Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๔. อุกฺกเจลสุตฺตํ
4. Ukkacelasuttaṃ
๓๘๐. เอกํ สมยํ ภควา วชฺชีสุ วิหรติ อุกฺกเจลายํ คงฺคาย นทิยา ตีเร มหตา ภิกฺขุสเงฺฆน สทฺธิํ อจิรปรินิพฺพุเตสุ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุฯ เตน โข ปน สมเยน ภควา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อโชฺฌกาเส นิสิโนฺน โหติฯ
380. Ekaṃ samayaṃ bhagavā vajjīsu viharati ukkacelāyaṃ gaṅgāya nadiyā tīre mahatā bhikkhusaṅghena saddhiṃ aciraparinibbutesu sāriputtamoggallānesu. Tena kho pana samayena bhagavā bhikkhusaṅghaparivuto ajjhokāse nisinno hoti.
อถ โข ภควา ตุณฺหีภูตํ ภิกฺขุสงฺฆํ อนุวิโลเกตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อปิ มฺยายํ, ภิกฺขเว, ปริสา สุญฺญา วิย ขายติ ปรินิพฺพุเตสุ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุฯ อสุญฺญา เม, ภิกฺขเว, ปริสา โหติ , อนเปกฺขา ตสฺสํ ทิสายํ โหติ, ยสฺสํ ทิสายํ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา วิหรนฺติฯ เย หิ เต, ภิกฺขเว, อเหสุํ อตีตมทฺธานํ อรหโนฺต สมฺมาสมฺพุทฺธา, เตสมฺปิ ภควนฺตานํ เอตปฺปรมํเยว สาวกยุคํ 1 อโหสิ – เสยฺยถาปิ มยฺหํ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานาฯ เยปิ เต, ภิกฺขเว, ภวิสฺสนฺติ อนาคตมทฺธานํ อรหโนฺต สมฺมาสมฺพุทฺธา, เตสมฺปิ ภควนฺตานํ เอตปฺปรมํเยว สาวกยุคํ ภวิสฺสติ – เสยฺยถาปิ มยฺหํ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานาฯ อจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, สาวกานํ! อพฺภุตํ, ภิกฺขเว, สาวกานํ! สตฺถุ จ นาม สาสนกรา ภวิสฺสนฺติ โอวาทปฺปฎิกรา, จตุนฺนญฺจ ปริสานํ ปิยา ภวิสฺสนฺติ มนาปา ครุภาวนียา จ! อจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส, อพฺภุตํ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส! เอวรูเปปิ นาม สาวกยุเค ปรินิพฺพุเต นตฺถิ ตถาคตสฺส โสโก วา ปริเทโว วา! ตํ กุเตตฺถ, ภิกฺขเว, ลพฺภา! ยํ ตํ ชาตํ ภูตํ สงฺขตํ ปโลกธมฺมํ, ตํ วต มา ปลุชฺชีติ – เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหโต รุกฺขสฺส ติฎฺฐโต สารวโต เย มหนฺตตรา ขนฺธา เต ปลุเชฺชยฺยุํ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, มหโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส ติฎฺฐโต สารวโต สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา ปรินิพฺพุตาฯ ตํ กุเตตฺถ, ภิกฺขเว, ลพฺภา! ยํ ตํ ชาตํ ภูตํ สงฺขตํ ปโลกธมฺมํ, ตํ วต มา ปลุชฺชีติ – เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, อตฺตทีปา วิหรถ อตฺตสรณา อนญฺญสรณา, ธมฺมทีปา ธมฺมสรณา อนญฺญสรณาฯ
Atha kho bhagavā tuṇhībhūtaṃ bhikkhusaṅghaṃ anuviloketvā bhikkhū āmantesi – ‘‘api myāyaṃ, bhikkhave, parisā suññā viya khāyati parinibbutesu sāriputtamoggallānesu. Asuññā me, bhikkhave, parisā hoti , anapekkhā tassaṃ disāyaṃ hoti, yassaṃ disāyaṃ sāriputtamoggallānā viharanti. Ye hi te, bhikkhave, ahesuṃ atītamaddhānaṃ arahanto sammāsambuddhā, tesampi bhagavantānaṃ etapparamaṃyeva sāvakayugaṃ 2 ahosi – seyyathāpi mayhaṃ sāriputtamoggallānā. Yepi te, bhikkhave, bhavissanti anāgatamaddhānaṃ arahanto sammāsambuddhā, tesampi bhagavantānaṃ etapparamaṃyeva sāvakayugaṃ bhavissati – seyyathāpi mayhaṃ sāriputtamoggallānā. Acchariyaṃ, bhikkhave, sāvakānaṃ! Abbhutaṃ, bhikkhave, sāvakānaṃ! Satthu ca nāma sāsanakarā bhavissanti ovādappaṭikarā, catunnañca parisānaṃ piyā bhavissanti manāpā garubhāvanīyā ca! Acchariyaṃ, bhikkhave, tathāgatassa, abbhutaṃ, bhikkhave, tathāgatassa! Evarūpepi nāma sāvakayuge parinibbute natthi tathāgatassa soko vā paridevo vā! Taṃ kutettha, bhikkhave, labbhā! Yaṃ taṃ jātaṃ bhūtaṃ saṅkhataṃ palokadhammaṃ, taṃ vata mā palujjīti – netaṃ ṭhānaṃ vijjati. Seyyathāpi, bhikkhave, mahato rukkhassa tiṭṭhato sāravato ye mahantatarā khandhā te palujjeyyuṃ; evameva kho, bhikkhave, mahato bhikkhusaṅghassa tiṭṭhato sāravato sāriputtamoggallānā parinibbutā. Taṃ kutettha, bhikkhave, labbhā! Yaṃ taṃ jātaṃ bhūtaṃ saṅkhataṃ palokadhammaṃ, taṃ vata mā palujjīti – netaṃ ṭhānaṃ vijjati. Tasmātiha, bhikkhave, attadīpā viharatha attasaraṇā anaññasaraṇā, dhammadīpā dhammasaraṇā anaññasaraṇā.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺตทีโป วิหรติ อตฺตสรโณ อนญฺญสรโณ, ธมฺมทีโป ธมฺมสรโณ อนญฺญสรโณ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ; เวทนาสุ…เป.… จิเตฺต…เป.… ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺตทีโป วิหรติ อตฺตสรโณ อนญฺญสรโณ, ธมฺมทีโป ธมฺมสรโณ อนญฺญสรโณฯ เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, เอตรหิ วา มมจฺจเย วา อตฺตทีปา วิหริสฺสนฺติ อตฺตสรณา อนญฺญสรณา, ธมฺมทีปา ธมฺมสรณา อนญฺญสรณา; ตมตเคฺค เมเต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภวิสฺสนฺติ เย เกจิ สิกฺขากามา’’ติฯ จตุตฺถํฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu attadīpo viharati attasaraṇo anaññasaraṇo, dhammadīpo dhammasaraṇo anaññasaraṇo? Idha, bhikkhave, bhikkhu kāye kāyānupassī viharati ātāpī sampajāno satimā, vineyya loke abhijjhādomanassaṃ; vedanāsu…pe… citte…pe… dhammesu dhammānupassī viharati ātāpī sampajāno satimā, vineyya loke abhijjhādomanassaṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu attadīpo viharati attasaraṇo anaññasaraṇo, dhammadīpo dhammasaraṇo anaññasaraṇo. Ye hi keci, bhikkhave, etarahi vā mamaccaye vā attadīpā viharissanti attasaraṇā anaññasaraṇā, dhammadīpā dhammasaraṇā anaññasaraṇā; tamatagge mete, bhikkhave, bhikkhū bhavissanti ye keci sikkhākāmā’’ti. Catutthaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๔-๕. อุกฺกเจลสุตฺตาทิวณฺณนา • 4-5. Ukkacelasuttādivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๔-๕. อุกฺกเจลสุตฺตาทิวณฺณนา • 4-5. Ukkacelasuttādivaṇṇanā