Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā |
อุปชฺฌายวตฺตกถา
Upajjhāyavattakathā
๖๔-๕. อนุปชฺฌายกาติ วชฺชาวชฺชํ อุปนิชฺฌายเกน ครุนา วิรหิตาฯ อนากปฺปสมฺปนฺนาติ น อากเปฺปน สมฺปนฺนา; สมณสารุปฺปาจารวิรหิตาติ อโตฺถ ฯ อุปริโภชเนติ โภชนสฺส อุปริฯ อุตฺติฎฺฐปตฺตนฺติ ปิณฺฑาย จรณกปตฺตํฯ ตสฺมิญฺหิ มนุสฺสา อุจฺฉิฎฺฐสญฺญิโน, ตสฺมา อุตฺติฎฺฐปตฺตนฺติ วุตฺตํฯ อถ วา อุฎฺฐหิตฺวา ปตฺตํ อุปนาเมนฺตีติ เอวเมฺปตฺถ อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ อนุชานามิ ภิกฺขเว อุปชฺฌายนฺติ อุปชฺฌายํ คเหตุํ อนุชานามีติ อโตฺถฯ ปุตฺตจิตฺตํ อุปฎฺฐเปสฺสตีติ ปุโตฺต เม อยนฺติ เอวํ เคหสฺสิตเปมวเสน จิตฺตํ อุปฎฺฐเปสฺสติฯ เอส นโย ทุติยปเทปิฯ สคารวา สปฺปติสฺสาติ ครุภาวเญฺจว เชฎฺฐกภาวญฺจ อุปฎฺฐเปตฺวาฯ สภาควุตฺติโนติ สภาคชีวิกาฯ สาหูติ วาติอาทีนิ ปญฺจ ปทานิ อุปชฺฌายภาวสมฺปฎิจฺฉนเววจนานิฯ กาเยน วิญฺญาเปตีติ เอวํ สทฺธิวิหาริเกน ‘‘อุปชฺฌาโย เม ภเนฺต โหหี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วุเตฺต สเจ อุปชฺฌาโย ‘‘สาหู’’ติอาทีสุ ปญฺจสุ ปเทสุ ยสฺส กสฺสจิ ปทสฺส วเสน กาเยน วา วาจาย วา กายวาจาหิ วา ‘‘คหิโต ตยา อุปชฺฌาโย’’ติ อุปชฺฌายคฺคหณํ วิญฺญาเปติ, คหิโต โหติ อุปชฺฌาโยฯ อิทเมว หิ เอตฺถ อุปชฺฌายคฺคหณํ, ยทิทํ อุปชฺฌายสฺส อิเมสุ ปญฺจสุ ปเทสุ ยสฺส กสฺสจิ ปทสฺส วาจาย วา สาวนํ กาเยน วา อตฺถวิญฺญาปนนฺติฯ เกจิ ปน สาธูติ สมฺปฎิจฺฉนํ สนฺธาย วทนฺติฯ น ตํ ปมาณํ, อายาจนทานมเตฺตน หิ คหิโต โหติ อุปชฺฌาโย, น เอตฺถ สมฺปฎิจฺฉนํ องฺคํฯ สทฺธิวิหาริเกนาปิ น เกวลํ อิมินา เม ปเทน อุปชฺฌาโย คหิโตติ ญาตุํ วฎฺฎติฯ ‘‘อชฺชตเคฺค ทานิ เถโร มยฺหํ ภาโร, อหมฺปิ เถรสฺส ภาโร’’ติ อิทมฺปิ ญาตุํ วฎฺฎติฯ
64-5.Anupajjhāyakāti vajjāvajjaṃ upanijjhāyakena garunā virahitā. Anākappasampannāti na ākappena sampannā; samaṇasāruppācāravirahitāti attho . Uparibhojaneti bhojanassa upari. Uttiṭṭhapattanti piṇḍāya caraṇakapattaṃ. Tasmiñhi manussā ucchiṭṭhasaññino, tasmā uttiṭṭhapattanti vuttaṃ. Atha vā uṭṭhahitvā pattaṃ upanāmentīti evampettha attho daṭṭhabbo. Anujānāmi bhikkhave upajjhāyanti upajjhāyaṃ gahetuṃ anujānāmīti attho. Puttacittaṃ upaṭṭhapessatīti putto me ayanti evaṃ gehassitapemavasena cittaṃ upaṭṭhapessati. Esa nayo dutiyapadepi. Sagāravā sappatissāti garubhāvañceva jeṭṭhakabhāvañca upaṭṭhapetvā. Sabhāgavuttinoti sabhāgajīvikā. Sāhūti vātiādīni pañca padāni upajjhāyabhāvasampaṭicchanavevacanāni. Kāyena viññāpetīti evaṃ saddhivihārikena ‘‘upajjhāyo me bhante hohī’’ti tikkhattuṃ vutte sace upajjhāyo ‘‘sāhū’’tiādīsu pañcasu padesu yassa kassaci padassa vasena kāyena vā vācāya vā kāyavācāhi vā ‘‘gahito tayā upajjhāyo’’ti upajjhāyaggahaṇaṃ viññāpeti, gahito hoti upajjhāyo. Idameva hi ettha upajjhāyaggahaṇaṃ, yadidaṃ upajjhāyassa imesu pañcasu padesu yassa kassaci padassa vācāya vā sāvanaṃ kāyena vā atthaviññāpananti. Keci pana sādhūti sampaṭicchanaṃ sandhāya vadanti. Na taṃ pamāṇaṃ, āyācanadānamattena hi gahito hoti upajjhāyo, na ettha sampaṭicchanaṃ aṅgaṃ. Saddhivihārikenāpi na kevalaṃ iminā me padena upajjhāyo gahitoti ñātuṃ vaṭṭati. ‘‘Ajjatagge dāni thero mayhaṃ bhāro, ahampi therassa bhāro’’ti idampi ñātuṃ vaṭṭati.
๖๖. ตตฺรายํ สมฺมาวตฺตนาติ ยํ วุตฺตํ สมฺมา วตฺติตพฺพนฺติ, ตตฺร อยํ สมฺมาวตฺตนาฯ กาลเสฺสว อุฎฺฐาย อุปาหนา โอมุญฺจิตฺวาติ สจสฺส ปจฺจูสกาเล จงฺกมนตฺถาย วา โธตปาทปริหรณตฺถาย วา ปฎิมุกฺกา อุปาหนา ปาทคตา โหนฺติ, ตา กาลเสฺสว อุฎฺฐาย อปเนตฺวาฯ ทนฺตกฎฺฐํ ทาตพฺพนฺติ มหนฺตํ มชฺฌิมํ ขุทฺทกนฺติ ตีณิ ทนฺตกฎฺฐานิ อุปเนตฺวา ตโต ยํ ตีณิ ทิวสานิ คณฺหาติ, จตุตฺถทิวสโต ปฎฺฐาย ตาทิสเมว ทาตพฺพํฯ สเจ อนิยมํ กตฺวา ยํ วา ตํ วา คณฺหาติ, อถ ยาทิสํ ลภติ ตาทิสํ ทาตพฺพํฯ
66.Tatrāyaṃ sammāvattanāti yaṃ vuttaṃ sammā vattitabbanti, tatra ayaṃ sammāvattanā. Kālasseva uṭṭhāya upāhanā omuñcitvāti sacassa paccūsakāle caṅkamanatthāya vā dhotapādapariharaṇatthāya vā paṭimukkā upāhanā pādagatā honti, tā kālasseva uṭṭhāya apanetvā. Dantakaṭṭhaṃ dātabbanti mahantaṃ majjhimaṃ khuddakanti tīṇi dantakaṭṭhāni upanetvā tato yaṃ tīṇi divasāni gaṇhāti, catutthadivasato paṭṭhāya tādisameva dātabbaṃ. Sace aniyamaṃ katvā yaṃ vā taṃ vā gaṇhāti, atha yādisaṃ labhati tādisaṃ dātabbaṃ.
มุโขทกํ ทาตพฺพนฺติ สีตญฺจ อุณฺหญฺจ อุทกํ อุปเนตฺวา ตโต ยํ ตีณิ ทิวสานิ วฬเญฺชติ, จตุตฺถทิวสโต ปฎฺฐาย ตาทิสเมว มุขโธวโนทกํ ทาตพฺพํฯ สเจ อนิยมํ กตฺวา ยํ วา ตํ วา คณฺหาติ, อถ ยาทิสํ ลภติ ตาทิสํ ทาตพฺพํฯ สเจ ทุวิธมฺปิ วฬเญฺชติ, ทุวิธมฺปิ อุปเนตพฺพํฯ อุทกํ มุขโธวนฎฺฐาเน ฐเปตฺวา วจฺจกุฎิโต ปฎฺฐาย สมฺมชฺชิตพฺพํฯ เถเร วจฺจกุฎิํ คเต ปริเวณํ สมฺมชฺชิตพฺพํ; เอวํ ปริเวณํ อสุญฺญํ โหติฯ เถเร วจฺจกุฎิโต อนิกฺขเนฺตเยว อาสนํ ปญฺญเปตพฺพํฯ สรีรกิจฺจํ กตฺวา อาคนฺตฺวา ตสฺมิํ นิสินฺนสฺส ‘‘สเจ ยาคุ โหตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตวตฺตํ กาตพฺพํฯ อุกฺลาโปติ เกนจิ กจวเรน สงฺกิโณฺณ, สเจ ปน อโญฺญ กจวโร นตฺถิ, อุทกผุสิตาเนว โหนฺติ, หเตฺถนปิ ปมชฺชิตโพฺพฯ
Mukhodakaṃ dātabbanti sītañca uṇhañca udakaṃ upanetvā tato yaṃ tīṇi divasāni vaḷañjeti, catutthadivasato paṭṭhāya tādisameva mukhadhovanodakaṃ dātabbaṃ. Sace aniyamaṃ katvā yaṃ vā taṃ vā gaṇhāti, atha yādisaṃ labhati tādisaṃ dātabbaṃ. Sace duvidhampi vaḷañjeti, duvidhampi upanetabbaṃ. Udakaṃ mukhadhovanaṭṭhāne ṭhapetvā vaccakuṭito paṭṭhāya sammajjitabbaṃ. There vaccakuṭiṃ gate pariveṇaṃ sammajjitabbaṃ; evaṃ pariveṇaṃ asuññaṃ hoti. There vaccakuṭito anikkhanteyeva āsanaṃ paññapetabbaṃ. Sarīrakiccaṃ katvā āgantvā tasmiṃ nisinnassa ‘‘sace yāgu hotī’’tiādinā nayena vuttavattaṃ kātabbaṃ. Uklāpoti kenaci kacavarena saṅkiṇṇo, sace pana añño kacavaro natthi, udakaphusitāneva honti, hatthenapi pamajjitabbo.
