Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๑๐. อุปสฺสยสุตฺตํ

    10. Upassayasuttaṃ

    ๑๕๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา มหากสฺสโป สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ อถ โข อายสฺมา อานโนฺท ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยนายสฺมา มหากสฺสโป เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ เอตทโวจ – ‘‘อายาม, ภเนฺต กสฺสป, เยน อญฺญตโร ภิกฺขุนุปสฺสโย เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติฯ ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, อาวุโส อานนฺท, พหุกิโจฺจ ตฺวํ พหุกรณีโย’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา อานโนฺท อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ เอตทโวจ – ‘‘อายาม, ภเนฺต กสฺสป, เยน อญฺญตโร ภิกฺขุนุปสฺสโย เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติฯ ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, อาวุโส อานนฺท, พหุกิโจฺจ ตฺวํ พหุกรณีโย’’ติฯ ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อานโนฺท อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ เอตทโวจ – ‘‘อายาม, ภเนฺต กสฺสป, เยน อญฺญตโร ภิกฺขุนุปสฺสโย เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติฯ

    153. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ āyasmā mahākassapo sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Atha kho āyasmā ānando pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yenāyasmā mahākassapo tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ mahākassapaṃ etadavoca – ‘‘āyāma, bhante kassapa, yena aññataro bhikkhunupassayo tenupasaṅkamissāmā’’ti. ‘‘Gaccha tvaṃ, āvuso ānanda, bahukicco tvaṃ bahukaraṇīyo’’ti. Dutiyampi kho āyasmā ānando āyasmantaṃ mahākassapaṃ etadavoca – ‘‘āyāma, bhante kassapa, yena aññataro bhikkhunupassayo tenupasaṅkamissāmā’’ti. ‘‘Gaccha tvaṃ, āvuso ānanda, bahukicco tvaṃ bahukaraṇīyo’’ti. Tatiyampi kho āyasmā ānando āyasmantaṃ mahākassapaṃ etadavoca – ‘‘āyāma, bhante kassapa, yena aññataro bhikkhunupassayo tenupasaṅkamissāmā’’ti.

    อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อายสฺมตา อานเนฺทน ปจฺฉาสมเณน เยน อญฺญตโร ภิกฺขุนุปสฺสโย เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย เยนายสฺมา มหากสฺสโป เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข ตา ภิกฺขุนิโย อายสฺมา มหากสฺสโป ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุเตฺตเชสิ สมฺปหํเสสิฯ อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป ตา ภิกฺขุนิโย ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุเตฺตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฎฺฐายาสนา ปกฺกามิฯ

    Atha kho āyasmā mahākassapo pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya āyasmatā ānandena pacchāsamaṇena yena aññataro bhikkhunupassayo tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi. Atha kho sambahulā bhikkhuniyo yenāyasmā mahākassapo tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ mahākassapaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinnā kho tā bhikkhuniyo āyasmā mahākassapo dhammiyā kathāya sandassesi samādapesi samuttejesi sampahaṃsesi. Atha kho āyasmā mahākassapo tā bhikkhuniyo dhammiyā kathāya sandassetvā samādapetvā samuttejetvā sampahaṃsetvā uṭṭhāyāsanā pakkāmi.

    อถ โข ถุลฺลติสฺสา ภิกฺขุนี อนตฺตมนา อนตฺตมนวาจํ นิจฺฉาเรสิ – ‘‘กิํ ปน อโยฺย มหากสฺสโป, อยฺยสฺส อานนฺทสฺส เวเทหมุนิโน สมฺมุขา ธมฺมํ ภาสิตพฺพํ มญฺญติ? เสยฺยถาปิ นาม สูจิวาณิชโก สูจิการสฺส สนฺติเก สูจิํ วิเกฺกตพฺพํ มเญฺญยฺย; เอวเมว อโยฺย มหากสฺสโป อยฺยสฺส อานนฺทสฺส เวเทหมุนิโน สมฺมุขา ธมฺมํ ภาสิตพฺพํ มญฺญตี’’ติฯ

    Atha kho thullatissā bhikkhunī anattamanā anattamanavācaṃ nicchāresi – ‘‘kiṃ pana ayyo mahākassapo, ayyassa ānandassa vedehamunino sammukhā dhammaṃ bhāsitabbaṃ maññati? Seyyathāpi nāma sūcivāṇijako sūcikārassa santike sūciṃ vikketabbaṃ maññeyya; evameva ayyo mahākassapo ayyassa ānandassa vedehamunino sammukhā dhammaṃ bhāsitabbaṃ maññatī’’ti.

    อโสฺสสิ โข อายสฺมา มหากสฺสโป ถุลฺลติสฺสาย ภิกฺขุนิยา อิมํ วาจํ ภาสมานายฯ อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘กิํ นุ โข, อาวุโส อานนฺท, อหํ สูจิวาณิชโก, ตฺวํ สูจิกาโร; อุทาหุ อหํ สูจิกาโร, ตฺวํ สูจิวาณิชโก’’ติ? ‘‘ขม , ภเนฺต กสฺสป, พาโล มาตุคาโม’’ติฯ ‘‘อาคเมหิ ตฺวํ, อาวุโส อานนฺท, มา เต สโงฺฆ อุตฺตริ อุปปริกฺขิ’’ฯ

    Assosi kho āyasmā mahākassapo thullatissāya bhikkhuniyā imaṃ vācaṃ bhāsamānāya. Atha kho āyasmā mahākassapo āyasmantaṃ ānandaṃ etadavoca – ‘‘kiṃ nu kho, āvuso ānanda, ahaṃ sūcivāṇijako, tvaṃ sūcikāro; udāhu ahaṃ sūcikāro, tvaṃ sūcivāṇijako’’ti? ‘‘Khama , bhante kassapa, bālo mātugāmo’’ti. ‘‘Āgamehi tvaṃ, āvuso ānanda, mā te saṅgho uttari upaparikkhi’’.

    ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, อาวุโส อานนฺท, อปิ นุ ตฺวํ ภควโต สมฺมุขา ภิกฺขุสเงฺฆ อุปนีโต – ‘อหํ, ภิกฺขเว, ยาวเทว อากงฺขามิ วิวิเจฺจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธเมฺมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิฯ อานโนฺทปิ, ภิกฺขเว, ยาวเทว อากงฺขติ วิวิเจฺจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธเมฺมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ

    ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, āvuso ānanda, api nu tvaṃ bhagavato sammukhā bhikkhusaṅghe upanīto – ‘ahaṃ, bhikkhave, yāvadeva ākaṅkhāmi vivicceva kāmehi vivicca akusalehi dhammehi savitakkaṃ savicāraṃ vivekajaṃ pītisukhaṃ paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharāmi. Ānandopi, bhikkhave, yāvadeva ākaṅkhati vivicceva kāmehi vivicca akusalehi dhammehi savitakkaṃ savicāraṃ vivekajaṃ pītisukhaṃ paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharatī’’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’.

    ‘‘อหํ โข, อาวุโส, ภควโต สมฺมุขา ภิกฺขุสเงฺฆ อุปนีโต – ‘อหํ, ภิกฺขเว, ยาวเทว อากงฺขามิ วิวิเจฺจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธเมฺมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิฯ กสฺสโปปิ, ภิกฺขเว, ยาวเทว อากงฺขติ วิวิเจฺจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธเมฺมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’ติ…เป.… ฯ (นวนฺนํ อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺตีนํ ปญฺจนฺนญฺจ อภิญฺญานํ เอวํ วิตฺถาโร เวทิตโพฺพฯ)

    ‘‘Ahaṃ kho, āvuso, bhagavato sammukhā bhikkhusaṅghe upanīto – ‘ahaṃ, bhikkhave, yāvadeva ākaṅkhāmi vivicceva kāmehi vivicca akusalehi dhammehi savitakkaṃ savicāraṃ vivekajaṃ pītisukhaṃ paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharāmi. Kassapopi, bhikkhave, yāvadeva ākaṅkhati vivicceva kāmehi vivicca akusalehi dhammehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharatī’ti…pe… . (Navannaṃ anupubbavihārasamāpattīnaṃ pañcannañca abhiññānaṃ evaṃ vitthāro veditabbo.)

    ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, อาวุโส อานนฺท, อปิ นุ ตฺวํ ภควโต สมฺมุขา ภิกฺขุสเงฺฆ อุปนีโต – ‘อหํ, ภิกฺขเว, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรามิฯ อานโนฺทปิ, ภิกฺขเว, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ

    ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, āvuso ānanda, api nu tvaṃ bhagavato sammukhā bhikkhusaṅghe upanīto – ‘ahaṃ, bhikkhave, āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharāmi. Ānandopi, bhikkhave, āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharatī’’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’.

    ‘‘อหํ โข, อาวุโส, ภควโต สมฺมุขา ภิกฺขุสเงฺฆ อุปนีโต – ‘อหํ, ภิกฺขเว, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรามิฯ กสฺสโปปิ, ภิกฺขเว, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’’ติฯ

    ‘‘Ahaṃ kho, āvuso, bhagavato sammukhā bhikkhusaṅghe upanīto – ‘ahaṃ, bhikkhave, āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharāmi. Kassapopi, bhikkhave, āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharatī’’’ti.

    ‘‘สตฺตรตนํ วา, อาวุโส, นาคํ อฑฺฒฎฺฐมรตนํ วา ตาลปตฺติกาย ฉาเทตพฺพํ มเญฺญยฺย, โย เม ฉ อภิญฺญา ฉาเทตพฺพํ มเญฺญยฺยา’’ติฯ

    ‘‘Sattaratanaṃ vā, āvuso, nāgaṃ aḍḍhaṭṭhamaratanaṃ vā tālapattikāya chādetabbaṃ maññeyya, yo me cha abhiññā chādetabbaṃ maññeyyā’’ti.

    จวิตฺถ จ ปน ถุลฺลติสฺสา ภิกฺขุนี พฺรหฺมจริยมฺหาติฯ ทสมํฯ

    Cavittha ca pana thullatissā bhikkhunī brahmacariyamhāti. Dasamaṃ.







    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. อุปสฺสยสุตฺตวณฺณนา • 10. Upassayasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑๐. อุปสฺสยสุตฺตวณฺณนา • 10. Upassayasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact