Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๕. อุชฺฌานสญฺญิสุตฺตวณฺณนา
5. Ujjhānasaññisuttavaṇṇanā
๓๕. ปญฺจเม อุชฺฌานสญฺญิกาติ อุชฺฌานสญฺญี เทวโลโก นาม ปาฎิเยโกฺก นตฺถิ, อิมา ปน เทวตา ตถาคตสฺส จตุปจฺจยปริโภคํ นิสฺสาย อุชฺฌายมานา อาคตาฯ ตาสํ กิร เอวํ อโหสิ – ‘‘สมโณ โคตโม ภิกฺขูนํ ปํสุกูลจีวร-ปิณฺฑิยาโลป-รุกฺขมูลเสนาสนปูติมุตฺตเภสเชฺชหิ สโนฺตสเสฺสว ปริยนฺตการิตํ วเณฺณติ, สยํ ปน ปตฺตุณฺณทุกูล โขมาทีนิ ปณีตจีวรานิ ธาเรติ, ราชารหํ อุตฺตมํ โภชนํ ภุญฺชติ, เทววิมานกปฺปาย คนฺธกุฎิยา วรสยเน สยติ, สปฺปินวนีตาทีนิ เภสชฺชานิ ปฎิเสวติ, ทิวสํ มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสติ, วจนมสฺส อญฺญโต คจฺฉติ, กิริยา อญฺญโต’’ติ อุชฺฌายมานา อาคมิํสุฯ เตน ตาสํ ธมฺมสงฺคาหกเตฺถเรหิ ‘‘อุชฺฌานสญฺญิกา’’ติ นามํ คหิตํฯ
35. Pañcame ujjhānasaññikāti ujjhānasaññī devaloko nāma pāṭiyekko natthi, imā pana devatā tathāgatassa catupaccayaparibhogaṃ nissāya ujjhāyamānā āgatā. Tāsaṃ kira evaṃ ahosi – ‘‘samaṇo gotamo bhikkhūnaṃ paṃsukūlacīvara-piṇḍiyālopa-rukkhamūlasenāsanapūtimuttabhesajjehi santosasseva pariyantakāritaṃ vaṇṇeti, sayaṃ pana pattuṇṇadukūla khomādīni paṇītacīvarāni dhāreti, rājārahaṃ uttamaṃ bhojanaṃ bhuñjati, devavimānakappāya gandhakuṭiyā varasayane sayati, sappinavanītādīni bhesajjāni paṭisevati, divasaṃ mahājanassa dhammaṃ deseti, vacanamassa aññato gacchati, kiriyā aññato’’ti ujjhāyamānā āgamiṃsu. Tena tāsaṃ dhammasaṅgāhakattherehi ‘‘ujjhānasaññikā’’ti nāmaṃ gahitaṃ.
อญฺญถา สนฺตนฺติ อเญฺญนากาเรน ภูตํฯ นิกจฺจาติ นิกติยา วญฺจนาย, วเญฺจตฺวาติ อโตฺถฯ กิตวเสฺสวาติ กิตโว วุจฺจติ สากุณิโกฯ โส หิ อคุโมฺพว สมาโน สาขปณฺณาทิปฎิจฺฉาทเนน คุมฺพวณฺณํ ทเสฺสตฺวา อุปคเต โมรติตฺติราทโย สกุเณ มาเรตฺวา ทารภรณํ กโรติฯ อิติ ตสฺส กิตวสฺส อิมาย วญฺจนาย เอวํ วเญฺจตฺวา สกุณมํสโภชนํ วิย กุหกสฺสาปิ ปํสุกูเลน อตฺตานํ ปฎิจฺฉาเทตฺวา กถาเฉกตาย มหาชนํ วเญฺจตฺวา ขาทมานสฺส วิจรโตฯ ภุตฺตํ เถเยฺยน ตสฺส ตนฺติ สโพฺพปิ ตสฺส จตุปจฺจยปริโภโค เถเยฺยน ปริภุโตฺต นาม โหตีติ เทวตา ภควนฺตํ สนฺธาย วทติฯ ปริชานนฺติ ปณฺฑิตาติ อยํ การโก วา อการโก วาติ ปณฺฑิตา ชานนฺติฯ อิติ ตา เทวตา ‘‘ตถาคตาปิ มยเมว ปณฺฑิตา’’ติ มญฺญมานา เอวมาหํสุฯ
Aññathā santanti aññenākārena bhūtaṃ. Nikaccāti nikatiyā vañcanāya, vañcetvāti attho. Kitavassevāti kitavo vuccati sākuṇiko. So hi agumbova samāno sākhapaṇṇādipaṭicchādanena gumbavaṇṇaṃ dassetvā upagate moratittirādayo sakuṇe māretvā dārabharaṇaṃ karoti. Iti tassa kitavassa imāya vañcanāya evaṃ vañcetvā sakuṇamaṃsabhojanaṃ viya kuhakassāpi paṃsukūlena attānaṃ paṭicchādetvā kathāchekatāya mahājanaṃ vañcetvā khādamānassa vicarato. Bhuttaṃ theyyena tassa tanti sabbopi tassa catupaccayaparibhogo theyyena paribhutto nāma hotīti devatā bhagavantaṃ sandhāya vadati. Parijānanti paṇḍitāti ayaṃ kārako vā akārako vāti paṇḍitā jānanti. Iti tā devatā ‘‘tathāgatāpi mayameva paṇḍitā’’ti maññamānā evamāhaṃsu.
อถ ภควา นยิทนฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ ยายํ ปฎิปทา ทฬฺหาติ อยํ ธมฺมานุธมฺมปฎิปทา ทฬฺหา ถิราฯ ยาย ปฎิปทาย ธีรา ปณฺฑิตา อารมฺมณูปนิชฺฌาเนน ลกฺขณูปนิชฺฌาเนน จาติ ทฺวีหิ ฌาเนหิ ฌายิโน มารพนฺธนา ปมุจฺจนฺติ, ตํ ปฎิปทํ ภาสิตมเตฺตน วา สวนมเตฺตน วา โอกฺกมิตุํ ปฎิปชฺชิตุํ น สกฺกาติ อโตฺถฯ น เว ธีรา ปกุพฺพนฺตีติ ธีรา ปณฺฑิตา วิทิตฺวา โลกปริยายํ สงฺขารโลกสฺส อุทยพฺพยํ ญตฺวา จตุสจฺจธมฺมญฺจ อญฺญาย กิเลสนิพฺพาเนน นิพฺพุตา โลเก วิสตฺติกํ ติณฺณา เอวํ น กุพฺพนฺติ, มยํ เอวรูปานิ น กเถมาติ อโตฺถฯ
Atha bhagavā nayidantiādimāha. Tattha yāyaṃ paṭipadā daḷhāti ayaṃ dhammānudhammapaṭipadā daḷhā thirā. Yāya paṭipadāya dhīrā paṇḍitā ārammaṇūpanijjhānena lakkhaṇūpanijjhānena cāti dvīhi jhānehi jhāyino mārabandhanā pamuccanti, taṃ paṭipadaṃ bhāsitamattena vā savanamattena vā okkamituṃ paṭipajjituṃ na sakkāti attho. Na ve dhīrā pakubbantīti dhīrā paṇḍitā viditvā lokapariyāyaṃ saṅkhāralokassa udayabbayaṃ ñatvā catusaccadhammañca aññāya kilesanibbānena nibbutā loke visattikaṃ tiṇṇā evaṃ na kubbanti, mayaṃ evarūpāni na kathemāti attho.
ปถวิยํ ปติฎฺฐหิตฺวาติ ‘‘อยุตฺตํ อเมฺหหิ กตํ, อการกเมว มยํ การกวาเทน สมุทาจริมฺหา’’ติ ลชฺชมานา มหาพฺรหฺมนิ วิย ภควติ คารวํ ปจฺจุปฎฺฐเปตฺวา อคฺคิกฺขนฺธํ วิย ภควนฺตํ ทุราสทํ กตฺวา ปสฺสมานา อากาสโต โอตริตฺวา ภูมิยํ ฐตฺวาติ อโตฺถฯ อจฺจโยติ อปราโธฯ โน, ภเนฺต, อจฺจาคมาติ อเมฺห อติกฺกมฺม อภิภวิตฺวา ปวโตฺตฯ อาสาเทตพฺพนฺติ ฆฎฺฎยิตพฺพํฯ ตา กิร เทวตา ภควนฺตํ กาเยน วาจายาติ ทฺวีหิปิ ฆฎฺฎยิํสุฯ ตถาคตํ อวนฺทิตฺวา อากาเส ปติฎฺฐมานา กาเยน ฆฎฺฎยิํสุ, กิตโวปมํ อาหริตฺวา นานปฺปการกํ อสพฺภิวาทํ วทมานา วาจาย ฆฎฺฎยิํสุฯ ตสฺมา อาสาเทตพฺพํ อมญฺญิมฺหาติ อาหํสุฯ ปฎิคฺคณฺหาตูติ ขมตุฯ อายติํ สํวรายาติ อนาคเต สํวรณตฺถาย, ปุน เอวรูปสฺส อปราธสฺส โทสสฺส อกรณตฺถายฯ
Pathaviyaṃ patiṭṭhahitvāti ‘‘ayuttaṃ amhehi kataṃ, akārakameva mayaṃ kārakavādena samudācarimhā’’ti lajjamānā mahābrahmani viya bhagavati gāravaṃ paccupaṭṭhapetvā aggikkhandhaṃ viya bhagavantaṃ durāsadaṃ katvā passamānā ākāsato otaritvā bhūmiyaṃ ṭhatvāti attho. Accayoti aparādho. No, bhante, accāgamāti amhe atikkamma abhibhavitvā pavatto. Āsādetabbanti ghaṭṭayitabbaṃ. Tā kira devatā bhagavantaṃ kāyena vācāyāti dvīhipi ghaṭṭayiṃsu. Tathāgataṃ avanditvā ākāse patiṭṭhamānā kāyena ghaṭṭayiṃsu, kitavopamaṃ āharitvā nānappakārakaṃ asabbhivādaṃ vadamānā vācāya ghaṭṭayiṃsu. Tasmā āsādetabbaṃ amaññimhāti āhaṃsu. Paṭiggaṇhātūti khamatu. Āyatiṃ saṃvarāyāti anāgate saṃvaraṇatthāya, puna evarūpassa aparādhassa dosassa akaraṇatthāya.
สิตํ ปาตฺวากาสีติ อคฺคทเนฺต ทเสฺสโนฺต ปหฎฺฐาการํ ทเสฺสสิฯ กสฺมา? ตา กิร เทวตา น สภาเวน ขมาเปนฺติ, โลกิยมหาชนญฺจ สเทวเก โลเก อคฺคปุคฺคลํ ตถาคตญฺจ เอกสทิสํ กโรนฺติฯ อถ ภควา ‘‘ปรโต กถาย อุปฺปนฺนาย พุทฺธพลํ ทีเปตฺวา ปจฺฉา ขมิสฺสามี’’ติ สิตํ ปาตฺวากาสิฯ ภิโยฺยโส มตฺตายาติ อติเรกปฺปมาเณนฯ อิมํ คาถํ อภาสีติ กุปิโต เอส อมฺหากนฺติ มญฺญมานา อภาสิฯ
Sitaṃpātvākāsīti aggadante dassento pahaṭṭhākāraṃ dassesi. Kasmā? Tā kira devatā na sabhāvena khamāpenti, lokiyamahājanañca sadevake loke aggapuggalaṃ tathāgatañca ekasadisaṃ karonti. Atha bhagavā ‘‘parato kathāya uppannāya buddhabalaṃ dīpetvā pacchā khamissāmī’’ti sitaṃ pātvākāsi. Bhiyyoso mattāyāti atirekappamāṇena. Imaṃ gāthaṃ abhāsīti kupito esa amhākanti maññamānā abhāsi.
