Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อิติวุตฺตก-อฎฺฐกถา • Itivuttaka-aṭṭhakathā |
๕. อุปปริกฺขสุตฺตวณฺณนา
5. Upaparikkhasuttavaṇṇanā
๙๔. ปญฺจเม ตถา ตถาติ เตน เตน ปกาเรนฯ อุปปริเกฺขยฺยาติ วีมํเสยฺย ปริตุเลยฺย สมฺมเสยฺย วาฯ ยถา ยถาสฺส อุปปริกฺขโตติ ยถา ยถา อสฺส ภิกฺขุโน อุปปริกฺขนฺตสฺสฯ พหิทฺธา จสฺส วิญฺญาณํ อวิกฺขิตฺตํ อวิสฎนฺติ พหิทฺธา รูปาทิอารมฺมเณ อุปฺปชฺชนกวิเกฺขปาภาวโต อวิกฺขิตฺตํ สมาหิตํ, ตโต เอว อวิสฎํ สิยา ฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ภิกฺขเว, เยน เยน ปกาเรน อิมสฺส อารทฺธวิปสฺสกสฺส ภิกฺขุโน อุปปริกฺขโต สงฺขาเร สมฺมสนฺตสฺส ปุเพฺพ สมาหิตาการสลฺลกฺขณวเสน สมถนิมิตฺตํ คเหตฺวา สกฺกจฺจํ นิรนฺตรํ สมฺมสนญาณํ ปวเตฺตนฺตสฺส อตฺตโน วิปสฺสนาจิตฺตํ กมฺมฎฺฐานโต พหิทฺธา รูปาทิอารมฺมเณ อุปฺปชฺชนกํ น สิยา, อจฺจารทฺธวีริยตาย อุทฺธจฺจปกฺขิยํ น สิยา, เตน เตน ปกาเรน ภิกฺขุ อุปปริเกฺขยฺย ปริตุเลยฺยาติฯ อชฺฌตฺตํ อสณฺฐิตนฺติ ยสฺมา วีริเย มนฺทํ วหเนฺต สมาธิสฺส พลวภาวโต โกสชฺชาภิภเวน อชฺฌตฺตํ โคจรชฺฌตฺตสงฺขาเต กมฺมฎฺฐานารมฺมเณ สโงฺกจวเสน ฐิตตฺตา สณฺฐิตํ นาม โหติ, วีริยสมตาย ปน โยชิตาย อสณฺฐิตํ โหติ วีถิํ ปฎิปนฺนํฯ ตสฺมา ยถา ยถาสฺส อุปปริกฺขโต วิญฺญาณํ อชฺฌตฺตํ อสณฺฐิตํ อสฺส, วีถิปฎิปนฺนํ สิยา, ตถา ตถา อุปปริเกฺขยฺยฯ อนุปาทาย น ปริตเสฺสยฺยาติ ยถา ยถาสฺส อุปปริกฺขโต ‘‘เอตํ มม, เอโส เม อตฺตา’’ติ ตณฺหาทิฎฺฐิคฺคาหวเสน รูปาทีสุ กญฺจิ สงฺขารํ อคฺคเหตฺวา ตโต เอว ตณฺหาทิฎฺฐิคฺคาหวเสน น ปริตเสฺสยฺย, ตถา ตถา อุปปริเกฺขยฺยาติ สมฺพโนฺธฯ กถํ ปน อุปปริกฺขโต ติวิธเมฺปตํ สิยาติ? อุทฺธจฺจปกฺขิเย โกสชฺชปกฺขิเย จ ธเมฺม วเชฺชโนฺต วีริยสมตํ โยเชตฺวา ปุเพฺพว วิปสฺสนุปกฺกิเลเสหิ จิตฺตํ วิโสเธตฺวา ยถา สมฺมเทว วิปสฺสนาญาณํ วิปสฺสนาวีถิํ ปฎิปชฺชติ, ตถา สมฺมสโตฯ
94. Pañcame tathā tathāti tena tena pakārena. Upaparikkheyyāti vīmaṃseyya parituleyya sammaseyya vā. Yathā yathāssa upaparikkhatoti yathā yathā assa bhikkhuno upaparikkhantassa. Bahiddhācassa viññāṇaṃ avikkhittaṃ avisaṭanti bahiddhā rūpādiārammaṇe uppajjanakavikkhepābhāvato avikkhittaṃ samāhitaṃ, tato eva avisaṭaṃ siyā . Idaṃ vuttaṃ hoti – bhikkhave, yena yena pakārena imassa āraddhavipassakassa bhikkhuno upaparikkhato saṅkhāre sammasantassa pubbe samāhitākārasallakkhaṇavasena samathanimittaṃ gahetvā sakkaccaṃ nirantaraṃ sammasanañāṇaṃ pavattentassa attano vipassanācittaṃ kammaṭṭhānato bahiddhā rūpādiārammaṇe uppajjanakaṃ na siyā, accāraddhavīriyatāya uddhaccapakkhiyaṃ na siyā, tena tena pakārena bhikkhu upaparikkheyya parituleyyāti. Ajjhattaṃ asaṇṭhitanti yasmā vīriye mandaṃ vahante samādhissa balavabhāvato kosajjābhibhavena ajjhattaṃ gocarajjhattasaṅkhāte kammaṭṭhānārammaṇe saṅkocavasena ṭhitattā saṇṭhitaṃ nāma hoti, vīriyasamatāya pana yojitāya asaṇṭhitaṃ hoti vīthiṃ paṭipannaṃ. Tasmā yathā yathāssa upaparikkhato viññāṇaṃ ajjhattaṃ asaṇṭhitaṃ assa, vīthipaṭipannaṃ siyā, tathā tathā upaparikkheyya. Anupādāya na paritasseyyāti yathā yathāssa upaparikkhato ‘‘etaṃ mama, eso me attā’’ti taṇhādiṭṭhiggāhavasena rūpādīsu kañci saṅkhāraṃ aggahetvā tato eva taṇhādiṭṭhiggāhavasena na paritasseyya, tathā tathā upaparikkheyyāti sambandho. Kathaṃ pana upaparikkhato tividhampetaṃ siyāti? Uddhaccapakkhiye kosajjapakkhiye ca dhamme vajjento vīriyasamataṃ yojetvā pubbeva vipassanupakkilesehi cittaṃ visodhetvā yathā sammadeva vipassanāñāṇaṃ vipassanāvīthiṃ paṭipajjati, tathā sammasato.
อิติ ภควา จตุสจฺจกมฺมฎฺฐานิกสฺส ภิกฺขุโน อนุกฺกเมน ปฎิปทาญาณทสฺสนวิสุทฺธิยา อารทฺธาย อจฺจารทฺธวีริยอติสิถิลวีริยวิปสฺสนุปกฺกิเลเสหิ จิตฺตสฺส วิโสธนูปายํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ ตถา วิโสธิเต วิปสฺสนาญาเณ น จิรเสฺสว วิปสฺสนํ มเคฺคน ฆเฎตฺวา สกลวฎฺฎทุกฺขสมติกฺกมาย สํวตฺตนฺตีติ ทเสฺสโนฺต ‘‘พหิทฺธา, ภิกฺขเว , วิญฺญาเณ’’ติอาทิมาห, ตํ วุตฺตนยเมวฯ ยํ ปน วุตฺตํ – ‘‘อายติํ ชาติชรามรณทุกฺขสมุทยสมฺภโว น โหตี’’ติ, ตสฺสโตฺถ – เอวํ วิปสฺสนํ มเคฺคน ฆเฎตฺวา มคฺคปฎิปาฎิยา อคฺคมเคฺคน อนวเสสโต กิเลเสสุ ขีเณสุ อายติํ อนาคเต ชาติชรามรณสกลวฎฺฎทุกฺขสมุทยสงฺขาโต สมฺภโว อุปฺปาโท จ น โหติ, ชาติสงฺขาโต วา ทุกฺขสมุทโย ชรามรณสงฺขาโต ทุกฺขสมฺภโว จ น โหติฯ
Iti bhagavā catusaccakammaṭṭhānikassa bhikkhuno anukkamena paṭipadāñāṇadassanavisuddhiyā āraddhāya accāraddhavīriyaatisithilavīriyavipassanupakkilesehi cittassa visodhanūpāyaṃ dassetvā idāni tathā visodhite vipassanāñāṇe na cirasseva vipassanaṃ maggena ghaṭetvā sakalavaṭṭadukkhasamatikkamāya saṃvattantīti dassento ‘‘bahiddhā, bhikkhave, viññāṇe’’tiādimāha, taṃ vuttanayameva. Yaṃ pana vuttaṃ – ‘‘āyatiṃ jātijarāmaraṇadukkhasamudayasambhavo na hotī’’ti, tassattho – evaṃ vipassanaṃ maggena ghaṭetvā maggapaṭipāṭiyā aggamaggena anavasesato kilesesu khīṇesu āyatiṃ anāgate jātijarāmaraṇasakalavaṭṭadukkhasamudayasaṅkhāto sambhavo uppādo ca na hoti, jātisaṅkhāto vā dukkhasamudayo jarāmaraṇasaṅkhāto dukkhasambhavo ca na hoti.
คาถายํ สตฺตสงฺคปฺปหีนสฺสาติ ตณฺหาสโงฺค, ทิฎฺฐิสโงฺค, มานสโงฺค, โกธสโงฺค, อวิชฺชาสโงฺค, กิเลสสโงฺค, ทุจฺจริตสโงฺคติ อิเมสํ สตฺตนฺนํ สงฺคานํ ปหีนตฺตา สตฺตสงฺคปฺปหีนสฺสฯ เกจิ ปน ‘‘สตฺตานุสยา เอว สตฺต สงฺคา’’ติ วทนฺติฯ เนตฺติจฺฉินฺนสฺสาติ ฉินฺนภวเนตฺติกสฺส ฯ วิกฺขีโณ ชาติสํสาโรติ ปุนปฺปุนํ ชายนวเสน ปวตฺติยา ชาติเหตุกตฺตา จ ชาติภูโต สํสาโรติ ชาติสํสาโร, โส ภวเนตฺติยา ฉินฺนตฺตา วิกฺขีโณ ปริกฺขีโณ, ตโต เอว นตฺถิ ตสฺส ปุนพฺภโวติฯ
Gāthāyaṃ sattasaṅgappahīnassāti taṇhāsaṅgo, diṭṭhisaṅgo, mānasaṅgo, kodhasaṅgo, avijjāsaṅgo, kilesasaṅgo, duccaritasaṅgoti imesaṃ sattannaṃ saṅgānaṃ pahīnattā sattasaṅgappahīnassa. Keci pana ‘‘sattānusayā eva satta saṅgā’’ti vadanti. Netticchinnassāti chinnabhavanettikassa . Vikkhīṇo jātisaṃsāroti punappunaṃ jāyanavasena pavattiyā jātihetukattā ca jātibhūto saṃsāroti jātisaṃsāro, so bhavanettiyā chinnattā vikkhīṇo parikkhīṇo, tato eva natthi tassa punabbhavoti.
ปญฺจมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Pañcamasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อิติวุตฺตกปาฬิ • Itivuttakapāḷi / ๕. อุปปริกฺขสุตฺตํ • 5. Upaparikkhasuttaṃ