Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā)

    ๓. อุปนียสุตฺตวณฺณนา

    3. Upanīyasuttavaṇṇanā

    . ตติเย อุปนียตีติ ปริกฺขียติ นิรุชฺฌติ, อุปคจฺฉติ วา, อนุปุเพฺพน มรณํ อุเปตีติ อโตฺถฯ ยถา วา โคปาเลน โคคโณ นียติ, เอวํ ชราย มรณสนฺติกํ อุปนียตีติ อโตฺถฯ ชีวิตนฺติ ชีวิตินฺทฺริยํฯ อปฺปนฺติ ปริตฺตํ โถกํฯ ตสฺส ทฺวีหากาเรหิ ปริตฺตตา เวทิตพฺพา สรสปริตฺตตาย จ ขณปริตฺตตาย จฯ สรสปริตฺตตายปิ หิ ‘‘โย, ภิกฺขเว, จิรํ ชีวติ, โส วสฺสสตํ อปฺปํ วา ภิโยฺย’’ติ (ที. นิ. ๒.๗; สํ. นิ. ๒.๑๔๓) วจนโต ปริตฺตํฯ ขณปริตฺตตายปิฯ ปรมตฺถโต หิ อติปริโตฺต สตฺตานํ ชีวิตกฺขโณ เอกจิตฺตปฺปวตฺติมโตฺตเยว ฯ ยถา นาม รถจกฺกํ ปวตฺตมานมฺปิ เอเกเนว เนมิปฺปเทเสน ปวตฺตติ, ติฎฺฐมานมฺปิ เอเกเนว ติฎฺฐติ, เอวเมวํ เอกจิตฺตกฺขณิกํ สตฺตานํ ชีวิตํ, ตสฺมิํ จิเตฺต นิรุทฺธมเตฺต สโตฺต นิรุโทฺธติ วุจฺจติฯ ยถาห – อตีเต จิตฺตกฺขเณ ชีวิตฺถ น ชีวติ น ชีวิสฺสติ, อนาคเต จิตฺตกฺขเณ ชีวิสฺสติ น ชีวติ น ชีวิตฺถ, ปจฺจุปฺปเนฺน จิตฺตกฺขเณ ชีวติ น ชีวิตฺถ น ชีวิสฺสติฯ

    3. Tatiye upanīyatīti parikkhīyati nirujjhati, upagacchati vā, anupubbena maraṇaṃ upetīti attho. Yathā vā gopālena gogaṇo nīyati, evaṃ jarāya maraṇasantikaṃ upanīyatīti attho. Jīvitanti jīvitindriyaṃ. Appanti parittaṃ thokaṃ. Tassa dvīhākārehi parittatā veditabbā sarasaparittatāya ca khaṇaparittatāya ca. Sarasaparittatāyapi hi ‘‘yo, bhikkhave, ciraṃ jīvati, so vassasataṃ appaṃ vā bhiyyo’’ti (dī. ni. 2.7; saṃ. ni. 2.143) vacanato parittaṃ. Khaṇaparittatāyapi. Paramatthato hi atiparitto sattānaṃ jīvitakkhaṇo ekacittappavattimattoyeva . Yathā nāma rathacakkaṃ pavattamānampi ekeneva nemippadesena pavattati, tiṭṭhamānampi ekeneva tiṭṭhati, evamevaṃ ekacittakkhaṇikaṃ sattānaṃ jīvitaṃ, tasmiṃ citte niruddhamatte satto niruddhoti vuccati. Yathāha – atīte cittakkhaṇe jīvittha na jīvati na jīvissati, anāgate cittakkhaṇe jīvissati na jīvati na jīvittha, paccuppanne cittakkhaṇe jīvati na jīvittha na jīvissati.

    ‘‘ชีวิตํ อตฺตภาโว จ, สุขทุกฺขา จ เกวลา;

    ‘‘Jīvitaṃ attabhāvo ca, sukhadukkhā ca kevalā;

    เอกจิตฺตสมายุตฺตา, ลหุโส วตฺตเต ขโณฯ

    Ekacittasamāyuttā, lahuso vattate khaṇo.

    ‘‘เย นิรุทฺธา มรนฺตสฺส, ติฎฺฐมานสฺส วา อิธ;

    ‘‘Ye niruddhā marantassa, tiṭṭhamānassa vā idha;

    สเพฺพปิ สทิสา ขนฺธา, คตา อปฺปฎิสนฺธิกาฯ

    Sabbepi sadisā khandhā, gatā appaṭisandhikā.

    ‘‘อนิพฺพเตฺตน น ชาโต, ปจฺจุปฺปเนฺนน ชีวติ;

    ‘‘Anibbattena na jāto, paccuppannena jīvati;

    จิตฺตภงฺคา มโต โลโก, ปญฺญตฺติ ปรมตฺถิยา’’ติฯ (มหานิ. ๑๐);

    Cittabhaṅgā mato loko, paññatti paramatthiyā’’ti. (mahāni. 10);

    ชรูปนีตสฺสาติ ชรํ อุปคตสฺส, ชราย วา มรณสนฺติกํ อุปนีตสฺสฯ น สนฺติ ตาณาติ ตาณํ เลณํ สรณํ ภวิตุํ สมตฺถา นาม เกจิ นตฺถิฯ เอตํ ภยนฺติ เอตํ ชีวิตินฺทฺริยสฺส มรณูปคมนํ, อายุปริตฺตตา, ชรูปนีตสฺส ตาณาภาโวติ ติวิธํ ภยํ ภยวตฺถุ ภยการณนฺติ อโตฺถฯ ปุญฺญานิ กยิราถ สุขาวหานีติ วิญฺญู ปุริโส สุขาวหานิ สุขทายกานิ ปุญฺญานิ กเรยฺยฯ อิติ เทวตา รูปาวจรชฺฌานํ สนฺธาย ปุพฺพเจตนํ อปรเจตนํ มุญฺจเจตนญฺจ คเหตฺวา พหุวจนวเสน ‘‘ปุญฺญานี’’ติ อาหฯ ฌานสฺสาทํ ฌานนิกนฺติํ ฌานสุขญฺจ คเหตฺวา ‘‘สุขาวหานี’’ติ อาหฯ ตสฺสา กิร เทวตาย สยํ ทีฆายุกฎฺฐาเน พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตตฺตา เหฎฺฐา กามาวจรเทเวสุ ปริตฺตายุกฎฺฐาเน จวมาเน อุปปชฺชมาเน จ ถุลฺลผุสิตเก วุฎฺฐิปาตสทิเส สเตฺต ทิสฺวา เอตทโหสิ ‘‘อโหวติเม สตฺตา ฌานํ ภาเวตฺวา อปริหีนชฺฌานา กาลํ กตฺวา พฺรหฺมโลเก เอกกปฺป-เทฺวกปฺป-จตุกปฺป-อฎฺฐกปฺป-โสฬสกปฺป-ทฺวตฺติํสกปฺป-จตุสฎฺฐิกปฺปปฺปมาณํ อทฺธานํ ติเฎฺฐยฺยุ’’นฺติฯ ตสฺมา เอวมาหฯ

    Jarūpanītassāti jaraṃ upagatassa, jarāya vā maraṇasantikaṃ upanītassa. Na santi tāṇāti tāṇaṃ leṇaṃ saraṇaṃ bhavituṃ samatthā nāma keci natthi. Etaṃ bhayanti etaṃ jīvitindriyassa maraṇūpagamanaṃ, āyuparittatā, jarūpanītassa tāṇābhāvoti tividhaṃ bhayaṃ bhayavatthu bhayakāraṇanti attho. Puññāni kayirātha sukhāvahānīti viññū puriso sukhāvahāni sukhadāyakāni puññāni kareyya. Iti devatā rūpāvacarajjhānaṃ sandhāya pubbacetanaṃ aparacetanaṃ muñcacetanañca gahetvā bahuvacanavasena ‘‘puññānī’’ti āha. Jhānassādaṃ jhānanikantiṃ jhānasukhañca gahetvā ‘‘sukhāvahānī’’ti āha. Tassā kira devatāya sayaṃ dīghāyukaṭṭhāne brahmaloke nibbattattā heṭṭhā kāmāvacaradevesu parittāyukaṭṭhāne cavamāne upapajjamāne ca thullaphusitake vuṭṭhipātasadise satte disvā etadahosi ‘‘ahovatime sattā jhānaṃ bhāvetvā aparihīnajjhānā kālaṃ katvā brahmaloke ekakappa-dvekappa-catukappa-aṭṭhakappa-soḷasakappa-dvattiṃsakappa-catusaṭṭhikappappamāṇaṃ addhānaṃ tiṭṭheyyu’’nti. Tasmā evamāha.

    อถ ภควา – ‘‘อยํ เทวตา อนิยฺยานิกํ วฎฺฎกถํ กเถตี’’ติ วิวฎฺฎมสฺสา ทเสฺสโนฺต ทุติยํ คาถมาหฯ ตตฺถ โลกามิสนฺติ เทฺว โลกามิสา ปริยาเยน จ นิปฺปริยาเยน จฯ ปริยาเยน เตภูมกวฎฺฎํ โลกามิสํ, นิปฺปริยาเยน จตฺตาโร ปจฺจยาฯ อิธ ปริยายโลกามิสํ อธิเปฺปตํฯ นิปฺปริยายโลกามิสมฺปิ วฎฺฎติเยวฯ สนฺติเปโกฺขติ นิพฺพานสงฺขาตํ อจฺจนฺตสนฺติํ เปกฺขโนฺต อิจฺฉโนฺต ปตฺถยโนฺตติฯ

    Atha bhagavā – ‘‘ayaṃ devatā aniyyānikaṃ vaṭṭakathaṃ kathetī’’ti vivaṭṭamassā dassento dutiyaṃ gāthamāha. Tattha lokāmisanti dve lokāmisā pariyāyena ca nippariyāyena ca. Pariyāyena tebhūmakavaṭṭaṃ lokāmisaṃ, nippariyāyena cattāro paccayā. Idha pariyāyalokāmisaṃ adhippetaṃ. Nippariyāyalokāmisampi vaṭṭatiyeva. Santipekkhoti nibbānasaṅkhātaṃ accantasantiṃ pekkhanto icchanto patthayantoti.

    อุปนียสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Upanīyasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๓. อุปนียสุตฺตํ • 3. Upanīyasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๓. อุปนียสุตฺตวณฺณนา • 3. Upanīyasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact