Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā |
๒. อูนปญฺจพนฺธนสิกฺขาปทวณฺณนา
2. Ūnapañcabandhanasikkhāpadavaṇṇanā
๖๐๙. เตน สมเยนาติ อูนปญฺจพนฺธนสิกฺขาปทํฯ ตตฺถ น ยาเปตีติ โส กิร ยทิ อริยสาวโก นาภวิสฺสา, อญฺญถตฺตมฺปิ อคมิสฺสา, เอวํ เตหิ อุพฺพาโฬฺห, โสตาปนฺนตฺตา ปน เกวลํ สรีเรเนว น ยาเปติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘อตฺตนาปิ น ยาเปติ, ปุตฺตทาราปิสฺส กิลมนฺตี’’ติฯ
609.Tena samayenāti ūnapañcabandhanasikkhāpadaṃ. Tattha na yāpetīti so kira yadi ariyasāvako nābhavissā, aññathattampi agamissā, evaṃ tehi ubbāḷho, sotāpannattā pana kevalaṃ sarīreneva na yāpeti, tena vuttaṃ – ‘‘attanāpi na yāpeti, puttadārāpissa kilamantī’’ti.
๖๑๒-๓. อูนปญฺจพนฺธเนนาติ เอตฺถ อูนานิ ปญฺจ พนฺธนานิ อสฺสาติ อูนปญฺจพนฺธโน, นาสฺส ปญฺจ พนฺธนานิ ปูเรนฺตีติ อโตฺถ, เตน อูนปญฺจพนฺธเนนฯ อิตฺถมฺภูตสฺส ลกฺขเณ กรณวจนํฯ ตตฺถ ยสฺมา อพนฺธนสฺสาปิ ปญฺจ พนฺธนานิ น ปูเรนฺติ, สพฺพโส นตฺถิตาย, ตสฺมา ปทภาชเน ‘‘อพนฺธโน วา’’ติอาทิ วุตฺตํ ฯ ‘‘อูนปญฺจพนฺธเนนา’’ติ จ วุตฺตตฺตา ยสฺส ปญฺจพนฺธโน ปโตฺต โหติ, ตสฺส โส อปโตฺต, ตสฺมา อญฺญํ วิญฺญาเปตุํ วฎฺฎติฯ พนฺธนญฺจ นาเมตํ ยสฺมา พนฺธโนกาเส สติ โหติ, อสติ น โหติ, ตสฺมา ตสฺส ลกฺขณํ ทเสฺสตุํ ‘‘อพนฺธโนกาโส นามา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ
612-3.Ūnapañcabandhanenāti ettha ūnāni pañca bandhanāni assāti ūnapañcabandhano, nāssa pañca bandhanāni pūrentīti attho, tena ūnapañcabandhanena. Itthambhūtassa lakkhaṇe karaṇavacanaṃ. Tattha yasmā abandhanassāpi pañca bandhanāni na pūrenti, sabbaso natthitāya, tasmā padabhājane ‘‘abandhano vā’’tiādi vuttaṃ . ‘‘Ūnapañcabandhanenā’’ti ca vuttattā yassa pañcabandhano patto hoti, tassa so apatto, tasmā aññaṃ viññāpetuṃ vaṭṭati. Bandhanañca nāmetaṃ yasmā bandhanokāse sati hoti, asati na hoti, tasmā tassa lakkhaṇaṃ dassetuṃ ‘‘abandhanokāso nāmā’’tiādi vuttaṃ.
ทฺวงฺคุลา ราชิ น โหตีติ มุขวฎฺฎิโต เหฎฺฐา ทฺวงฺคุลปฺปมาณา เอกาปิ ราชิ น โหติฯ ยสฺส ทฺวงฺคุลา ราชิ โหตีติ ยสฺส ปน ตาทิสา เอกา ราชิ โหติ, โส ตสฺสา ราชิยา เหฎฺฐิมปริยเนฺต ปตฺตเวธเกน วิชฺฌิตฺวา ปจิตฺวา สุตฺตรชฺชุก-มกจิรชฺชุกาทีหิ วา ติปุสุตฺตเกน วา พนฺธิตโพฺพ, ตํ พนฺธนํ อามิสสฺส อลคฺคนตฺถํ ติปุปฎฺฎเกน วา เกนจิ พทฺธสิเลเสน วา ปฎิจฺฉาเทตพฺพํฯ โส จ ปโตฺต อธิฎฺฐหิตฺวา ปริภุญฺชิตโพฺพ, สุขุมํ วา ฉิทฺทํ กตฺวา พนฺธิตโพฺพฯ สุเทฺธหิ ปน มธุสิตฺถกลาขาสชฺชุลสาทีหิ พนฺธิตุํ น วฎฺฎติฯ ผาณิตํ ฌาเปตฺวา ปาสาณจุเณฺณน พนฺธิตุํ วฎฺฎติฯ มุขวฎฺฎิสมีเป ปน ปตฺตเวธเกน วิชฺฌิยมาโน กปาลสฺส พหลตฺตา ภิชฺชติ, ตสฺมา เหฎฺฐา วิชฺฌิตโพฺพฯ ยสฺส ปน เทฺว ราชิโย เอกาเยว วา จตุรงฺคุลา, ตสฺส เทฺว พนฺธนานิ ทาตพฺพานิฯ ยสฺส ติโสฺส เอกาเยว วา ฉฬงฺคุลา, ตสฺส ตีณิฯ ยสฺส จตโสฺส เอกาเยว วา อฎฺฐงฺคุลา, ตสฺส จตฺตาริฯ ยสฺส ปญฺจ เอกาเยว วา ทสงฺคุลา, โส พโทฺธปิ อพโทฺธปิ อปโตฺตเยว, อโญฺญ วิญฺญาเปตโพฺพฯ เอส ตาว มตฺติกาปเตฺต วินิจฺฉโยฯ
Dvaṅgulā rāji na hotīti mukhavaṭṭito heṭṭhā dvaṅgulappamāṇā ekāpi rāji na hoti. Yassa dvaṅgulā rāji hotīti yassa pana tādisā ekā rāji hoti, so tassā rājiyā heṭṭhimapariyante pattavedhakena vijjhitvā pacitvā suttarajjuka-makacirajjukādīhi vā tipusuttakena vā bandhitabbo, taṃ bandhanaṃ āmisassa alagganatthaṃ tipupaṭṭakena vā kenaci baddhasilesena vā paṭicchādetabbaṃ. So ca patto adhiṭṭhahitvā paribhuñjitabbo, sukhumaṃ vā chiddaṃ katvā bandhitabbo. Suddhehi pana madhusitthakalākhāsajjulasādīhi bandhituṃ na vaṭṭati. Phāṇitaṃ jhāpetvā pāsāṇacuṇṇena bandhituṃ vaṭṭati. Mukhavaṭṭisamīpe pana pattavedhakena vijjhiyamāno kapālassa bahalattā bhijjati, tasmā heṭṭhā vijjhitabbo. Yassa pana dve rājiyo ekāyeva vā caturaṅgulā, tassa dve bandhanāni dātabbāni. Yassa tisso ekāyeva vā chaḷaṅgulā, tassa tīṇi. Yassa catasso ekāyeva vā aṭṭhaṅgulā, tassa cattāri. Yassa pañca ekāyeva vā dasaṅgulā, so baddhopi abaddhopi apattoyeva, añño viññāpetabbo. Esa tāva mattikāpatte vinicchayo.
อโยปเตฺต ปน สเจปิ ปญฺจ วา อติเรกานิ วา ฉิทฺทานิ โหนฺติ, ตานิ เจ อยจุเณฺณน วา อาณิยา วา โลหมณฺฑลเกน วา พทฺธานิ มฎฺฐานิ โหนฺติ, เสฺวว ปโตฺต ปริภุญฺชิตโพฺพ, น อโญฺญ วิญฺญาเปตโพฺพฯ อถ ปน เอกมฺปิ ฉิทฺทํ มหนฺตํ โหติ, โลหมณฺฑลเกน พทฺธมฺปิ มฎฺฐํ น โหติ, ปเตฺต อามิสํ ลคฺคติ, อกปฺปิโย โหติ, อยํ อปโตฺตฯ อโญฺญ วิญฺญาเปตโพฺพฯ
Ayopatte pana sacepi pañca vā atirekāni vā chiddāni honti, tāni ce ayacuṇṇena vā āṇiyā vā lohamaṇḍalakena vā baddhāni maṭṭhāni honti, sveva patto paribhuñjitabbo, na añño viññāpetabbo. Atha pana ekampi chiddaṃ mahantaṃ hoti, lohamaṇḍalakena baddhampi maṭṭhaṃ na hoti, patte āmisaṃ laggati, akappiyo hoti, ayaṃ apatto. Añño viññāpetabbo.
๖๑๕. เถโร วตฺตโพฺพติ ปเตฺต อานิสํสํ ทเสฺสตฺวา ‘‘อยํ, ภเนฺต, ปโตฺต ปมาณยุโตฺต สุนฺทโร เถรานุรูโป, ตํ คณฺหถา’’ติ วตฺตโพฺพฯ โย น คเณฺหยฺยาติ อนุกมฺปาย น คณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฎํฯ โย ปน สนฺตุฎฺฐิยา ‘‘กิํ เม อเญฺญน ปเตฺตนา’’ติ น คณฺหาติ, ตสฺส อนาปตฺติฯ ปตฺตปริยโนฺตติ เอวํ ปริวเตฺตตฺวา ปริยเนฺต ฐิตปโตฺตฯ
615.Thero vattabboti patte ānisaṃsaṃ dassetvā ‘‘ayaṃ, bhante, patto pamāṇayutto sundaro therānurūpo, taṃ gaṇhathā’’ti vattabbo. Yo na gaṇheyyāti anukampāya na gaṇhantassa dukkaṭaṃ. Yo pana santuṭṭhiyā ‘‘kiṃ me aññena pattenā’’ti na gaṇhāti, tassa anāpatti. Pattapariyantoti evaṃ parivattetvā pariyante ṭhitapatto.
น อเทเสติ มญฺจปีฐฉตฺตนาคทนฺตกาทิเก อเทเส, น นิกฺขิปิตโพฺพฯ ยตฺถ ปุริมํ สุนฺทรํ ปตฺตํ ฐเปติ, ตเตฺถว ฐเปตโพฺพฯ ปตฺตสฺส หิ นิกฺขิปนเทโส ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาธารก’’นฺติอาทินา นเยน ขนฺธเก วุโตฺตเยวฯ
Na adeseti mañcapīṭhachattanāgadantakādike adese, na nikkhipitabbo. Yattha purimaṃ sundaraṃ pattaṃ ṭhapeti, tattheva ṭhapetabbo. Pattassa hi nikkhipanadeso ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ādhāraka’’ntiādinā nayena khandhake vuttoyeva.
น อโภเคนาติ ยาคุรนฺธนรชนปจนาทินา อปริโภเคน น ปริภุญฺชิตโพฺพฯ อนฺตรามเคฺค ปน พฺยาธิมฺหิ อุปฺปเนฺน อญฺญสฺมิํ ภาชเน อสติ มตฺติกาย ลิเมฺปตฺวา ยาคุํ วา ปจิตุํ อุทกํ วา ตาเปตุํ วฎฺฎติฯ
Naabhogenāti yāgurandhanarajanapacanādinā aparibhogena na paribhuñjitabbo. Antarāmagge pana byādhimhi uppanne aññasmiṃ bhājane asati mattikāya limpetvā yāguṃ vā pacituṃ udakaṃ vā tāpetuṃ vaṭṭati.
น วิสฺสเชฺชตโพฺพติ อญฺญสฺส น ทาตโพฺพฯ สเจ ปน สทฺธิวิหาริโก วา อเนฺตวาสิโก วา อญฺญํ วรปตฺตํ ฐเปตฺวา ‘‘อยํ มยฺหํ สารุโปฺป, อยํ เถรสฺสา’’ติ คณฺหาติ, วฎฺฎติฯ อโญฺญ วา ตํ คเหตฺวา อตฺตโน ปตฺตํ เทติ, วฎฺฎติฯ ‘‘มยฺหเมว ปตฺตํ อาหรา’’ติ วตฺตพฺพกิจฺจํ นตฺถิฯ
Na vissajjetabboti aññassa na dātabbo. Sace pana saddhivihāriko vā antevāsiko vā aññaṃ varapattaṃ ṭhapetvā ‘‘ayaṃ mayhaṃ sāruppo, ayaṃ therassā’’ti gaṇhāti, vaṭṭati. Añño vā taṃ gahetvā attano pattaṃ deti, vaṭṭati. ‘‘Mayhameva pattaṃ āharā’’ti vattabbakiccaṃ natthi.
๖๑๗. ปวาริตานนฺติ เอตฺถ สงฺฆวเสน ปวาริตฎฺฐาเน ปญฺจพนฺธเนเนว วฎฺฎติฯ ปุคฺคลวเสน ปวาริตฎฺฐาเน อูนปญฺจพนฺธเนนาปิ วฎฺฎตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวฯ
617.Pavāritānanti ettha saṅghavasena pavāritaṭṭhāne pañcabandhaneneva vaṭṭati. Puggalavasena pavāritaṭṭhāne ūnapañcabandhanenāpi vaṭṭatīti kurundiyaṃ vuttaṃ. Sesamettha uttānatthameva.
ฉสมุฎฺฐานํ , กิริยํ, โนสญฺญาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติฯ
Chasamuṭṭhānaṃ , kiriyaṃ, nosaññāvimokkhaṃ, acittakaṃ, paṇṇattivajjaṃ, kāyakammavacīkammaṃ, ticittaṃ, tivedananti.
อูนปญฺจพนฺธนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Ūnapañcabandhanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๒. อูนปญฺจพนฺธนสิกฺขาปทํ • 2. Ūnapañcabandhanasikkhāpadaṃ
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๒. อูนปญฺจพนฺธนสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Ūnapañcabandhanasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๒. อูนปญฺจพนฺธนสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Ūnapañcabandhanasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๒. อูนปญฺจพนฺธนสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Ūnapañcabandhanasikkhāpadavaṇṇanā