Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๒. อุปาทานสุตฺตวณฺณนา
2. Upādānasuttavaṇṇanā
๕๒. ทุติเย อุปาทานิเยสูติ จตุนฺนํ อุปาทานานํ ปจฺจเยสุ เตภูมกธเมฺมสุฯ อสฺสาทานุปสฺสิโนติ อสฺสาทํ อนุปสฺสนฺตสฺสฯ ตตฺราติ ตสฺมิํ อคฺคิกฺขเนฺธฯ ตทาหาโรติ ตํปจฺจโยฯ ตทุปาทาโนติ ตเสฺสว เววจนํฯ เอวเมว โขติ เอตฺถ อคฺคิกฺขโนฺธ วิย หิ ตโย ภวา, เตภูมกวฎฺฎนฺติปิ เอตเทว, อคฺคิชคฺคกปุริโส วิย วฎฺฎนิสฺสิโต พาลปุถุชฺชโน, สุกฺขติณโคมยาทิปกฺขิปนํ วิย อสฺสาทานุปสฺสิโน ปุถุชฺชนสฺส ตณฺหาทิวเสน ฉหิ ทฺวาเรหิ กุสลากุสลกมฺมกรณํฯ ติณโคมยาทีสุ ขีเณสุ ปุนปฺปุนํ เตสํ ปกฺขิปเนน อคฺคิกฺขนฺธสฺส วฑฺฒนํ วิย พาลปุถุชฺชนสฺส อุฎฺฐาย สมุฎฺฐาย ยถาวุตฺตกมฺมายูหเนน อปราปรํ วฎฺฎทุกฺขนิพฺพตฺตนํฯ
52. Dutiye upādāniyesūti catunnaṃ upādānānaṃ paccayesu tebhūmakadhammesu. Assādānupassinoti assādaṃ anupassantassa. Tatrāti tasmiṃ aggikkhandhe. Tadāhāroti taṃpaccayo. Tadupādānoti tasseva vevacanaṃ. Evamevakhoti ettha aggikkhandho viya hi tayo bhavā, tebhūmakavaṭṭantipi etadeva, aggijaggakapuriso viya vaṭṭanissito bālaputhujjano, sukkhatiṇagomayādipakkhipanaṃ viya assādānupassino puthujjanassa taṇhādivasena chahi dvārehi kusalākusalakammakaraṇaṃ. Tiṇagomayādīsu khīṇesu punappunaṃ tesaṃ pakkhipanena aggikkhandhassa vaḍḍhanaṃ viya bālaputhujjanassa uṭṭhāya samuṭṭhāya yathāvuttakammāyūhanena aparāparaṃ vaṭṭadukkhanibbattanaṃ.
น กาเลน กาลํ สุกฺขานิ เจว ติณานิ ปกฺขิเปยฺยาติ ตญฺหิ โกจิ อตฺถกาโม เอวํ วเทยฺย – ‘‘โภ กสฺมา อุฎฺฐาย สมุฎฺฐาย กลาเป พนฺธิตฺวา สุกฺขติณกฎฺฐานํ ปจฺฉิยญฺจ ปูเรตฺวา สุกฺขโคมยานิ ปกฺขิปโนฺต เอตํ อคฺคิํ ชาเลสิ? อปิ นุ เต อตฺถิ อิโตนิทานํ กาจิ วฑฺฒีติ? วํสาคตเมตํ โภ อมฺหากํ, อิโตนิทานํ ปน เม อวฑฺฒิเยว, กุโต วฑฺฒิ? อหญฺหิ อิมํ อคฺคิํ ชคฺคโนฺต เนว นฺหายิตุํ น ภุญฺชิตุํ น นิปชฺชิตุํ ลภามีติฯ เตน หิ โภ กิํ เต อิมินา นิรตฺถเกน อคฺคิชาลเนน? เอหิ ตฺวํ เอตานิ อาภตานิ ติณาทีนิ เอตฺถ นิกฺขิป, ตานิ สยเมว ฌายิสฺสนฺติ, ตฺวํ ปน อสุกสฺมิํ ฐาเน สีโตทกา โปกฺขรณี อตฺถิ, ตตฺถ นฺหตฺวา, มาลาคนฺธวิเลปเนหิ อตฺตานํ มเณฺฑตฺวา สุนิวโตฺถ สุปารุโตว ปาทุกาหิ นครํ ปวิสิตฺวา ปาสาทวรมารุยฺห วาตปานํ วิวริตฺวา มหาวีถิยํ วิโรจมาโน นิสีท เอกโคฺค สุขสมปฺปิโต หุตฺวา, ตตฺถ เต นิสินฺนสฺส ติณาทีนํ ขเยน สยเมว อยํ อคฺคิ อปฺปณฺณตฺติภาวํ คมิสฺสตี’’ติฯ โส ตถา กเรยฺยฯ ตเถว จ ตตฺถ นิสินฺนสฺส โส อคฺคิ อุปาทานกฺขเยน อปฺปณฺณตฺติภาวํ คเจฺฉยฺยฯ อิทํ สนฺธาเยตํ ‘‘น กาเลน กาล’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ
Na kālena kālaṃ sukkhāni ceva tiṇāni pakkhipeyyāti tañhi koci atthakāmo evaṃ vadeyya – ‘‘bho kasmā uṭṭhāya samuṭṭhāya kalāpe bandhitvā sukkhatiṇakaṭṭhānaṃ pacchiyañca pūretvā sukkhagomayāni pakkhipanto etaṃ aggiṃ jālesi? Api nu te atthi itonidānaṃ kāci vaḍḍhīti? Vaṃsāgatametaṃ bho amhākaṃ, itonidānaṃ pana me avaḍḍhiyeva, kuto vaḍḍhi? Ahañhi imaṃ aggiṃ jagganto neva nhāyituṃ na bhuñjituṃ na nipajjituṃ labhāmīti. Tena hi bho kiṃ te iminā niratthakena aggijālanena? Ehi tvaṃ etāni ābhatāni tiṇādīni ettha nikkhipa, tāni sayameva jhāyissanti, tvaṃ pana asukasmiṃ ṭhāne sītodakā pokkharaṇī atthi, tattha nhatvā, mālāgandhavilepanehi attānaṃ maṇḍetvā sunivattho supārutova pādukāhi nagaraṃ pavisitvā pāsādavaramāruyha vātapānaṃ vivaritvā mahāvīthiyaṃ virocamāno nisīda ekaggo sukhasamappito hutvā, tattha te nisinnassa tiṇādīnaṃ khayena sayameva ayaṃ aggi appaṇṇattibhāvaṃ gamissatī’’ti. So tathā kareyya. Tatheva ca tattha nisinnassa so aggi upādānakkhayena appaṇṇattibhāvaṃ gaccheyya. Idaṃ sandhāyetaṃ ‘‘na kālena kāla’’ntiādi vuttaṃ.
เอวเมว โขติ เอตฺถ ปน อิทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – จตฺตาลีสาย กฎฺฐวาหานํ ชลมาโน มหาอคฺคิกฺขโนฺธ วิย หิ เตภูมกวฎฺฎํ ทฎฺฐพฺพํ, อคฺคิชคฺคนกปุริโส วิย วฎฺฎสนฺนิสฺสิตโก โยคาวจโร, อตฺถกาโม ปุริโส วิย สมฺมาสมฺพุโทฺธ, เตน ปุริเสน ตสฺส ทินฺนโอวาโท วิย ตถาคเตน ‘‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, เตภูมกธเมฺมสุ นิพฺพินฺท, เอวํ วฎฺฎทุกฺขา มุจฺจิสฺสสี’’ติ ตสฺส เตภูมกธเมฺมสุ กมฺมฎฺฐานสฺส กถิตกาโล, ตสฺส ปุริสสฺส ยถานุสิฎฺฐํ ปฎิปชฺชิตฺวา ปาสาเท นิสินฺนกาโล วิย โยคิโน สุคโตวาทํ สมฺปฎิจฺฉิตฺวา สุญฺญาคารํ ปวิฎฺฐสฺส เตภูมกธเมฺมสุ วิปสฺสนํ ปฎฺฐเปตฺวา อนุกฺกเมน ยถานุรูปํ อาหารสปฺปายาทิํ ลภิตฺวา, เอกาสเน นิสินฺนสฺส อคฺคผเล ปติฎฺฐิตกาโล, ตสฺส นฺหานวิเลปนาทีหิ สุโธตมณฺฑิตกายตฺตา ตสฺมิํ นิสินฺนสฺส เอกคฺคสุขสมปฺปิตกาโล วิย โยคิโน อริยมคฺคโปกฺขรณิยํ มคฺคญาโณทเกน สุนฺหาตสุโธตกิเลสมลสฺส หิโรตฺตปฺปสาฎเก นิวาเสตฺวา สีลวิเลปนานุลิตฺตสฺส อรหตฺตมณฺฑเนน อตฺตภาวํ มเณฺฑตฺวา วิมุตฺติปุปฺผทามํ ปิฬนฺธิตฺวา อิทฺธิปาทปาทุกา อารุยฺห นิพฺพานนครํ ปวิสิตฺวา ธมฺมปาสาทํ อารุยฺห สติปฎฺฐานมหาวีถิยํ วิโรจมานสฺส นิพฺพานารมฺมณํ ผลสมาปตฺติํ อเปฺปตฺวา นิสินฺนกาโลฯ ตสฺส ปน ปุริสสฺส ตสฺมิํ นิสินฺนสฺส ติณาทีนํ ขเยน อคฺคิกฺขนฺธสฺส อปฺปณฺณตฺติคมนกาโล วิย ขีณาสวสฺส ยาวตายุกํ ฐตฺวา อุปาทิณฺณกกฺขนฺธเภเทน อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุตสฺส มหาวฎฺฎวูปสโม ทฎฺฐโพฺพฯ ทุติยํฯ
Evameva khoti ettha pana idaṃ opammasaṃsandanaṃ – cattālīsāya kaṭṭhavāhānaṃ jalamāno mahāaggikkhandho viya hi tebhūmakavaṭṭaṃ daṭṭhabbaṃ, aggijagganakapuriso viya vaṭṭasannissitako yogāvacaro, atthakāmo puriso viya sammāsambuddho, tena purisena tassa dinnaovādo viya tathāgatena ‘‘ehi tvaṃ, bhikkhu, tebhūmakadhammesu nibbinda, evaṃ vaṭṭadukkhā muccissasī’’ti tassa tebhūmakadhammesu kammaṭṭhānassa kathitakālo, tassa purisassa yathānusiṭṭhaṃ paṭipajjitvā pāsāde nisinnakālo viya yogino sugatovādaṃ sampaṭicchitvā suññāgāraṃ paviṭṭhassa tebhūmakadhammesu vipassanaṃ paṭṭhapetvā anukkamena yathānurūpaṃ āhārasappāyādiṃ labhitvā, ekāsane nisinnassa aggaphale patiṭṭhitakālo, tassa nhānavilepanādīhi sudhotamaṇḍitakāyattā tasmiṃ nisinnassa ekaggasukhasamappitakālo viya yogino ariyamaggapokkharaṇiyaṃ maggañāṇodakena sunhātasudhotakilesamalassa hirottappasāṭake nivāsetvā sīlavilepanānulittassa arahattamaṇḍanena attabhāvaṃ maṇḍetvā vimuttipupphadāmaṃ piḷandhitvā iddhipādapādukā āruyha nibbānanagaraṃ pavisitvā dhammapāsādaṃ āruyha satipaṭṭhānamahāvīthiyaṃ virocamānassa nibbānārammaṇaṃ phalasamāpattiṃ appetvā nisinnakālo. Tassa pana purisassa tasmiṃ nisinnassa tiṇādīnaṃ khayena aggikkhandhassa appaṇṇattigamanakālo viya khīṇāsavassa yāvatāyukaṃ ṭhatvā upādiṇṇakakkhandhabhedena anupādisesāya nibbānadhātuyā parinibbutassa mahāvaṭṭavūpasamo daṭṭhabbo. Dutiyaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๒. อุปาทานสุตฺตํ • 2. Upādānasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๒. อุปาทานสุตฺตวณฺณนา • 2. Upādānasuttavaṇṇanā