Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā

    ๓. อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา

    3. Ujjhāpanakasikkhāpadavaṇṇanā

    ๑๐๓. ตติยสิกฺขาปเท – ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ ภิกฺขู อุชฺฌาเปนฺตีติ ‘‘ฉนฺทาย ทโพฺพ มลฺลปุโตฺต’’ติอาทีนิ วทนฺตา ตํ อายสฺมนฺตํ เตหิ ภิกฺขูหิ อวชานาเปนฺติ, อวญฺญาย โอโลกาเปนฺติ, ลามกโต วา จินฺตาเปนฺตี’’ติ อโตฺถฯ ลกฺขณํ ปเนตฺถ สทฺทสตฺถานุสาเรน เวทิตพฺพํฯ โอชฺฌาเปนฺตีติปิ ปาโฐฯ อยเมวโตฺถ ฯ ฉนฺทายาติ ฉเนฺทน ปกฺขปาเตน; อตฺตโน อตฺตโน สนฺทิฎฺฐสมฺภตฺตานํ ปณีตานิ ปญฺญเปตีติ อธิปฺปาโยฯ ขิยฺยนฺตีติ ‘‘ฉนฺทาย ทโพฺพ มลฺลปุโตฺต’’ติอาทีนิ วทนฺตา ปกาเสนฺติฯ

    103. Tatiyasikkhāpade – dabbaṃ mallaputtaṃ bhikkhū ujjhāpentīti ‘‘chandāya dabbo mallaputto’’tiādīni vadantā taṃ āyasmantaṃ tehi bhikkhūhi avajānāpenti, avaññāya olokāpenti, lāmakato vā cintāpentī’’ti attho. Lakkhaṇaṃ panettha saddasatthānusārena veditabbaṃ. Ojjhāpentītipi pāṭho. Ayamevattho . Chandāyāti chandena pakkhapātena; attano attano sandiṭṭhasambhattānaṃ paṇītāni paññapetīti adhippāyo. Khiyyantīti ‘‘chandāya dabbo mallaputto’’tiādīni vadantā pakāsenti.

    ๑๐๕. อุชฺฌาปนเก ขิยฺยนเก ปาจิตฺติยนฺติ เอตฺถ เยน วจเนน อุชฺฌาเปนฺติ, ตํ อุชฺฌาปนกํฯ เยน จ ขิยฺยนฺติ ตํ ขิยฺยนกํฯ ตสฺมิํ อุชฺฌาปนเก ขิยฺยนเกฯ ปาจิตฺติยนฺติ วตฺถุทฺวเย ปาจิตฺติยทฺวยํ วุตฺตํฯ

    105.Ujjhāpanake khiyyanake pācittiyanti ettha yena vacanena ujjhāpenti, taṃ ujjhāpanakaṃ. Yena ca khiyyanti taṃ khiyyanakaṃ. Tasmiṃ ujjhāpanake khiyyanake. Pācittiyanti vatthudvaye pācittiyadvayaṃ vuttaṃ.

    ๑๐๖. อุชฺฌาปนกํ นาม อุปสมฺปนฺนํ สเงฺฆน สมฺมตํ เสนาสนปญฺญาปกํ วา…เป.… อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชนกํ วาติ เอเตสํ ปทานํ ‘‘มงฺกุกตฺตุกาโม’’ติ อิมินา สมฺพโนฺธฯ อวณฺณํ กตฺตุกาโม อยสํ กตฺตุกาโมติ อิเมสํ ปน วเสน อุปสมฺปนฺนนฺติอาทีสุ ‘‘อุปสมฺปนฺนสฺสา’’ติ เอวํ วิภตฺติวิปริณาโม กาตโพฺพฯ อุชฺฌาเปติ วา ขิยฺยติ วา อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ เอตฺถ ปน ยสฺมา ‘‘ขิยฺยนกํ นามา’’ติ เอวํ มาติกาปทํ อุทฺธริตฺวาปิ ‘‘อุชฺฌาปนกํ นามา’’ติ อิมสฺส ปทสฺส วุตฺตวิภโงฺคเยว วตฺตโพฺพ โหติ, อญฺญวาทกสิกฺขาปเท วิย อโญฺญ วิเสโส นตฺถิ, ตสฺมา ตํ วิสุํ อนุทฺธริตฺวา อวิภชิตฺวา นิคมนเมว เอกโต กตนฺติ เวทิตพฺพํฯ ธมฺมกเมฺม ธมฺมกมฺมสญฺญีติอาทีสุ ยํ ตสฺส อุปสมฺปนฺนสฺส สมฺมุติกมฺมํ กตํ ตเญฺจ ธมฺมกมฺมํ โหติ, โส จ ภิกฺขุ ตสฺมิํ ธมฺมกมฺมสญฺญี อุชฺฌาปนกญฺจ ขิยฺยนกญฺจ กโรติ, อถสฺส ตสฺมิํ อุชฺฌาปนเก จ ขิยฺยนเก จ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ อิมินา นเยน อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ

    106.Ujjhāpanakaṃ nāma upasampannaṃ saṅghena sammataṃ senāsanapaññāpakaṃ vā…pe… appamattakavissajjanakaṃ vāti etesaṃ padānaṃ ‘‘maṅkukattukāmo’’ti iminā sambandho. Avaṇṇaṃ kattukāmo ayasaṃ kattukāmoti imesaṃ pana vasena upasampannantiādīsu ‘‘upasampannassā’’ti evaṃ vibhattivipariṇāmo kātabbo. Ujjhāpeti vā khiyyati vā āpatti pācittiyassāti ettha pana yasmā ‘‘khiyyanakaṃ nāmā’’ti evaṃ mātikāpadaṃ uddharitvāpi ‘‘ujjhāpanakaṃ nāmā’’ti imassa padassa vuttavibhaṅgoyeva vattabbo hoti, aññavādakasikkhāpade viya añño viseso natthi, tasmā taṃ visuṃ anuddharitvā avibhajitvā nigamanameva ekato katanti veditabbaṃ. Dhammakamme dhammakammasaññītiādīsu yaṃ tassa upasampannassa sammutikammaṃ kataṃ tañce dhammakammaṃ hoti, so ca bhikkhu tasmiṃ dhammakammasaññī ujjhāpanakañca khiyyanakañca karoti, athassa tasmiṃ ujjhāpanake ca khiyyanake ca āpatti pācittiyassāti iminā nayena attho veditabbo.

    อนุปสมฺปนฺนํ อุชฺฌาเปติ วา ขิยฺยติ วาติ เอตฺถ อุปสมฺปนฺนํ สเงฺฆน สมฺมตํ อญฺญํ อนุปสมฺปนฺนํ อุชฺฌาเปติ อวชานาเปติ, ตสฺส วา ตํ สนฺติเก ขิยฺยตีติ อโตฺถฯ อุปสมฺปนฺนํ สเงฺฆน อสมฺมตนฺติ กมฺมวาจาย อสมฺมตํ เกวลํ ‘‘ตเวโส ภาโร’’ติ สเงฺฆน อาโรปิตภารํ ภิกฺขูนํ วา ผาสุวิหารตฺถาย สยเมว ตํ ภารํ วหนฺตํ, ยตฺร วา เทฺว ตโย ภิกฺขู วิหรนฺติ, ตตฺร วา ตาทิสํ กมฺมํ กโรนฺตนฺติ อธิปฺปาโยฯ อนุปสมฺปนฺนํ สเงฺฆน สมฺมตํ วา อสมฺมตํ วาติ เอตฺถ ปน กิญฺจาปิ อนุปสมฺปนฺนสฺส เตรส สมฺมุติโย ทาตุํ น วฎฺฎนฺติฯ อถ โข อุปสมฺปนฺนกาเล ลทฺธสมฺมุติโก ปจฺฉา อนุปสมฺปนฺนภาเว ฐิโต, ตํ สนฺธาย ‘‘สเงฺฆน สมฺมตํ วา’’ติ วุตฺตํฯ ยสฺส ปน พฺยตฺตสฺส สามเณรสฺส เกวลํ สเงฺฆน วา สมฺมเตน วา ภิกฺขุนา ‘‘ตฺวํ อิทํ กมฺมํ กโรหี’’ติ ภาโร กโต, ตาทิสํ สนฺธาย ‘‘อสมฺมตํ วา’’ติ วุตฺตํฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติฯ

    Anupasampannaṃujjhāpeti vā khiyyati vāti ettha upasampannaṃ saṅghena sammataṃ aññaṃ anupasampannaṃ ujjhāpeti avajānāpeti, tassa vā taṃ santike khiyyatīti attho. Upasampannaṃ saṅghena asammatanti kammavācāya asammataṃ kevalaṃ ‘‘taveso bhāro’’ti saṅghena āropitabhāraṃ bhikkhūnaṃ vā phāsuvihāratthāya sayameva taṃ bhāraṃ vahantaṃ, yatra vā dve tayo bhikkhū viharanti, tatra vā tādisaṃ kammaṃ karontanti adhippāyo. Anupasampannaṃ saṅghena sammataṃ vā asammataṃ vāti ettha pana kiñcāpi anupasampannassa terasa sammutiyo dātuṃ na vaṭṭanti. Atha kho upasampannakāle laddhasammutiko pacchā anupasampannabhāve ṭhito, taṃ sandhāya ‘‘saṅghena sammataṃ vā’’ti vuttaṃ. Yassa pana byattassa sāmaṇerassa kevalaṃ saṅghena vā sammatena vā bhikkhunā ‘‘tvaṃ idaṃ kammaṃ karohī’’ti bhāro kato, tādisaṃ sandhāya ‘‘asammataṃ vā’’ti vuttaṃ. Sesamettha uttānamevāti.

    ติสมุฎฺฐานํ – กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฎฺฐาติ, กิริยํ, สญฺญาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติฯ

    Tisamuṭṭhānaṃ – kāyacittato vācācittato kāyavācācittato ca samuṭṭhāti, kiriyaṃ, saññāvimokkhaṃ, sacittakaṃ, lokavajjaṃ, kāyakammaṃ, vacīkammaṃ, akusalacittaṃ, dukkhavedananti.

    อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทํ ตติยํฯ

    Ujjhāpanakasikkhāpadaṃ tatiyaṃ.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๒. ภูตคามวโคฺค • 2. Bhūtagāmavaggo

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๓. อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา • 3. Ujjhāpanakasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๓. อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา • 3. Ujjhāpanakasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๓. อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา • 3. Ujjhāpanakasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๓. อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทํ • 3. Ujjhāpanakasikkhāpadaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact