Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-อภินว-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-abhinava-ṭīkā |
๓. อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา
3. Ujjhāpanakasikkhāpadavaṇṇanā
เยน วจเนนาติ ‘‘ฉนฺทาย อิตฺถนฺนาโม อิทํ นาม กโรตี’’ติอาทิเกน เยน วจเนนฯ เตนาห ‘‘ฉนฺทายา’’ติอาทิฯ ตตฺถ ฉนฺทายาติ ฉเนฺทน ปกฺขปาเตนฯ ‘‘อกฺขราย วาเจตี’’ติอาทีสุ (ปาจิ. ๔๖) วิย ลิงฺควิปลฺลาโส เอสฯ อิทํ นาม กโรตีติ อตฺตโน สนฺทิฎฺฐสมฺภตฺตานํ ปณีตํ เสนาสนํ วา ปญฺญเปติ, ภตฺตาทิกํ วาติ อธิปฺปาโยฯ เสนาสนปญฺญาปกาทิเภทนฺติ เอตฺถ อาทิสเทฺทน ภตฺตุเทฺทสกยาคุภาชกผลภาชกาทีนํ คหณํฯ อเนกตฺถตฺตา ธาตูนํ เฌ-สโทฺท โอโลกนโตฺถปิ โหตีติ อาห ‘‘อวญฺญาย โอโลกาเปนฺตี’’ติฯ จินฺตนโตฺถเยว วา คเหตโพฺพติ อาห ‘‘ลามกโต วา จินฺตาเปนฺตี’’ติฯ ตเถว วทนฺตาติ ‘‘ฉนฺทาย อิตฺถนฺนาโม อิทํ นาม กโรตี’’ติอาทีนิ วทนฺตาฯ วุตฺตนฺติ ปาฬิยํ วุตฺตํฯ ‘‘ขิยฺยนเก’’ติ (ปาจิ. อฎฺฐ. ๑๐๕) อยเมตฺถ อนุปญฺญตฺติฯ
Yenavacanenāti ‘‘chandāya itthannāmo idaṃ nāma karotī’’tiādikena yena vacanena. Tenāha ‘‘chandāyā’’tiādi. Tattha chandāyāti chandena pakkhapātena. ‘‘Akkharāya vācetī’’tiādīsu (pāci. 46) viya liṅgavipallāso esa. Idaṃ nāma karotīti attano sandiṭṭhasambhattānaṃ paṇītaṃ senāsanaṃ vā paññapeti, bhattādikaṃ vāti adhippāyo. Senāsanapaññāpakādibhedanti ettha ādisaddena bhattuddesakayāgubhājakaphalabhājakādīnaṃ gahaṇaṃ. Anekatthattā dhātūnaṃ jhe-saddo olokanatthopi hotīti āha ‘‘avaññāya olokāpentī’’ti. Cintanatthoyeva vā gahetabboti āha ‘‘lāmakato vā cintāpentī’’ti. Tatheva vadantāti ‘‘chandāya itthannāmo idaṃ nāma karotī’’tiādīni vadantā. Vuttanti pāḷiyaṃ vuttaṃ. ‘‘Khiyyanake’’ti (pāci. aṭṭha. 105) ayamettha anupaññatti.
อสมฺมตสฺสาติ สเงฺฆน กมฺมวาจาย อสมฺมตสฺสฯ เกวลํ ‘‘ตเวโส ภาโร’’ติ สเงฺฆน อาโรปิตภารสฺส, ภิกฺขูนํ วา ผาสุวิหารตฺถาย สยเมว ภารํ วหนฺตสฺส, ยตฺร วา เทฺว ตโย ภิกฺขู วิหรนฺติ, ตตฺร ตาทิสํ กมฺมํ กโรนฺตสฺสาติ อธิปฺปาโยฯ ยสฺส กสฺสจีติ อุปสมฺปนฺนสฺส วา อนุปสมฺปนฺนสฺส วา ยสฺส กสฺสจิฯ อนุปสมฺปนฺนสฺส ปน สมฺมตสฺส วา อสมฺมตสฺส วาติ เอตฺถ ปน (ปาจิ. อฎฺฐ. ๑๐๖) กิญฺจาปิ อนุปสมฺปนฺนสฺส เตรส สมฺมติโย ทาตุํ น วฎฺฎนฺติ, ตถาปิ โย อุปสมฺปนฺนกาเล ลทฺธสมฺมุติโก ปจฺฉา อนุปสมฺปนฺนภาเว ฐิโต, ตํ สนฺธาย ‘‘สมฺมตสฺส วา’’ติ วุตฺตํฯ ยสฺส ปน พฺยตฺตสฺส สามเณรสฺส เกวลํ สเงฺฆน วา สมฺมเตน วา ภิกฺขุนา ‘‘ตฺวํ อิทํ กมฺมํ กโรหี’’ติ ภาโร กโต, ตํ สนฺธาย ‘‘อสมฺมตสฺส วา’’ติ วุตฺตํฯ ยสฺมา อุชฺฌาปนญฺจ ขิยฺยนญฺจ มุสาวาทวเสน ปวตฺตํ, ตสฺมา อาทิกมฺมิกสฺส อิมินาว อนาปตฺติ, มุสาวาเทน ปน อาปตฺติเยวาติ คเหตพฺพํฯ
Asammatassāti saṅghena kammavācāya asammatassa. Kevalaṃ ‘‘taveso bhāro’’ti saṅghena āropitabhārassa, bhikkhūnaṃ vā phāsuvihāratthāya sayameva bhāraṃ vahantassa, yatra vā dve tayo bhikkhū viharanti, tatra tādisaṃ kammaṃ karontassāti adhippāyo. Yassa kassacīti upasampannassa vā anupasampannassa vā yassa kassaci. Anupasampannassa pana sammatassa vā asammatassavāti ettha pana (pāci. aṭṭha. 106) kiñcāpi anupasampannassa terasa sammatiyo dātuṃ na vaṭṭanti, tathāpi yo upasampannakāle laddhasammutiko pacchā anupasampannabhāve ṭhito, taṃ sandhāya ‘‘sammatassa vā’’ti vuttaṃ. Yassa pana byattassa sāmaṇerassa kevalaṃ saṅghena vā sammatena vā bhikkhunā ‘‘tvaṃ idaṃ kammaṃ karohī’’ti bhāro kato, taṃ sandhāya ‘‘asammatassa vā’’ti vuttaṃ. Yasmā ujjhāpanañca khiyyanañca musāvādavasena pavattaṃ, tasmā ādikammikassa imināva anāpatti, musāvādena pana āpattiyevāti gahetabbaṃ.
อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Ujjhāpanakasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.