Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya

    ๕. อุชฺชยสุตฺตํ

    5. Ujjayasuttaṃ

    ๕๕. อถ โข อุชฺชโย พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สโมฺมทิฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อุชฺชโย พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มยํ, โภ โคตม, ปวาสํ คนฺตุกามาฯ เตสํ โน ภวํ โคตโม อมฺหากํ ตถา ธมฺมํ เทเสตุ – เย อมฺหากํ อสฺสุ ธมฺมา ทิฎฺฐธมฺมหิตาย, ทิฎฺฐธมฺมสุขาย, สมฺปรายหิตาย, สมฺปรายสุขายา’’ติฯ

    55. Atha kho ujjayo brāhmaṇo yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavatā saddhiṃ sammodi. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho ujjayo brāhmaṇo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘mayaṃ, bho gotama, pavāsaṃ gantukāmā. Tesaṃ no bhavaṃ gotamo amhākaṃ tathā dhammaṃ desetu – ye amhākaṃ assu dhammā diṭṭhadhammahitāya, diṭṭhadhammasukhāya, samparāyahitāya, samparāyasukhāyā’’ti.

    ‘‘จตฺตาโรเม, พฺราหฺมณ, ธมฺมา กุลปุตฺตสฺส ทิฎฺฐธมฺมหิตาย สํวตฺตนฺติ, ทิฎฺฐธมฺมสุขายฯ กตเม จตฺตาโร? อุฎฺฐานสมฺปทา , อารกฺขสมฺปทา, กลฺยาณมิตฺตตา, สมชีวิตาฯ กตมา จ, พฺราหฺมณ, อุฎฺฐานสมฺปทา? อิธ, พฺราหฺมณ, กุลปุโตฺต เยน กมฺมฎฺฐาเนน ชีวิกํ กเปฺปติ – ยทิ กสิยา, ยทิ วณิชฺชาย, ยทิ โครเกฺขน, ยทิ อิสฺสเตฺตน, ยทิ ราชโปริเสน, ยทิ สิปฺปญฺญตเรน – ตตฺถ ทโกฺข โหติ อนลโส, ตตฺรุปายาย วีมํสาย สมนฺนาคโต, อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุํฯ อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, อุฎฺฐานสมฺปทาฯ

    ‘‘Cattārome, brāhmaṇa, dhammā kulaputtassa diṭṭhadhammahitāya saṃvattanti, diṭṭhadhammasukhāya. Katame cattāro? Uṭṭhānasampadā , ārakkhasampadā, kalyāṇamittatā, samajīvitā. Katamā ca, brāhmaṇa, uṭṭhānasampadā? Idha, brāhmaṇa, kulaputto yena kammaṭṭhānena jīvikaṃ kappeti – yadi kasiyā, yadi vaṇijjāya, yadi gorakkhena, yadi issattena, yadi rājaporisena, yadi sippaññatarena – tattha dakkho hoti analaso, tatrupāyāya vīmaṃsāya samannāgato, alaṃ kātuṃ alaṃ saṃvidhātuṃ. Ayaṃ vuccati, brāhmaṇa, uṭṭhānasampadā.

    ‘‘กตมา จ, พฺราหฺมณ, อารกฺขสมฺปทา? อิธ, พฺราหฺมณ, กุลปุตฺตสฺส โภคา โหนฺติ อุฎฺฐานวีริยาธิคตา, พาหาพลปริจิตา, เสทาวกฺขิตฺตา, ธมฺมิกา ธมฺมลทฺธาฯ เต อารเกฺขน คุตฺติยา สมฺปาเทติ – ‘กินฺติ เม อิเม โภเค เนว ราชาโน หเรยฺยุํ, น โจรา หเรยฺยุํ, น อคฺคิ ฑเหยฺย, น อุทกํ วเหยฺย, น อปฺปิยา ทายาทา หเรยฺยุ’นฺติฯ อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, อารกฺขสมฺปทาฯ

    ‘‘Katamā ca, brāhmaṇa, ārakkhasampadā? Idha, brāhmaṇa, kulaputtassa bhogā honti uṭṭhānavīriyādhigatā, bāhābalaparicitā, sedāvakkhittā, dhammikā dhammaladdhā. Te ārakkhena guttiyā sampādeti – ‘kinti me ime bhoge neva rājāno hareyyuṃ, na corā hareyyuṃ, na aggi ḍaheyya, na udakaṃ vaheyya, na appiyā dāyādā hareyyu’nti. Ayaṃ vuccati, brāhmaṇa, ārakkhasampadā.

    ‘‘กตมา จ, พฺราหฺมณ, กลฺยาณมิตฺตตา? อิธ, พฺราหฺมณ, กุลปุโตฺต ยสฺมิํ คาเม วา นิคเม วา ปฎิวสติ ตตฺร เย เต โหนฺติ – คหปตี วา คหปติปุตฺตา วา ทหรา วา วุทฺธสีลิโน, วุทฺธา วา วุทฺธสีลิโน, สทฺธาสมฺปนฺนา, สีลสมฺปนฺนา, จาคสมฺปนฺนา, ปญฺญาสมฺปนฺนา – เตหิ สทฺธิํ สนฺติฎฺฐติ สลฺลปติ สากจฺฉํ สมาปชฺชติ; ยถารูปานํ สทฺธาสมฺปนฺนานํ สทฺธาสมฺปทํ อนุสิกฺขติ, ยถารูปานํ สีลสมฺปนฺนานํ สีลสมฺปทํ อนุสิกฺขติ, ยถารูปานํ จาคสมฺปนฺนานํ จาคสมฺปทํ อนุสิกฺขติ, ยถารูปานํ ปญฺญาสมฺปนฺนานํ ปญฺญาสมฺปทํ อนุสิกฺขติฯ อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, กลฺยาณมิตฺตตาฯ

    ‘‘Katamā ca, brāhmaṇa, kalyāṇamittatā? Idha, brāhmaṇa, kulaputto yasmiṃ gāme vā nigame vā paṭivasati tatra ye te honti – gahapatī vā gahapatiputtā vā daharā vā vuddhasīlino, vuddhā vā vuddhasīlino, saddhāsampannā, sīlasampannā, cāgasampannā, paññāsampannā – tehi saddhiṃ santiṭṭhati sallapati sākacchaṃ samāpajjati; yathārūpānaṃ saddhāsampannānaṃ saddhāsampadaṃ anusikkhati, yathārūpānaṃ sīlasampannānaṃ sīlasampadaṃ anusikkhati, yathārūpānaṃ cāgasampannānaṃ cāgasampadaṃ anusikkhati, yathārūpānaṃ paññāsampannānaṃ paññāsampadaṃ anusikkhati. Ayaṃ vuccati, brāhmaṇa, kalyāṇamittatā.

    ‘‘กตมา จ, พฺราหฺมณ, สมชีวิตา? อิธ, พฺราหฺมณ, กุลปุโตฺต อายญฺจ โภคานํ วิทิตฺวา วยญฺจ โภคานํ วิทิตฺวา สมํ ชีวิกํ กเปฺปติ นาโจฺจคาฬฺหํ นาติหีนํ – ‘เอวํ เม อาโย วยํ ปริยาทาย ฐสฺสติ, น จ เม วโย อายํ ปริยาทาย ฐสฺสตี’ติฯ เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, ตุลาธาโร วา ตุลาธารเนฺตวาสี วา ตุลํ ปคฺคเหตฺวา ชานาติ – ‘เอตฺตเกน วา โอนตํ, เอตฺตเกน วา อุนฺนต’นฺติ; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, กุลปุโตฺต อายญฺจ โภคานํ วิทิตฺวา วยญฺจ โภคานํ วิทิตฺวา สมํ ชีวิกํ กเปฺปติ นาโจฺจคาฬฺหํ นาติหีนํ – ‘เอวํ เม อาโย วยํ ปริยาทาย ฐสฺสติ, น จ เม วโย อายํ ปริยาทาย ฐสฺสตี’ติฯ สจายํ, พฺราหฺมณ, กุลปุโตฺต อปฺปาโย สมาโน อุฬารํ ชีวิกํ กเปฺปติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘อุทุมฺพรขาทีวายํ กุลปุโตฺต โภเค ขาทตี’ติฯ สเจ ปนายํ, พฺราหฺมณ, กุลปุโตฺต มหาโย สมาโน กสิรํ ชีวิกํ กเปฺปติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘อเชฎฺฐมรณํวายํ กุลปุโตฺต มริสฺสตี’ติฯ ยโต จ โขยํ, พฺราหฺมณ, กุลปุโตฺต อายญฺจ โภคานํ วิทิตฺวา วยญฺจ โภคานํ วิทิตฺวา สมํ ชีวิกํ กเปฺปติ นาโจฺจคาฬฺหํ นาติหีนํ – ‘เอวํ เม อาโย วยํ ปริยาทาย ฐสฺสติ, น จ เม วโย อายํ ปริยาทาย ฐสฺสตี’ติ, อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, สมชีวิตาฯ

    ‘‘Katamā ca, brāhmaṇa, samajīvitā? Idha, brāhmaṇa, kulaputto āyañca bhogānaṃ viditvā vayañca bhogānaṃ viditvā samaṃ jīvikaṃ kappeti nāccogāḷhaṃ nātihīnaṃ – ‘evaṃ me āyo vayaṃ pariyādāya ṭhassati, na ca me vayo āyaṃ pariyādāya ṭhassatī’ti. Seyyathāpi, brāhmaṇa, tulādhāro vā tulādhārantevāsī vā tulaṃ paggahetvā jānāti – ‘ettakena vā onataṃ, ettakena vā unnata’nti; evamevaṃ kho, brāhmaṇa, kulaputto āyañca bhogānaṃ viditvā vayañca bhogānaṃ viditvā samaṃ jīvikaṃ kappeti nāccogāḷhaṃ nātihīnaṃ – ‘evaṃ me āyo vayaṃ pariyādāya ṭhassati, na ca me vayo āyaṃ pariyādāya ṭhassatī’ti. Sacāyaṃ, brāhmaṇa, kulaputto appāyo samāno uḷāraṃ jīvikaṃ kappeti, tassa bhavanti vattāro – ‘udumbarakhādīvāyaṃ kulaputto bhoge khādatī’ti. Sace panāyaṃ, brāhmaṇa, kulaputto mahāyo samāno kasiraṃ jīvikaṃ kappeti, tassa bhavanti vattāro – ‘ajeṭṭhamaraṇaṃvāyaṃ kulaputto marissatī’ti. Yato ca khoyaṃ, brāhmaṇa, kulaputto āyañca bhogānaṃ viditvā vayañca bhogānaṃ viditvā samaṃ jīvikaṃ kappeti nāccogāḷhaṃ nātihīnaṃ – ‘evaṃ me āyo vayaṃ pariyādāya ṭhassati, na ca me vayo āyaṃ pariyādāya ṭhassatī’ti, ayaṃ vuccati, brāhmaṇa, samajīvitā.

    ‘‘เอวํ สมุปฺปนฺนานํ, พฺราหฺมณ, โภคานํ จตฺตาริ อปายมุขานิ โหนฺติ – อิตฺถิธุโตฺต, สุราธุโตฺต, อกฺขธุโตฺต, ปาปมิโตฺต ปาปสหาโย ปาปสมฺปวโงฺกฯ เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, มหโต ตฬากสฺส จตฺตาริ เจว อายมุขานิ, จตฺตาริ จ อปายมุขานิฯ ตสฺส ปุริโส ยานิ เจว อายมุขานิ ตานิ ปิทเหยฺย, ยานิ จ อปายมุขานิ ตานิ วิวเรยฺย; เทโว จ น สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวเจฺฉยฺยฯ เอวญฺหิ ตสฺส พฺราหฺมณ , มหโต ตฬากสฺส ปริหานิเยว ปาฎิกงฺขา, โน วุทฺธิ ; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, เอวํ สมุปฺปนฺนานํ โภคานํ จตฺตาริ อปายมุขานิ โหนฺติ – อิตฺถิธุโตฺต, สุราธุโตฺต, อกฺขธุโตฺต, ปาปมิโตฺต ปาปสหาโย ปาปสมฺปวโงฺกฯ

    ‘‘Evaṃ samuppannānaṃ, brāhmaṇa, bhogānaṃ cattāri apāyamukhāni honti – itthidhutto, surādhutto, akkhadhutto, pāpamitto pāpasahāyo pāpasampavaṅko. Seyyathāpi, brāhmaṇa, mahato taḷākassa cattāri ceva āyamukhāni, cattāri ca apāyamukhāni. Tassa puriso yāni ceva āyamukhāni tāni pidaheyya, yāni ca apāyamukhāni tāni vivareyya; devo ca na sammā dhāraṃ anuppaveccheyya. Evañhi tassa brāhmaṇa , mahato taḷākassa parihāniyeva pāṭikaṅkhā, no vuddhi ; evamevaṃ kho, brāhmaṇa, evaṃ samuppannānaṃ bhogānaṃ cattāri apāyamukhāni honti – itthidhutto, surādhutto, akkhadhutto, pāpamitto pāpasahāyo pāpasampavaṅko.

    ‘‘เอวํ สมุปฺปนฺนานํ, พฺราหฺมณ, โภคานํ จตฺตาริ อายมุขานิ โหนฺติ – น อิตฺถิธุโตฺต, น สุราธุโตฺต, น อกฺขธุโตฺต, กลฺยาณมิโตฺต กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวโงฺกฯ เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, มหโต ตฬากสฺส จตฺตาริ เจว อายมุขานิ จตฺตาริ จ อปายมุขานิฯ ตสฺส ปุริโส ยานิ เจว อายมุขานิ ตานิ วิวเรยฺย, ยานิ จ อปายมุขานิ ตานิ ปิทเหยฺย; เทโว จ สมฺมา ธารํ อนุปฺปเวเจฺฉยฺยฯ เอวญฺหิ ตสฺส, พฺราหฺมณ, มหโต ตฬากสฺส วุทฺธิเยว ปาฎิกงฺขา, โน ปริหานิ; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, เอวํ สมุปฺปนฺนานํ โภคานํ จตฺตาริ อายมุขานิ โหนฺติ – น อิตฺถิธุโตฺต…เป.… กลฺยาณสมฺปวโงฺกฯ อิเม โข, พฺราหฺมณ, จตฺตาโร ธมฺมา กุลปุตฺตสฺส ทิฎฺฐธมฺมหิตาย สํวตฺตนฺติ ทิฎฺฐธมฺมสุขายฯ

    ‘‘Evaṃ samuppannānaṃ, brāhmaṇa, bhogānaṃ cattāri āyamukhāni honti – na itthidhutto, na surādhutto, na akkhadhutto, kalyāṇamitto kalyāṇasahāyo kalyāṇasampavaṅko. Seyyathāpi, brāhmaṇa, mahato taḷākassa cattāri ceva āyamukhāni cattāri ca apāyamukhāni. Tassa puriso yāni ceva āyamukhāni tāni vivareyya, yāni ca apāyamukhāni tāni pidaheyya; devo ca sammā dhāraṃ anuppaveccheyya. Evañhi tassa, brāhmaṇa, mahato taḷākassa vuddhiyeva pāṭikaṅkhā, no parihāni; evamevaṃ kho, brāhmaṇa, evaṃ samuppannānaṃ bhogānaṃ cattāri āyamukhāni honti – na itthidhutto…pe… kalyāṇasampavaṅko. Ime kho, brāhmaṇa, cattāro dhammā kulaputtassa diṭṭhadhammahitāya saṃvattanti diṭṭhadhammasukhāya.

    ‘‘จตฺตาโรเม, พฺราหฺมณ, กุลปุตฺตสฺส ธมฺมา สมฺปรายหิตาย สํวตฺตนฺติ สมฺปรายสุขายฯ กตเม จตฺตาโร? สทฺธาสมฺปทา, สีลสมฺปทา, จาคสมฺปทา, ปญฺญาสมฺปทาฯ กตมา จ, พฺราหฺมณ, สทฺธาสมฺปทา? อิธ, พฺราหฺมณ, กุลปุโตฺต สโทฺธ โหติ, สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธิํ – ‘อิติปิ โส ภควา…เป.… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุโทฺธ ภควา’ติฯ อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, สทฺธาสมฺปทาฯ

    ‘‘Cattārome, brāhmaṇa, kulaputtassa dhammā samparāyahitāya saṃvattanti samparāyasukhāya. Katame cattāro? Saddhāsampadā, sīlasampadā, cāgasampadā, paññāsampadā. Katamā ca, brāhmaṇa, saddhāsampadā? Idha, brāhmaṇa, kulaputto saddho hoti, saddahati tathāgatassa bodhiṃ – ‘itipi so bhagavā…pe… satthā devamanussānaṃ buddho bhagavā’ti. Ayaṃ vuccati, brāhmaṇa, saddhāsampadā.

    ‘‘กตมา จ, พฺราหฺมณ, สีลสมฺปทา? อิธ, พฺราหฺมณ, กุลปุโตฺต ปาณาติปาตา ปฎิวิรโต โหติ…เป.… สุราเมรยมชฺชปมาทฎฺฐานา ปฎิวิรโต โหติฯ อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, สีลสมฺปทาฯ

    ‘‘Katamā ca, brāhmaṇa, sīlasampadā? Idha, brāhmaṇa, kulaputto pāṇātipātā paṭivirato hoti…pe… surāmerayamajjapamādaṭṭhānā paṭivirato hoti. Ayaṃ vuccati, brāhmaṇa, sīlasampadā.

    ‘‘กตมา จ, พฺราหฺมณ, จาคสมฺปทา? อิธ , พฺราหฺมณ, กุลปุโตฺต วิคตมลมเจฺฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสฺสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโตฯ อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, จาคสมฺปทาฯ

    ‘‘Katamā ca, brāhmaṇa, cāgasampadā? Idha , brāhmaṇa, kulaputto vigatamalamaccherena cetasā agāraṃ ajjhāvasati muttacāgo payatapāṇi vossaggarato yācayogo dānasaṃvibhāgarato. Ayaṃ vuccati, brāhmaṇa, cāgasampadā.

    ‘‘กตมา จ, พฺราหฺมณ, ปญฺญาสมฺปทา? อิธ, พฺราหฺมณ, กุลปุโตฺต ปญฺญวา โหติ…เป.… สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยาฯ อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, ปญฺญาสมฺปทาฯ อิเม โข, พฺราหฺมณ, จตฺตาโร ธมฺมา กุลปุตฺตสฺส สมฺปรายหิตาย สํวตฺตนฺติ สมฺปรายสุขายา’’ติฯ

    ‘‘Katamā ca, brāhmaṇa, paññāsampadā? Idha, brāhmaṇa, kulaputto paññavā hoti…pe… sammā dukkhakkhayagāminiyā. Ayaṃ vuccati, brāhmaṇa, paññāsampadā. Ime kho, brāhmaṇa, cattāro dhammā kulaputtassa samparāyahitāya saṃvattanti samparāyasukhāyā’’ti.

    ‘‘อุฎฺฐาตา กมฺมเธเยฺยสุ, อปฺปมโตฺต วิธานวา;

    ‘‘Uṭṭhātā kammadheyyesu, appamatto vidhānavā;

    สมํ กเปฺปติ ชีวิกํ, สมฺภตํ อนุรกฺขติฯ

    Samaṃ kappeti jīvikaṃ, sambhataṃ anurakkhati.

    ‘‘สโทฺธ สีเลน สมฺปโนฺน, วทญฺญู วีตมจฺฉโร;

    ‘‘Saddho sīlena sampanno, vadaññū vītamaccharo;

    นิจฺจํ มคฺคํ วิโสเธติ, โสตฺถานํ สมฺปรายิกํฯ

    Niccaṃ maggaṃ visodheti, sotthānaṃ samparāyikaṃ.

    ‘‘อิเจฺจเต อฎฺฐ ธมฺมา จ, สทฺธสฺส ฆรเมสิโน;

    ‘‘Iccete aṭṭha dhammā ca, saddhassa gharamesino;

    อกฺขาตา สจฺจนาเมน, อุภยตฺถ สุขาวหาฯ

    Akkhātā saccanāmena, ubhayattha sukhāvahā.

    ‘‘ทิฎฺฐธมฺมหิตตฺถาย, สมฺปรายสุขาย จ;

    ‘‘Diṭṭhadhammahitatthāya, samparāyasukhāya ca;

    เอวเมตํ คหฎฺฐานํ, จาโค ปุญฺญํ ปวฑฺฒตี’’ติฯ ปญฺจมํ;

    Evametaṃ gahaṭṭhānaṃ, cāgo puññaṃ pavaḍḍhatī’’ti. pañcamaṃ;







    Related texts:



    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๔-๕. ทีฆชาณุสุตฺตาทิวณฺณนา • 4-5. Dīghajāṇusuttādivaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact