Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā)

    ๙. อุชฺชยสุตฺตวณฺณนา

    9. Ujjayasuttavaṇṇanā

    ๓๙. นวเม อนุกุลยญฺญนฺติ อนุกุลํ กุลานุกฺกมํ อุปาทาย ทาตพฺพทานํฯ เตนาห ‘‘อมฺหากํ…เป.… กุลานุกุลวเสน ยชิตพฺพ’’นฺติฯ วํสปรมฺปราย ปจฺฉา ทุคฺคตปุริเสหิ ปทาตพฺพทานํฯ เอวรูปํ กุลํ สีลวเนฺต อุทฺทิสฺส นิพทฺธทานํ, ตสฺมิํ กุเล ทลิทฺทานิปิ น อุปจฺฉินฺทนฺติฯ ตตฺริทํ วตฺถุ – อนาถปิณฺฑิกสฺส ฆเร ปญฺจ สลากภตฺตสตานิ ทียิํสุฯ ทนฺตมยสลากานํ ปญฺจสตานิ อเหสุํฯ อถ ตํ กุลํ อนุกฺกเมน ทาลิทฺทิเยน อภิภูตํฯ เอกา ตสฺมิํ กุเล ทาริกา เอกสลากโต อุทฺธํ ทาตุํ นาสกฺขิฯ สาปิ ปจฺฉา สาตวาหนํ รฎฺฐํ คนฺตฺวา ขลํ โสเธตฺวา ลทฺธธเญฺญน ตํ สลากํ อทาสิฯ เอโก เถโร รโญฺญ อาโรเจสิฯ ราชา ตํ อาเนตฺวา อคฺคมเหสิฎฺฐาเน ฐเปสิฯ สา ตโต ปฎฺฐาย ปุน ปญฺจปิ สลากสตานิ ปวเตฺตสิฯ

    39. Navame anukulayaññanti anukulaṃ kulānukkamaṃ upādāya dātabbadānaṃ. Tenāha ‘‘amhākaṃ…pe… kulānukulavasena yajitabba’’nti. Vaṃsaparamparāya pacchā duggatapurisehi padātabbadānaṃ. Evarūpaṃ kulaṃ sīlavante uddissa nibaddhadānaṃ, tasmiṃ kule daliddānipi na upacchindanti. Tatridaṃ vatthu – anāthapiṇḍikassa ghare pañca salākabhattasatāni dīyiṃsu. Dantamayasalākānaṃ pañcasatāni ahesuṃ. Atha taṃ kulaṃ anukkamena dāliddiyena abhibhūtaṃ. Ekā tasmiṃ kule dārikā ekasalākato uddhaṃ dātuṃ nāsakkhi. Sāpi pacchā sātavāhanaṃ raṭṭhaṃ gantvā khalaṃ sodhetvā laddhadhaññena taṃ salākaṃ adāsi. Eko thero rañño ārocesi. Rājā taṃ ānetvā aggamahesiṭṭhāne ṭhapesi. Sā tato paṭṭhāya puna pañcapi salākasatāni pavattesi.

    อสฺสเมธนฺติอาทีสุ โปราณกราชกาเล กิร สสฺสเมธํ, ปุริสเมธํ, สมฺมาปาสํ, วาจาเปยฺยนฺติ จตฺตาริ สงฺคหวตฺถูนิ อเหสุํ, เยหิ ราชาโน โลกํ สงฺคณฺหิํสุฯ ตตฺถ นิปฺผนฺนสสฺสโต ทสมภาคคฺคหณํ สสฺสเมธํ นาม, สสฺสสมฺปาทเน เมธาวิตาติ อโตฺถฯ มหาโยธานํ ฉมาสิกภตฺตเวตนานุปฺปทานํ ปุริสเมธํ นาม, ปุริสสงฺคณฺหเน เมธาวิตาติ อโตฺถฯ ทลิทฺทมนุสฺสานํ หเตฺถ เลขํ คเหตฺวา ตีณิ วสฺสานิ วินา วฑฺฒิยา สหสฺสทฺวิสหสฺสมตฺตธนานุปฺปทานํ สมฺมาปาสํ นามฯ ตญฺหิ สมฺมา มนุเสฺส ปาเสติ หทเย พนฺธิตฺวา วิย ฐเปติ, ตสฺมา สมฺมาปาสนฺติ วุจฺจติฯ ‘‘ตาต, มาตุลา’’ติอาทินา ปน สณฺหวาจาภณนํ วาจาเปยฺยํ นาม, เปยฺยวชฺชํ ปิยวจนตาติ อโตฺถฯ เอวํ จตูหิ วตฺถูหิ สงฺคหิตํ รฎฺฐํ อิทฺธเญฺจว โหติ ผีตญฺจ ปหูตอนฺนปานํ เขมํ นิรพฺพุทํ, มนุสฺสา มุทา โมทนา อุเร ปุเตฺต นเจฺจนฺตา อปารุตฆรทฺวารา วิหรนฺติฯ อิทํ ฆรทฺวาเรสุ อคฺคฬานํ อภาวโต นิรคฺคฬนฺติ วุจฺจติฯ อยํ โปราณิกา ปเวณีฯ อปรภาเค ปน โอกฺกากราชกาเล พฺราหฺมณา อิมานิ จตฺตาริ สงฺคหวตฺถูนิ อิมญฺจ รฎฺฐสมฺปตฺติํ ปริวเตฺตนฺตา อุมฺมูลํ กตฺวา อสฺสเมธํ ปุริสเมธนฺติอาทิเก ปญฺจ ยเญฺญ นาม อกํสุฯ วุตฺตเญฺหตํ ภควตา พฺราหฺมณธมฺมิยสุเตฺต

    Assamedhantiādīsu porāṇakarājakāle kira sassamedhaṃ, purisamedhaṃ, sammāpāsaṃ, vācāpeyyanti cattāri saṅgahavatthūni ahesuṃ, yehi rājāno lokaṃ saṅgaṇhiṃsu. Tattha nipphannasassato dasamabhāgaggahaṇaṃ sassamedhaṃ nāma, sassasampādane medhāvitāti attho. Mahāyodhānaṃ chamāsikabhattavetanānuppadānaṃ purisamedhaṃ nāma, purisasaṅgaṇhane medhāvitāti attho. Daliddamanussānaṃ hatthe lekhaṃ gahetvā tīṇi vassāni vinā vaḍḍhiyā sahassadvisahassamattadhanānuppadānaṃ sammāpāsaṃ nāma. Tañhi sammā manusse pāseti hadaye bandhitvā viya ṭhapeti, tasmā sammāpāsanti vuccati. ‘‘Tāta, mātulā’’tiādinā pana saṇhavācābhaṇanaṃ vācāpeyyaṃ nāma, peyyavajjaṃ piyavacanatāti attho. Evaṃ catūhi vatthūhi saṅgahitaṃ raṭṭhaṃ iddhañceva hoti phītañca pahūtaannapānaṃ khemaṃ nirabbudaṃ, manussā mudā modanā ure putte naccentā apārutagharadvārā viharanti. Idaṃ gharadvāresu aggaḷānaṃ abhāvato niraggaḷanti vuccati. Ayaṃ porāṇikā paveṇī. Aparabhāge pana okkākarājakāle brāhmaṇā imāni cattāri saṅgahavatthūni imañca raṭṭhasampattiṃ parivattentā ummūlaṃ katvā assamedhaṃ purisamedhantiādike pañca yaññe nāma akaṃsu. Vuttañhetaṃ bhagavatā brāhmaṇadhammiyasutte

    ‘‘เตสํ อาสิ วิปลฺลาโส, ทิสฺวาน อณุโต อณุํ…เป.…;

    ‘‘Tesaṃ āsi vipallāso, disvāna aṇuto aṇuṃ…pe…;

    เต ตตฺถ มเนฺต คเนฺถตฺวา, โอกฺกากํ ตทุปาคมุ’’นฺติฯ (สุ. นิ. ๓๐๑-๓๐๔);

    Te tattha mante ganthetvā, okkākaṃ tadupāgamu’’nti. (su. ni. 301-304);

    อิทานิ เตหิ ปริวเตฺตตฺวา ฐปิตมตฺถํ ทเสฺสโนฺต ‘‘อสฺสเมธ’’นฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ เมธนฺตีติ วเธนฺติฯ ทฺวีหิ ปริยเญฺญหีติ มหายญฺญสฺส ปุพฺพภาเค ปจฺฉา จ ปวเตฺตตเพฺพหิ ทฺวีหิ ปริวารยเญฺญหิฯ สตฺตนวุติปญฺจปสุสตฆาตภิํสนสฺสาติ สตฺตนวุตาธิกานํ ปญฺจนฺนํ ปสุสตานํ มารเณน เภรวสฺส ปาปภีรุกานํ ภยาวหสฺสฯ ตถา หิ วทนฺติ –

    Idāni tehi parivattetvā ṭhapitamatthaṃ dassento ‘‘assamedha’’ntiādimāha. Tattha medhantīti vadhenti. Dvīhi pariyaññehīti mahāyaññassa pubbabhāge pacchā ca pavattetabbehi dvīhi parivārayaññehi. Sattanavutipañcapasusataghātabhiṃsanassāti sattanavutādhikānaṃ pañcannaṃ pasusatānaṃ māraṇena bheravassa pāpabhīrukānaṃ bhayāvahassa. Tathā hi vadanti –

    ‘‘ฉสตานิ นิยุชฺชนฺติ, ปสูนํ มชฺฌิเม หนิ;

    ‘‘Chasatāni niyujjanti, pasūnaṃ majjhime hani;

    อสฺสเมธสฺส ยญฺญสฺส, อูนานิ ปสูหิ ตีหี’’ติฯ (สํ. นิ. ฎี. ๑.๑.๑๒๐);

    Assamedhassa yaññassa, ūnāni pasūhi tīhī’’ti. (saṃ. ni. ṭī. 1.1.120);

    สมฺมนฺติ ยุคจฺฉิเทฺท ปกฺขิปิตพฺพทณฺฑกํฯ ปาสนฺตีติ ขิปนฺติฯ สํหาริเมหีติ สกเฎหิ วหิตเพฺพหิฯ ปุเพฺพ กิร เอโก ราชา สมฺมาปาสํ ยชโนฺต สรสฺสตินทิตีเร ปถวิยา วิวเร ทิเนฺน นิมุโคฺคเยว อโหสิ, อนฺธพาลพฺราหฺมณา คตานุคติคตา ‘‘อยํ ตสฺส สคฺคคมนมโคฺค’’ติ สญฺญาย ตตฺถ สมฺมาปาสยญฺญํ ปฎฺฐเปนฺติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘นิมุโคฺคกาสโต ปภุตี’’ติฯ อยูโป อปฺปกทิวโส ยาโค, สยูโป พหุทิวสํ เนโยฺย สตฺรยาโคติฯ มนฺตปทาภิสงฺขตานํ สปฺปิมธูนํ วาชมิติ สมญฺญาฯ หิรญฺญสุวณฺณโคมหิํสาทิ สตฺตรสกทกฺขิณสฺสฯ สารคพฺภโกฎฺฐาคาราทีสุ นตฺถิ เอตฺถ อคฺคฬนฺติ นิรคฺคโฬฯ ตตฺถ กิร ยเญฺญ อตฺตโน สาปเตยฺยํ อนวเสสโต อนิคูหิตฺวา นิยฺยาตียติฯ

    Sammanti yugacchidde pakkhipitabbadaṇḍakaṃ. Pāsantīti khipanti. Saṃhārimehīti sakaṭehi vahitabbehi. Pubbe kira eko rājā sammāpāsaṃ yajanto sarassatinaditīre pathaviyā vivare dinne nimuggoyeva ahosi, andhabālabrāhmaṇā gatānugatigatā ‘‘ayaṃ tassa saggagamanamaggo’’ti saññāya tattha sammāpāsayaññaṃ paṭṭhapenti. Tena vuttaṃ ‘‘nimuggokāsato pabhutī’’ti. Ayūpo appakadivaso yāgo, sayūpo bahudivasaṃ neyyo satrayāgoti. Mantapadābhisaṅkhatānaṃ sappimadhūnaṃ vājamiti samaññā. Hiraññasuvaṇṇagomahiṃsādi sattarasakadakkhiṇassa. Sāragabbhakoṭṭhāgārādīsu natthi ettha aggaḷanti niraggaḷo. Tattha kira yaññe attano sāpateyyaṃ anavasesato anigūhitvā niyyātīyati.

    มหารมฺภาติ พหุปสุฆาตกมฺมาฯ อฎฺฐกถายํ ปน ‘‘วิวิธา ยตฺถ หญฺญเร’’ติ วกฺขมานตฺตา ‘‘มหากิจฺจา มหากรณียา’’ติ ปฐโม อตฺถวิกโปฺป วุโตฺตฯ ทุติโย ปน อตฺถวิกโปฺป ‘‘มหารมฺภาติ ปปญฺจวเสน อเชฬกา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘อปิจา’’ติอาทินา อารโทฺธฯ นิรารมฺภาติ เอตฺถาปิ วุตฺตนเยน อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ นนุ จ ปาณาติปาตาทิอกุสลกมฺมสฺส อปฺปมตฺตกมฺปิ ผลํ นุปลพฺภติ, ตสฺมา ตสฺส นิปฺผลภาวํ อวตฺวา ‘‘น เต โหนฺติ มหปฺผลา’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘นิรวเสสเตฺถ’’ติอาทิฯ อนุคตํ กุลนฺติ อนุกุลํ, กุลานุคตนฺติ อโตฺถฯ เย นิจฺจภตฺตาทิํ ปุพฺพปุริเสหิ ปฎฺฐปิตํ อปราปรํ อนุปจฺฉินฺทนฺตา มนุสฺสา ททนฺติ, เต อนุกุลํ ยชนฺติ นามฯ เตเนวาห ‘‘เย อเญฺญ อนุกุลํ ยชนฺตี’’ติอาทิฯ

    Mahārambhāti bahupasughātakammā. Aṭṭhakathāyaṃ pana ‘‘vividhā yattha haññare’’ti vakkhamānattā ‘‘mahākiccā mahākaraṇīyā’’ti paṭhamo atthavikappo vutto. Dutiyo pana atthavikappo ‘‘mahārambhāti papañcavasena ajeḷakā’’tiādi vuttanti adhippāyena ‘‘apicā’’tiādinā āraddho. Nirārambhāti etthāpi vuttanayena attho veditabbo. Nanu ca pāṇātipātādiakusalakammassa appamattakampi phalaṃ nupalabbhati, tasmā tassa nipphalabhāvaṃ avatvā ‘‘na te honti mahapphalā’’ti kasmā vuttanti āha ‘‘niravasesatthe’’tiādi. Anugataṃ kulanti anukulaṃ, kulānugatanti attho. Ye niccabhattādiṃ pubbapurisehi paṭṭhapitaṃ aparāparaṃ anupacchindantā manussā dadanti, te anukulaṃ yajanti nāma. Tenevāha ‘‘ye aññe anukulaṃ yajantī’’tiādi.

    อุชฺชยสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Ujjayasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๙. อุชฺชยสุตฺตํ • 9. Ujjayasuttaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๙. อุชฺชยสุตฺตวณฺณนา • 9. Ujjayasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact