Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๒. อุณฺณาภพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา
2. Uṇṇābhabrāhmaṇasuttavaṇṇanā
๕๑๒. ทุติเย โคจรวิสยนฺติ โคจรภูตํ วิสยํฯ อญฺญมญฺญสฺสาติ จกฺขุ โสตสฺส, โสตํ วา จกฺขุสฺสาติ เอวํ เอกํ เอกสฺส โคจรวิสยํ น ปจฺจนุโภติฯ สเจ หิ นีลาทิเภทํ รูปารมฺมณํ สโมธาเนตฺวา โสตินฺทฺริยสฺส อุปเนยฺย – ‘‘อิงฺฆ ตฺวํ ตาว นํ ววตฺถเปหิ วิภาเวหิ ‘กินฺนาเมตํ อารมฺมณ’’’นฺติฯ จกฺขุวิญฺญาณํ วินาปิ มุเขน อตฺตโน ธมฺมตาย เอวํ วเทยฺย – ‘‘อเร, อนฺธพาล, วสฺสสตมฺปิ วสฺสสหสฺสมฺปิ วสฺสสตสหสฺสมฺปิ ปริธาวมาโน อญฺญตฺร มยา กุหิํ เอตสฺส ชานนกํ ลภิสฺสสิ, ตํ อาหร, จกฺขุปสาเท อุปเนหิ, อหเมตํ อารมฺมณํ ชานิสฺสามิ – ยทิ วา นีลํ, ยทิ วา ปีตกํฯ น หิ เอโส อญฺญสฺส วิสโย, มยฺหเมเวโส วิสโย’’ติฯ เสสทฺวาเรสุปิ เอเสว นโยฯ เอวเมตานิ อญฺญมญฺญสฺส โคจรวิสยํ น ปจฺจนุโภนฺติ นามฯ
512. Dutiye gocaravisayanti gocarabhūtaṃ visayaṃ. Aññamaññassāti cakkhu sotassa, sotaṃ vā cakkhussāti evaṃ ekaṃ ekassa gocaravisayaṃ na paccanubhoti. Sace hi nīlādibhedaṃ rūpārammaṇaṃ samodhānetvā sotindriyassa upaneyya – ‘‘iṅgha tvaṃ tāva naṃ vavatthapehi vibhāvehi ‘kinnāmetaṃ ārammaṇa’’’nti. Cakkhuviññāṇaṃ vināpi mukhena attano dhammatāya evaṃ vadeyya – ‘‘are, andhabāla, vassasatampi vassasahassampi vassasatasahassampi paridhāvamāno aññatra mayā kuhiṃ etassa jānanakaṃ labhissasi, taṃ āhara, cakkhupasāde upanehi, ahametaṃ ārammaṇaṃ jānissāmi – yadi vā nīlaṃ, yadi vā pītakaṃ. Na hi eso aññassa visayo, mayhameveso visayo’’ti. Sesadvāresupi eseva nayo. Evametāni aññamaññassa gocaravisayaṃ na paccanubhonti nāma.
กิํ ปฎิสรณนฺติ เอเตสํ กิํ ปฎิสรณํ, กิํ เอตานิ ปฎิสรนฺตีติ ปุจฺฉติฯ มโน ปฎิสรณนฺติ ชวนมโน ปฎิสรณํฯ มโนว เนสนฺติ มโนทฺวาริกชวนมโนว เอเตสํ โคจรวิสยํ รชฺชนาทิวเสน อนุโภติฯ จกฺขุวิญฺญาณญฺหิ รูปทสฺสนมตฺตเมว, เอตฺถ รชฺชนํ วา ทุสฺสนํ วา มุยฺหนํ วา นตฺถิฯ เอกสฺมิํ ปน ทฺวาเร ชวนํ รชฺชติ วา ทุสฺสติ วา มุยฺหติ วาฯ โสตวิญฺญาณาทีสุปิ เอเสว นโยฯ
Kiṃ paṭisaraṇanti etesaṃ kiṃ paṭisaraṇaṃ, kiṃ etāni paṭisarantīti pucchati. Mano paṭisaraṇanti javanamano paṭisaraṇaṃ. Manova nesanti manodvārikajavanamanova etesaṃ gocaravisayaṃ rajjanādivasena anubhoti. Cakkhuviññāṇañhi rūpadassanamattameva, ettha rajjanaṃ vā dussanaṃ vā muyhanaṃ vā natthi. Ekasmiṃ pana dvāre javanaṃ rajjati vā dussati vā muyhati vā. Sotaviññāṇādīsupi eseva nayo.
ตตฺรายํ อุปมา – ปญฺจ กิร ทุพฺพลโภชกา ราชานํ เสวิตฺวา กิเจฺฉน กสิเรน เอกสฺมิํ ปญฺจกุลิเก คาเม ปริตฺตกํ อายํ ลภิํสุฯ เตสํ ตตฺถ มจฺฉภาโค มํสภาโค, อทฺทุกหาปโณ วา โยตฺตกหาปโณ วา มาสกหาปโณ วา อฎฺฐกหาปโณ วา โสฬสกหาปโณ วา จตุสฎฺฐิกหาปโณ วา ทโณฺฑติ เอตฺตกมตฺตเมว ปาปุณาติ, สตวตฺถุกํ ปญฺจสตวตฺถุกํ สหสฺสวตฺถุกํ มหาพลิํ ราชาว คณฺหาติฯ
Tatrāyaṃ upamā – pañca kira dubbalabhojakā rājānaṃ sevitvā kicchena kasirena ekasmiṃ pañcakulike gāme parittakaṃ āyaṃ labhiṃsu. Tesaṃ tattha macchabhāgo maṃsabhāgo, addukahāpaṇo vā yottakahāpaṇo vā māsakahāpaṇo vā aṭṭhakahāpaṇo vā soḷasakahāpaṇo vā catusaṭṭhikahāpaṇo vā daṇḍoti ettakamattameva pāpuṇāti, satavatthukaṃ pañcasatavatthukaṃ sahassavatthukaṃ mahābaliṃ rājāva gaṇhāti.
ตตฺถ ปญฺจกุลิกคามา วิย ปญฺจปสาทา ทฎฺฐพฺพา, ปญฺจ ทุพฺพลโภชกา วิย ปญฺจวิญฺญาณานิ; ราชา วิย ชวนํ, ทุพฺพลโภชกานํ ปริตฺตกอายปาปุณนํ วิย จกฺขุวิญฺญาณาทีนํ รูปทสฺสนาทิมตฺตํ, รชฺชนาทิ ปน เอเตสุ นตฺถิ ฯ รโญฺญ มหาพลิคฺคหณํ วิย เตสุ ทฺวาเรสุ ชวนสฺส รชฺชนาทีนิ เวทิตพฺพานิฯ เอวเมตฺถ มโนติ กุสลากุสลชวนํ วุตฺตํฯ
Tattha pañcakulikagāmā viya pañcapasādā daṭṭhabbā, pañca dubbalabhojakā viya pañcaviññāṇāni; rājā viya javanaṃ, dubbalabhojakānaṃ parittakaāyapāpuṇanaṃ viya cakkhuviññāṇādīnaṃ rūpadassanādimattaṃ, rajjanādi pana etesu natthi . Rañño mahābaliggahaṇaṃ viya tesu dvāresu javanassa rajjanādīni veditabbāni. Evamettha manoti kusalākusalajavanaṃ vuttaṃ.
สติ ปฎิสรณนฺติ มคฺคสติ ปฎิสรณํฯ ชวนมโน หิ มคฺคสติํ ปฎิสรติฯ วิมุตฺตีติ ผลวิมุตฺติฯ ปฎิสรณนฺติ ผลวิมุตฺติยา นิพฺพานํ ปฎิสรณํฯ ตญฺหิ สา ปฎิสรติฯ นาสกฺขิ ปญฺหสฺส ปริยนฺตํ คเหตุนฺติ ปญฺหสฺส ปริเจฺฉทํ ปมาณํ คเหตุํ นาสกฺขิ, อปฺปฎิสรณํ ธมฺมํ ‘‘สปฺปฎิสรณ’’นฺติ ปุจฺฉิฯ นิพฺพานํ นาเมตํ อปฺปฎิสรณํ, น กิญฺจิ ปฎิสรติฯ นิพฺพาโนคธนฺติ นิพฺพานพฺภนฺตรํ นิพฺพานํ อนุปวิฎฺฐํฯ พฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยํฯ นิพฺพานปรายณนฺติ นิพฺพานํ ปรํ อยนมสฺส ปรา คติ, น ตโต ปรํ คจฺฉตีติ อโตฺถฯ นิพฺพานํ ปริโยสานํ อวสานํ อสฺสาติ นิพฺพานปริโยสานํฯ
Sati paṭisaraṇanti maggasati paṭisaraṇaṃ. Javanamano hi maggasatiṃ paṭisarati. Vimuttīti phalavimutti. Paṭisaraṇanti phalavimuttiyā nibbānaṃ paṭisaraṇaṃ. Tañhi sā paṭisarati. Nāsakkhi pañhassa pariyantaṃ gahetunti pañhassa paricchedaṃ pamāṇaṃ gahetuṃ nāsakkhi, appaṭisaraṇaṃ dhammaṃ ‘‘sappaṭisaraṇa’’nti pucchi. Nibbānaṃ nāmetaṃ appaṭisaraṇaṃ, na kiñci paṭisarati. Nibbānogadhanti nibbānabbhantaraṃ nibbānaṃ anupaviṭṭhaṃ. Brahmacariyanti maggabrahmacariyaṃ. Nibbānaparāyaṇanti nibbānaṃ paraṃ ayanamassa parā gati, na tato paraṃ gacchatīti attho. Nibbānaṃ pariyosānaṃ avasānaṃ assāti nibbānapariyosānaṃ.
มูลชาตา ปติฎฺฐิตาติ มเคฺคน อาคตสทฺธา วุจฺจติฯ อิมมฺหิ เจ, ภิกฺขเว, สมเยติ กิํ สนฺธายาห? ฌานอนาคามิตํฯ ตสฺมิญฺหิ สมเย พฺราหฺมณสฺส ปฐมมเคฺคน ปญฺจ อกุสลจิตฺตานิ ปหีนานิ, ปฐมชฺฌาเนน ปญฺจ นีวรณานีติ ฌานอนาคามิฎฺฐาเน ฐิโตฯ โส อปริหีนชฺฌาโน กาลํ กตฺวา ตเตฺถว ปรินิพฺพาเยยฺยฯ สเจ ปนสฺส ปุตฺตทารํ อนุสาสนฺตสฺส กมฺมเนฺต วิจาเรนฺตสฺส ฌานํ นสฺสติ, นเฎฺฐ ฌาเน คติ อนิพทฺธา โหติ, อนเฎฺฐ ปน นิพทฺธาติ อิมํ ฌานอนาคามิตํ สนฺธาย เอวมาหฯ
Mūlajātā patiṭṭhitāti maggena āgatasaddhā vuccati. Imamhi ce, bhikkhave, samayeti kiṃ sandhāyāha? Jhānaanāgāmitaṃ. Tasmiñhi samaye brāhmaṇassa paṭhamamaggena pañca akusalacittāni pahīnāni, paṭhamajjhānena pañca nīvaraṇānīti jhānaanāgāmiṭṭhāne ṭhito. So aparihīnajjhāno kālaṃ katvā tattheva parinibbāyeyya. Sace panassa puttadāraṃ anusāsantassa kammante vicārentassa jhānaṃ nassati, naṭṭhe jhāne gati anibaddhā hoti, anaṭṭhe pana nibaddhāti imaṃ jhānaanāgāmitaṃ sandhāya evamāha.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๒. อุณฺณาภพฺราหฺมณสุตฺตํ • 2. Uṇṇābhabrāhmaṇasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๒. อุณฺณาภพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา • 2. Uṇṇābhabrāhmaṇasuttavaṇṇanā