สคุณํ กตฺวาติ เทฺว จีวรานิ เอกโต กตฺวา, ตา เอกโต กตา เทฺวปิ สงฺฆาฎิโย ทาตพฺพาฯ สพฺพญฺหิ จีวรํ สงฺฆฎิตตฺตา ‘‘สงฺฆาฎี’’ติ วุจฺจติฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘สงฺฆาฎิโย ทาตพฺพา’’ติฯ นาติทูเร คนฺตพฺพํ นาจฺจาสเนฺนติ เอตฺถ สเจ อุปชฺฌายํ นิวตฺติตฺวา โอโลเกนฺตํ เอเกน วา ทฺวีหิ วา ปทวีติหาเรหิ สมฺปาปุณาติ, เอตฺตาวตา นาติทูเร นาจฺจาสเนฺน คโต โหตีติ เวทิตพฺพํฯ ปตฺตปริยาปนฺนํ ปฎิคฺคเหตพฺพนฺติ สเจ อุปชฺฌาเยน ภิกฺขาจาเร ยาคุยา วา ภเตฺต วา ลเทฺธ ปโตฺต อุโณฺห วา ภาริโก วา โหติ, อตฺตโน ปตฺตํ ตสฺส ทตฺวา โส ปโตฺต คเหตโพฺพติ อโตฺถฯ น อุปชฺฌายสฺส ภณมานสฺส อนฺตรนฺตรา กถา โอปาเตตพฺพาติ อนฺตรฆเร วา อญฺญตฺร วา ภณมานสฺส อนิฎฺฐิเต ตสฺส วจเน อญฺญา กถา น สมุฎฺฐาเปตพฺพาฯ อิโต ปฎฺฐาย จ ปน ยตฺถ ยตฺถ นกาเรน ปฎิเสโธ กริยติ, สพฺพตฺถ ทุกฺกฎาปตฺติ เวทิตพฺพาฯ อยญฺหิ ขนฺธกธมฺมตาฯ อาปตฺติสามนฺตา ภณมาโนติ ปทโสธมฺมทุฎฺฐุลฺลาทิวเสน อาปตฺติยา อาสนฺนวาจํ ภณมาโนฯ นิวาเรตโพฺพติ ‘‘กิํ ภเนฺต อีทิสํ นาม วตฺตุํ วฎฺฎติ, อาปตฺติ น โหตี’’ติ เอวํ ปุจฺฉเนฺตน วิย วาเรตโพฺพฯ วาเรสฺสามีติ ปน กตฺวา ‘‘มหลฺลก, มา เอวํ ภณา’’ติ น วตฺตโพฺพฯ
Saguṇaṃ katvāti dve cīvarāni ekato katvā, tā ekato katā dvepi saṅghāṭiyo dātabbā. Sabbañhi cīvaraṃ saṅghaṭitattā ‘‘saṅghāṭī’’ti vuccati. Tena vuttaṃ – ‘‘saṅghāṭiyo dātabbā’’ti. Nātidūre gantabbaṃ nāccāsanneti ettha sace upajjhāyaṃ nivattitvā olokentaṃ ekena vā dvīhi vā padavītihārehi sampāpuṇāti, ettāvatā nātidūre nāccāsanne gato hotīti veditabbaṃ. Pattapariyāpannaṃ paṭiggahetabbanti sace upajjhāyena bhikkhācāre yāguyā vā bhatte vā laddhe patto uṇho vā bhāriko vā hoti, attano pattaṃ tassa datvā so patto gahetabboti attho. Na upajjhāyassa bhaṇamānassa antarantarā kathā opātetabbāti antaraghare vā aññatra vā bhaṇamānassa aniṭṭhite tassa vacane aññā kathā na samuṭṭhāpetabbā. Ito paṭṭhāya ca pana yattha yattha nakārena paṭisedho kariyati, sabbattha dukkaṭāpatti veditabbā. Ayañhi khandhakadhammatā. Āpattisāmantā bhaṇamānoti padasodhammaduṭṭhullādivasena āpattiyā āsannavācaṃ bhaṇamāno. Nivāretabboti ‘‘kiṃ bhante īdisaṃ nāma vattuṃ vaṭṭati, āpatti na hotī’’ti evaṃ pucchantena viya vāretabbo. Vāressāmīti pana katvā ‘‘mahallaka, mā evaṃ bhaṇā’’ti na vattabbo.
ปฐมตรํ อาคนฺตฺวาติ สเจ อาสเนฺน คาโม โหติ, วิหาเร วา คิลาโน ภิกฺขุ โหติ, คามโต ปฐมตรํ อาคนฺตพฺพํฯ สเจ ทูเร คาโม โหติ, อุปชฺฌาเยน สทฺธิํ อาคจฺฉโนฺต นตฺถิ, เตเนว สทฺธิํ คามโต นิกฺขมิตฺวา จีวเรน ปตฺตํ เวเฐตฺวา อนฺตรามคฺคโต ปฐมตรํ อาคนฺตพฺพํ ฯ เอวํ นิวตฺตเนฺตน ปฐมตรํ อาคนฺตฺวา อาสนปญฺญาปนาทิ สพฺพํ กิจฺจํ กาตพฺพํฯ สินฺนํ โหตีติ ตินฺตํ เสทคฺคหิตํฯ จตุรงฺคุลํ กณฺณํ อุสฺสาเรตฺวาติ กณฺณํ จตุรงฺคุลปฺปมาณํ อติเรกํ กตฺวา เอวํ จีวรํ สํหริตพฺพํฯ กิํ การณา? มา มเชฺฌ ภโงฺค อโหสีติฯ สมํ กตฺวา สํหริตสฺส หิ มเชฺฌ ภโงฺค โหติ, ตโต นิจฺจํ ภิชฺชมานํ ทุพฺพลํ โหติ ตํ นิวารณตฺถเมตํ วุตฺตํฯ ตสฺมา ยถา อชฺช ภงฺคฎฺฐาเนเยว เสฺว น ภิชฺชติ, ตถา ทิวเส ทิวเส จตุรงฺคุลํ อุสฺสาเรตฺวา สํหริตพฺพํฯ โอโภเค กายพนฺธนํ กาตพฺพนฺติ กายพนฺธนํ สํหริตฺวา จีวรโภเค ปกฺขิปิตฺวา ฐเปตพฺพํฯ
Paṭhamataraṃ āgantvāti sace āsanne gāmo hoti, vihāre vā gilāno bhikkhu hoti, gāmato paṭhamataraṃ āgantabbaṃ. Sace dūre gāmo hoti, upajjhāyena saddhiṃ āgacchanto natthi, teneva saddhiṃ gāmato nikkhamitvā cīvarena pattaṃ veṭhetvā antarāmaggato paṭhamataraṃ āgantabbaṃ . Evaṃ nivattantena paṭhamataraṃ āgantvā āsanapaññāpanādi sabbaṃ kiccaṃ kātabbaṃ. Sinnaṃ hotīti tintaṃ sedaggahitaṃ. Caturaṅgulaṃ kaṇṇaṃ ussāretvāti kaṇṇaṃ caturaṅgulappamāṇaṃ atirekaṃ katvā evaṃ cīvaraṃ saṃharitabbaṃ. Kiṃ kāraṇā? Mā majjhe bhaṅgo ahosīti. Samaṃ katvā saṃharitassa hi majjhe bhaṅgo hoti, tato niccaṃ bhijjamānaṃ dubbalaṃ hoti taṃ nivāraṇatthametaṃ vuttaṃ. Tasmā yathā ajja bhaṅgaṭṭhāneyeva sve na bhijjati, tathā divase divase caturaṅgulaṃ ussāretvā saṃharitabbaṃ. Obhoge kāyabandhanaṃ kātabbanti kāyabandhanaṃ saṃharitvā cīvarabhoge pakkhipitvā ṭhapetabbaṃ.
สเจ ปิณฺฑปาโต โหตีติ เอตฺถ โย คาเมเยว วา อนฺตรฆเร วา ปฎิกฺกมเน วา ภุญฺชิตฺวา อาคจฺฉติ, ปิณฺฑํ วา น ลภติ, ตสฺส ปิณฺฑปาโต น โหติ, คาเม อภุตฺตสฺส ปน ลทฺธภิกฺขสฺส วา โหติ; ตสฺมา ‘‘สเจ ปิณฺฑปาโต โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ สเจปิ ตสฺส น โหติ, ภุญฺชิตุกาโม จ โหติ, อุทกํ ทตฺวา อตฺตนา ลทฺธโตปิ ปิณฺฑปาโต อุปเนตโพฺพฯ ปานีเยน ปุจฺฉิตโพฺพติ ภุญฺชมาโน ติกฺขตฺตุํ ‘‘ปานียํ ภเนฺต อาหริยตู’’ติ ปานีเยน ปุจฺฉิตโพฺพฯ สเจ กาโล อตฺถิ, อุปชฺฌาเย ภุเตฺต สยํ ภุญฺชิตพฺพํฯ สเจ อุปกโฎฺฐ กาโล, ปานียํ อุปชฺฌายสฺส สนฺติเก ฐเปตฺวา สยมฺปิ ภุญฺชิตพฺพํฯ
Sacepiṇḍapāto hotīti ettha yo gāmeyeva vā antaraghare vā paṭikkamane vā bhuñjitvā āgacchati, piṇḍaṃ vā na labhati, tassa piṇḍapāto na hoti, gāme abhuttassa pana laddhabhikkhassa vā hoti; tasmā ‘‘sace piṇḍapāto hotī’’tiādi vuttaṃ. Sacepi tassa na hoti, bhuñjitukāmo ca hoti, udakaṃ datvā attanā laddhatopi piṇḍapāto upanetabbo. Pānīyena pucchitabboti bhuñjamāno tikkhattuṃ ‘‘pānīyaṃ bhante āhariyatū’’ti pānīyena pucchitabbo. Sace kālo atthi, upajjhāye bhutte sayaṃ bhuñjitabbaṃ. Sace upakaṭṭho kālo, pānīyaṃ upajjhāyassa santike ṭhapetvā sayampi bhuñjitabbaṃ.
อนนฺตรหิตายาติ ตฎฺฎิกธมฺมขณฺฑาทีสุ เยน เกนจิ อนตฺถตาย ปํสุสกฺขรมิสฺสาย ภูมิยา ปโตฺถ น ฐเปตโพฺพติ อโตฺถฯ สเจ ปน กาฬวณฺณกตา วา สุธาพทฺธา วา โหติ นิรชมตฺติกา, ตถารูปาย ภูมิยา ฐเปตุํ วฎฺฎติฯ โธตวาลิกายปิ ฐเปตุํ วฎฺฎติฯ ปํสุรชสกฺขราทีสุ น วฎฺฎติฯ ตตฺร ปน ปณฺณํ วา อาธารกํ วา ฐเปตฺวา ตตฺร นิกฺขิปิตโพฺพฯ ปารโต อนฺตํ โอรโต โภคนฺติ อิทํ จีวรวํสาทีนํ เหฎฺฐา หตฺถํ ปเวเสตฺวา อภิมุเขน หเตฺถน สณิกํ นิกฺขิปนตฺถํ วุตฺตํฯ อเนฺต ปน คเหตฺวา โภเคน จีวรวํสาทีนํ อุปริ นิกฺขิปนฺตสฺส ภิตฺติยํ โภโค ปฎิหญฺญติ, ตสฺมา ตถา น กาตพฺพํฯ
Anantarahitāyāti taṭṭikadhammakhaṇḍādīsu yena kenaci anatthatāya paṃsusakkharamissāya bhūmiyā pattho na ṭhapetabboti attho. Sace pana kāḷavaṇṇakatā vā sudhābaddhā vā hoti nirajamattikā, tathārūpāya bhūmiyā ṭhapetuṃ vaṭṭati. Dhotavālikāyapi ṭhapetuṃ vaṭṭati. Paṃsurajasakkharādīsu na vaṭṭati. Tatra pana paṇṇaṃ vā ādhārakaṃ vā ṭhapetvā tatra nikkhipitabbo. Pārato antaṃ orato bhoganti idaṃ cīvaravaṃsādīnaṃ heṭṭhā hatthaṃ pavesetvā abhimukhena hatthena saṇikaṃ nikkhipanatthaṃ vuttaṃ. Ante pana gahetvā bhogena cīvaravaṃsādīnaṃ upari nikkhipantassa bhittiyaṃ bhogo paṭihaññati, tasmā tathā na kātabbaṃ.
จุณฺณํ สเนฺนตพฺพนฺติ นฺหานจุณฺณํ อุทเกน เตเมตฺวา ปิณฺฑิ กาตพฺพาฯ เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพนฺติ เอกสฺมิํ นิทฺธูเม ฐาเน ฐเปตพฺพํฯ ชนฺตาฆเร ปริกมฺมํ นาม องฺคารมตฺติกอุโณฺหทกทานาทิกํ สพฺพํ กิจฺจํฯ อุทเกปิ ปริกมฺมนฺติ องฺคปจฺจงฺคฆํสนาทิกํ สพฺพํ กิจฺจํฯ ปานีเยน ปุจฺฉิตโพฺพติ ชนฺตาฆเร อุณฺหสนฺตาเปน ปิปาสา โหติ, ตสฺมา ปุจฺฉิตโพฺพฯ
Cuṇṇaṃ sannetabbanti nhānacuṇṇaṃ udakena temetvā piṇḍi kātabbā. Ekamantaṃ nikkhipitabbanti ekasmiṃ niddhūme ṭhāne ṭhapetabbaṃ. Jantāghare parikammaṃ nāma aṅgāramattikauṇhodakadānādikaṃ sabbaṃ kiccaṃ. Udakepi parikammanti aṅgapaccaṅgaghaṃsanādikaṃ sabbaṃ kiccaṃ. Pānīyena pucchitabboti jantāghare uṇhasantāpena pipāsā hoti, tasmā pucchitabbo.
สเจ อุสฺสหตีติ สเจ ปโหติ; น เกนจิ เคลเญฺญน อภิภูโต โหติ; อคิลาเนน หิ สทฺธิวิหาริเกน สฎฺฐิวเสฺสนาปิ สพฺพํ อุปชฺฌายวตฺตํ กาตพฺพํ, อนาทเรน อกโรนฺตสฺส วตฺตเภเท ทุกฺกฎํฯ นการปฎิสํยุเตฺตสุ ปน ปเทสุ คิลานสฺสาปิ ปฎิกฺขิตฺตกิริยํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฎเมวฯ อปฺปฎิฆํสเนฺตนาติ ภูมิยํ อปฺปฎิฆํสเนฺตนฯ กวาฎปิฎฺฐนฺติ กวาฎญฺจ ปิฎฺฐสงฺฆาตญฺจ อจฺฉุปเนฺตนฯ สนฺตานกนฺติ ยํกิญฺจิ กีฎกุลาวกมกฺกฎกสุตฺตาทิฯ อุโลฺลกา ปฐมํ โอหาเรตพฺพนฺติ อุโลฺลกโต ปฐมํ อุโลฺลกํ อาทิํกตฺวา อวหริตพฺพนฺติ อโตฺถฯ อาโลกสนฺธิกณฺณภาคาติ อาโลกสนฺธิภาคา จ กณฺณภาคา จ อนฺตรพาหิรวาตปานกวาฎกานิ จ คพฺภสฺส จ จตฺตาโร โกณา ปมชฺชิตพฺพาติ อโตฺถฯ
Sace ussahatīti sace pahoti; na kenaci gelaññena abhibhūto hoti; agilānena hi saddhivihārikena saṭṭhivassenāpi sabbaṃ upajjhāyavattaṃ kātabbaṃ, anādarena akarontassa vattabhede dukkaṭaṃ. Nakārapaṭisaṃyuttesu pana padesu gilānassāpi paṭikkhittakiriyaṃ karontassa dukkaṭameva. Appaṭighaṃsantenāti bhūmiyaṃ appaṭighaṃsantena. Kavāṭapiṭṭhanti kavāṭañca piṭṭhasaṅghātañca acchupantena. Santānakanti yaṃkiñci kīṭakulāvakamakkaṭakasuttādi. Ullokā paṭhamaṃ ohāretabbanti ullokato paṭhamaṃ ullokaṃ ādiṃkatvā avaharitabbanti attho. Ālokasandhikaṇṇabhāgāti ālokasandhibhāgā ca kaṇṇabhāgā ca antarabāhiravātapānakavāṭakāni ca gabbhassa ca cattāro koṇā pamajjitabbāti attho.
ยถาปญฺญตฺตํ ปญฺญเปตพฺพนฺติ ยถา ปฐมํ ปญฺญตฺตํ อโหสิ, ตเถว ปญฺญเปตพฺพํฯ เอตทตฺถเมว หิ ยถาปญฺญตฺตํ สลฺลเกฺขตฺวา นีหริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตพฺพนฺติ ปุริมวตฺตํ ปญฺญตฺตํฯ สเจ ปน ปฐมํ อชานเนฺตน เกนจิ ปญฺญตฺตํ อโหสิ, สมนฺตโต ภิตฺติํ ทฺวงฺคุลมเตฺตน วา ติวงฺคุลมเตฺตน วา โมเจตฺวา ปญฺญเปตพฺพํฯ อิทญฺหิ ปญฺญาปนวตฺตํฯ สเจ กฎสารโก โหติ อติมหโนฺต จ, ฉินฺทิตฺวา โกฎิํ นิวเตฺตตฺวา พนฺธิตฺวา ปญฺญเปตโพฺพฯ สเจ โกฎิํ นิวเตฺตตฺวา พนฺธิตุํ น ชานาติ, น ฉินฺทิตโพฺพฯ ปุรตฺถิมา วาตปานา ถเกตพฺพาติ ปุรตฺถิมาย วาตปานา ถเกตพฺพาฯ เอวํ เสสาปิ วาตปานา ถเกตพฺพาฯ
Yathāpaññattaṃpaññapetabbanti yathā paṭhamaṃ paññattaṃ ahosi, tatheva paññapetabbaṃ. Etadatthameva hi yathāpaññattaṃ sallakkhetvā nīharitvā ekamantaṃ nikkhipitabbanti purimavattaṃ paññattaṃ. Sace pana paṭhamaṃ ajānantena kenaci paññattaṃ ahosi, samantato bhittiṃ dvaṅgulamattena vā tivaṅgulamattena vā mocetvā paññapetabbaṃ. Idañhi paññāpanavattaṃ. Sace kaṭasārako hoti atimahanto ca, chinditvā koṭiṃ nivattetvā bandhitvā paññapetabbo. Sace koṭiṃ nivattetvā bandhituṃ na jānāti, na chinditabbo. Puratthimā vātapānā thaketabbāti puratthimāya vātapānā thaketabbā. Evaṃ sesāpi vātapānā thaketabbā.
วูปกาเสตโพฺพติ อญฺญตฺถ เนตโพฺพฯ วูปกาสาเปตโพฺพติ อโญฺญ ภิกฺขุ วตฺตโพฺพ ‘‘เถรํ คเหตฺวา อญฺญตฺถ คจฺฉา’’ติ วิเวเจตพฺพนฺติ วิสฺสชฺชาเปตพฺพํฯ วิเวจาเปตพฺพนฺติ อโญฺญ วตฺตโพฺพ ‘‘เถรํ ทิฎฺฐิคตํ วิสฺสชฺชาเปหี’’ติฯ อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพนฺติ ปริวาสทานตฺถํ โส โส ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา ยาจิตโพฺพฯ สเจ อตฺตนา ปฎิพโล โหติ, อตฺตนาว ทาตโพฺพฯ โน เจ ปฎิพโล โหติ, อเญฺญน ทาเปตโพฺพฯ กินฺติ นุ โขติ เกน นุ โข อุปาเยนฯ เอส นโย สพฺพตฺถฯ ลหุกาย วา ปริณาเมยฺยาติ อุเกฺขปนียํ อกตฺวา ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา กเรยฺยาติ อโตฺถฯ เตน หิ ‘‘อุปชฺฌายสฺส อุเกฺขปนียกมฺมํ กตฺตุกาโม สโงฺฆ’’ติ ญตฺวา เอกเมกํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘มา ภเนฺต อมฺหากํ อุปชฺฌายสฺส กมฺมํ กริตฺถา’’ติ ยาจิตพฺพาฯ สเจ กโรนฺติเยว, ‘‘ตชฺชนียํ วา นิยสฺสํ วา กโรถา’’ติ ยาจิตพฺพาฯ สเจ กโรนฺติเยว, อถ อุปชฺฌาโย ‘‘สมฺมา วตฺตถ ภเนฺต’’ติ ยาจิตโพฺพฯ อิติ ตํ สมฺมา วตฺตาเปตฺวา ‘‘ปฎิปฺปสฺสเมฺภถ ภเนฺต กมฺม’’นฺติ ภิกฺขู ยาจิตพฺพาฯ
Vūpakāsetabboti aññattha netabbo. Vūpakāsāpetabboti añño bhikkhu vattabbo ‘‘theraṃ gahetvā aññattha gacchā’’ti vivecetabbanti vissajjāpetabbaṃ. Vivecāpetabbanti añño vattabbo ‘‘theraṃ diṭṭhigataṃ vissajjāpehī’’ti. Ussukkaṃ kātabbanti parivāsadānatthaṃ so so bhikkhu upasaṅkamitvā yācitabbo. Sace attanā paṭibalo hoti, attanāva dātabbo. No ce paṭibalo hoti, aññena dāpetabbo. Kinti nu khoti kena nu kho upāyena. Esa nayo sabbattha. Lahukāya vāpariṇāmeyyāti ukkhepanīyaṃ akatvā tajjanīyaṃ vā niyassaṃ vā kareyyāti attho. Tena hi ‘‘upajjhāyassa ukkhepanīyakammaṃ kattukāmo saṅgho’’ti ñatvā ekamekaṃ bhikkhuṃ upasaṅkamitvā ‘‘mā bhante amhākaṃ upajjhāyassa kammaṃ karitthā’’ti yācitabbā. Sace karontiyeva, ‘‘tajjanīyaṃ vā niyassaṃ vā karothā’’ti yācitabbā. Sace karontiyeva, atha upajjhāyo ‘‘sammā vattatha bhante’’ti yācitabbo. Iti taṃ sammā vattāpetvā ‘‘paṭippassambhetha bhante kamma’’nti bhikkhū yācitabbā.
สมฺปริวตฺตกํ สมฺปริวตฺตกนฺติ สมฺปริวเตฺตตฺวา สมฺปริวเตฺตตฺวาฯ น จ อจฺฉิเนฺน เถเว ปกฺกมิตพฺพนฺติ ยทิ อปฺปมตฺตกมฺปิ รชนํ คฬติ, น ตาว ปกฺกมิตพฺพํฯ น อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉา เอกจฺจสฺส ปโตฺต ทาตโพฺพติอาทิ สพฺพํ อุปชฺฌายสฺส วิสภาคปุคฺคลวเสน กถิตํฯ น อุปชฺฌายํ อนาปุจฺฉา คาโม ปวิสิตโพฺพติ ปิณฺฑาย วา อเญฺญน วา กรณีเยน ปวิสิตุกาเมน อาปุจฺฉิตฺวาว ปวิสิตโพฺพฯ สเจ อุปชฺฌาโย กาลเสฺสว วุฎฺฐาย ทูรํ ภิกฺขาจารํ คนฺตุกาโม โหติ, ‘‘ทหรา ปิณฺฑาย ปวิสนฺตู’’ติ วตฺวา คนฺตพฺพํฯ อวตฺวา คเต ปริเวณํ คนฺตฺวา อุปชฺฌายํ อปสฺสเนฺตน คามํ ปวิสิตุํ วฎฺฎติฯ สเจ คามํ ปวิสโนฺตปิ ปสฺสติ, ทิฎฺฐฎฺฐานโต ปฎฺฐาย อาปุจฺฉิตุํเยว วฎฺฎติฯ
Samparivattakaṃ samparivattakanti samparivattetvā samparivattetvā. Na ca acchinne theve pakkamitabbanti yadi appamattakampi rajanaṃ gaḷati, na tāva pakkamitabbaṃ. Na upajjhāyaṃ anāpucchā ekaccassa patto dātabbotiādi sabbaṃ upajjhāyassa visabhāgapuggalavasena kathitaṃ. Na upajjhāyaṃ anāpucchā gāmo pavisitabboti piṇḍāya vā aññena vā karaṇīyena pavisitukāmena āpucchitvāva pavisitabbo. Sace upajjhāyo kālasseva vuṭṭhāya dūraṃ bhikkhācāraṃ gantukāmo hoti, ‘‘daharā piṇḍāya pavisantū’’ti vatvā gantabbaṃ. Avatvā gate pariveṇaṃ gantvā upajjhāyaṃ apassantena gāmaṃ pavisituṃ vaṭṭati. Sace gāmaṃ pavisantopi passati, diṭṭhaṭṭhānato paṭṭhāya āpucchituṃyeva vaṭṭati.
น สุสานํ คนฺตพฺพนฺติ วาสตฺถาย วา ทสฺสนตฺถาย วา น คนฺตพฺพํฯ น ทิสา ปกฺกมิตพฺพาติ เอตฺถ ปกฺกมิตุกาเมน กมฺมํ อาจิกฺขิตฺวา ยาวตติยํ ยาจิตโพฺพฯ สเจ อนุชานาติ, สาธุ; โน เจ อนุชานาติ, ตํ นิสฺสาย วสโต จสฺส อุเทฺทโส วา ปริปุจฺฉา วา กมฺมฎฺฐานํ วา น สมฺปชฺชติ, อุปชฺฌาโย พาโล โหติ อพฺยโตฺต, เกวลํ อตฺตโน สนฺติเก วสาเปตุกามตาย เอว คนฺตุํ น เทติ, เอวรูเป นิวาเรเนฺตปิ คนฺตุํ วฎฺฎติฯ วุฎฺฐานมสฺส อาคเมตพฺพนฺติ เคลญฺญโต วุฎฺฐานํ อสฺส อาคเมตพฺพํ; น กตฺถจิ คนฺตพฺพํฯ สเจ อโญฺญ ภิกฺขุ อุปฎฺฐาโก อตฺถิ, เภสชฺชํ ปริเยสิตฺวา ตสฺส หเตฺถ ทตฺวา ‘‘ภเนฺต อยํ อุปฎฺฐหิสฺสตี’’ติ วตฺวา คนฺตพฺพํฯ
Na susānaṃ gantabbanti vāsatthāya vā dassanatthāya vā na gantabbaṃ. Na disā pakkamitabbāti ettha pakkamitukāmena kammaṃ ācikkhitvā yāvatatiyaṃ yācitabbo. Sace anujānāti, sādhu; no ce anujānāti, taṃ nissāya vasato cassa uddeso vā paripucchā vā kammaṭṭhānaṃ vā na sampajjati, upajjhāyo bālo hoti abyatto, kevalaṃ attano santike vasāpetukāmatāya eva gantuṃ na deti, evarūpe nivārentepi gantuṃ vaṭṭati. Vuṭṭhānamassa āgametabbanti gelaññato vuṭṭhānaṃ assa āgametabbaṃ; na katthaci gantabbaṃ. Sace añño bhikkhu upaṭṭhāko atthi, bhesajjaṃ pariyesitvā tassa hatthe datvā ‘‘bhante ayaṃ upaṭṭhahissatī’’ti vatvā gantabbaṃ.
อุปชฺฌายวตฺตกถา นิฎฺฐิตาฯ
Upajjhāyavattakathā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi / ๑๕. อุปชฺฌายวตฺตกถา • 15. Upajjhāyavattakathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / อุปชฺฌายวตฺตกถาวณฺณนา • Upajjhāyavattakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / อุปชฺฌายวตฺตกถาวณฺณนา • Upajjhāyavattakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / อุปชฺฌายวตฺตกถาวณฺณนา • Upajjhāyavattakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑๕. อุปชฺฌายวตฺตกถา • 15. Upajjhāyavattakathā