutitā, rattivippavāsoti imānettha cattāri aṅgāni.
อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Udositasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๒. อุโทสิตสิกฺขาปทํ • 2. Udositasikkhāpadaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๒. อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Udositasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๒. อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Udositasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๒. อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Udositasikkhāpadavaṇṇanā