Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi |
๒๗๙. อุปาลิสงฺฆสามคฺคีปุจฺฉา
279. Upālisaṅghasāmaggīpucchā
๔๗๖. อถ โข อายสฺมา อุปาลิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา อุปาลิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ยสฺมิํ, ภเนฺต, วตฺถุสฺมิํ โหติ สงฺฆสฺส ภณฺฑนํ กลโห วิคฺคโห วิวาโท สงฺฆเภโท สงฺฆราชิ สงฺฆววตฺถานํ สงฺฆนานากรณํ, สโงฺฆ ตํ วตฺถุํ อวินิจฺฉินิตฺวา อมูลา มูลํ คนฺตฺวา สงฺฆสามคฺคิํ กโรติ, ธมฺมิกา นุ โข สา, ภเนฺต, สงฺฆสามคฺคี’’ติ? ‘‘ยสฺมิํ , อุปาลิ, วตฺถุสฺมิํ โหติ สงฺฆสฺส ภณฺฑนํ กลโห วิคฺคโห วิวาโท สงฺฆเภโท สงฺฆราชิ สงฺฆววตฺถานํ สงฺฆนานากรณํ, สโงฺฆ ตํ วตฺถุํ อวินิจฺฉินิตฺวา อมูลา มูลํ คนฺตฺวา สงฺฆสามคฺคิํ กโรติ, อธมฺมิกา สา, อุปาลิ, สงฺฆสามคฺคี’’ติฯ
476. Atha kho āyasmā upāli yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā upāli bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘yasmiṃ, bhante, vatthusmiṃ hoti saṅghassa bhaṇḍanaṃ kalaho viggaho vivādo saṅghabhedo saṅgharāji saṅghavavatthānaṃ saṅghanānākaraṇaṃ, saṅgho taṃ vatthuṃ avinicchinitvā amūlā mūlaṃ gantvā saṅghasāmaggiṃ karoti, dhammikā nu kho sā, bhante, saṅghasāmaggī’’ti? ‘‘Yasmiṃ , upāli, vatthusmiṃ hoti saṅghassa bhaṇḍanaṃ kalaho viggaho vivādo saṅghabhedo saṅgharāji saṅghavavatthānaṃ saṅghanānākaraṇaṃ, saṅgho taṃ vatthuṃ avinicchinitvā amūlā mūlaṃ gantvā saṅghasāmaggiṃ karoti, adhammikā sā, upāli, saṅghasāmaggī’’ti.
‘‘ยสฺมิํ ปน, ภเนฺต, วตฺถุสฺมิํ โหติ สงฺฆสฺส ภณฺฑนํ กลโห วิคฺคโห วิวาโท สงฺฆเภโท สงฺฆราชิ สงฺฆววตฺถานํ สงฺฆนานากรณํ, สโงฺฆ ตํ วตฺถุํ วินิจฺฉินิตฺวา มูลา มูลํ คนฺตฺวา สงฺฆสามคฺคิํ กโรติ, ธมฺมิกา นุ โข สา, ภเนฺต, สงฺฆสามคฺคี’’ติ? ‘‘ยสฺมิํ, อุปาลิ, วตฺถุสฺมิํ โหติ สงฺฆสฺส ภณฺฑนํ กลโห วิคฺคโห วิวาโท สงฺฆเภโท สงฺฆราชิ สงฺฆววตฺถานํ สงฺฆนานากรณํ, สโงฺฆ ตํ วตฺถุํ วินิจฺฉินิตฺวา มูลา มูลํ คนฺตฺวา สงฺฆสามคฺคิํ กโรติ, ธมฺมิกา สา, อุปาลิ, สงฺฆสามคฺคี’’ติฯ
‘‘Yasmiṃ pana, bhante, vatthusmiṃ hoti saṅghassa bhaṇḍanaṃ kalaho viggaho vivādo saṅghabhedo saṅgharāji saṅghavavatthānaṃ saṅghanānākaraṇaṃ, saṅgho taṃ vatthuṃ vinicchinitvā mūlā mūlaṃ gantvā saṅghasāmaggiṃ karoti, dhammikā nu kho sā, bhante, saṅghasāmaggī’’ti? ‘‘Yasmiṃ, upāli, vatthusmiṃ hoti saṅghassa bhaṇḍanaṃ kalaho viggaho vivādo saṅghabhedo saṅgharāji saṅghavavatthānaṃ saṅghanānākaraṇaṃ, saṅgho taṃ vatthuṃ vinicchinitvā mūlā mūlaṃ gantvā saṅghasāmaggiṃ karoti, dhammikā sā, upāli, saṅghasāmaggī’’ti.
‘‘กติ นุ โข, ภเนฺต, สงฺฆสามคฺคิโย’’ติ? ‘‘เทฺวมา, อุปาลิ, สงฺฆสามคฺคิโย – อตฺถุปาลิ, สงฺฆสามคฺคี อตฺถาเปตา พฺยญฺชนุเปตา; อตฺถุปาลิ, สงฺฆสามคฺคี อตฺถุเปตา จ พฺยญฺชนุเปตา จฯ กตมา จ, อุปาลิ, สงฺฆสามคฺคี อตฺถาเปตา พฺยญฺชนุเปตา? ยสฺมิํ, อุปาลิ, วตฺถุสฺมิํ โหติ สงฺฆสฺส ภณฺฑนํ กลโห วิคฺคโห วิวาโท สงฺฆเภโท สงฺฆราชิ สงฺฆววตฺถานํ สงฺฆนานากรณํ, สโงฺฆ ตํ วตฺถุํ อวินิจฺฉินิตฺวา อมูลา มูลํ คนฺตฺวา สงฺฆสามคฺคิํ กโรติ, อยํ วุจฺจติ, อุปาลิ, สงฺฆสามคฺคี อตฺถาเปตา พฺยญฺชนุเปตาฯ กตมา จ, อุปาลิ, สงฺฆสามคฺคี อตฺถุเปตา จ พฺยญฺชนุเปตา จ? ยสฺมิํ, อุปาลิ, วตฺถุสฺมิํ โหติ สงฺฆสฺส ภณฺฑนํ กลโห วิคฺคโห วิวาโท สงฺฆเภโท สงฺฆราชิ สงฺฆววตฺถานํ สงฺฆนานากรณํ, สโงฺฆ ตํ วตฺถุํ วินิจฺฉินิตฺวา มูลา มูลํ คนฺตฺวา สงฺฆสามคฺคิํ กโรติ, อยํ วุจฺจติ, อุปาลิ, สงฺฆสามคฺคี อตฺถุเปตา จ พฺยญฺชนุเปตา จฯ อิมา โข, อุปาลิ, เทฺว สงฺฆสามคฺคิโย’’ติฯ
‘‘Kati nu kho, bhante, saṅghasāmaggiyo’’ti? ‘‘Dvemā, upāli, saṅghasāmaggiyo – atthupāli, saṅghasāmaggī atthāpetā byañjanupetā; atthupāli, saṅghasāmaggī atthupetā ca byañjanupetā ca. Katamā ca, upāli, saṅghasāmaggī atthāpetā byañjanupetā? Yasmiṃ, upāli, vatthusmiṃ hoti saṅghassa bhaṇḍanaṃ kalaho viggaho vivādo saṅghabhedo saṅgharāji saṅghavavatthānaṃ saṅghanānākaraṇaṃ, saṅgho taṃ vatthuṃ avinicchinitvā amūlā mūlaṃ gantvā saṅghasāmaggiṃ karoti, ayaṃ vuccati, upāli, saṅghasāmaggī atthāpetā byañjanupetā. Katamā ca, upāli, saṅghasāmaggī atthupetā ca byañjanupetā ca? Yasmiṃ, upāli, vatthusmiṃ hoti saṅghassa bhaṇḍanaṃ kalaho viggaho vivādo saṅghabhedo saṅgharāji saṅghavavatthānaṃ saṅghanānākaraṇaṃ, saṅgho taṃ vatthuṃ vinicchinitvā mūlā mūlaṃ gantvā saṅghasāmaggiṃ karoti, ayaṃ vuccati, upāli, saṅghasāmaggī atthupetā ca byañjanupetā ca. Imā kho, upāli, dve saṅghasāmaggiyo’’ti.
๔๗๗. อถ โข อายสฺมา อุปาลิ อุฎฺฐายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
477. Atha kho āyasmā upāli uṭṭhāyāsanā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā yena bhagavā tenañjaliṃ paṇāmetvā bhagavantaṃ gāthāya ajjhabhāsi –
‘‘สงฺฆสฺส กิเจฺจสุ จ มนฺตนาสุ จ;
‘‘Saṅghassa kiccesu ca mantanāsu ca;
อเตฺถสุ ชาเตสุ วินิจฺฉเยสุ จ;
Atthesu jātesu vinicchayesu ca;
กถํปกาโรธ นโร มหตฺถิโก;
Kathaṃpakārodha naro mahatthiko;
ภิกฺขุ กถํ โหติธ ปคฺคหารโหติฯ
Bhikkhu kathaṃ hotidha paggahārahoti.
‘‘อนานุวโชฺช ปฐเมน สีลโต;
‘‘Anānuvajjo paṭhamena sīlato;
อเวกฺขิตาจาโร สุสํวุตินฺทฺริโย;
Avekkhitācāro susaṃvutindriyo;
ปจฺจตฺถิกา นูปวทนฺติ ธมฺมโต;
Paccatthikā nūpavadanti dhammato;
น หิสฺส ตํ โหติ วเทยฺยุ เยน นํฯ
Na hissa taṃ hoti vadeyyu yena naṃ.
‘‘โส ตาทิโส สีลวิสุทฺธิยา ฐิโต;
‘‘So tādiso sīlavisuddhiyā ṭhito;
วิสารโท โหติ วิสยฺห ภาสติ;
Visārado hoti visayha bhāsati;
นจฺฉมฺภติ ปริสคโต น เวธติ;
Nacchambhati parisagato na vedhati;
อตฺถํ น หาเปติ อนุยฺยุตํ ภณํฯ
Atthaṃ na hāpeti anuyyutaṃ bhaṇaṃ.
‘‘ตเถว ปญฺหํ ปริสาสุ ปุจฺฉิโต;
‘‘Tatheva pañhaṃ parisāsu pucchito;
น เจว ปชฺฌายติ น มงฺกุ โหติ;
Na ceva pajjhāyati na maṅku hoti;
โส กาลาคตํ พฺยากรณารหํ วโจ;
So kālāgataṃ byākaraṇārahaṃ vaco;
รเญฺชติ วิญฺญูปริสํ วิจกฺขโณฯ
Rañjeti viññūparisaṃ vicakkhaṇo.
‘‘สคารโว วุฑฺฒตเรสุ ภิกฺขุสุ;
‘‘Sagāravo vuḍḍhataresu bhikkhusu;
อาเจรกมฺหิ จ สเก วิสารโท;
Ācerakamhi ca sake visārado;
อลํ ปเมตุํ ปคุโณ กเถตเว;
Alaṃ pametuṃ paguṇo kathetave;
ปจฺจตฺถิกานญฺจ วิรทฺธิโกวิโทฯ
Paccatthikānañca viraddhikovido.
‘‘ปจฺจตฺถิกา เยน วชนฺติ นิคฺคหํ;
‘‘Paccatthikā yena vajanti niggahaṃ;
มหาชโน สญฺญปนญฺจ คจฺฉติ;
Mahājano saññapanañca gacchati;
สกญฺจ อาทายมยํ น ริญฺจติ;
Sakañca ādāyamayaṃ na riñcati;
‘‘ทูเตยฺยกเมฺมสุ อลํ สมุคฺคโห;
‘‘Dūteyyakammesu alaṃ samuggaho;
สงฺฆสฺส กิเจฺจสุ จ อาหุ นํ ยถา;
Saṅghassa kiccesu ca āhu naṃ yathā;
กรํ วโจ ภิกฺขุคเณน เปสิโต;
Karaṃ vaco bhikkhugaṇena pesito;
อหํ กโรมีติ น เตน มญฺญติฯ
Ahaṃ karomīti na tena maññati.
‘‘อาปชฺชติ ยาวตเกสุ วตฺถุสุ;
‘‘Āpajjati yāvatakesu vatthusu;
อาปตฺติยา โหติ ยถา จ วุฎฺฐิติ;
Āpattiyā hoti yathā ca vuṭṭhiti;
เอเต วิภงฺคา อุภยสฺส สฺวาคตา;
Ete vibhaṅgā ubhayassa svāgatā;
อาปตฺติ วุฎฺฐานปทสฺส โกวิโทฯ
Āpatti vuṭṭhānapadassa kovido.
‘‘นิสฺสารณํ คจฺฉติ ยานิ จาจรํ;
‘‘Nissāraṇaṃ gacchati yāni cācaraṃ;
โอสารณํ ตํวุสิตสฺส ชนฺตุโน;
Osāraṇaṃ taṃvusitassa jantuno;
เอตมฺปิ ชานาติ วิภงฺคโกวิโทฯ
Etampi jānāti vibhaṅgakovido.
‘‘สคารโว วุฑฺฒตเรสุ ภิกฺขุสุ;
‘‘Sagāravo vuḍḍhataresu bhikkhusu;
นเวสุ เถเรสุ จ มชฺฌิเมสุ จ;
Navesu theresu ca majjhimesu ca;
มหาชนสฺสตฺถจโรธ ปณฺฑิโต;
Mahājanassatthacarodha paṇḍito;
โส ตาทิโส ภิกฺขุ อิธ ปคฺคหารโห’’ติฯ
So tādiso bhikkhu idha paggahāraho’’ti.
อุปาลิสงฺฆสามคฺคีปุจฺฉา นิฎฺฐิตาฯ
Upālisaṅghasāmaggīpucchā niṭṭhitā.
โกสมฺพกกฺขนฺธโก ทสโมฯ
Kosambakakkhandhako dasamo.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / อฎฺฐารสวตฺถุกถา • Aṭṭhārasavatthukathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / อุปาลิสงฺฆสามคฺคีปุจฺฉาวณฺณนา • Upālisaṅghasāmaggīpucchāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / สงฺฆสามคฺคีกถาวณฺณนา • Saṅghasāmaggīkathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / อฎฺฐารสวตฺถุกถาวณฺณนา • Aṭṭhārasavatthukathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๒๗๖. อฎฺฐารสวตฺถุกถา • 276. Aṭṭhārasavatthukathā