น ปฎิคณฺหตีติ น ขมติ นาธิวาเสติฯ โกปนฺตโรติ อพฺภนฺตเร อุปฺปนฺนโกโปฯ โทสครูติ โทสํ ครุํ กตฺวา อาทาย วิหรโนฺตฯ ส เวรํ ปฎิมุญฺจตีติ โส เอวรูโป คณฺฐิกํ ปฎิมุญฺจโนฺต วิย ตํ เวรํ อตฺตนิ ปฎิมุญฺจติ ฐเปติ, น ปฎินิสฺสชฺชตีติ อโตฺถฯ อจฺจโย เจ น วิเชฺชถาติ สเจ อจฺจายิกกมฺมํ น ภเวยฺยฯ โน จิธาปคตํ สิยาติ ยทิ อปราโธ นาม น ภาเวยฺยฯ เกนีธ กุสโล สิยาติ ยทิ เวรานิ น สเมฺมยฺยุํ, เกน การเณน กุสโล ภเวยฺยฯ
Na paṭigaṇhatīti na khamati nādhivāseti. Kopantaroti abbhantare uppannakopo. Dosagarūti dosaṃ garuṃ katvā ādāya viharanto. Sa veraṃ paṭimuñcatīti so evarūpo gaṇṭhikaṃ paṭimuñcanto viya taṃ veraṃ attani paṭimuñcati ṭhapeti, na paṭinissajjatīti attho. Accayo ce na vijjethāti sace accāyikakammaṃ na bhaveyya. No cidhāpagataṃ siyāti yadi aparādho nāma na bhāveyya. Kenīdha kusalo siyāti yadi verāni na sammeyyuṃ, kena kāraṇena kusalo bhaveyya.
กสฺสจฺจยาติ คาถาย กสฺส อติกฺกโม นตฺถิ? กสฺส อปราโธ นตฺถิ? โก สโมฺมหํ นาปชฺชติ? โก นิจฺจเมว ปณฺฑิโต นามาติ อโตฺถ? อิมํ กิร คาถํ ภณาปนตฺถํ ภควโต สิตปาตุกมฺมํฯ ตสฺมา อิทานิ เทวตานํ พุทฺธพลํ ทีเปตฺวา ขมิสฺสามีติ ตถาคตสฺส พุทฺธสฺสาติอาทิมาหฯ ตตฺถ ตถาคตสฺสาติ ตถา อาคโตติ เอวมาทีหิ การเณหิ ตถาคตสฺสฯ พุทฺธสฺสาติ จตุนฺนํ สจฺจานํ พุทฺธตฺตาทีหิ การเณหิ วิโมกฺขนฺติกปณฺณตฺติวเสน เอวํ ลทฺธนามสฺสฯ อจฺจยํ เทสยนฺตีนนฺติ ยํ วุตฺตํ ตุเมฺหหิ ‘‘อจฺจยํ เทสยนฺตีนํ…เป.… ส เวรํ ปฎิมุญฺจตี’’ติ, ตํ สาธุ วุตฺตํ, อหํ ปน ตํ เวรํ นาภินนฺทามิ น ปตฺถยามีติ อโตฺถฯ ปฎิคฺคณฺหามิ โวจฺจยนฺติ ตุมฺหากํ อปราธํ ขมามีติฯ ปญฺจมํฯ
Kassaccayāti gāthāya kassa atikkamo natthi? Kassa aparādho natthi? Ko sammohaṃ nāpajjati? Ko niccameva paṇḍito nāmāti attho? Imaṃ kira gāthaṃ bhaṇāpanatthaṃ bhagavato sitapātukammaṃ. Tasmā idāni devatānaṃ buddhabalaṃ dīpetvā khamissāmīti tathāgatassa buddhassātiādimāha. Tattha tathāgatassāti tathā āgatoti evamādīhi kāraṇehi tathāgatassa. Buddhassāti catunnaṃ saccānaṃ buddhattādīhi kāraṇehi vimokkhantikapaṇṇattivasena evaṃ laddhanāmassa. Accayaṃ desayantīnanti yaṃ vuttaṃ tumhehi ‘‘accayaṃ desayantīnaṃ…pe… sa veraṃ paṭimuñcatī’’ti, taṃ sādhu vuttaṃ, ahaṃ pana taṃ veraṃ nābhinandāmi na patthayāmīti attho. Paṭiggaṇhāmi voccayanti tumhākaṃ aparādhaṃ khamāmīti. Pañcamaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๕. อุชฺฌานสญฺญิสุตฺตํ • 5. Ujjhānasaññisuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๕. อุชฺฌานสญฺญิสุตฺตวณฺณนา • 5. Ujjhānasaññisuttavaṇṇanā