Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi

    อุปาลิปญฺหากถา

    Upālipañhākathā

    ๓๕๑. เอกโตติ เอตฺถ โตปจฺจยสฺส สตฺตมฺยเตฺถ ปวตฺตภาวํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ธมฺมวาทีปเกฺข’’ติฯ ‘‘อนุนยโนฺต’’ติ อิมินา อนุสฺสาเวตีติ เอตฺถ อนุสทฺทสฺส อตฺถํ ทเสฺสติฯ อนุนยโนฺตติ ปุนปฺปุนํ นยโนฺตฯ สาวนาการํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘น ตุมฺหากํเยวา’’ติอาทิฯ อยํ อธโมฺม วา อยํ อวินโย วา อิทํ อสตฺถุสาสนํ วา ยทิ ภเวยฺยาติ โยชนาฯ ‘‘โพเธตี’’ติ อิมินา สาเวตีติ เอตฺถ สุธาตุยา อตฺถํ ทเสฺสติฯ ‘‘อนุสฺสาเวตฺวา’’ติ อิมินา ‘‘อนุสฺสาเวติ, สลากํ คาเหตี’’ติ เอตฺถ อนุสฺสาวนกิริยา ปุพฺพภาเค ปวตฺตา, สลากคฺคาหกิริยา ปจฺฉาภาเคติ ทเสฺสติฯ

    351.Ekatoti ettha topaccayassa sattamyatthe pavattabhāvaṃ dassento āha ‘‘dhammavādīpakkhe’’ti. ‘‘Anunayanto’’ti iminā anussāvetīti ettha anusaddassa atthaṃ dasseti. Anunayantoti punappunaṃ nayanto. Sāvanākāraṃ dassento āha ‘‘na tumhākaṃyevā’’tiādi. Ayaṃ adhammo vā ayaṃ avinayo vā idaṃ asatthusāsanaṃ vā yadi bhaveyyāti yojanā. ‘‘Bodhetī’’ti iminā sāvetīti ettha sudhātuyā atthaṃ dasseti. ‘‘Anussāvetvā’’ti iminā ‘‘anussāveti, salākaṃ gāhetī’’ti ettha anussāvanakiriyā pubbabhāge pavattā, salākaggāhakiriyā pacchābhāgeti dasseti.

    เอตฺตาวตาติ เอตฺตเกน อนุสฺสาวนสลากคฺคาหมเตฺตนฯ น ปน สโงฺฆ ภิโนฺน โหติ, อนุสฺสาเวตฺวา สลากํ คาเหตฺวา อาเวณิกํ สงฺฆกเมฺม กเตเยว สโงฺฆ ภิโนฺน โหตีติ อธิปฺปาโยฯ

    Ettāvatāti ettakena anussāvanasalākaggāhamattena. Na pana saṅgho bhinno hoti, anussāvetvā salākaṃ gāhetvā āveṇikaṃ saṅghakamme kateyeva saṅgho bhinno hotīti adhippāyo.

    เอตฺถ ฐตฺวา กสฺสจิ โจทกสฺส อนุโยโค สิยาติ โยชนาฯ กินฺติ สิยาติ อาห ‘‘เอวํ เทวทโตฺต’’ติอาทิฯ ตตฺถ เอวนฺติ ปกตเตฺต สเงฺฆ ภิเนฺท สตีติ อโตฺถฯ กถนฺติ เกนากาเรนฯ ปุน กถนฺติ กสฺมา การณาฯ รโญฺญติ อชาตสตฺตุรโญฺญ, การิตกมฺมํฯ ‘‘ฆาตาปิตตฺตา’’ติ พิมฺพิสารราชานํ ฆาตาปิตตฺตาฯ ตตฺถาติ ‘‘ภิกฺขุ โข อุปาลี’’ติอาทิวจเน, ฐตฺวา ปริหารํ วทามาติ โยชนาฯ วิรทฺธตฺตาติ วิราธิตตฺตาฯ ตมตฺถํ วิตฺถาเรโนฺต อาห ‘‘เตน หี’’ติอาทิฯ ตตฺถ เตน หีติ อุโยฺยชนเตฺถ นิปาโตฯ เอวญฺหีติ เอวเมวฯ ตสฺสาติ เทวทตฺตสฺสฯ กุมาโร ปนาติ อชาตสตฺตุกุมาโร ปน, กตมเตฺตเยว น วุตฺตาติ สมฺพโนฺธฯ ตสฺสาติ เทวทตฺตสฺสฯ ตสฺมาติ ยสฺมา สงฺฆเภทโต ปุเพฺพ รุหิตุปฺปาทกมฺมํ กโรนฺตสฺสาปิ ปจฺฉา อภพฺพภาโว โรปิโต, ตสฺมาฯ

    Ettha ṭhatvā kassaci codakassa anuyogo siyāti yojanā. Kinti siyāti āha ‘‘evaṃ devadatto’’tiādi. Tattha evanti pakatatte saṅghe bhinde satīti attho. Kathanti kenākārena. Puna kathanti kasmā kāraṇā. Raññoti ajātasatturañño, kāritakammaṃ. ‘‘Ghātāpitattā’’ti bimbisārarājānaṃ ghātāpitattā. Tatthāti ‘‘bhikkhu kho upālī’’tiādivacane, ṭhatvā parihāraṃ vadāmāti yojanā. Viraddhattāti virādhitattā. Tamatthaṃ vitthārento āha ‘‘tena hī’’tiādi. Tattha tena hīti uyyojanatthe nipāto. Evañhīti evameva. Tassāti devadattassa. Kumāro panāti ajātasattukumāro pana, katamatteyeva na vuttāti sambandho. Tassāti devadattassa. Tasmāti yasmā saṅghabhedato pubbe ruhituppādakammaṃ karontassāpi pacchā abhabbabhāvo ropito, tasmā.

    เภทกรวตฺถูสุ เอวํ วินิจฺฉโย เวทิตโพฺพติ โยชนาฯ ธมฺมาธมฺมาทีนํ สุตฺตนฺตวินยปริยาเยน วิเสสํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สุตฺตนฺตปริยาเยนา’’ติอาทิฯ ตตฺถ สุตฺตนฺตปริยาเยนาติ สุตฺตนฺตเทสนาย, สุตฺตนฺตเทสนานยโตติ วุตฺตํ โหติฯ ตถาติ ตโต อญฺญถาฯ

    Bhedakaravatthūsu evaṃ vinicchayo veditabboti yojanā. Dhammādhammādīnaṃ suttantavinayapariyāyena visesaṃ dassento āha ‘‘suttantapariyāyenā’’tiādi. Tattha suttantapariyāyenāti suttantadesanāya, suttantadesanānayatoti vuttaṃ hoti. Tathāti tato aññathā.

    ตตฺถาติ ทฺวีสุ ธมฺมาธเมฺมสุฯ เอวํ อมฺหากนฺติ เอวํ กริยมาเน อมฺหากํฯ เอวํ สุตฺตนฺตปริยาเยน ธมฺมาธมฺมานํ วิเสสํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ วินยปริยาเยน เตสํ ตํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘วินยปริยาเยน ปนา’’ติอาทิฯ ภูเตน วตฺถุนา กาตพฺพนฺติ สมฺพโนฺธฯ เอวํ ‘‘อภูเตน วตฺถุนา’’ติ เอตฺถาปิฯ

    Tatthāti dvīsu dhammādhammesu. Evaṃ amhākanti evaṃ kariyamāne amhākaṃ. Evaṃ suttantapariyāyena dhammādhammānaṃ visesaṃ dassetvā idāni vinayapariyāyena tesaṃ taṃ dassento āha ‘‘vinayapariyāyena panā’’tiādi. Bhūtena vatthunā kātabbanti sambandho. Evaṃ ‘‘abhūtena vatthunā’’ti etthāpi.

    เอวํ ทฺวินฺนํ ปริยายานํ วเสน ธมฺมาธมฺมทุกสฺส วิเสสํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ วินยาวินยทุกสฺส วิเสสํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สุตฺตนฺตปริยาเยนา’’ติอาทิ ฯ ตตฺถ สุตฺตนฺตนเยน ราคาทโย วิเนตีติ วินโย, วินยนเยน กายํ วาจํ วิเนตีติ วินโยติ วจนโตฺถ กาตโพฺพฯ

    Evaṃ dvinnaṃ pariyāyānaṃ vasena dhammādhammadukassa visesaṃ dassetvā idāni vinayāvinayadukassa visesaṃ dassento āha ‘‘suttantapariyāyenā’’tiādi . Tattha suttantanayena rāgādayo vinetīti vinayo, vinayanayena kāyaṃ vācaṃ vinetīti vinayoti vacanattho kātabbo.

    เอวํ ทฺวินฺนํ ปริยายานํ วเสน วินยาวินยทุกสฺส วิเสสํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ ภาสิตาภาสิตทุกสฺส วิเสสํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สุตฺตนฺตปริยาเยน จตฺตาโร สติปฎฺฐานา’’ติอาทิฯ ตตฺถ ‘‘อฎฺฐงฺคิโก มโคฺค’’ติ อิทํ วจนํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตนฺติ โยชนาฯ

    Evaṃ dvinnaṃ pariyāyānaṃ vasena vinayāvinayadukassa visesaṃ dassetvā idāni bhāsitābhāsitadukassa visesaṃ dassento āha ‘‘suttantapariyāyena cattāro satipaṭṭhānā’’tiādi. Tattha ‘‘aṭṭhaṅgiko maggo’’ti idaṃ vacanaṃ tathāgatena bhāsitaṃ lapitanti yojanā.

    เอวํ ทฺวินฺนํ ปริยายานํ วเสน ภาสิตาภาสิตทุกสฺส วิเสสํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ อาจิณฺณานาจิณฺณทุกสฺส วิเสสํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สุตฺตนฺตปริยาเยน เทวสิก’’นฺติอาทิฯ ตตฺถ ‘‘เทวสิก’’นฺติ ปทํ ‘‘สมาปชฺชนํ, โวโลกน’’นฺติ ตีสุเยว ปเทสุ โยเชตพฺพํฯ อฎฺฐุปฺปตฺติวเสนาติ การณุปฺปตฺติวเสนฯ การณญฺหิ อรติ ผลํ เอตสฺมาติ อโตฺถติ วุจฺจติ, อตฺถสฺส อุปฺปตฺติ อตฺถุปฺปตฺติ, สาเยว อฎฺฐุปฺปตฺติ ตฺถการสฺส ฎฺฐการํ กตฺวา, อฎฺฐุปฺปตฺติยา วโส อฎฺฐุปฺปตฺติวโส, เตนฯ อิทํ ปทํ ‘‘สุตฺตนฺตเทสนา ชาตกกถา’’ติ ทฺวีหิปิ ปเทหิ โยเชตพฺพํฯ อิทนฺติ ผลสมาปตฺติสมาปชฺชนาทิฯ อาจิณฺณนฺติ อา พนฺธิตํ, ปุนปฺปุนํ วา อุปจิตํ วฑฺฒิตํ, ปคุณํ วาฯ จาริยปกฺกมนนฺติ จาริยตฺถํ ปกฺกมนํฯ

    Evaṃ dvinnaṃ pariyāyānaṃ vasena bhāsitābhāsitadukassa visesaṃ dassetvā idāni āciṇṇānāciṇṇadukassa visesaṃ dassento āha ‘‘suttantapariyāyena devasika’’ntiādi. Tattha ‘‘devasika’’nti padaṃ ‘‘samāpajjanaṃ, volokana’’nti tīsuyeva padesu yojetabbaṃ. Aṭṭhuppattivasenāti kāraṇuppattivasena. Kāraṇañhi arati phalaṃ etasmāti atthoti vuccati, atthassa uppatti atthuppatti, sāyeva aṭṭhuppatti tthakārassa ṭṭhakāraṃ katvā, aṭṭhuppattiyā vaso aṭṭhuppattivaso, tena. Idaṃ padaṃ ‘‘suttantadesanā jātakakathā’’ti dvīhipi padehi yojetabbaṃ. Idanti phalasamāpattisamāpajjanādi. Āciṇṇanti ā bandhitaṃ, punappunaṃ vā upacitaṃ vaḍḍhitaṃ, paguṇaṃ vā. Cāriyapakkamananti cāriyatthaṃ pakkamanaṃ.

    เอวํ ทฺวินฺนํ ปริยายานํ วเสน อาจิณฺณานาจิณฺณทุกสฺส วิเสสํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ ปญฺญตฺตทุกสฺส วิเสสํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สุตฺตนฺตปริยาเยน จตฺตาโร สติปฎฺฐานา’’ติอาทิฯ ตํ ภาสิตาภาสิตทุกสทิสเมวฯ เอวํ ทฺวินฺนํ สุตฺตนฺตวินยปริยายานํ วเสน ปญฺจนฺนํ ทุกานํ วิเสโส ทสฺสิโตฯ

    Evaṃ dvinnaṃ pariyāyānaṃ vasena āciṇṇānāciṇṇadukassa visesaṃ dassetvā idāni paññattadukassa visesaṃ dassento āha ‘‘suttantapariyāyena cattāro satipaṭṭhānā’’tiādi. Taṃ bhāsitābhāsitadukasadisameva. Evaṃ dvinnaṃ suttantavinayapariyāyānaṃ vasena pañcannaṃ dukānaṃ viseso dassito.

    อาปตฺตานาปตฺติทุเก ‘‘น โมจนาธิปฺปายสฺสา’’ติ ปาฐสฺส อนนฺตเร ปจฺฉิมวาเกฺย ฐิโต อาทิสโทฺท อาเนตโพฺพฯ อิติ อาทินา นเยนาติ หิ อโตฺถฯ ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมิํ ตสฺมิํ สิกฺขาปเทฯ อิทํ ปทํ ปจฺฉิมวาเกฺยปิ อนุวเตฺตตพฺพํฯ

    Āpattānāpattiduke ‘‘na mocanādhippāyassā’’ti pāṭhassa anantare pacchimavākye ṭhito ādisaddo ānetabbo. Iti ādinā nayenāti hi attho. Tattha tatthāti tasmiṃ tasmiṃ sikkhāpade. Idaṃ padaṃ pacchimavākyepi anuvattetabbaṃ.

    ลหุกครุกทุเก ปญฺจาปตฺติกฺขนฺธาติ ถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยปาฎิเทสนียทุกฺกฎทุพฺภาสิตวเสน ปญฺจ อาปตฺติราสโยฯ เทฺว อาปตฺติกฺขนฺธาติ ปาราชิกสงฺฆาทิเสสวเสน เทฺว อาปตฺติราสโยฯ

    Lahukagarukaduke pañcāpattikkhandhāti thullaccayapācittiyapāṭidesanīyadukkaṭadubbhāsitavasena pañca āpattirāsayo. Dve āpattikkhandhāti pārājikasaṅghādisesavasena dve āpattirāsayo.

    สาวเสสานาวเสสทุเก ฉ อาปตฺติกฺขนฺธาติ ปาราชิกาปตฺติโต อวเสสา ฉ อาปตฺติราสโยฯ

    Sāvasesānāvasesaduke cha āpattikkhandhāti pārājikāpattito avasesā cha āpattirāsayo.

    ทุฎฺฐุลฺลาทุฎฺฐุลฺลทุเก ลหุกครุกทุกสทิสเมวฯ อยํ ปน วิเสโส – ครุกาปตฺติ ทุฎฺฐุลฺลา นาม , ลหุกาปตฺติ อทุฎฺฐุลฺลา นามาติ เอวํ วินยปริยายวเสเนว จตุนฺนํ ทุกานํ วิเสโส ทสฺสิโตฯ

    Duṭṭhullāduṭṭhulladuke lahukagarukadukasadisameva. Ayaṃ pana viseso – garukāpatti duṭṭhullā nāma , lahukāpatti aduṭṭhullā nāmāti evaṃ vinayapariyāyavaseneva catunnaṃ dukānaṃ viseso dassito.

    เอตฺถาติ ‘‘อธมฺมํ ธโมฺมติ ทีเปนฺตี’’ติอาทิวจเนฯ จตุนฺนํ สงฺฆกมฺมานนฺติ อปโลกนาทิวเสน จตุนฺนํ สงฺฆกมฺมานํฯ กโรเนฺตหิ เหตุภูเตหิ, เหตฺวเตฺถ เจตํ กรณวจนํฯ

    Etthāti ‘‘adhammaṃ dhammoti dīpentī’’tiādivacane. Catunnaṃ saṅghakammānanti apalokanādivasena catunnaṃ saṅghakammānaṃ. Karontehi hetubhūtehi, hetvatthe cetaṃ karaṇavacanaṃ.

    ตตฺถาติ ‘‘เต อิเมหี’’ติอาทิวจเนฯ อปกสฺสนฺตีติ เอตฺถ กสธาตุสฺส คตฺยตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ปริสํ อากฑฺฒนฺตี’’ติฯ วิชเฎนฺตีติ วิชฎํ กโรนฺติ, วิสุํ กโรนฺตีติ อโตฺถฯ เอกมนฺตํ อุสฺสาเทนฺตีติ เอกสฺมิํ อเนฺต อุสฺสทํ กโรนฺติฯ อวปกสฺสนฺตีติ เอตฺถ ทฺวินฺนํ อุปสคฺคานํ วเสน อติวิยโตฺถ ทฎฺฐโพฺพติ อาห ‘‘อติ วิย อากฑฺฒนฺตี’’ติฯ อติวิยตฺถํ อาวิกโรโนฺต อาห ‘‘ยถา วิสํสฎฺฐาว โหนฺติ, เอวํ กโรนฺตี’’ติฯ ยถาติ เยนากาเรน กริยมาเนติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘วิสุ’’นฺติ อิมินา อาเวณิสโทฺท ‘‘วิสุ’’นฺติอตฺถวาจโก อนิปฺผนฺนปาฎิปทิโกติ ทเสฺสติฯ วตฺถูสูติ เภทกรวตฺถูสุฯ อิมํ คณฺหถาติ อิมํ วาทํ คณฺหถฯ วิสุนฺติ อาเวณิํฯ อิมสฺมิํ ขนฺธเก วุตฺตวจนํ ปริวารปาฬิยา สํสเนฺทโนฺต อาห ‘‘ปริวาเร ปนา’’ติอาทิฯ ตตฺถ ปญฺจหิ อากาเรหีติ ‘‘กเมฺมน อุเทฺทเสน โวหรโนฺต อนุสฺสาวเนน สลากคฺคาเหนา’’ติ (ปริ. ๔๕๘) เอวํ ปญฺจหิ การเณหิฯ ตสฺสาติ ปริวาเร วุตฺตวจนสฺสฯ อิธาติ อิมสฺมิํ สงฺฆเภทกกฺขนฺธเก, วุเตฺตน อิมินา สงฺฆเภทลกฺขเณนาติ โยชนาฯ ‘‘อตฺถโต นานากรณํ นตฺถี’’ติ อิมินา สทฺทโต นานากรณํ อตฺถีติ ทีเปติฯ อสฺสาติ สงฺฆเภทลกฺขณสฺสฯ ตํ ปน นานากรณาภาวนฺติ โยชนาฯ ตเตฺถวาติ ปริวาเร เอวฯ สพฺพตฺถาติ สพฺพสฺมิํ สงฺฆเภทกกฺขนฺธเกฯ

    Tatthāti ‘‘te imehī’’tiādivacane. Apakassantīti ettha kasadhātussa gatyatthaṃ dassento āha ‘‘parisaṃ ākaḍḍhantī’’ti. Vijaṭentīti vijaṭaṃ karonti, visuṃ karontīti attho. Ekamantaṃ ussādentīti ekasmiṃ ante ussadaṃ karonti. Avapakassantīti ettha dvinnaṃ upasaggānaṃ vasena ativiyattho daṭṭhabboti āha ‘‘ati viya ākaḍḍhantī’’ti. Ativiyatthaṃ āvikaronto āha ‘‘yathā visaṃsaṭṭhāva honti, evaṃ karontī’’ti. Yathāti yenākārena kariyamāneti sambandho. ‘‘Visu’’nti iminā āveṇisaddo ‘‘visu’’ntiatthavācako anipphannapāṭipadikoti dasseti. Vatthūsūti bhedakaravatthūsu. Imaṃ gaṇhathāti imaṃ vādaṃ gaṇhatha. Visunti āveṇiṃ. Imasmiṃ khandhake vuttavacanaṃ parivārapāḷiyā saṃsandento āha ‘‘parivāre panā’’tiādi. Tattha pañcahi ākārehīti ‘‘kammena uddesena voharanto anussāvanena salākaggāhenā’’ti (pari. 458) evaṃ pañcahi kāraṇehi. Tassāti parivāre vuttavacanassa. Idhāti imasmiṃ saṅghabhedakakkhandhake, vuttena iminā saṅghabhedalakkhaṇenāti yojanā. ‘‘Atthato nānākaraṇaṃ natthī’’ti iminā saddato nānākaraṇaṃ atthīti dīpeti. Assāti saṅghabhedalakkhaṇassa. Taṃ pana nānākaraṇābhāvanti yojanā. Tatthevāti parivāre eva. Sabbatthāti sabbasmiṃ saṅghabhedakakkhandhake.

    อิติ สงฺฆเภทกกฺขนฺธกวณฺณนาย โยชนา สมตฺตาฯ

    Iti saṅghabhedakakkhandhakavaṇṇanāya yojanā samattā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi / อุปาลิปญฺหา • Upālipañhā

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / จูฬวคฺค-อฎฺฐกถา • Cūḷavagga-aṭṭhakathā / อุปาลิปญฺหากถา • Upālipañhākathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / อุปาลิปญฺหกถาวณฺณนา • Upālipañhakathāvaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact