Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมานวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Vimānavatthu-aṭṭhakathā

    ๓. ปาริจฺฉตฺตกวโคฺค

    3. Pāricchattakavaggo

    ๑. อุฬารวิมานวณฺณนา

    1. Uḷāravimānavaṇṇanā

    ปาริจฺฉตฺตกวเคฺค อุฬาโร เต ยโส วโณฺณติ อุฬารวิมานํฯ ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ เตน สมเยน ราชคเห อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส อุปฎฺฐากกุเล เอกา ทาริกา ทานชฺฌาสยา ทานสํวิภาครตา อโหสิฯ สา ยํ ตสฺมิํ เคเห ปุเรภตฺตํ ขาทนียโภชนียํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ อตฺตนา ลทฺธปฎิวีสโต อุปฑฺฒํ เทติ, อุปฑฺฒํ อตฺตนา ปริภุญฺชติ, อทตฺวา ปน น ภุญฺชติ, ทกฺขิเณเยฺย อปสฺสนฺตีปิ ฐเปตฺวา ทิฎฺฐกาเล เทติ, ยาจกานมฺปิ เทติเยวฯ อถสฺสา มาตา ‘‘มม ธีตา ทานชฺฌาสยา ทานสํวิภาครตา’’ติ หฎฺฐตุฎฺฐา ตสฺสา ทิคุณํ ภาคํ เทติฯ เทนฺตี จ เอกสฺมิํ ภาเค ตาย สํวิภาเค กเต ปุน อปรํ เทติ, สา ตโตปิ สํวิภาคํ กโรติเยวฯ

    Pāricchattakavagge uḷāro te yaso vaṇṇoti uḷāravimānaṃ. Tassa kā uppatti? Bhagavā rājagahe viharati veḷuvane kalandakanivāpe. Tena samayena rājagahe āyasmato mahāmoggallānassa upaṭṭhākakule ekā dārikā dānajjhāsayā dānasaṃvibhāgaratā ahosi. Sā yaṃ tasmiṃ gehe purebhattaṃ khādanīyabhojanīyaṃ uppajjati, tattha attanā laddhapaṭivīsato upaḍḍhaṃ deti, upaḍḍhaṃ attanā paribhuñjati, adatvā pana na bhuñjati, dakkhiṇeyye apassantīpi ṭhapetvā diṭṭhakāle deti, yācakānampi detiyeva. Athassā mātā ‘‘mama dhītā dānajjhāsayā dānasaṃvibhāgaratā’’ti haṭṭhatuṭṭhā tassā diguṇaṃ bhāgaṃ deti. Dentī ca ekasmiṃ bhāge tāya saṃvibhāge kate puna aparaṃ deti, sā tatopi saṃvibhāgaṃ karotiyeva.

    เอวํ คจฺฉเนฺต กาเล ตํ วยปฺปตฺตํ มาตาปิตโร ตสฺมิํเยว นคเร อญฺญตรสฺมิํ กุเล กุมารสฺส อทํสุฯ ตํ ปน กุลํ มิจฺฉาทิฎฺฐิกํ โหติ อสฺสทฺธํ อปฺปสนฺนํ ฯ อถายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ราชคเห สปทานํ ปิณฺฑาย จรมาโน ตสฺสา ทาริกาย สสุรสฺส เคหทฺวาเร อฎฺฐาสิฯ ตํ ทิสฺวา สา ทาริกา ปสนฺนจิตฺตา ‘‘ปวิสถ ภเนฺต’’ติ ปเวเสตฺวา วนฺทิตฺวา สสฺสุยา ฐปิตํ ปูวํ ตํ อปสฺสนฺตี ‘‘ตสฺสา กเถตฺวา อนุโมทาเปสฺสามี’’ติ วิสฺสาเสน คเหตฺวา เถรสฺส อทาสิ, เถโร อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิฯ ทาริกา ‘‘ตุเมฺหหิ ฐปิตํ ปูวํ มหาโมคฺคลฺลานเตฺถรสฺส อทาสิ’’นฺติ สสฺสุยา กเถสิฯ สา ตํ สุตฺวา ‘‘กินฺนามิทํ ปาคพฺภิยํ, อยํ มม สนฺตกํ อนาปุจฺฉิตฺวาว สมณสฺส อทาสี’’ติ ตํ กฎตฎายมานา โกธาภิภูตา ยุตฺตายุตฺตํ อจิเนฺตนฺตี ปุรโต ฐิตํ มุสลขณฺฑํ คเหตฺวา อํสกูเฎ ปหริฯ สา สุขุมาลตาย ปริกฺขีณายุกตาย จ เตเนว ปหาเรน พลวทุกฺขาภิภูตา หุตฺวา กติปาเหเนว กาลํ กตฺวา ตาวติํเสสุ นิพฺพตฺติฯ ตสฺสา สติปิ อญฺญสฺมิํ สุจริตกเมฺม เถรสฺส กตทานเมว สาติสยํ หุตฺวา อุปฎฺฐาสิฯ ตํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เหฎฺฐา วุตฺตนเยเนว คนฺตฺวา –

    Evaṃ gacchante kāle taṃ vayappattaṃ mātāpitaro tasmiṃyeva nagare aññatarasmiṃ kule kumārassa adaṃsu. Taṃ pana kulaṃ micchādiṭṭhikaṃ hoti assaddhaṃ appasannaṃ . Athāyasmā mahāmoggallāno rājagahe sapadānaṃ piṇḍāya caramāno tassā dārikāya sasurassa gehadvāre aṭṭhāsi. Taṃ disvā sā dārikā pasannacittā ‘‘pavisatha bhante’’ti pavesetvā vanditvā sassuyā ṭhapitaṃ pūvaṃ taṃ apassantī ‘‘tassā kathetvā anumodāpessāmī’’ti vissāsena gahetvā therassa adāsi, thero anumodanaṃ katvā pakkāmi. Dārikā ‘‘tumhehi ṭhapitaṃ pūvaṃ mahāmoggallānattherassa adāsi’’nti sassuyā kathesi. Sā taṃ sutvā ‘‘kinnāmidaṃ pāgabbhiyaṃ, ayaṃ mama santakaṃ anāpucchitvāva samaṇassa adāsī’’ti taṃ kaṭataṭāyamānā kodhābhibhūtā yuttāyuttaṃ acintentī purato ṭhitaṃ musalakhaṇḍaṃ gahetvā aṃsakūṭe pahari. Sā sukhumālatāya parikkhīṇāyukatāya ca teneva pahārena balavadukkhābhibhūtā hutvā katipāheneva kālaṃ katvā tāvatiṃsesu nibbatti. Tassā satipi aññasmiṃ sucaritakamme therassa katadānameva sātisayaṃ hutvā upaṭṭhāsi. Taṃ āyasmā mahāmoggallāno heṭṭhā vuttanayeneva gantvā –

    ๒๘๖.

    286.

    ‘‘อุฬาโร เต ยโส วโณฺณ, สพฺพา โอภาสเต ทิสา;

    ‘‘Uḷāro te yaso vaṇṇo, sabbā obhāsate disā;

    นาริโย นจฺจนฺติ คายนฺติ, เทวปุตฺตา อลงฺกตาฯ

    Nāriyo naccanti gāyanti, devaputtā alaṅkatā.

    ๒๘๗.

    287.

    ‘‘โมเทนฺติ ปริวาเรนฺติ, ตว ปูชาย เทวเต;

    ‘‘Modenti parivārenti, tava pūjāya devate;

    โสวณฺณานิ วิมานานิ, ตวิมานิ สุทสฺสเนฯ

    Sovaṇṇāni vimānāni, tavimāni sudassane.

    ๒๘๘.

    288.

    ‘‘ตุวํสิ อิสฺสรา เตสํ, สพฺพกามสมิทฺธินี;

    ‘‘Tuvaṃsi issarā tesaṃ, sabbakāmasamiddhinī;

    อภิชาตา มหนฺตาสิ, เทวกาเย ปโมทสิ;

    Abhijātā mahantāsi, devakāye pamodasi;

    เทวเต ปุจฺฉิตาจิกฺข, กิสฺส กมฺมสฺสิทํ ผล’’นฺติฯ –

    Devate pucchitācikkha, kissa kammassidaṃ phala’’nti. –

    ตีหิ คาถาหิ ปุจฺฉิฯ

    Tīhi gāthāhi pucchi.

    ๒๘๖. ตตฺถ ยโสติ ปริวาโรฯ วโณฺณติ วณฺณนิภา สรีโรภาโสฯ ‘‘อุฬาโร’’ติ ปน วิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา ตสฺสา เทวตาย ปริวารสมฺปตฺติ จ วณฺณสมฺปตฺติ จ วุตฺตา โหติฯ ตาสุ ‘‘อุฬาโร เต วโณฺณ’’ติ สเงฺขปโต วุตฺตํ วณฺณสมฺปตฺติํ วิสยวเสน วิตฺถารโต ทเสฺสตุํ ‘‘สพฺพา โอภาสเต ทิสา’’ติ วตฺวา ‘‘อุฬาโร เต ยโส’’ติ วุตฺตํ ปริวารสมฺปตฺติํ วตฺถุวเสน วิตฺถารโต ทเสฺสตุํ ‘‘นาริโย นจฺจนฺตี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ สพฺพา โอภาสเต ทิสาติ สพฺพาสุ ทิสาสุ วิโชฺชตเต, สพฺพา วา ทิสา โอภาสยเต, วิโชฺชตยตีติ อโตฺถฯ ‘‘โอภาสเต’’ติ ปทสฺส ‘‘โอภาสเนฺต’’ติ เกจิ วจนวิปลฺลาเสน อตฺถํ วทนฺติ, เตหิ ‘‘วเณฺณนา’’ติ วิภตฺติ วิปริณาเมตพฺพาฯ วเณฺณนาติ จ เหตุมฺหิ กรณวจนํ, วเณฺณน เหตุภูเตนาติ อโตฺถฯ ‘‘สพฺพา ทิสา’’ติ จ ชาติวเสน ทิสาสามเญฺญ อเปกฺขิเต วจนวิปลฺลาเสนปิ ปโยชนํ นตฺถิฯ นาริโยติ เอตฺถาปิ ‘‘อลงฺกตา’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํฯ เทวปุตฺตาติ เอตฺถ จ-สโทฺท ลุตฺตนิทฺทิโฎฺฐฯ เตน นาริโย เทวปุตฺตา จาติ สมุจฺจโย เวทิตโพฺพฯ

    286. Tattha yasoti parivāro. Vaṇṇoti vaṇṇanibhā sarīrobhāso. ‘‘Uḷāro’’ti pana visesetvā vuttattā tassā devatāya parivārasampatti ca vaṇṇasampatti ca vuttā hoti. Tāsu ‘‘uḷāro te vaṇṇo’’ti saṅkhepato vuttaṃ vaṇṇasampattiṃ visayavasena vitthārato dassetuṃ ‘‘sabbā obhāsate disā’’ti vatvā ‘‘uḷāro te yaso’’ti vuttaṃ parivārasampattiṃ vatthuvasena vitthārato dassetuṃ ‘‘nāriyo naccantī’’tiādi vuttaṃ. Tattha sabbā obhāsate disāti sabbāsu disāsu vijjotate, sabbā vā disā obhāsayate, vijjotayatīti attho. ‘‘Obhāsate’’ti padassa ‘‘obhāsante’’ti keci vacanavipallāsena atthaṃ vadanti, tehi ‘‘vaṇṇenā’’ti vibhatti vipariṇāmetabbā. Vaṇṇenāti ca hetumhi karaṇavacanaṃ, vaṇṇena hetubhūtenāti attho. ‘‘Sabbā disā’’ti ca jātivasena disāsāmaññe apekkhite vacanavipallāsenapi payojanaṃ natthi. Nāriyoti etthāpi ‘‘alaṅkatā’’ti padaṃ ānetvā sambandhitabbaṃ. Devaputtāti ettha ca-saddo luttaniddiṭṭho. Tena nāriyo devaputtā cāti samuccayo veditabbo.

    ๒๘๗. โมเทนฺตีติ ปโมทยนฺติฯ ปูชายาติ ปูชนตฺถํ ปูชานิมิตฺตํ วา, นจฺจนฺติ คายนฺตีติ โยชนาฯ ตวิมานีติ ตว อิมานิฯ

    287.Modentīti pamodayanti. Pūjāyāti pūjanatthaṃ pūjānimittaṃ vā, naccanti gāyantīti yojanā. Tavimānīti tava imāni.

    ๒๘๘. สพฺพกามสมิทฺธินีติ สเพฺพหิ ปญฺจหิ กามคุเณหิ, สเพฺพหิ วา ตยา กามิเตหิ อิจฺฉิเตหิ วตฺถูหิ สมิทฺธาฯ อภิชาตาติ สุชาตาฯ มหนฺตาสีติ มหตี มหานุภาวา อสิฯ เทวกาเย ปโมทสีติ อิมสฺมิํ เทวนิกาเย ทิพฺพสมฺปตฺติเหตุเกน ปรเมน ปโมทเนน ปโมทสิฯ

    288.Sabbakāmasamiddhinīti sabbehi pañcahi kāmaguṇehi, sabbehi vā tayā kāmitehi icchitehi vatthūhi samiddhā. Abhijātāti sujātā. Mahantāsīti mahatī mahānubhāvā asi. Devakāye pamodasīti imasmiṃ devanikāye dibbasampattihetukena paramena pamodanena pamodasi.

    เอวํ เถเรน ปุจฺฉิตา สา เทวตา ตมตฺถํ วิสฺสเชฺชสิ –

    Evaṃ therena pucchitā sā devatā tamatthaṃ vissajjesi –

    ๒๘๙.

    289.

    ‘‘อหํ มนุเสฺสสุ มนุสฺสภูตา, ปุริมาย ชาติยา มนุสฺสโลเก;

    ‘‘Ahaṃ manussesu manussabhūtā, purimāya jātiyā manussaloke;

    ทุสฺสีลกุเล สุณิสา อโหสิํ, อสฺสเทฺธสุ กทริเยสุ อหํฯ

    Dussīlakule suṇisā ahosiṃ, assaddhesu kadariyesu ahaṃ.

    ๒๙๐.

    290.

    ‘‘สทฺธา สีเลน สมฺปนฺนา, สํวิภาครตา สทา;

    ‘‘Saddhā sīlena sampannā, saṃvibhāgaratā sadā;

    ปิณฺฑาย จรมานสฺส, อปูวํ เต อทาสหํฯ

    Piṇḍāya caramānassa, apūvaṃ te adāsahaṃ.

    ๒๙๑.

    291.

    ‘‘ตทาหํ สสฺสุยาจิกฺขิํ, ‘สมโณ อาคโต อิธ;

    ‘‘Tadāhaṃ sassuyācikkhiṃ, ‘samaṇo āgato idha;

    ตสฺส อทาสหํ ปูวํ, ปสนฺนา เสหิ ปาณิภิ’ฯ

    Tassa adāsahaṃ pūvaṃ, pasannā sehi pāṇibhi’.

    ๒๙๒.

    292.

    ‘‘อิติสฺสา สสฺสุ ปริภาสิ, อวินีตาสิ ตฺวํ วธุ;

    ‘‘Itissā sassu paribhāsi, avinītāsi tvaṃ vadhu;

    น มํ สมฺปุจฺฉิตุํ อิจฺฉิ, ‘สมณสฺส ททามหํ’ฯ

    Na maṃ sampucchituṃ icchi, ‘samaṇassa dadāmahaṃ’.

    ๒๙๓.

    293.

    ‘‘ตโต เม สสฺสุ กุปิตา, ปหาสิ มุสเลน มํ;

    ‘‘Tato me sassu kupitā, pahāsi musalena maṃ;

    กูฎงฺคจฺฉิ อวธิ มํ, นาสกฺขิํ ชีวิตุํ จิรํฯ

    Kūṭaṅgacchi avadhi maṃ, nāsakkhiṃ jīvituṃ ciraṃ.

    ๒๙๔.

    294.

    ‘‘อหํ กายสฺส เภทา, วิปฺปมุตฺตา ตโต จุตา;

    ‘‘Ahaṃ kāyassa bhedā, vippamuttā tato cutā;

    เทวานํ ตาวติํสานํ, อุปปนฺนา สหพฺยตํฯ

    Devānaṃ tāvatiṃsānaṃ, upapannā sahabyataṃ.

    ๒๙๕.

    295.

    ‘‘เตน เมตาทิโส วโณฺณ…เป.…

    ‘‘Tena metādiso vaṇṇo…pe…

    วโณฺณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ

    Vaṇṇo ca me sabbadisā pabhāsatī’’ti.

    ๒๘๙. ตตฺถ อสฺสเทฺธสูติ รตนตฺตยสทฺธาย กมฺมผลสทฺธาย จ อภาเวน อสฺสเทฺธสุ, ถทฺธมจฺฉริยตาย กทริเยสุ สสฺสุอาทีสุ อหํ สทฺธา สีเลน สมฺปนฺนา อโหสินฺติ โยชนาฯ

    289. Tattha assaddhesūti ratanattayasaddhāya kammaphalasaddhāya ca abhāvena assaddhesu, thaddhamacchariyatāya kadariyesu sassuādīsu ahaṃ saddhā sīlena sampannā ahosinti yojanā.

    ๒๙๐-๑. อปูวนฺติ กปลฺลปูวํฯ เตติ นิปาตมตฺตํฯ สสฺสุยา อาจิกฺขิํ คหิตภาวญาปนตฺถญฺจ อนุโมทนตฺถญฺจาติ อธิปฺปาโยฯ

    290-1.Apūvanti kapallapūvaṃ. Teti nipātamattaṃ. Sassuyā ācikkhiṃ gahitabhāvañāpanatthañca anumodanatthañcāti adhippāyo.

    ๒๙๒. อิติสฺสาติ เอตฺถ อสฺสาติ นิปาตมตฺตํฯ สมณสฺส ททามหนฺติ อหํ สมณสฺส อปูวํ ททามีติฯ ยสฺมา น มํ สมฺปุจฺฉิตุํ อิจฺฉิ, ตสฺมา ตฺวํ วธุ อวินีตาสีติ สสฺสุ ปริภาสีติ โยชนาฯ

    292.Itissāti ettha assāti nipātamattaṃ. Samaṇassa dadāmahanti ahaṃ samaṇassa apūvaṃ dadāmīti. Yasmā na maṃ sampucchituṃ icchi, tasmā tvaṃ vadhu avinītāsīti sassu paribhāsīti yojanā.

    ๒๙๓. ปหาสีติ ปหริฯ กูฎงฺคจฺฉิ อวธิ มนฺติ เอตฺถ กูฎนฺติ อํสกูฎํ วุตฺตํ ปุริมปทโลเปน, กูฎเมว องฺคนฺติ กูฎงฺคํ, ตํ ฉินฺทตีติ กูฎงฺคจฺฉิฯ เอวํ โกธาภิภูตา หุตฺวา มํ อวธิ, มม อํสกูฎํ ฉินฺทิ, เตเนว อุปกฺกเมน มตตฺตา มํ มาเรสีติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘นาสกฺขิํ ชีวิตุํ จิร’’นฺติฯ

    293.Pahāsīti pahari. Kūṭaṅgacchi avadhi manti ettha kūṭanti aṃsakūṭaṃ vuttaṃ purimapadalopena, kūṭameva aṅganti kūṭaṅgaṃ, taṃ chindatīti kūṭaṅgacchi. Evaṃ kodhābhibhūtā hutvā maṃ avadhi, mama aṃsakūṭaṃ chindi, teneva upakkamena matattā maṃ māresīti attho. Tenāha ‘‘nāsakkhiṃ jīvituṃ cira’’nti.

    ๒๙๔. วิปฺปมุตฺตาติ ตโต ทุกฺขโต สุฎฺฐุ มุตฺตาฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ

    294.Vippamuttāti tato dukkhato suṭṭhu muttā. Sesaṃ vuttanayameva.

    อุฬารวิมานวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Uḷāravimānavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / วิมานวตฺถุปาฬิ • Vimānavatthupāḷi / ๑. อุฬารวิมานวตฺถุ • 1. Uḷāravimānavatthu


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact